Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เรื่องตลกของโชคชะตา : ความเหงาไม่ทำให้ใครตาย

    ตอนก่อนหน้านี้ค่ะ
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4982447/W4982447.html

    -------------------------------------------

    ใกล้ปีสใหม่แล้วนะคะ ไงก็, สวัสดีปีใหม่ไปพร้อมกันนี้เลยก็แล้วกัน ตอนนี้นางเอกไม่อยู่, พระเอกก็ไม่อยู่ กลับบ้านใครบ้านมันค่ะ ^^" เจอกันอีกทีปีหน้าค่า...

    ----------------------------

    ตอนที่ 9 : ความเหงาไม่ทำให้ใครตาย

    นี๊... เป็นไง เท่ซะไม่มีล่ะกับข้อความที่เพิ่งกดส่งไปยังปลายทางคือไอ้ยื่น ปากร้ายใจดำที่รักของเธอ ก็เพราะเฌลลีเพิ่งจะคิดประโยคนี้ได้พอดี และทุกครั้งที่เธอคิดประโยคใหม่ๆ ที่คิดว่าเท่ที่สุดแล้วได้เมื่อไหร่เธอก็จะส่งไปให้เขาก่อนทุกคราวไป ซึ่งคราวนี้ก็ด้วยเช่นกัน ทั้งๆที่ เขาก็นั่งอยู่ข้างๆ เธอนั่นแหละ

    “ส่งมาไมเนี่ย พูดเอาก็ได้ ได้ยิน เปลืองเมมโมรี่โทรศัพท์”

    “อ่ะแน่... แปลว่าที่ส่งให้ทุกทีเนี่ย ไม่เคยลบเลยอ่ะดี๊”

    “ก็...เดี๋ยวอยู่ๆ คุณเกิดลืมข้อความที่เคยส่ง จะได้มีที่ผมสำรองไว้ไง”

    “แกไม่ได้ส่งให้หญิงอื่นต่อแน่นา...”

    “ผมมีใครที่ไหนล่ะ คุณติดหนึบยังกะกาวตราช้างหยั่งงี้เดี๋ยวคุณเกิดตกมันขึ้นมาฟาดงวงฟาดงาใส่เค้าผมก็แย่สิ”

    “ชั้นไม่ใช่พลายเฌลลี นะยะ จะได้ตกมัน แหม... เปรียบเทียบซะเสียศูนย์หมดเลย”

    “ส่องกระจกดิ ไม่เชื่อ”

    “ตานี่...น่านักนะแก”

    ใกล้ปีใหม่เข้ามาทุกที ใครๆ ก็มีที่ไปกันหมด ไม่ว่าจะเป็นเพนกวินน้อย (พิงกี้) ก็กลับบ้านนอก นกเล็ก นกใหญ่  อรทัย รุ่งนภา ต่างก็แท็กทีมกันกลับบ้านนอก! (บ้านต่างจังหวัด) กันหมด ยกเว้นเฌลลี ด้วยข้ออ้างที่ใครๆ ก็ใช้กันนั่นคือ “จองรถทัวร์ไม่ทัน แล้วรถก็เยอะด้วยขับรถทางไกลอันตราย” เป็นเหตุผลที่ฟังดูดี แต่ที่จริงมันไม่ใช่แบบนั้น...

    “แก ฉันไปเที่ยวปีใหม่บ้านแกด้วยคนน๊า” น้ำเสียงออดอ้อนจนน่าหมั่นไส้ และนางเอกลิเกวิกไหนก็ชิดซ้ายไปได้เลย

    “เฮ้ย ไม่ได้ ปีใหม่ใครๆ เค้าก็กลับบ้านตัวเองทั้งนั้น ไม่มีใครเค้ากลับบ้านคนอื่นหรอก” เธอกระตุกแขนเสื้อเหมือนลูกหมาที่กำลังไล่งับขางเกงให้วอนโดนถีบ

    “ก็ฉันไม่อยากกลับบ้านตัวเอง แต่อยากกลับบ้านแกนี่”

    “ม่ายด้าย เดี๋ยวพ่อกับแม่เข้าใจผิด”

    “เอ๊า ก็ฉันเคยเจอท่านแล้ว ท่านเข้าใจถูกต้องแล้วว่า ฉันจะไปเป็นลูกสะใภ้ท่านในอนาคต”

    “ทะลึ่งน่ะ ใครบอกคุณว่าผมจะแต่งงานกับคุณ”

    “ฉันบอกเอง น๊า พลีสส ฉันไม่รู้จะไปไหนแล้วนะถ้าไม่ไปบ้านแก” ทนลูกอ้อนไม่ไหวก็จำใจยอมตกลง

    “แต่ผมไม่อยู่บ้านนะ เพราะต้องไปไหว้ปู่ย่าตายายพี่ป้าน้าอา ญาติโกโหติกาอีกหลายสิบหลังคาเรือนซึ่ง ตอนที่ผมไม่อยู่เนี่ยคุณก็อยู่เฝ้าบ้านไป”

    “ง๊า แล้วน้องกลาง กับน้องเล็กล่ะ”

    “ก็ต้องไปด้วยกันหมดสิ” คิดอยู่สิบวินาทีจึงตอบตกลงก่อนที่จะเปลี่ยนใจไม่ให้เธอไปเสียก่อน และบอกกับตัวเองว่า “ไปตายเอาดาบหน้ารึกัน”

    “โอเช เฝ้าบ้านก็เฝ้าบ้าน เออ ถ้าฉันต้องไปเฝ้าบ้านแล้วฉันต้องถ่อไปทำไมถึงสงขลา อยู่กรุงเทพฯ ฉันก็เฝ้าบ้าน อยู่จันท์ฉันก็เฝ้าบ้าน”

    “จะไปไม่ไป”

    “ไม่ไปก็โง่ดิ” เฌลลีวางแผนไว้เสร็จสรรพ ใครอยากไปไหนก็ไป เธอไม่สนใจอยู่แล้วเพราะเจตนาของเฌลลีคืออยากไปพักกายพักใจหลังจากที่ทำงานหนักมาทั้งปีต่างหาก สำหรับวันหยุดลองวีคเอ็นที่คนส่วนใหญ่ขึ้นเหนือไปห่มดาว อาบลมหนาวบนดอยสูง เธอก็จะเผ่นลงใต้ไปนอน ผึ่งพุง กินลมชมทะเล อ่านหนังสือเล่มโปรด เขียนเรื่องสั้นสักเรื่องก็พอแล้ว อ่อ ที่แน่ๆ คืออยู่ใกล้กับคนที่เธอรักอย่างน้อยก็ไม่เกินสามร้อยกิโลเมตร...

    “ฉันไม่ไปถึงสงขลาหรอก ปล่อยฉันลงแค่ระนองก็พอละ” ทบทวนดูแล้วว่าการไปบ้านณนนท์ครั้งนี้คงไม่เหมาะสมนัก เพราะถ้าหากเธอเกิดอยู่เฝ้าบ้านคนเดียว แล้วประดาญาติโกโหติกามาไหว้พ่อไหว้แม่เขาที่บ้านแล้วมาเจอเธออยู่คนเดียวซึ่งเป็นคนแปลกหน้า แล้วเธอจะต้องอธิบายว่าเป็นญาติข้างไหนของเขาล่ะนี่

    “จะข้ามไปพม่าเรอะ” ระนอง ติดพม่านะคะ โปรดดูแผนที่ประเทศไทยประกอบตามไปด้วย

    “ตาบ้า ฉันจะไปเที่ยวเกาะตะหาก”

    “เกาะอะไร ระนองไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่เลย”

    “เกาะพยาม ฉันเคยไปแล้วครั้งนึงคราวนั้นไปออกค่ายที่เกาะหาดทรายดำสร้างโรงเรียนตอนสึนามิ”

    “อ๋อ ตอนที่ได้กิ๊กกลับมาเป็นสถาปนิกหนุ่มหล่อคนนั้นน่ะเหรอ”

    “บ้า... เค้าเป็นเพื่อนที่ทำงาน รู้จักกันตั้งแต่ก่อนไปอีก”

    “ไประลึกอดีตรักเกาะหาดทรายดำหรือไง”

    “นิดหน่อย เพราะเราเคยคุยกันเอาไว้ว่า สักวันเราจะกลับไปที่นั่นอีก เผื่อบางทีฉันอาจจะได้เจอเค้า”

          “เป่าถ่านไฟเก่าให้คุอีกครั้งงั้นซิ”

    “แกนี่นะ เลิกแขวะฉันซะทีได้ป่ะ นิสัยไม่ดี ก็บอกแล้วไงเพื่อนร่วมงาน แกคิดว่าฉันจะรักใครนอกจากแกได้อีกเล่า”

    “เออ จริงด้วย อย่างน้อยก็ไม่มีใครรักคุณแหละ อันนี้มั่นใจ”

    “ตกลงฉันลงระนอง แล้วขากลับแกก็แวะรับฉันด้วยล่ะ”

    “นี่ใจคอจะไม่ยอมเสียค่ารถเองเลยเหรอ”

    “เรื่องอะไรฉันจะต้องเสียในเมื่อของฟรีมีให้ใช้อยู่แล้ว หรือแกจะอ้างว่าไม่ผ่านระนองเพราะต้องอ้อมไปทางเชียงใหม่”

    “ตามลำบาก” ว่าจบก็เลิกสนใจ แล้วก็เดินหนีไปเข้าห้องไปอ่านหนังสือเสียดื้อๆ ปล่อยให้เฌลลีนั่งครุ่นคิดถึงอีกไม่กี่วันที่จะมาถึง เหตุผลที่แท้จริงที่เฌลลีไม่ไปบ้านเขาคือ ประโยคที่ว่า “ปีใหม่ใครๆ เค้าก็กลับบ้านตัวเองทั้งนั้น ไม่มีใครเค้ากลับบ้านคนอื่นหรอก” พวกเขาควรได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา เป็นครอบครัว มีพ่อ แม่ ลูก ซึ่ง ไม่ควรมีใครสักคนที่เกินมา

    “ผมรู้ว่าคุณคิดอะไร” ณฌานั่งลงข้างๆ เมื่อคล้อยหลังพี่ชายคนโต

    “แสนรู้กันทั้งบ้าน” เธอขยับตัวออกห่างแต่พองาม ไม่ทำท่ารังเกียจจนออกนอกหน้าเกินไปนัก

    “ไม่ใช่หมาน่อ... คุณไม่ได้อยากไปบ้านผมนักหรอกใช่ไหม คุณน่ะแค่อยากอยู่ใกล้พี่นนท์” หมอนี่ เดาอะไรไม่เคยจะผิดสักครั้ง และมันทำให้เฌลลีหมั่นไส้ เพราะนั่นหมายถึงเขารู้จักหัวใจเธอด้วย

    “รู้แล้วยังย้ำอีก”

    “รายนี้น่ะแปลกอยู่อย่างหนึ่งคือ ยิ่งตาม ยิ่งหนี และยิ่งคิดจะครอบครองคุณก็จะไม่มีวันได้เป็นเจ้าของเขาเด็ดขาด” เขาเล่าถึงพี่ชายที่เพิ่งลุกออกไป

    “ช่างรู้ใจกันจริงนะพี่น้องคู่นี้”

    “ไม่รู้ได้ไง เราโตมาด้วยกัน ตอนเด็กใครๆ ก็ว่าเราเหมือนฝาแฝดมากกว่าพี่น้อง เราเพิ่งมาแยกกันก็ตอนโตนี่เองหรอก เขาเข้ามาเรียนกรุงเทพฯ ตั้งแต่ ม ปลาย ต้องดูแลตัวเอง รับผิดชอบตัวเอง มันทำให้เขาแข็งแกร่งกว่าผมซึ่งอยู่กับพ่อแม่จนโต”

    “อย่างนึงที่ฉันแน่ใจคือ ฉันฝากชีวิตไว้ที่เขาได้”


    “นั่นหมายถึง เขาต้องรักคุณด้วยนะ เพราะเขาจะดูแลในสิ่งที่สำคัญกับเขาเท่านั้น”

    “ฉันคงเป็นได้แค่นี้แหละ แค่ที่เขาให้เป็น แต่ฉันก็มีความสุขดีนะ เพราะมันเหมือนฉันมีบ้านอีกหลังนึงเลย อ่อ แล้วฉันก็มีคุณกับน้องเล็ก ที่ทำให้รู้สึกว่าอย่างน้อยคนบ้านนี้ก็ไม่ได้รังเกียจฉันทุกคน”

    “คุณน่ารักออก อย่างน้อยคุณก็ล้างห้องน้ำเก่ง แล้วก็ซักผ้าได้หอมมาก ผมชอบ”

    “เออ ก็ฉันเป็นทาสพวกนายนี่”

    “คุณเป็นคนที่ความอดทนสูงมากต่างหาก เพราะประดาสาวๆที่คิดจะคบกับพี่นนท์ทั้งหลายน่ะ เค้ายอมแพ้ตั้งแต่สองเดือนแรกที่รู้จักกับพี่ผมแล้ว”

    “แล้วมีใครไหมที่ไอ้ยื่นมันรัก โดยที่ไม่ต้องมารักมันก่อนน่ะ”

    “มีสิ แต่เอาไว้คราวหน้าผมจะเล่าให้ฟัง เล่าจบทีเดียวเดี๋ยวไม่สนุก แต่มันต้องมีข้อแม้กันนิดหน่อย”

    “ว่ามาเลย ฉันพร้อมละ”

    “พรุ่งนี้เช้า ช่วยรีดชุดทำงานไว้ให้ด้วยนะ เพราะผมจะต้องรีบออกแต่เช้า เดี๋ยวรถติด วันจันทร์ขาออกนี่ติดนานเป็นชั่วโมงเลยแหละ”

    “เจ้าค่ะ เจ้านาย...”

    เฌลลีนั่งอยู่คนเดียวจนดึกดื่นหน้าจอทีวี กับความสงสัยที่ค้างใจ ไม่ใช่เพราะเรื่องความรักของ ณนนท์ แต่สงสัยว่า ทำไมใครๆ คบเขาได้ไม่นาน ทั้งๆ ที่เฌลลีเองก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนน่าคบออก ก็แค่เขาไม่รักเธออย่างคนรักเท่านั้นเอง นอกนั้นแล้ว ณนนท์เป็นคนที่ “ใช่” สำหรับเธอ แต่ถึงแม้เธอจะรักเขาแค่ไหนเธอก็รู้ดีว่าเธอไม่มีวันได้ “เป็น” มากกว่าแค่เพื่อนสนิทของเขา เฌลลีรู้สึกถึงความแตกต่างและต่ำต้อยของตัวเอง ยิ่งเมื่อเทียบกับครอบครัวของเขาด้วยแล้วเธอรู้เลยว่าการเข้าถึงณนนท์และครอบครัวนั้นยากกว่าฝ่าด่านสิบแปดอรหันต์เสียอีก

    คิดได้ดังนั้น หญิงสาวหน้าตาดีที่สุดในบ้านก็กดหมายเลขที่คุ้นเคย

    “ป๋า... ปีใหม่หนูจะกลับบ้านนะ บอกแม่ว่าหนูจะกินแกงเผ็ดไก่แล้วก็ไขยัดไส้นะ”

    “อ้าว มาคนเดียวเหรอ แล้วลูกเขยป๋าล่ะ”

    “บิดาที่เคารพ เคยได้ยินเรื่องนกกระจอกบินสูงไม่ถึงเทวดา ลูกหมาเป็นไม่อาจเป็นเพื่อนกับเครื่องบินไหมคะ ตอนนี้ลูกสาวป๋าเป็นแบบนั้นแหละ อ่อ เป็นนกกระจอกกับหมาด้วยค่ะ”

    “หมามันบินไม่ได้ เครื่องบินมันเห่าไม่เป็น นกกระจอกดันไปจ๊ะเอ๋กับเครื่องบินพอดีเลยโดนสอยร่วง บินไม่ถึงเทวดา ป๋าเข้าใจถูกต้องไหมลูก”

    “เป๊ะเลยล่ะค่ะ”

    “อื้อๆ รีบๆ กลับมาก็แล้วกัน พอดีจะได้มีคนพาแม่ไปตักบาตรทำบุญปีใหม่”

    ------------------

    จากคุณ : ดาริกามณี - [ 26 ธ.ค. 49 10:11:01 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom