Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    (((((เรื่องสั้นของช่วงเวลาที่ยาวนาน))))) อ่านแล้วช่วยติชมเป็นกำลังใจด้วยครับ

    1 ธันวาคม 2549
    เวลา 20:30 น. ณ ร้านอาหารชื่อดัง บริเวณชั้น4 บนห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ทีสุดของถนนศรีนครินทร์

    “สั่งอะไรดีล่ะ”
    “เอาอะไรก็ได้ สั่งไปเถอะ เดี๋ยวร้านปิดสามทุ่ม กินไม่ทัน”

    แฟนผมถามด้วยความเร่งรีบ และผมก็ตอบไปด้วยความรู้สึกเดียวกัน หลังจากที่พึ่งไปจองตั๋วหนังรอบดึกแล้วพากันกระหืดกระหอบมาที่ร้านด้วยความหิว

    “งั้นเอานี่.......นี่......นี่......แล้วก็นี่”

    เธอสั่งบริกรสาวอย่างเร่งรีบโดยที่ผมไม่ต้องดูเมนูช่วยเธอเลย
    หรือว่าผมไม่อยากกินอะไร
    หรือเป็นเพราะผู้หญิงที่นั่งโต๊ะติดกันด้านหลัง
    เธอมากับผู้ชายคนหนึ่ง
    ผู้ชายที่พึ่งมองผมอย่างสงสัยว่าทำไมผมต้องมองผู้หญิงที่มากับเขาตอนที่ผมอยู่หน้าร้าน
    แล้วผมมองเธอทำไม?

    อาหารมาแล้ว
    แฟนผมดูท่าทางอเร็ดอร่อยกับสิ่งที่เธอสั่งเป็นอย่างมาก
    ส่วนผมก็ยังนั่งกินพลางคิดอะไรไปพลาง

    ++++++++++

    เมษายน 2537
    เด็กผู้ชายคนหนึ่ง พึ่งจะเรียนจบม.3 และกำลังอยู่ในสนามสอบ ในมือถือหนังสือคู่มือการสอบเข้าเรียนต่อ ปวช. ส่วนสายตาน่ะหรือ โน่นแน่ะ กำลังมองเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ตัวเล็กๆ หน้าตาน่ารักทีเดียว มองมานานแล้ว เธอกำลังจะเดินเข้าห้องสอบ ส่วนเขาเหรอ กำลังจะเข้าห้องสอบเหมือนกัน ทั้งๆที่ยังไม่อ่านหนังสือซักตัว
    ปิ๊งป่อง....หลังจากที่กรรมการเก็บข้อสอบไปหมดแล้ว เข้าก็ได้เห็นเธออีกครั้งที่หน้าห้อง ก่อนที่เขาจะกลับบ้าน เธอก็คงกลับบ้านเช่นกัน เขามองตามเธอจนลับตาไป

    ++++++++++

    มิถุนายน 2537
    ณ  แผนกวิชาช่างเทคนิคสถาปัตยกรรม วิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่ง เขาได้พบเธออีกครั้ง และยิ่งดีใจเข้าไปใหญ่เมื่อได้รู้ว่าเขาและเธอเลขที่ติดกัน แค่นั้นเขาก็มีความสุขแล้ว พลางนั่งคิดว่าคงจะได้ทำอะไรด้วยกันบ่อยๆเพราะเลขที่ติดกัน

    ++++++++++


    เชื่อไหมว่าตลอดระยะเวลาสามปีที่เรียนด้วยกัน
    ไม่มีแม้สักวันที่เขาจะไม่นั่งรอเธอที่ม้านั่งหน้าวิทยาลัย
    เธอขี่มอเตอร์ไซค์คันเก่งของเธอเข้ามา
    พอจอดรถเธอก็ทักเขา แล้วก็ไปเข้ากลุ่มกับเพื่อนผู้หญิง
    เธอไม่รู้ตัวหรอก
    ว่าเขามานั่งทำไมทุกวัน
    และเธอไม่รู้แน่ๆ
    ว่าเขาหลงรักเธอ.................มาตั้งนานแล้ว
    อ้าว.................
    รักแล้วทำไมนิ่ง
    รักแล้วทำไมไม่บอก
    อ้าว................
    ก็คนมันไม่เคยนี่ ใครจะไปกล้า เขินก็เขิน
    แล้วยังไงล่ะ
    รักครั้งแรก
    แค่เห็นหน้าเธอทุกวันเขาก็สุขใจ
    แค่ได้หาเรื่องคุยแล้วเธอคุยด้วย ก็สบายใจ
    วันเกิดก็ซื้ออะไรให้บ้าง (หวังว่าเธอจะชอบ)
    แค่ได้หาเรื่องชวนเธอไปอ่านหนังสือสอบไกลๆ (เธอไปแฮะ)
    ถึงขนาดที่บางวันเขาต้องขี่มอเตอร์ไซค์อ้อมไปทางที่เธอผ่าน
    แล้วก็ขี่ตามไม่ให้เธอรู้
    แหม...........พอเห็นข้างหลัง แล้วอยากจะขี่อ้อมไปเห็นข้างหน้า
    แต่พอมาเห็นข้างหน้าเขาแทบจะหงายหลัง (จึ๋ย..ไม่ใช่เธอนี่หว่า)
    ช่างมันเถอะเข้าวิทยาลัยก็ได้เจอเธออยู่ดี

    ++++++++++

    เมษายน 2540
    เขาและเธอเรียนจบแล้ว
    เขาสอบติดคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในเมืองหลวง
    ส่วนเธอเรียนต่อที่เดิม
    ทำไงดีล่ะ
    เขาและเธอจะจากกันแล้ว
    ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกไหม
    วันนั้นเขาตัดสินใจแล้ว
    เขาเดินเข้าไปหาเธอ
    ....................................
    ............................................
    ยังดีกว่า ไม่กล้าว่ะ
    ทำไงดีวะ
    ไม่เป็นไรหรอก
    เขาหลอกขอที่อยู่เพื่อนๆทุกคนไว้
    เพียงเพื่อต้องการที่อยู่ของเธอ.........คนเดียว

    ++++++++++

    พฤษภาคม 2549
    เขาตัดสินใจเขียนจดหมายหาเธอเล่าเรื่องต่างๆ
    พยายามเล่าเรื่องบ้านนอกเข้ากรุง
    เล่าโน่น เล่านี่
    ไม่นานเธอตอบกลับ
    เขาดีใจมาก
    ส่วนเพื่อนๆก็เริ่มรู้แล้วว่าเขารู้สึกยังไงกับเธอ
    หลังจากนั้นเขาก็หาเรื่องกลับไปหาเธอที่วิทยาลัยบ่อยๆซื้อของไปฝากบ้าง
    ชวนไปกินข้าว ไม่หรู ไม่หรา แค่พอหาตังได้
    เธอก็ไปแต่โดยดี
    หรือว่าเธอมีใจให้
    ไม่ใช่หรอก
    เขาไม่เคยคิดเข้าข้างตัวเอง
    เขาเป็นคนที่ประเมินค่าตัวเองไม่สูง
    เขาไม่ใช่คนหน้าตาดี
    เขาไม่ใช่ลูกคนมีตัง
    เขาคิดอยู่อย่างเดียวว่าเธอคงไม่ชอบเขาหรอก
    เธอคงจะคิดว่าเขาเป็นเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้นเอง
    แต่เขาสิ...แค่เธอไปไหนมาไหนด้วย
    เขาก็กลับไปนอนฝันดีแล้ว
    เอาน่า.....
    ดูท่าทีเธอไปก่อน
    มาหาเธอบ่อยๆ
    เธออาจจะหันมาชอบสักวัน
    อดทนไว้....ไอ้หมา

    ++++++++++


    เมษายน 2542
    ข่าวดีของเขา
    เธอได้เข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพ เรียนวิศวะ
    อยู่คนละมหาลัย
    ไม่เป็นไร
    เขารีบเข้าไปบ้านเธอ
    พยายามแนะนำให้ข้อมูลเธอทุกอย่าง
    เดี๋ยวเธอจะเปลี่ยนใจไม่ไป
    และเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เธอได้อยู่ใกล้ๆ

    ++++++++++

    มิถุนายน 2542
    เธอมาเรียนจริงๆพักอยู่กับญาติที่ลำลูกกา
    วันนั้นเป็นวันปฐมนิเทศน์
    เขาไปหาเธอที่มหาวิทยาลัยโดยมิได้นัดหมาย
    คนเป็นพันถึงหลายพัน
    โทรศัพท์มือถือก็ยังไม่มี
    มหัศจรรย์
    เขาเจอเธอไม่ยาก วันนั้นเธอใส่รองเท้าผ้าใบสีขาว
    เธอยังถามเลยว่ามาได้ไง
    เขาไม่บอกหรอก
    ว่าเขาติดตามข่าวสารตลอด
    เราออกมากันตอนเที่ยง ไม่รู้จะไปไหน
    เขาพาเธอไปสวนสยาม
    เหอ เหอ เธอมากับเขาอีกแล้ว
    แล้วอย่างงี้จะให้คิดยังไง
    เอาวะ เขาตัดสินใจจะบอกความในใจกับเธอวันนั้น
    เขาและเธอถ่ายรูปด้วยกัน น่ารักทีเดียวเป็นปฏิทิน
    ทุกวันนี้เขายังเก็บรูปนั้นไว้อยู่เลย
    เขาชวนเธอเดินเล่นรอบๆ
    จนมาถึงล่องแก่งก็จะชวนเธอเล่น
    จะบ้าเหรอ วันนั้นเธอใส่กระโปรงสั้นมา
    ใครมันจะกล้าลงเรือ
    อยู่ที่สวนสยามสักสองชั่วโมงได้
    เขาก็พาเธอมาที่ห้องพักของเขาย่านพัฒนาการ
    แน่ะ.............อย่าคิดลึก
    แค่พามารู้จักว่าเขาอยู่ที่ไหน มีความเป็นอยู่อย่างไร
    ฝนตกลงมา
    นี่ก็ห้าโมงกว่าแล้ว
    เลยต้องรีบพาเธอไปส่งที่บ้าน
    คุณพี่เจ้าของหอพักก็ใจดีให้ยืมร่มอันนึง
    คงคิดว่าไปส่งแค่หน้าปากซอยมั้ง ถึงให้มาอันเดียว
    เขาเดินออกไปกับเธอท่ามกลางสายฝนกับร่มหนึ่งอัน
    เธอตัวเปียกเล็กน้อยเพราะเขาพยายามปกป้องเต็มที่
    แต่เขาสิ   ยังกะหมาตกน้ำ
    ถึงลำลูกกาประมาณสามทุ่ม
    เธอตัวแห้งแล้ว
    แต่เขาตัวสั่นมาตลอดทาง
    สมน้ำหน้า เจือกนั่งรถ ปอ.
    ถึงบ้านเธอโดยสวัสดิภาพ
    เฮ้อ.....วันนี้ก็ยังไม่ได้บอกอะไรกับเธออยู่ดี
    เขากลับมาถึงห้องพักประมาณตีหนึ่ง
    อาบน้ำ จามฮัดเช้ย ก่อนจะหลับฝันดี
    วันพรุ่งนี้จะเอาร่มไปคืน

    ++++++++++

    13 ธันวาคม 2542
    วันนี้เป็นวันพิเศษ
    วันเกิดของเธอ
    หลังจากเลิกเรียนในตอนเที่ยง
    เขาก็กลับมาแคะกระปุกเอาตังที่สะสมมาลงไปแลกแบ็งก์ที่ร้านค้า
    วันนี้แหละจะพาเธอไปกินอะไรซะหน่อยแล้วก็ไปส่งที่บ้าน
    เธอทำงานพิเศษที่หน่วยงานหนึ่งย่านพหลโยธิน
    ในขณะที่เสาร์ อาทิตย์เธอไปเรียน
    วันนั้นเป็นวันจันทร์เขากำเงินพันกว่าบาทยัดใส่กระเป๋าแล้วออกเดินทางโดยรถเมล์ที่เขาถนัด
    สี่โมงเย็นเธอเลิกงานลงมาจากตึก
    เขานั่งคอยได้ซักพักแล้ว อันที่จริงเขาก็เคยมาหาเธอที่นี่บ่อยๆ
    นัดบ้าง ไม่นัดบ้าง แต่เธอก็ไปด้วยทุกครั้ง
    เขาตรงดิ่งเข้าไปหาเธอทันที กะให้เธอเซอไพรซ์
    เซอไพรซ์ครับ
    แต่เป็นเขาเอง
    เมื่อเธอตอบปฏิเสธ
    บอกว่าเพื่อนมารับไปอ่านหนังสือเตรียมสอบ
    อ๋อไอ้ผู้ชายที่นั่งข้างๆเขานั่นเอง
    มาก็มาทีหลังยังจะได้เธอไปอีก
    สมน้ำหน้า
    ไม่นัดก่อน
    สมน้ำหน้า
    ไม่รู้ว่าเธอต้องสอบ
    คืนนั้น เขานั่งสมน้ำหน้าตัวเองเงียบๆที่ RCA คนเดียว
    เขาไม่เคยเสียใจอย่างนี้มาก่อน
    ณ สถานบันเทิงเปิดเพลงเสียงดัง
    มีชายคนหนึ่ง
    นั่งน้ำตาซึมอยู่ในมุมมืดลำพัง
    เช็คบิลมา 650
    เขาให้แบ็งก์พัน
    ไอ้น้อง..........ไม่ต้องทอน


    จากนั้นมาเขาก็ไม่กล้าไปหาเธออีกนาน
    ปีนั้นเคาน์ดาวน์ปีสองพัน
    เขานั่งนับเลขอยู่ที่บ้าน
    ส่วนเธอไม่รู้นับที่ไหน........กับใคร

    ++++++++++

    มีนาคม 2545
    เขาตัดสินใจโทรหาเธออีกครั้ง หลังจากที่ทนเหงามาเกือบสามปี
    ไปรับเธอที่ทำงานเดิม
    เขาเรียนใกล้จบแล้ว
    วันนั้นจะกลับไปฝึกงานที่ต่างจังหวัด
    ชวนกันนั่งรถไฟฟ้าไปกินสุกี้ที่ มาบุญครอง
    เธอบอกว่าย้ายมาอยู่ที่ประชาชื่น เช่าห้องอยู่
    เขาเกิดความรู้สึกเป็นห่วง
    แต่ก็ไม่พูดอะไร
    คงเพราะห่างกันไปนาน
    กินเสร็จ เธอไปส่งเขาขึ้นรถไฟ
    แล้วจากกันไปโดยที่เขาคงไม่มีโอกาสได้บอกอะไรเธอตรงๆอีกแล้ว

    ++++++++++




    เมษายน 2545
    เขาและเธอเจอกันอีกครั้งที่ต่างจังหวัด
    ไปหาเธอที่บ้าน
    ร้องเพลงอัดเทปไปให้เธอ
    เผื่อเธอจะเข้าใจอะไรบางอย่างที่เขาต้องการจะสื่อได้บ้าง

    ++++++++++

    1 มกราคม 2546
    ครั้งสุดท้ายที่เขาได้เจอเธอ
    วันนั้นเพื่อนๆนัดกันมาเลี้ยงรุ่น
    เขาก็มา
    เธอก็มา
    ได้ข่าวว่าเธอมีแฟนแล้ว
    นั่นไง
    สิ่งที่เขาคิดมาตลอด
    เขาได้รู้แล้ว
    ถูกแล้วหรือที่เขาคิดประมาณตัวเอง
    ถูกแล้วหรือที่เขาไม่บอกกับเธอตั้งนานแล้ว
    ถึงแม้จะไม้ได้ถามเธอว่าจริงรึเปล่า
    มันก็ทำให้เขาหายไปในคืนนั้น
    และไม่ได้เจอเธออีกเลย

    ++++++++++

    17 สิงหาคม 2546
    เขาเรียนจบแล้ว วันนี้เป็นวันรับปริญญา
    แฟนเขาก็มาแสดงความยินดี
    ในความเป็นจริง
    นอกจากพ่อกับแม่แล้ว
    เขาอยากให้เธอมาที่สุด
    เขาได้งานเป็นสถาปนิกที่บริษัทแห่งหนึ่ง
    เขาติดต่อเธอไม่ได้อีก
    เพื่อนที่สนิทกับเธอเขาก็ติดต่อไม่ได้
    แต่เชื่อไหม
    เขายังคิดถึงเธอตลอด
    แต่ไม่รู้ว่าเธอจะยังคิดถึงเขาอยู่รึเปล่า

    ++++++++++

    1 ธันวาคม 2549
    เวลา 20:50 น. ณ ร้านอาหารชื่อดัง บริเวณชั้น4 บนห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ทีสุดของถนนศรีนครินทร์
    “อิ่มแล้วเหรอ” แฟนผมถาม
    “ไม่หรอก แต่มันไม่อร่อยเหมือนที่เคยกินน่ะ”
    ผมตอบส่งๆไป อันที่จริงที่ผมกินไม่ลง ก็เพราะ เขาและเธอได้มาเจอกันอีกครั้งหนึ่ง เพียงแต่ว่าเขานั่งหันหลังให้เธอ ส่วนเธอก็มากับใครก็ไม่รู้ และเธอคงจำเขาไม่ได้

    สามทุ่ม โต๊ะข้างหลังผมก็ลุกจากไปโดยที่ผมไม่ได้หันไปดู ผมฝืนกินให้หมด แล้วก็ไปดูหนังต่อ

    ความตื่นเต้นปนความสงสัยทำให้คืนนั้นผมดูหนังไม่รู้เรื่อง

    เธอจำผมไม่ได้เหรอ
    หรือทำเป็นไม่เห็น
    ดีแล้วล่ะ
    อย่าทักกันเลย
    เดี๋ยวมีปัญหา
    เดี๋ยวอาจจะเกิดคำถามจากแฟนผม และคนที่มากับเธอ

    2 ธันวาคม 2549
    08:00 น.
    “ฮัลโหล เพื่อน เมื่อคืนฉันคิดว่าฉันเจอเธอว่ะ”
    “แกยังไม่เลิกตามเธออีกเหรอวะ” เพื่อนผมสงสัย
    “ไม่ใช่อย่างนั้น แค่สงสัยว่าใช่รึเปล่า มีเบอร์เธอมั้ย”
    “เธอแต่งงานแล้วนะ”
    “..........................................”

    มันเป็นประโยคที่ทำให้ผมอึ้งไปได้พักหนึ่ง เหมือนหัวใจมันหล่นไปไหนก็ไม่รู้ เหงื่อออกตามมือ

    “เหรอ” ผมเริ่มเสียงอ่อย
    “ตกลงมีเบอร์เธอมั้ย”
    “ไม่มีหรอก แต่เดี๋ยวหามาให้”
    “ขอบใจมากเพื่อน”

    คืนนั้นผมกลับไปบ้าน นอนไม่หลับ น้ำตาซึมมาอีกครั้งหนึ่ง
    ทำไมหนอ
    ทำไมเราไม่บอกเขาไปตั้งนานแล้ว
    ทำไมเราต้องเก็บมันมาตั้งสิบสองปี
    ทำไมเราต้องปล่อยสิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจไปต่อหน้าต่อตา
    ทำไม
    กะอีแค่คำว่ารักมันถึงพูดยากหนักหนา
    กว่าจะรู้ตัว
    มันก็สายไปแล้ว

    หลายวันต่อมา
    ผมได้เบอร์มาแล้วก็โทรไปหาเธอ
    ใช่เธอจริงๆด้วย
    น้ำเสียงเธอยังเหมือนเดิม
    ยังเหมือนเธอคนเดิม ตั้งแต่สิบสองปีที่แล้ว
    เธอยังคุยกับผมเหมือนเดิม
    เธอโทรมาหาผมด้วย
    ผมดีใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
    เธอยังไม่ลืมผม
    ผมก็จะไม่ลืมเธอ
    และหวังว่าเราจะได้เจอกันบ่อยๆ
    เพื่อความรู้สึกในอดีตจะได้หวนคืนมาสู่เรา ตลอดไป

    ++++++++++

    แม้โอกาสที่ผมจะได้เธอกลับมามันมีค่าเป็นศูนย์
    แต่ผมจะไม่ทิ้งโอกาสที่จะได้นำข้อความเหล่านี้มาให้เธอได้อ่าน
    ให้เธอได้รับรู้ความรู้สึกของผมที่มีต่อเธอผ่านทางตัวหนังสือ
    เพราะผมไม่กล้าหาญพอที่จะเอ่ยปากออกมา
    ว่าผมรักเธอ

    ++++++++++



    เขียนจากหัวใจ
    มู่ยู่

    จากคุณ : โอเลี้ยง-ชานม - [ 16 ธ.ค. 49 09:56:47 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom