ลิงก์ตอนเก่าของบท 4 จ้ะ
นิทานดอยนรก 4-1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4877517/W4877517.html
นิทานดอยนรก 4-2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4884691/W4884691.html
นิทานดอยนรก 4-3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4894731/W4894731.html
นิทานดอยนรก 4-4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4903902/W4903902.html
นิทานดอยนรก 4-5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4909903/W4909903.html
นิทานดอยนรก 4-6 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4918676/W4918676.html
นิทานดอยนรก 4-7 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4927983/W4927983.html
นิทานดอยนรก 4-8 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4935658/W4935658.html
นิทายดอยนรก 4-9 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4941238/W4941238.html
นิทานดอยนรก4-10 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4948545/W4948545.html
นิทานดอยนรก4-11 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4958075/W4958075.html
นิทานดอยนรก4-12 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4964532/W4964532.html
นิทานดอยนรก4-13 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4972139/W4972139.html
-----------------------------------------------------------
ขอไม่เขียนชื่อตอนนะครับ หุ ๆๆ ^^
-----------------------------------------------------------
(ลิลิตสุภาพ)
(ร่าย)
นางยุพินน้อบเบ้อ.....เธอโศกศัลย์ร่ำไห้.....แค้นใจในชะตา.....มันน่าทุเรศนัก.....คนหนึ่งลักข้ามา.....คนหนึ่งพาข้าไป.....ใครเขาจะนินทา.....ว่าข้านี้โสมม.....หญิงอาจมไร้ค่า.....โอ้ผัวยาอยู่ไหน.....ไยไม่มาช่วยเมีย.....ปล่อยให้เสียน้ำตา.....หรือว่าหมดรักน้อง.....นางร้องไห้หมองหม่น.....อยู่บนหลังอัสดร.....จรจรัลกับยิ้มแย้ม.....แรมทางกลางป่าดง.....อรอนงค์ขานขับ.....ยะเยือกจับใจจิต.....ยิ้มแย้มพิศนวลนาง.....พลางสงสารสุดซึ้ง.....ตรึงใจ
(โคลงสอง)
เห็นภายในจิตเจ้า..................นวลแม่แสนโศกเศร้า
ปิ่มสิ้นชีวา
น้ำตานองอาบหน้า.................เหนื่อยอ่อนจนจิตล้า
แทบไร้เรี่ยวแรง
มองแสงดาวขื่นช้ำ.................นางกัดฟันกรอดย้ำ
ดั่งแค้นทุกยาม
จับตาสามจึ่งรู้........................นางฝ่าฝืนต่อสู้
แกร่งกล้าหนักหนา.................แม่เอย
ทุกเวลาค่ำเช้า.......................มิว่างเว้นโศกเศร้า
เจ็บช้ำขื่นทน
ยิ่งยลยิ่งพิศซ้ำ.......................เห็นนิ่มนางเจ็บช้ำ
จึ่งต้องปลอบนาง
(ร่าย)
วางใจเถิดนะแม่.....เรื่องแย่ต้องแก้ไข.....ใช่ไร้ซึ่งทางออก.....หรือจนตรอกหมดทาง.....แม่นวลนางลองคิด.....พิศดูให้ลึกซึ้ง.....วันหนึ่งไอ้สุพัต.....เกิดขัดข้องหมองจิต.....หากมันคิดจัณฑาล.....สังหารผลาญนวลนาง.....ให้วายวางมอดม้วย.....ใครจะช่วยแม่ได้.....ชาวไพรก็ตกอับ.....ถูกจับมาเป็นทาส.....ชายฉกาจชาญชัย.....จ้าวป่าใหญ่แรงฤทธิ์.....ก็คงคิดมิตก.....มิอาจปกป้องบ้าน.....เพราะคนพาลคุมไพร่.....ไว้เป็นตัวประกัน.....ทั้งชีวันนวลนาง.....เหมือนวางบนเส้นด้าย.....จะร้ายหรือจะดี.....มิมีใครรู้ได้.....จ้าวป่าใหญ่คิดหนัก.....ทั้งพลพรรคในป่า.....มาประชุมรวมพล.....คิดแยบยลถึงแผน.....จะดูแคลนมิได้.....อย่าคิดเสียใจไซร้.....แม่ต้องตรองดู
(โคลงสาม)
ชายผู้นี้พาที .....................มีเหตุผลลึกล้ำ
ลองตริตรองไตร่ซ้ำ............เปี่ยมด้วยเหตุผล พ่อเอย
มิเคยยลยินกัน..................ไร้สัมพันธ์เกี่ยวข้อง
ไยจึ่งรู้จักน้อง....................ช่วยแจ้งแถลงความ
