Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เรื่องแปล...เจ้าหมูนักวิ่ง รูดี้ รึสเซล ตอน ๖ และ ตอน ๗

    เจ้าหมูนักวิ่ง รูดี้ รึสเซล  ตอน ๖  เขียนโดย อูเว่ ทิมม์
                                      แปลโดยนัทตี้



    หลังจากวันนั้นมาก็ไม่มีใครพูดว่ารูดี้จะต้องไปจากที่นี่อีกเลย เพราะอย่างน้อยรูดี้ก็ช่วยให้รอดพ้นจากพวกหัวขโมย  ซึ่งอาจจะเข้ามาขโมยงานที่พ่ออุตส่าห์แปลไว้เป็นแรมปีก็ได้

    พ่อสบายใจขึ้น ถึงแม้ว่าก่อนไปประชุมพ่อเคยตั้งความหวังไว้มากมาย และได้รับความผิดหวังกลับมา ที่นั่นไม่มีใครพูดถึงเรื่องการรับเข้าทำงานในตำแหน่งใหม่  ๆ ให้ได้ยิน แต่กลายเป็นว่าพ่อได้ไปเจอเพื่อนฝูงที่กำลังหางานทำอยู่เช่นกันแทน

    ตอนนี้พ่อเริ่มคิดถึงประโยชน์ของการมีหมูในบ้าน  มันกินเศษอาหารเหลือ  มันทำหน้าที่แทนหมาเฝ้าบ้าน  มัน..ที่ในตอนเย็น...ยามพ่อแม่ไม่อยู่บ้าน..จะนอนตรงทางเดิน คอยไล่หมาที่เพื่อนบ้านปล่อยเข้ามาในสวนบ้านเราตรงต้นลูกแพร์ทุกครั้ง...เพื่อมายกขาขึ้น  

    แน่นอนว่าคุณครูและเพื่อนร่วมชั้นของเราได้อ่านเรื่องขโมย  ต่างเข้ามาสอบถามเราด้วยความรู้สึกหวาดเสียวแทนเหมือนกับมีรูกลวงอยู่ในท้อง  เราต้องเล่าเรื่องผจญภัยเหล่านั้นให้พวกเขาฟังหลายครั้งหลายหน

    แต่ยังโชคดีที่คุณบูเซ็ลไมเยอร์ไม่ได้มารับรู้ด้วย เพราะช่วงนี้เขาจะเดินทางไปอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งที่ มาลโลร์คา(Mallorca)ทุกปี

    หลังเหตุการณ์นั้นเหลือความทรงจำไว้ให้เราแค่คำล้อเล่น“ฉันคิดว่า หมูมันกรี๊ดได้”  คำนี้มาจากคำที่ซุปปี้พูดขึ้น ตอนเห็นรูดี้ตกใจและทำเสียงเล็กรัวเหมือนเป่านกหวีด

    มันมีความหมายคล้าย ๆ กับว่า เวลาคนเราไปเจอสิ่งที่คาดไม่ถึงน่าแปลกประหลาดใจอะไรแบบนั้น คำนี้เริ่มมาจากในครอบครัวก่อน  แล้วก็ต่อไปยังเพื่อนที่โรงเรียน สุดท้ายก็กระจายต่อไปจากคนที่เรารู้จัก  

    ถึงแม้ว่ามันจะสามเดือนผ่านไปแล้ว  เราก็ยังคงได้ยินจากปากของคุณครูสอนคณิตศาสตร์ในวันหนึ่ง  แทนที่เขาจะเอาหนังสือคณิตศาสตร์ออกมาจากกระเป๋า แต่กลับดึงผิดหยิบหนังสืออาชญากรรมมาถือชูไว้ในมือแล้วพูดออกมาว่า “ฉันคิดว่า หมูมันกรี๊ดได้”



    เวลาผ่านไป  จนป่านนี้กระท่อมเล็ก ๆ ที่เราตั้งใจว่าจะทำให้รูดี้ก็ยังไม่เสร็จ ทุกวันนี้มันยังอยู่ในห้องน้ำและอยู่ร่วมบ้านเดียวกับเราต่อไปเหมือนเดิม

    เราใช้เวลาในการทำงานถึงหกอาทิตย์เต็ม ๆ   ในที่สุดเราก็เตรียมฉลองขึ้นบ้านใหม่ให้มันได้ มันเป็นกระท่อมที่สวยงามมากหลังหนึ่ง เหมือนบ้านชาวนาที่นีเดอร์แซ็คอย่างไม่ผิดเพี้ยน เราใช้ปูนซีเมนต์ผสมสีขาวบรรจงวาดเป็นรูปผนังอิฐเรียงก้อนไปอย่างสวยงามบนแผ่นไม้นั่นด้วย  

    วันที่เรานำกระท่อมไปตั้งวางไว้ในสวน และกำลังฉลองกันอย่างสนุกอยู่พอดี เราเด็ก ๆ ชนแก้วกันด้วยมาลซ์เบียร์(Malzbier)  พ่อกับแม่ชนด้วยไวน์  รูดี้ก็น้ำแอปเปิ้ลหมักที่มันชอบ เบ็ตตี้เอาหมวกแม่มาสวม แต่งตัวเลียนแบบพวกช่างไม้และพูดเปิดงานด้วยคำอวยพรขอให้โชคดีมีความสุขร่วมกันในบ้านเล็กหลังใหม่  เราเริ่มต้นร้องเพลงว่า “สุขสันต์สวรรค์บรรเลง เรามาร้องเพลงไชโย ไช...”


    ขณะนั้นเอง เราเห็นไอ้หมาบูลเทอร์เรียของคุณบูเซ็ลไมเยอร์วิ่งมาเสนอหน้าตรงรั้วอีกแล้ว มันไถตัวไปมา  รูดี้วิ่งไปที่นั่นไม่รอช้า ร้องขู่และแยกเขี้ยวด้วย  โอ้..แทบไม่น่าเชื่อ  รูดี้ที่ดูเชื่อง ๆจะเปลี่ยนเป็นดุร้ายได้ทันใดเช่นนั้น  ไอ้หมานั่นร้องเสียงลั่นและวิ่งหน้าตั้งกลับไปห้องคุณบูเซ็ลไมเยอร์  เขาเดินอาด ๆ ตรงมาและยืนหยุดอยู่ตรงรั้ว

    “มีอะไรผิดปกติหรือ  แล้วไอ้หมูนั่นมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”

    “มันชื่อรูดี้ รึสเซล” พ่อเอ่ยขึ้น “เรากำลังฉลองกระท่อมที่สร้างให้มันอยู่”

    “และมันก็เป็นหมูที่สะอาดที่สุดด้วยนะ” แม่รีบเสริมขึ้น

    “ใช่...หยุด...แล้วฟังผมก่อน ” คุณบูเซ็ลไมเยอร์ขัดขึ้น “ คุณจะให้หมูมาอยู่ที่ตึกกลางเมืองอย่างนี้เหรอ?  ถ้าทำแบบนั้นกันทุกคน แล้วจะให้คนไปอยู่ไหน”

    “ก็ใช่....แต่คงไม่มีใครทำอย่างนี้ทุกคนหรอก”

    “ ไอ้หมูตัวนี้ต้องไปให้พ้นจากที่นี่อย่างเร็วที่สุด”

    “ทำไมล่ะ? ก็ในเมื่อสัญญาเช่าเขียนไว้ว่า คนเช่าบ้านสามารถมีเลี้ยงสัตว์ได้นี่นา”

    “คุณจะเถียงว่า ไอ้หมูนี่เป็นสัตว์เลี้ยงหรือ?”

    “หมูของเราสะอาดกว่าหมาบางตัวเสียอีก รูดี้อาบน้ำทุกวัน....น้ำอุ่นด้วย  ตรงกันข้ามกับหมาทุกตัวเพราะมันจะแสดงความดีใจทุกครั้งที่มันได้อาบน้ำ ” เบ็ตตี้พูดขึ้นบ้าง

    “อะไรนะ  ไอ้หมูนี่อาบน้ำในอ่างด้วยหรือ?   ฟังนะ ผมมีบ้านให้คนเช่าไม่ใช่เล้าหมู  แต่ไอ้หมูตัวนี้อยู่ในบ้าน ย่ำในสวน และยังลงไปอาบน้ำในอ่างอีก  รีบเอาไอ้หมูตัวนี้ไปให้พ้นโดยเร็วและอย่างเร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นผมยกเลิกสัญญาเช่าคุณแน่นอน” คุณบูเซ็ลไมเยอร์หันหลังเดินจากไป โดยมีไอ้บูลเทอเรียเดินตามหลัง  มันหยุดหันมาดูอีกครั้งและยังเห่าอีกด้วย

    พวกเราพลอยหมดอารมณ์ไปด้วยในทันทีและเริ่มปรึกษากันว่าจะทำอย่างไร ? พ่อ...ที่หน้าบาง อะไรก็อายไปทุกอย่าง  อายแม้แต่คำพูดที่พ่อพูดกับบูเซ็ลไมเยอร์  คำที่น่าอายมากที่สุดสำหรับพ่อก็ได้แก่คำพูดที่เบ็ตตี้บอกว่ารูดี้อาบน้ำในอ่าง

    “แต่มันเป็นเรื่องจริงนี่คะ”

    “นั่นก็ใช่  ถึงมันจะเป็นเรื่องจริง แต่ว่าไม่ต้องบอกออกไปทั้งหมดก็ได้  .....คนเราไม่ควรพูดโกหก แต่ว่าที่ลูกพูดออกไปฟังดูคล้ายๆ  เหมือนกับว่า มันใช้แปรงสีฟันอันเดียวสีฟันร่วมกับเราด้วย” พ่ออธิบาย “หรือบางทีคนอื่นเขาฟังแล้วก็อาจคิดไปว่า เรากินข้าวร่วมกับหมู”

    “เราก็ทำแบบนั้นนี่คะ” เบ็ตตี้แย้งขึ้นอีก

    “ช่างหัวคนอื่นมันเถอะ อยากจะคิดอย่างไรก็คิดไป” แม่ตัดบทขึ้นบ้าง เธอไม่ค่อยจะหน้าบางอย่างหรืออ่อนไหวพ่อนัก
    “เราต้องไปขอใบอนุญาตที่อำเภอ เพื่อแสดงให้รู้ว่ารูดี้เป็นสัตว์เลี้ยงในบ้าน  ทำเหมือนบูเซ็ลไมเยอร์ที่ชอบคิดว่าเราพิสวาทไอ้บูลเทอเรียของแกเสียเหลือเกินนั่นแหละ”

    จากคุณ : NATTI นัทตี้ - [ 15 ธ.ค. 49 18:53:01 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom