เพื่อนๆเคยมีประสบการณ์แบบผมไหมครับ กับการที่เคยฝัน เคยตั้งใจจะทำอะไรสักอย่าง แล้วเราก็ได้ทุ่มเทให้กับการทำสิ่งนั้นอย่างสุดความสามารถ และทุ่มเทเวลาให้กับมันมานาน จนกระทั่งสิ่งนั้นเกือบจะสำเร็จสมดังที่เราปรารถนา แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ที่เราไม่คาดฝันบังเกิดขึ้น แล้วกลับมาทำให้ฝันที่เราตั้งใจ ที่เราพยายามมาตลอดนั้นต้องพังทลายลง สำหรับผมนั้นเคยเจอเรื่องแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อปีก่อนผมตัดสินใจออกจากงานประจำที่ทำมากว่าหนึ่งปี แต่นี่ไม่ใช่งานแรกของผมหรอกครับ หลังจากที่เรียนจบมาในปี 44 ผมทำงานมาแล้วสามบริษัท สำหรับผมแล้ว มันมากและนานพอที่จะคิดได้ว่าผมคงไม่เหมาะกับการทำงานประจำแบบนี้ ผมตั้งใจไว้ว่าผมจะออกมาพักเพื่อเตรียมตัวไปเรียนต่อต่างประเทศในสาขาวิชาที่ผมถนัด และตั้งใจว่าจะกลับมาเพื่อทำงานวิจัยให้กับหน่วยงานราชการ หรือสถาบันการศึกษาต่อไป การเตรียมการของผมตลอดเกือบหนึ่งปีเป็นไปด้วยดีทุกอย่าง ผลการสอบข้อสอบมาตรฐานต่างๆทั้ง Toefl และ GRE ก็ได้อยู่ในเกณฑ์ดี ผมได้รับจดหมายตอบรับเข้าเรียนจากมหาวิทยาลัยทั้งในยุโรปและอเมริกา สุดท้ายผมตัดสินใจตอบรับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกาที่เสนอให้ทุนการศึกษา และให้ผมร่วมทำงานวิจัยในหัวข้อที่ผมสนใจด้วย
ในช่วงเวลาหนึ่งเดือนก่อนที่ผมจะเดินทางนั้นมีเรื่องจะต้องทำมากเหลือเกิน ทั้งการเตรียมกระเป๋าสำภาระ ซื้อข้าวของต่างๆ หาตั๋วเครื่องบิน ขอวีซ่า หาที่พัก สะสางภาระหน้าที่ต่างๆที่คั่งค้างอยู่ และยังมีงานเลี้ยงอำลาจากเพื่อนๆ และญาติพี่น้อง ช่างเป็นเวลาที่วุ่นวาย แต่กีมีความสุขเหลือเกินเมื่อคิดถึงสิ่งที่รออยู่ข้างหน้า แต่ถึงจะยุ่งอย่างไรผมก็ยังไม่ลืมที่จะไปตรวจสุขภาพร่างกาย และตรวจฟันตามคำแนะของเพื่อนที่ไปเรียนอยู่ก่อน มันว่าค่าหมอที่โน่นมันแพงเหลือเกิน ให้ผมตรวจร่างกาย และทำฟันให้เรียบร้อยก่อนไป ซึ่งผมก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่นั่นกลับกลายเป็นเหตุให้ผมมีอันต้องระงับแผนการไปเรียนต่อ
ก่อนที่ผมจะบินเพียงสองสัปดาห์ ผมทราบแน่ชัดจากคุณหมอว่าผมเป็นโรคอย่างหนึ่งซึ่งกำลังอยู่ในภาวะกำเริบ แม้ผมจะรู้สึกว่าร่างกายผมสมบูรณ์ดีทุกอย่าง และไม่มีอาการเจ็บป่วยมาก่อนแต่อย่างใด คุณหมอแนะนำว่าวิธีการในการรักษาที่ดีที่สุดในขณะนี้คือการฉีดยา ซึ่งต้องฉีดทุกสัปดาห์ต่อเนื่องกันเป็นหนึ่งปี และต้องอยู่ในความดูแลของคุณหมออย่างใกล้ชิด เนื่องจากยานี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงปรารถนาหลายประการ นั่นหมายความว่าผมไม่สามารถไปเรียนต่อในปีนี้ได้แน่นอน และยังมีค่าใช้จ่ายตลอดการรักษาอีกหลายแสนบาท ซึ่งผมคงต้องใช้เงินทั้งหมดที่ผมเก็บสะสมเกือบห้าปีที่ทำงานไปกับในการรักษาตัว เงินก้อนที่เดิมผมตั้งใจไว้ว่าจะสำรองไว้ใช้ขณะเรียนหากทุนที่ได้ไม่เพียงพอ
ผมอยู่ในอาการช็อก ทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป เมื่อวานผมยังเป็นว่าที่หนุ่มนักเรียนนอกพร้อมจะบินในอีกสองอาทิตย์ วีซ่าพร้อมในหนังสือเดินทาง ข้าวของถูกบรรจุเรียบร้อยในกระเป๋า ทุนการศึกษา และงานวิจัยที่รอผมอยู่ ความฝันของผมเพิ่งพังทลายลง พร้อมกับเงินเก็บทั้งหมดในชีวิตของผมที่กำลังจะหนีจากกระเป๋าสตางค์ของผมตามความฝันไปอีก ผมเริ่มโทษไปต่างๆนานา ตั้งแต่เพื่อนที่บอกให้ไปตรวจร่างกาย โทษโชคชะตาที่เล่นตลกกับผมแบบนี้ โทษไปจนถึงวิทยาการการแพทย์ที่ไม่ทันสมัยพอที่จะรักษาโรคของผมได้ในระยะอันสั้น
คิดซ้ำซากอย่างนี้อยู่หลายวันจนเวลาทำให้สติกลับคืนมาบ้าง เริ่มคิดถึงคำท่านพุทธทาสที่เคยอ่านเจอในหนังสือที่ท่านแนะให้เราหาประโยชน์จากสิ่งที่เป็นทุกข์ ดังพุทธภาษิตที่กล่าวไว้ว่า ผู้มีปัญญาย่อมแสวงหาความสุขได้จากสิ่งที่เป็นทุกข์ ท่านกล่าวไว้ในหนังสือว่า การที่มนุษย์รู้จักทำอะไรให้ก้าวหน้า หรือดีขึ้นนี้ ก็เพราะว่ามันมีอุปสรรคเกิดขึ้นก่อน
..สำหรับความเจ็บไข้นี้ก็เหมือนกัน มันเหมือนกับมาเตือนให้รู้ล่วงหน้า ว่าจะต้องทำอย่างไรถ้ามันเกิดเจ็บไข้มากกว่านี้ หรือมันจะต้องตายลงไปจริงๆ ก็จะสามารถทำจิตใจได้ถูกต้อง ไม่ให้ความทุกข์ครอบงำมากเกินไป
เป็นเรื่องจริงทีเดียว โรคที่ผมเป็นก็ไม่ได้ร้ายแรงหมดทางรักษา หลังจากนี้หนึ่งปีผมก็ยังไปเรียนต่อตามตั้งใจได้ ยิ่งเรื่องเงินทองยิ่งไม่ต้องคิด ขอให้ร่างกายแข็งแรง สติปัญญาสมบูรณ์เราก็หาใหม่ได้ ผมจะไม่ยอมให้อุปสรรคแค่นี้ต้องมาเปลี่ยนแปลงความฝันของผม แต่ในทางกลับกันผมจะใช้เรื่องนี้เป็นบทเรียนไม่ให้ผมตั้งอยู่ในความประมาทไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม
ในภายหลัง หลังจากที่คิดได้อย่างนั้นแล้ว ผมย้อนกลับมามองเรื่องนี้อีกที แต่ในครั้งนี้กลับได้มุมมองที่ต่างไป บางทีอาจจะเป็นโชคดีที่เพื่อนของผมแนะนำให้ไปตรวจร่างกายก่อนไป ถ้าไม่ตรวจ แล้วไปป่วยทีโน่นคงจะยิ่งลำบาก อาจจะเรียนไม่จบก็ต้องกลับมารักษาก็เป็นได้ บางทีอาจะเป็นโชคดีที่โชคชะตากำหนดให้ผมคิดไปเรียนต่อในช่วงเวลานี้ ทำให้ตรวจเจอโรคนี้ในระยะเริ่มแรกที่สามารถรักษาได้ และท้ายที่สุดผมโชคดีเหลือเกิน ที่เกิดในโรคที่วิทยาการการแพทย์ก้าวหน้าจนสามารถรักษาโรคนี้ได้ แม้จะต้องใช้เวลาเป็นปีก็ตาม นอกจากนี้การป่วยครั้งนี้ ยังทำให้ผมรู้ว่ามีคนรอบข้างผมที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือ และให้กำลังใจผมตลอดเวลา เวลาหนึ่งปีที่ผมรักษาตัวนี้ยังจะเป็นเวลาที่ผมจะได้อยู่กับคุณพ่อคุณแม่ที่ผมรักมากกว่าใคร ก่อนที่ผมจะห่างท่านไปกว่าห้าปีตามที่ตั้งใจไว้
บางทีอาจจะจริง ที่ในเรื่องไม่ดี ยังมีเรื่องดีๆแฝงอยู่เสมอ ให้เราหาประโยชน์ หรือความสุขจากมันได้ หากเรามีสติ เปิดใจยอมรับสิ่งที่มันเกิดขึ้น และมองมันในมุมที่ต่างออกไปบ้าง
ในวันเลี้ยงปลอบใจเนื่องในโอกาสที่ผมอดไปเรียนต่อ ผมเล่าเรื่องทั้งหมดนี้ให้รัส กับดำเพื่อนรักของผมฟัง รัสให้ความเห็นว่า ไอ้ที่จะได้แล้วไม่ได้เนี่ย กูเป็นบ่อย ซื้อหวยทีไรกูก็คิดว่าต้องถูก แต่พอหวยออก กูก็ถูกแดกทุกที ส่วนดำให้ทรรศนะว่า เออ...ไม่ได้ไปก็ดีแล้ว กูจะได้ไม่ต้องไปหาขาตีสนุ้กใหม่ ถ้าตีกับไอ้รัสแค่สองคน กูก็ได้จ่ายตังค์คนเดียวตลอดสิวะ เฮ้อ!
.ผมล่ะรักเพื่อนผมจริงๆครับ
แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 49 18:25:34
แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 49 18:20:20
จากคุณ :
kasadoom
- [
20 ธ.ค. 49 18:19:36
]