**เธอยังอยู่ข้างๆ และการตัดสินใจของฉัน**
เวลาผ่านไป ฉันยังคบอยู่กับแฟนคนเดิม เธอก็ยังคงวนเวียนอยู่กับฉันเหมือนเดิม จนกระทั่ง ฉันเลิกกับแฟนของฉัน จากวันนั้นจนถึงวันที่เราเลิกกัน เวลาผ่านไป 6 ปี (ฉันคบกับใคร ก็คบนาน ไม่ได้คบแล้วเลิกง่ายๆ หรอกนะ) แต่คราวนี้เป็นฉันเองที่บอกเลิกกับเขา ด้วยเหตุผลหลายอย่าง ตอนนี้ฉันและเธอทำงานกันแล้ว ฉันทำอยู่ที่โรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งแถวราชดำริ ส่วนเธอทำงานบริษัทแถวๆ ถนนรัชดาภิเษก แต่เธอ...ก็ยังคงอยู่กับฉัน ฉันไม่เคยบอกเธอว่าตอนนี้คบกับใคร และไม่เคยบอกเธอว่าตอนนี้เลิกกันแล้วนะ แต่เธอเป็นคนแรกเสมอที่ฉันนึกถึง ฉันพยายามอยากจะลองเข้าไปหาเธออีกสักครั้ง ดูสิว่าคราวนี้เธอจะทำยังไง จะถอยห่างออกไปอีกไหม ถ้าเป็นอย่างนั้นอีก ฉันก็คิดว่าเธอคงจะไม่คิดอะไรกับฉันมากกว่าความเป็นเพื่อนและน้องสาวแน่ๆ จะได้ตัดใจซะที แต่คราวนี้ฉันไม่ได้เข้าหาเธอมากหรอก เพราะฉันกลัวหน่ะ ไม่อยากเสียใจอีก เหมือนจะยั้งๆ ไว้มากกว่า เราคุยกัน เจอกันเหมือนปกติ เมื่อเธอว่างเธอก็จะมาหาฉันที่บ้านก็เท่านั้นเอง เราเหมือนรู้ความรู้สึกของกันและกัน แต่ไม่มีใครพูดมันออกมา เธอไม่พูด ฉันก็ไม่พูด ก็ฉันเป็นผู้หญิงนี่นา ใครจะพูดก่อนล่ะ ส่วนเธอ ฉันไม่รู้เหตุผลของเธอจริงๆ ว่าเป็นเพราะอะไร
**วาเลนไทน์แรก และสุดท้ายของฉันกับเธอ**
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2001 เธอโทรมาชวนฉันออกไปทานข้าวด้วยกัน ฉันตกใจ แต่ก็ดีใจนะที่เธอโทรมาชวน ฉันตอบตกลง เธอมารับฉันที่บ้านแล้วเราก็นั่งรถไปด้วยกัน วันนั้นฉันได้รู้ว่าเธอสายตาสั้นแต่ไม่ยอมใส่แว่นเวลาขับรถ
พีทรู้ไหม พี่มองไม่เห็นหรอกนะว่ารถข้างหน้าอยู่ห่างจากเราแค่ไหน
หา...แล้วพี่เอ๋ยรู้ได้ไงว่าต้องเบรคแล้วหล่ะ
ก็ดูไฟท้ายไง พอมีแสงก็เบรค 555
บ้าน่าพี่...แล้วถ้าเกิดรถข้างหน้าเขาไฟท้ายเสียหล่ะ จะทำยังไง ทำไมไม่ใส่แว่นละคะ
ก็พอรถเราเข้าไปใกล้ๆ ไฟหน้ารถเราก็จะทำให้เห็นท้ายรถเขาพอดีไง ก็เบรคทัน พี่ไม่ชอบใส่แว่นหน่ะ
แล้วทำไมไม่ใส่คอนเทคเลนส์หล่ะคะ
มันแสบตา
ก็เป็นซะอย่างเงี้ยสิน่า
เธอมีข้อแก้ตัวไปได้เรื่อยๆ แต่มันก็ทำให้ฉันเป็นห่วงเธอน่าดูเชียวหล่ะ วันนั้นรถติดพอสมควร เธอพาฉันไปที่ร้านอาหารร้านนึง ซึ่งตอนนี้ฉันก็ยังตามหาร้านนั้นไม่เจอสักที ตอนนั้นก็ไม่ได้ถามด้วยสิว่ามันอยู่บนถนนอะไร ด้วยความที่รู้จักกันมานานถึง 9 ปี ทำให้ฉันไม่คิดจะถามเขาว่าจะพาไปที่ไหน เพราะยังไงก็ปลอดภัยแน่ๆ เราไปถึงที่ร้านคนค่อนข้างเยอะ เพราะเป็นวันของคู่รัก มองไปทางไหนก็นั่งกันเป็นคู่ไปหมดทุกโต๊ะ โต๊ะอื่นๆ เขาก็คงคิดว่าเราเป็นแฟนกัน แต่ฉันสิยังไม่แน่ใจเลยว่าตกลงเราเป็นอะไรกัน เธอเทคแคร์ฉันดีทุกอย่าง เหมือนที่แฟนเขาจะทำกัน จูงมือฉันตอนข้ามถนนด้วยนะ เรารออาหารที่สั่งกันนานมาก อาจเป็นเพราะคนเยอะ และเธอไม่ได้จองโต๊ะไว้ล่วงหน้า แต่เราก็นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ เธอคอยแต่บอกว่า ขอโทษนะ มันน่าจะดีกว่านี้ ฉันบอกเธอไปว่าไม่เป็นไรหรอก และฉันหมายความอย่างนั้นจริงๆ นะ แค่ได้มากับเธอฉันก็ดีใจแล้ว ถึงตอนนั้นฉันจะไม่รู้ว่ามันจะเป็นครั้งแรก และครั้งสุดท้ายก็เถอะ แต่วันนั้นฉันมีความสุขจริงๆ นะ อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันได้มาคิดถึงมันในวันนี้ไงหล่ะ เธอขับรถมาส่งฉันที่บ้านระหว่างทางฉันบอกกับเธอว่า
แปลกเนอะ พีทรู้จักกับพี่เอ๋ยมาตั้งนาน พี่มาบ้านพีทบ่อยมาก แต่พีทไม่เคยไปบ้านพี่เลยสักครั้งเดียว
ทำไม อยากไปบ้านพี่เหรอ
เปล่า...ก็แค่นึกดูเท่านั้น
ตอนนั้นฉันอยากจะบอกไปว่าก็ใช่หน่ะสิ เล่นขี้โกงมาบ้านคนอื่นเขามาตั้งหลายปี แต่ฉันยังไม่เคยได้เห็นบ้านเธอเลยสักครั้งเดียว แต่ด้วยความที่เป็นผู้หญิงทำให้ฉันเก็บคำเหล่านี้ไว้ในใจ พอถึงหน้าบ้านเธอก็ยังบอกกับฉันอีกว่า
ขอโทษนะพีท มันน่าจะดีกว่านี้
ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่เอ๋ย แค่นี้ก็สนุกแล้ว ขอบคุณนะคะ
ฉันลงจากรถกลับเข้าบ้านทั้งๆ ที่ไม่รู้เลยว่าหลังจากวันนั้น เธอจะหายตัวไปอีกแล้ว เธอไม่โทรมาหา ไม่มาหาที่บ้านอีกเลยหลังจากวันนั้น ฉันไม่รู้ว่าทำไม แต่ฉันก็ไม่ได้โทรไปเพราะเหตุผลที่ไม่ชอบตามตื๊อใครนั่นเอง
จากคุณ :
joelover
- [
วันปีใหม่ 22:44:44
]