**รู้สึกดีที่มีคนคิดถึง**
หลังจากการกลับบ้านครั้งแรกของฉัน ปีต่อมาฉันได้กลับบ้านบ่อยขึ้น ทั้งที่จริงๆ จะกลับบ้านปีละครั้ง แต่ปีนี้ฉันได้กลับ 2 ครั้ง เพราะน้องสาวไปเรียน Summer ที่นั่น ตอนกลับฉันก็เลยต้องกลับมาส่งเขา เพราะไม่อยากให้เขาเดินทางคนเดียว การเดินทางกลับบ้านคราวนี้ไม่มีใครรู้นอกจากคนในครอบครัว และแฟนฉันที่รู้จากจดหมายที่ฉันเขียนมาบอก แต่ก็น่าแปลกอีกเหมือนกัน เธอรู้ได้ยังไงนะ (ยังคงเป็นคำถามที่รอคำตอบอยู่) เธอโทรมาหาฉันอีกแล้ว และก็มาหาฉันที่บ้านเหมือนเคย ฉันมีเวลาอยู่เมืองไทยได้ไม่นานก็ต้องกลับไปอีกแล้วเพราะโรงเรียนเปิด ที่โน่นจะเปิดเรียนช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และจะปิดมิดเทอมตอนเมษายน ประมาณ 1 สัปดาห์ และจะปิดเทอม 1 อีกทีช่วงเดือนกรกฎาคมประมาณ 2 สัปดาห์ และมิดเทอม 2 ตอนเดือนตุลาคมอีก 1 สัปดาห์ ส่วนปิดเทอมใหญ่จะประมาณช่วงเดือนธันวาคม ถ้าถามถึงแฟนของฉัน ความสัมพันธ์ของเราก็ลางเลือนมากๆ ไม่ได้เจอกัน อยากเจอเขา แต่เขาก็จะมีข้ออ้างเสมอ แต่ฉันก็ไม่ว่าอะไร บอกแล้วตอนนั้นฉันไม่มีทางบอกเลิกใครเด็ดขาด แต่ฉันก็ยังมีเธออยู่เสมอเลย ทุกครั้งที่อยากมีใครคุยด้วย เธอจะเป็นคนแรกเสมอที่ฉันจะโทรหา และก็จะมีเธออยู่ที่นั่นตลอดเวลา
การเรียนของฉันผ่านไปอีกปี จนกระทั่งปีสุดท้ายที่ฉันตัดสินใจเรียนที่นั่น และจะกลับมาเรียนต่อในเมืองไทย ด้วยสาเหตุหลายอย่าง แต่ที่สำคัญที่สุดคือ คุณพ่อของฉันรับราชการ และจะเกษียณอีก 2 ปีข้างหน้า และถ้าฉันตัดสินใจเรียนต่อที่ออสเตรเลีย ฉันจะต้องอยู่อีก 3 ปี เพื่อจะเรียนจนจบปริญญาตรี แล้วอีก 1 ปี ที่เหลือจะทำอย่างไร ฉันคิดไปเองว่าไม่อยากให้พ่อต้องลำบาก เพราะเรายังไม่รู้เลยว่าคุณพ่อจะทำอะไรหลังจากเกษีนณแล้ว ฉันจึงตัดสินใจกลับบ้านมาเรียนต่อปริญญาตรีที่เมืองไทยดีกว่า คุณพ่อบอกกับฉันว่าไม่เห็นเป็นไร ยังไงก็จะหาส่งให้เรียนต่อให้ได้อยู่ดีนั่นแหล่ะ แต่ถึงอย่างไรคุณพ่อก็ให้ฉันกลับมา เพราะที่บ้านเราจะเคารพในการตัดสินใจของแต่ละคนมากๆ และฉันก็รู้สึกดีใจกับการตัดสินใจของตัวเองมากๆ ด้วย เพราะหลังจากที่กลับมาไม่นาน ก็เกิดเหตุการณ์ฟองสบู่แตก ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าถ้ายังเรียนอยู่ที่นั่นคุณพ่อจะทำยังไง ช่วงปีสุดท้าย ฉันเดินทางกลับบ้านค่อนข้างบ่อย แทบจะทุกปิดเทอมเพราะจะต้องทยอยขนของกลับมาเรื่อยๆ และเธอก็รู้ทุกครั้งสิน่า ว่าฉันกลับมา ฉันอยากจะรู้จริงๆ นะ ว่าเธอรู้ได้ยังไง เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ใจมากๆ และรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ที่มีคนคิดถึงและสนใจในเรื่องของเราตลอดเวลา