ท่านมีนามใดหรือ...............ฝีมือล้ำเลิศหล้า
รู้จักจ้าวป่ากล้า..................ดั่งนี้น่ะหรือ ฤาพ่อ
ตัวเราชื่อยิ้มแย้ม................มิแช่มชาญอย่างถ้อย
มีฤทธิ์แค่นิดน้อย................เช่นนั้นจริงจริง
มิอาจทิ้งเพื่อนแก้ว..............คลาดแคล้วจรจากบ้าน
หาเพื่อนฤทธิ์สะท้าน............ชื่อนั้นเลื่องลือ
ธฤติคือเพื่อนรัก..................รู้จักแต่ก่อนกี้
มันเล่าเรื่องทั้งนี้..................จึ่งได้ด้นมา แม่เอย
(โคลงสอง)
ฟังวาจาอ่อนน้อม.................สง่างามเพียบพร้อม
มากด้วยเชิงชาย
(โคลงสี่)
หยุดพักคลายเหนื่อยล้า..........เถิดรา
น้องอยากผ่อนกายา..............สักน้อย
โปรดหยุดขับอาชา.................เถิดพ่อ
สักพักค่อยเคลื่อนคล้อย..........รีบด้นไปไฉน
ได้สิตามจิตเจ้า......................น้องนาง
จึงหยุดพักท่ามกลาง...............ป่านั้น
นางขับกล่อมไพรวัน...............เสียงเสนาะ ยิ่งเอย
ร้องร่ายร่ายบทสั้น..................ยั่วเย้ายวนใจ
(ร่าย)
แก้ไขสิ้นเรื่องร้าย.....ไว้ลายชายลือชื่อ.....อวดฝีมือฉกาจ.....องอาจล้ำเล่ห์กล.....พานฤมลหลบหนี.....ให้ไพรีขามฤทธิ์.....พิชิตเจ้าเพื่อนรัก.....หาญหักให้เห็นลาย.....ชาติชายชาญยิ้มแย้ม.....แหลมหลักลึกร้ายเหลือ.....ดุจดั่งเสือยอดพยัคฆ์.....มากนักด้วยการุณ.....แทนคุณอย่างไรหมด.....ชดช้อยนางน้อบเบ้อ.....เธอได้ขับร่ายร้อง.....เป็นทำนองแสนหวาน.....กังวานพนาศรี.....สดุดียิ้มแย้ม.....เพลงแช่มชื่นยิ่งนัก.....พักผ่อนฟังนางขับ.....เสียงลมรับโบกโชย.....ใบไม้โรยเป็นฉาก.....แสงจันทร์จากฟากฟ้า.....ส่องกายาผ่องใส.....มวลดอกไม้กลิ่นหอม.....เมื่อพิศพร้อมนวลนาง.....เหม่อมองพลางลืมหมด.....หลงรูปรสทั้งกลิ่นเสียง.....โลมใจ
(โคลงสอง)
น้องได้กล่อมขับร้อง...............คุณท่านที่ปกป้อง
จึ่งต้องตอบแทน
ป่าดงแสนยากไร้....................หาสิ่งใดไหนได้
ยากแท้ไม่มี
หนี้นี้ขอติดค้าง.......................มิอาจจะลบล้าง
ท่านได้เลยนอ.......................พ่อเอย
ขออภัยน้องเชื่องช้า................พักผ่อนเพราะเหนื่อยล้า
บัดนี้เหนื่อยหาย.....................นะพ่อ
ผันผายขึ้นขี่ม้า.......................งามสง่าเจิดจ้า
พิศเจ้าไฉไล
ขึ้นไปนั่งเกี่ยวข้อง...................อยู่ ณ หลังนวลน้อง
มุ่งหน้าฝ่าดง
(ร่าย)
หลงใหลจิตใหลหลง.....อรอนงค์นวลนุช.....นางสุดแสนงามเลิศ.....แสนเฉิดฉายไฉไล.....จะหาไหนเทียมนาง.....คิดพลางพิศผมบลอนด์.....ช่างหลอกหลอนใจจิต.....พิศนิ่มเนื้อนวลนาง.....ทั่วสรรพางค์ขาวผ่อง.....มองรูปร่างเอวองค์.....งามระหงสมส่วน.....ใจปั่นป่วนปฏิพัทธ์.....ให้กำหนัดเร่าร้อน.....ลืมพรของฤาษี.....ลืมนารีในผอบ..... ลืมทบทวนราวเรื่อง.....ลืมเมืองอโยธยา.....ลืมสองป้าเสียสั่ง.....ทั้งรำพันจันทรา.....ลืมมารดามารศรี.....ลืมที่เคยสาบาน.....ลืมเหตุการณ์สวนบ๊วย.....ลืมคิดช่วยสองเพื่อน.....ลืมเลือน
(โคลงสาม)
อาชาเคลื่อนคลาไคล................แรมไพรในป่ากว้าง
ทางเปลี่ยวแสนอ้างว้าง..............เร่งเท้าเร็วไว
อาชาไนยแคล่วคล่อง................น้อบเบ้อน้องนั่งหน้า
ลมพัดโชยโบกกล้า...................เกศนั้นพลันสยาย
ส่วนชายหลังนวลนาง.................มิจากจางเหม่อได้
ขาดสติสิ้นไร้...........................มิรู้ตัวตน
(โคลงสี่)
เมื่อมองยลฟากฟ้า.............ทิศพา ยัพเฮย
เจิดจรัสสามดารา...............สว่างแท้
ระยิบยับจับตา...................ประดับ นภาแฮ
ก่อเกิดตำนานแล้...............ห่อนห้ามผลกรรม
(โปรดติดตามตอนต่อไปจ้ะ)
แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 49 15:59:19
จากคุณ :
ย.ยิ้มแย้ม
- [
20 ธ.ค. 49 02:31:32
]