 |
อรหันต์ของข้าพเจ้า
ฟังพุทธโอวาทมาแต่เด็กแต่เล็กว่า "บิดามารดาคือพระอรหันต์ของบุตร"
ในคราวเล็กนัก ข้าพเจ้าให้ติดใจสงสัยว่าเหตุใดพระอรหันต์ของข้าพเจ้า (มารดา) ท่านจึงให้นิยมบวกลบเลขระคนผสมแต้มแดงแต้มดำ กรรมฐานประเภท กบแดงกบดำ ป๊อกเด้ง ผสมสิบ รัมมี่ เก้าเก ดูเหมือนท่านจะรู้แจ้งแทงตลอดสิ้น สงสัยท่านจะเป็นอรหันต์ชั้นพิเศษ
........................
อรหันต์ของข้าพเจ้าท่านมีรอยยิ้มที่น่ารักมาก แต่ขอโทษท่านมีไว้มอบให้กับเพื่อนบ้าน, เพื่อนร่วมงาน ตลอดจนเพื่อนร่วมวงของท่านเท่านั้น
กับข้าพเจ้าแล้ว นาน ๆจึงจะมีโอกาสได้ยลสักครั้ง ไม่ต่างจากกสิกรในทุ่งกุลาร้องไห้เฝ้ารอคอยน้ำฝนจากฟ้า แต่ถึงอย่างนั้น ก็เป็นอันอิ่มใจไปได้เป็นวันหากท่านยิ้มให้
........................
ไม่อยากจะเขียนเล่าบุญคุณของท่านให้มาก เพราะเมื่อยนิ้วประการหนึ่งและปวดตาประการหนึ่ง แถมต่อให้พิมพ์ไปยืดยาวแค่ไหน ท่านก็คงไม่คลาดกิจกรรมนันทนาการสุดโปรดปรานในระหว่างวันของท่านมาอ่านบล็อกนี้เป็นแน่
ดังนั้นจึงขอข้ามไปสู่ตอนที่ข้าพเจ้าโทรชวนท่านไปนวดแผนไทยเพื่อสนองกตัญุตาเลยจะน่าสนใจกว่า
........................
"แม่อยู่ไหนล่ะ วันนี้ว่าจะพาแม่ไปนวดแผนไทยที่เฮลท์แลนด์ ตรงปิ่นเกล้าน่ะ"
"อยู่บ้านน้องชายแกไง แล้วจะให้แม่ไปนวด กี่โมงล่ะ"
ดูเหมือนพระอรหันต์จะหงุดหงิด น่ากลัวแต้มในมือไม่งาม
"ตอนนี้เลยแม่ รีบไปตอนนี้เลย" ข้าพเจ้าเร่ง
"ขออีก 15 นาที ให้ครบรอบนี้ก่อน"
อรหันต์ของข้าพเจ้าต่อรองเพื่อรักษามารยาทอันดีของกีฬาบัตร
เป็นที่รู้กันในหมู่เพื่อนฝูงและคนใกล้ชิดว่าข้าพเจ้าขึ้นชื่อเรื่องหลงทางเป็นที่สุด ดังนั้นทางที่ไม่คุ้นจะไม่มีใครวางใจให้ข้าพเจ้าขับรถพาไปเป็นอันขาด ดังนั้นเราจึงตกลงใจเรียกใช้บริการจากรถแท็กซี่
ระหว่างทาง ท่านแม่เข้าฌานชั้นสูง หลับศีรษะเงกตลอดทาง ครั้นพอถึงที่หมาย และได้เวลาเข้ารับการนวด ท่านก็ยังคงเหนียวแน่นในการหลับอย่างต่อเนื่อง จนข้าพเจ้าไม่มีโอกาสได้ซักถามว่าท่านได้รับความพึงพอใจแค่ไหน
แต่ถึงอย่างนั้นก็ช่างปะไร เราชอบอะไรก็ควรให้สิ่งนั้นกับบิดามารดาเรานี่นา อย่างน้อยการให้ท่านได้ผ่อนคลายก็นับว่าเป็นสิ่งที่ดีแบบไม่ต้องคิดให้มากความอยู่แล้ว
........................
จนสองชั่วโมงแห่งการนวดสิ้นสุด ข้าพเจ้าจึงมีโอกาสได้ยินเสียงท่านเป็นครั้งแรก เมื่อหมอนวดถามว่าเป็นอย่างไร
"ก็ดีนะ สบายดี" มารดาข้าพเจ้าส่งรอยยิ้มพร้อมคำตอบ
เย็นวันนั้นข้าพเจ้ามีความสุขมาก ยิ่งกว่าหาสะใภ้ที่ถูกใจให้ท่านได้ก็ไม่ปาน (ปัจจุบันกำลังหาอยู่)
และมันคงจะเป็นการดีไม่น้อย หากข้าพเจ้าจะไม่ไปซ่อกแซ่กถามท่านอีกครั้งหลังจากที่มาถึงบ้านแล้วว่า
"เป็นไงบ้างแม่ นวดแล้วสบายไหม ชอบไหม ?"
"สบายอะไร แม่ปวดหัวไปหมดเลย ตอนหมอนวดมันงัดกระโหลกแม่น่ะ"
"อ้าว...แล้วทำไมแม่ไม่บอกเขาให้เบามือล่ะ"
"จะรู้ไหมเนี่ย แม่หลับเกือบจะตลอด มาตื่นก็ตอนเจ็บหัวนั่นล่ะ"
"เฮ้อ แม่เอ๊ย..."
ข้าพเจ้าเริ่มไม่รู้ว่าสมควรจะดีใจต่อไปหรือไม่
"ทีหลังแกไม่ต้องมาชวนแม่ไปนะ แม่ไม่ชอบเลย ไอ้นวดเนิ่ดอะไรเนี่ยน่ะ นี่ยังมึน ๆ อยู่เลย"
"..."
ข้าพเจ้านิ่งเงียบ ไม่รู้จะเถียงอะไร นึกไปเรื่อยว่าสงสัยถ้าพาเข้าโรงบ่อนท่านคงถูกใจกว่าโรงนวด
ระหว่างที่ข้าพเจ้าตัดสินใจค่อย ๆ ถอยฉากจากออกมา เหมือนจะแว่วเสียงพระอรหันต์ส่งเสียงคุยอย่างอารมณ์ดีกับโทรศัพท์มือถือไม่ขาดระยะ
จับถ้อยกระทงความได้ว่า ท่านกำลังเรียกรวมตัวเพื่อนสมาชิกเข้าสู่กิจกรรมชุมนุมอรหันต์รอบดึกอีกวาระหนึ่งนั่นเอง...
จากคุณ :
ดำรงเฮฮา
- [
16 ธ.ค. 49 04:47:51
]
|
|
|
|
|