**แล้วฉันก็เริ่มมองเห็นเธอ แต่เธอเป็นอะไรไป**
ฉันกลับมาเรียนต่อที่เมืองไทย ในช่วงแรกฉันยังไม่ได้ไปเรียนเนื่องจากรอสอบเอนทรานส์ ค่อนข้างว่างมากๆ เลยหล่ะ และก็เป็นเธออีกนั่นแหล่ะที่คอยแวะมาหาฉันที่บ้าน เพราะว่ามหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่ใกล้กับบ้านของฉันในตอนนั้นบ้านฉันอยู่แถวๆ รามคำแหง เราเจอกันบ่อยเพราะเธอชอบแวะมาหาหลังจากที่เรียนเสร็จแล้วในตอนเย็น ตอนนั้นแฟนของฉันบอกเลิกกับฉันแล้วหล่ะ (แล้ววันนั้นก็มาถึงสักที) เขาคงคิดว่าไม่อยากให้ฉันต้องเสียใจในระหว่างที่ไม่ได้อยู่เมืองไทย พอกลับมาปุ๊บก็เลิกปั๊บ ฉันเสียใจนะ ทั้งๆ ที่เตรียมใจไว้แล้ว เพราะคิดว่ายังไงๆ ก็ต้องมีวันนี้เข้าสักวัน ความรักของเรามันเป็นเส้นขนานมาตั้งนานแล้วหล่ะ หลังจากที่เลิกกับแฟน พี่สาวของฉันก็บอกว่าทำไมไม่มองคนที่เขาอยู่ข้างๆ เราตลอดเวลาบ้างหล่ะ เขาไม่เคยหายไปไหนเลยนะ ฉันจึงเริ่มรู้สึกได้ว่าใช่สิ เธอนี่ไงที่ไม่เคยไปไหนเลย เธออยู่กับฉันเสมอในวันที่ฉันต้องการใครสักคน ฉันจึงเริ่มเปิดใจกับเธอมากขึ้นๆ เราเริ่มคุยกันบ่อยขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับแต่ก่อน แต่ฉันก็แอบรู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างขั้นกลางระหว่างเรา ฉันเริ่มเห็นข้อดีของเธอมากขึ้นและฉันก็รู้ว่าเธอรู้สึกได้ว่าฉันรู้สึกอย่างไร เพราะฉันรู้สึกว่าเธอเริ่มถอยห่างออกไป พอฉันเดินเข้าไปหา เธอเริ่มหยุดและก้าวเท้าถอยหลัง ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอกลัวอะไรอยู่ แต่ตอนนั้นฉันก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน
ช่วงนั้นคุณพ่อของฉันได้เดินทางไปดูงานที่ยุโรป และเห็นว่าฉันว่างอยู่ก็เลยพาฉันไปด้วย ตอนที่อยู่ที่กรีซ แปลกนะฉันไม่ได้คิดถึงแฟนเก่าฉันอีกแล้ว ฉันคิดถึงเธอ ฉันออกไปซื้อโปสการ์ดเพื่อจะเขียนหาเธอ แต่ฉันก็ไม่ได้ส่ง เพราะท่าทางของเธอที่แปลกไป ทำให้ฉันไม่แน่ใจว่าจะส่งดีไหม ฉันโทรทางไกลมาหาเธอ แต่เธอคุยเหมือนไม่อยากจะคุยด้วย ทั้งๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลยรู้ไหม ไม่เคยเป็นอย่างนั้นเลย มันทำให้ฉันหยุดคิด การเดินทางในยุโรปดำเนินต่อไปกับความคิดถึงที่ฉันยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร บางครั้งฉันก็คิดถึงแฟนเก่านะ เสียใจที่ต้องเลิกกัน แต่เวลาในรถบัสที่เคลื่อนไปบนถนนจากประเทศหนึ่งไปถึงอีกประเทศหนึ่งนั้น ฉันกลับคิดถึงเธอ ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ อยากโทรไปหาแต่ก็ไม่อยากได้ยินน้ำเสียงที่ไม่ค่อยอยากคุยแบบนั้นอีก ฉันก็เลยไม่โทรหาเธอ ฉันกลัวตัวเองเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่าหน่ะ ฉันเดินทางไปถึงสวิสเซอร์แลนด์ (ดินแดนที่เหมาะกับการมาเที่ยวกับแฟนมากๆ) ฉันซื้อของฝากให้เธอ เป็นสิ่งที่เขาไม่ซื้อให้กันแต่ฉันซื้อ และคิดว่าไม่เป็นไรหรอกก็ฉันรู้วิธีแก้เคล็ดอันนี้นี่นา แล้วมาถึงสวิสฯ จะให้ซื้ออะไรนอกจากนาฬิกาก็มีแต่อันนี้นั่นแหล่ะ ฉันซื้อมีด Victory nox สีเงินให้กับเธอ ที่เลือกสีนี้เพราะว่าใครๆ ก็มีสีแดงกัน แล้วทำไมฉันจะต้องเลือกให้เหมือนใครด้วย ถ้าคนที่ฉันจะให้เป็นคนพิเศษ ฉันจำได้ว่าตอนที่ฉันให้เธอ ฉันขอเงินเธอ 1 บาท เพื่อเป็นการแก้เคล็ดที่เขาไม่ให้ให้ของมีคมกัน เพราะเชื่อว่ามันจะตัดความสัมพันธ์ของคนที่ให้ กับคนที่รับ เธอไม่มีให้ฉันในวันนั้น ฉันบอกกับเธอว่าต้องเอามาให้นะ สัญญานะ เธอสัญญา.... เย็นวันรุ่งขึ้นเธอโทรมาหาฉัน แล้วบอกว่าเธอทำมีดบาดมือตัวเอง ฉันตกใจมากเพราะสิ่งที่ฉันให้มันทำให้เธอเจ็บ และใครๆ ก็รู้ว่ามีด Victory nox คมแค่ไหน เธอบอกว่าเธอขับรถอยู่และพยายามจะเก็บใบมีดให้เข้าที่ แล้วมันก็บาดมือเธอเข้า ฉันยังพูดกับเธอในวันนั้นเล่นๆ เลยว่า เห็นไหมพี่เอ๋ย บอกให้เอาเงินมาให้ก็ไม่เชื่อ เธอมาหาฉันที่บ้านให้ฉันดูแผล ฉันยังรู้สึกผิดมาจนวันนี้ที่ทำให้เธอเจ็บ เธอบอกว่าเป็นเพราะตัวเธอเองถึงได้เจ็บตัว ไม่ใช่ความผิดของฉันสักหน่อย จนถึงวันนี้ฉันจำไม่ได้ว่าเธอได้เอาเงิน 1 บาทมาให้ฉันหรือเปล่า ถ้าเธอยังไม่เอามาให้ ช่วยเอามาให้ฉันทีเถอะ เพราะไม่อย่างนั้นเหตุการณ์ในวันนี้มันคงจะเป็นจริงอย่างความเชื่อที่เขาเชื่อกันซะแล้วหล่ะ
**มีต่อค่ะ**
**สามารถอ่านทุกตอนก่อนหน้านี้ได้ที่ หัวข้อ ถึงเธอคนนั้น...ที่ฉันคิดถึง บทที่ 1 นะคะ จะรวมทุกตอนไว้ในนั้นค่ะ**
จากคุณ :
joelover
- [
25 ธ.ค. 49 09:43:00
]