Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    นิทานดอยนรก 4-14

    ลิงก์ตอนเก่าของบท 4 จ้ะ

    นิทานดอยนรก 4-1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4877517/W4877517.html
    นิทานดอยนรก 4-2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4884691/W4884691.html
    นิทานดอยนรก 4-3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4894731/W4894731.html
    นิทานดอยนรก 4-4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4903902/W4903902.html
    นิทานดอยนรก 4-5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4909903/W4909903.html
    นิทานดอยนรก 4-6 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4918676/W4918676.html
    นิทานดอยนรก 4-7 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4927983/W4927983.html
    นิทานดอยนรก 4-8 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4935658/W4935658.html
    นิทายดอยนรก 4-9 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4941238/W4941238.html
    นิทานดอยนรก4-10 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4948545/W4948545.html
    นิทานดอยนรก4-11 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4958075/W4958075.html
    นิทานดอยนรก4-12 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4964532/W4964532.html
    นิทานดอยนรก4-13 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4972139/W4972139.html
    -----------------------------------------------------------
    ขอไม่เขียนชื่อตอนนะครับ หุ ๆๆ ^^
    -----------------------------------------------------------
    (ลิลิตสุภาพ)

    (ร่าย)

    นางยุพินน้อบเบ้อ.....เธอโศกศัลย์ร่ำไห้.....แค้นใจในชะตา.....มันน่าทุเรศนัก.....คนหนึ่งลักข้ามา.....คนหนึ่งพาข้าไป.....ใครเขาจะนินทา.....ว่าข้านี้โสมม.....หญิงอาจมไร้ค่า.....โอ้ผัวยาอยู่ไหน.....ไยไม่มาช่วยเมีย.....ปล่อยให้เสียน้ำตา.....หรือว่าหมดรักน้อง.....นางร้องไห้หมองหม่น.....อยู่บนหลังอัสดร.....จรจรัลกับยิ้มแย้ม.....แรมทางกลางป่าดง.....อรอนงค์ขานขับ.....ยะเยือกจับใจจิต.....ยิ้มแย้มพิศนวลนาง.....พลางสงสารสุดซึ้ง.....ตรึงใจ


    (โคลงสอง)

    เห็นภายในจิตเจ้า..................นวลแม่แสนโศกเศร้า
    ปิ่มสิ้นชีวา

    น้ำตานองอาบหน้า.................เหนื่อยอ่อนจนจิตล้า
    แทบไร้เรี่ยวแรง

    มองแสงดาวขื่นช้ำ.................นางกัดฟันกรอดย้ำ
    ดั่งแค้นทุกยาม

    จับตาสามจึ่งรู้........................นางฝ่าฝืนต่อสู้
    แกร่งกล้าหนักหนา.................แม่เอย

    ทุกเวลาค่ำเช้า.......................มิว่างเว้นโศกเศร้า
    เจ็บช้ำขื่นทน

    ยิ่งยลยิ่งพิศซ้ำ.......................เห็นนิ่มนางเจ็บช้ำ
    จึ่งต้องปลอบนาง


    (ร่าย)

    วางใจเถิดนะแม่.....เรื่องแย่ต้องแก้ไข.....ใช่ไร้ซึ่งทางออก.....หรือจนตรอกหมดทาง.....แม่นวลนางลองคิด.....พิศดูให้ลึกซึ้ง.....วันหนึ่งไอ้สุพัต.....เกิดขัดข้องหมองจิต.....หากมันคิดจัณฑาล.....สังหารผลาญนวลนาง.....ให้วายวางมอดม้วย.....ใครจะช่วยแม่ได้.....ชาวไพรก็ตกอับ.....ถูกจับมาเป็นทาส.....ชายฉกาจชาญชัย.....จ้าวป่าใหญ่แรงฤทธิ์.....ก็คงคิดมิตก.....มิอาจปกป้องบ้าน.....เพราะคนพาลคุมไพร่.....ไว้เป็นตัวประกัน.....ทั้งชีวันนวลนาง.....เหมือนวางบนเส้นด้าย.....จะร้ายหรือจะดี.....มิมีใครรู้ได้.....จ้าวป่าใหญ่คิดหนัก.....ทั้งพลพรรคในป่า.....มาประชุมรวมพล.....คิดแยบยลถึงแผน.....จะดูแคลนมิได้.....อย่าคิดเสียใจไซร้.....แม่ต้องตรองดู


    (โคลงสาม)

    ชายผู้นี้พาที .....................มีเหตุผลลึกล้ำ
    ลองตริตรองไตร่ซ้ำ............เปี่ยมด้วยเหตุผล พ่อเอย

    มิเคยยลยินกัน..................ไร้สัมพันธ์เกี่ยวข้อง
    ไยจึ่งรู้จักน้อง....................ช่วยแจ้งแถลงความ

    ท่านมีนามใดหรือ...............ฝีมือล้ำเลิศหล้า
    รู้จักจ้าวป่ากล้า..................ดั่งนี้น่ะหรือ ฤาพ่อ

    ตัวเราชื่อยิ้มแย้ม................มิแช่มชาญอย่างถ้อย
    มีฤทธิ์แค่นิดน้อย................เช่นนั้นจริงจริง

    มิอาจทิ้งเพื่อนแก้ว..............คลาดแคล้วจรจากบ้าน
    หาเพื่อนฤทธิ์สะท้าน............ชื่อนั้นเลื่องลือ

    ธฤติคือเพื่อนรัก..................รู้จักแต่ก่อนกี้
    มันเล่าเรื่องทั้งนี้..................จึ่งได้ด้นมา แม่เอย


    (โคลงสอง)

    ฟังวาจาอ่อนน้อม.................สง่างามเพียบพร้อม
    มากด้วยเชิงชาย


    (โคลงสี่)

    หยุดพักคลายเหนื่อยล้า..........เถิดรา
    น้องอยากผ่อนกายา..............สักน้อย
    โปรดหยุดขับอาชา.................เถิดพ่อ
    สักพักค่อยเคลื่อนคล้อย..........รีบด้นไปไฉน

    ได้สิตามจิตเจ้า......................น้องนาง
    จึงหยุดพักท่ามกลาง...............ป่านั้น
    นางขับกล่อมไพรวัน...............เสียงเสนาะ ยิ่งเอย
    ร้องร่ายร่ายบทสั้น..................ยั่วเย้ายวนใจ

    (ร่าย)

    แก้ไขสิ้นเรื่องร้าย.....ไว้ลายชายลือชื่อ.....อวดฝีมือฉกาจ.....องอาจล้ำเล่ห์กล.....พานฤมลหลบหนี.....ให้ไพรีขามฤทธิ์.....พิชิตเจ้าเพื่อนรัก.....หาญหักให้เห็นลาย.....ชาติชายชาญยิ้มแย้ม.....แหลมหลักลึกร้ายเหลือ.....ดุจดั่งเสือยอดพยัคฆ์.....มากนักด้วยการุณ.....แทนคุณอย่างไรหมด.....ชดช้อยนางน้อบเบ้อ.....เธอได้ขับร่ายร้อง.....เป็นทำนองแสนหวาน.....กังวานพนาศรี.....สดุดียิ้มแย้ม.....เพลงแช่มชื่นยิ่งนัก.....พักผ่อนฟังนางขับ.....เสียงลมรับโบกโชย.....ใบไม้โรยเป็นฉาก.....แสงจันทร์จากฟากฟ้า.....ส่องกายาผ่องใส.....มวลดอกไม้กลิ่นหอม.....เมื่อพิศพร้อมนวลนาง.....เหม่อมองพลางลืมหมด.....หลงรูปรสทั้งกลิ่นเสียง.....โลมใจ


    (โคลงสอง)

    น้องได้กล่อมขับร้อง...............คุณท่านที่ปกป้อง
    จึ่งต้องตอบแทน

    ป่าดงแสนยากไร้....................หาสิ่งใดไหนได้
    ยากแท้ไม่มี

    หนี้นี้ขอติดค้าง.......................มิอาจจะลบล้าง
    ท่านได้เลยนอ.......................พ่อเอย

    ขออภัยน้องเชื่องช้า................พักผ่อนเพราะเหนื่อยล้า
    บัดนี้เหนื่อยหาย.....................นะพ่อ

    ผันผายขึ้นขี่ม้า.......................งามสง่าเจิดจ้า
    พิศเจ้าไฉไล

    ขึ้นไปนั่งเกี่ยวข้อง...................อยู่ ณ หลังนวลน้อง
    มุ่งหน้าฝ่าดง


    (ร่าย)

    หลงใหลจิตใหลหลง.....อรอนงค์นวลนุช.....นางสุดแสนงามเลิศ.....แสนเฉิดฉายไฉไล.....จะหาไหนเทียมนาง.....คิดพลางพิศผมบลอนด์.....ช่างหลอกหลอนใจจิต.....พิศนิ่มเนื้อนวลนาง.....ทั่วสรรพางค์ขาวผ่อง.....มองรูปร่างเอวองค์.....งามระหงสมส่วน.....ใจปั่นป่วนปฏิพัทธ์.....ให้กำหนัดเร่าร้อน.....ลืมพรของฤาษี.....ลืมนารีในผอบ..... ลืมทบทวนราวเรื่อง.....ลืมเมืองอโยธยา.....ลืมสองป้าเสียสั่ง.....ทั้งรำพันจันทรา.....ลืมมารดามารศรี.....ลืมที่เคยสาบาน.....ลืมเหตุการณ์สวนบ๊วย.....ลืมคิดช่วยสองเพื่อน.....ลืมเลือน


    (โคลงสาม)

    อาชาเคลื่อนคลาไคล................แรมไพรในป่ากว้าง
    ทางเปลี่ยวแสนอ้างว้าง..............เร่งเท้าเร็วไว

    อาชาไนยแคล่วคล่อง................น้อบเบ้อน้องนั่งหน้า
    ลมพัดโชยโบกกล้า...................เกศนั้นพลันสยาย

    ส่วนชายหลังนวลนาง.................มิจากจางเหม่อได้
    ขาดสติสิ้นไร้...........................มิรู้ตัวตน


    (โคลงสี่)

    เมื่อมองยลฟากฟ้า.............ทิศพา ยัพเฮย
    เจิดจรัสสามดารา...............สว่างแท้
    ระยิบยับจับตา...................ประดับ นภาแฮ
    ก่อเกิดตำนานแล้...............ห่อนห้ามผลกรรม

    (โปรดติดตามตอนต่อไปจ้ะ)

    แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 49 15:59:19

    จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม - [ 20 ธ.ค. 49 02:31:32 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom