ตอนที่ 10 : เรื่องของน้องเล็ก
อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ตอนต้นว่า สามหนุ่มบ้านนี้คนที่หน้าตาดีน้อยที่สุดคือพี่ชายคนโต หรือไอ้ยื่นที่เฌลลีหลงรักหัวปักหัวทิ่ม รองลงมาก็ตามอายุคือน้องกลางซึ่งเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์นักสับรางรถไฟฟ้ามือฉมัง และคนที่หน้าตาเอาถ่านที่สุดในบ้านคือน้องเล็ก ซึ่งนอกจากจะหน้าตาดีแล้วยังอายุน้อยอีกต่างหาก ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่น้องเล็กจะถูกทาบทามให้ถ่ายแบบ เล่นละครอยู่บ่อยๆ แต่คนที่สกัดดาวรุ่งเอาไว้ (ด้วยความริษยาหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ) ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พี่ชายคนโตที่แสนดีนั่นเองแหละ
เออ นี่มันสี่ทุ่มแล้วนะทำไมน้องเล็กยังไม่กลับมาอีก ในค่ำของวันศุกร์ หลังจากที่เฌลลีมาถึงได้สองชั่วโมงแล้วเธอก็ยังไม่เห็นน้องคนเล็กของบ้าน
แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากพี่ใหญ่ของบ้าน ทำเอาคนถามถึงกับเก้อ เพราะมีกันอยู่สองคน อย่างน้อย ณนนท์ก็ไม่น่าโง่ ถ้าจะเข้าใจว่าเธอถามคนอื่น
มีปากเอาไว้ด่าฉันอย่างเดียวหรือไงแก ประโยคแก้เก้อของเฌลลีเพื่อทำลายความเงียบของณนนท์
ใครบอก เอาไว้กินข้าวด้วยเฟร้ยยย แล้วกริ่งประตูก็ดังขึ้นสามครั้ง เป็นอันเข้าใจกันว่าน้องเล็กกลับมาแล้ว เพราะถ้าดังสองครั้งก็จะเป็นน้องกลาง และถ้าไม่กดกริ่งแต่เปิดประตูพรวดพราดเข้ามาเลย นั่นแหละเฌลลี ณนนท์เคยเตือนหลายครั้งแล้วว่าให้กดกริ่งก่อน เป็นมารยาท ต่อให้มีกุญแจเข้าบ้านก็ไม่ได้หมายความว่าจะทะลึ่งเข้ามาโดยไม่บอกไม่กล่าว
ถ้าผมกำลังแก้ผ้าอยู่จะทำไง เข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง
ก็ดีสิ ฉันไม่เคยเห็นอะไรแปลกๆ เลยในชีวิต
ยัยบ้า อย่าได้เที่ยวไปพูดจาอย่างนี้ที่ไหนเชียว
ก็แกอยากแก้ผ้าก่อนทำไมล่ะ
เอ่อ... ใครแก้ผ้าใครเหรอครับ น้องเล็ก ซึ่งยืนฟังอยู่นานแล้วเริ่มมีความเห็นบ้าง
กินข้าวมาหรือยังน้องเล็ก
แล้วครับ เด็กสมัยนี้หลายคนใช้ภาษาที่สั้นกุดเสียจนบางครั้งก็ทำให้เสียใจความจนต้องถามซ้ำ
อะไรนะ
ทานแล้วครับ ว่าจบก็วิ่งตึงๆ ขึ้นบ้านไป แต่ก็ถึงแค่บันไดขั้นที่ห้าก็ต้องเบรกจนแทบหงายหลัง
ณธี ลงมานี่ก่อน ถ้าเมื่อไหร่ที่พี่ใหญ่เรียกชื่อเต็มของน้องชายล่ะก็ นั่นแปลว่ากำลังพิโรธโกรธขึ้งเรื่องใดเรื่องหนึ่งมิใช่น้อย
วันนี้ไปไหนมา ณนนท์ยิงคำถามไปทันทีที่น้องชายนั่งลงตรงหน้า
เรียนครับ
พ่อแม่ไม่เคยสั่งสอนให้โกหก น้ำเสียงเริ่มห้วนขึ้นตามลำดับ
ซ้อมบาสครับ พอดีน้องเล็กเป็นตัวแทนทีมมหาวิทยาลัย
นายโกหกเป็นครั้งที่สอง และไม่เนียนพอ บอกความจริงมา นายก็รู้ว่าพี่ไม่ชอบคนโกหก
ไปถ่ายแบบครับ ณธีได้รับอนุญาตให้ถ่ายแบบได้ แต่ก่อนที่จะรับงานแต่ละชิ้น ต้องให้พี่ชายเป็นคนดูแลความเหมาะสม และที่สำคัญคือ ต้องไม่ใช่ในเวลาเรียน
พี่เคยบอกแล้วว่านายมีหน้าที่เรียนหนังสือ พี่สองคนเลี้ยงดูนายได้ หรือมีความจำเป็นต้องใช้เงิน ก็บอกพี่ ไม่ใช่เอาเวลาเรียนไปทำอย่างอื่น
ผมไปในคาบที่ไม่มีอาจารย์มาสอน พอดีมีอาจารย์พิเศษมาบรรยาย
นายโกหกเป็นหนที่สาม เพราะถ้าคาบที่นายโดดไม่ใช่คาบที่พี่สอน นายจะรอดตัว
อ้าว อาจารย์พิเศษที่ว่า คือพี่หรอกเหรอฮะ น้องเล็กเสียงอ่อยลงทันที
แหงสิ
ไอ๋หยา ตัยหองแว้ว ภาษาของน้องเล็กทำเอาครูภาษาไทยอยากจะเขกมะเหงกลงเสียเดี๋ยวนั้น
และนายก็ไม่ได้โดดไปถ่ายแบบ เพราะเมื่อกี้พี่เห็นนายในละครทีวี นั่นแปลว่านายไปถ่ายละครหลายหนแล้ว
ผมขอโทษ เสียงเบา แต่ไม่ได้บ่งบอกเลยว่าสำนึกผิด
ถ้าพ่อกับแม่รู้ว่าพี่เลี้ยงพวกนายไม่ดี ท่านจะคิดยังไง ไม่สงสารพ่อกับแม่บ้างหรือที่ต้องมานั่งเป็นห่วงว่านายจะเรียนจบหรือไม่จบ แล้วถ้าไม่จบนายจะไปทำมาหากินอะไร คิดหรือว่างานแสดงมันจะมีให้นายทำอยู่ตลอด ถ้าเขามีคนอื่นที่เก่งกว่า ดูดีกว่า นายก็ตกกระป๋อง แล้วต่อไปจะไปทำอะไรกิน พ่อแม่หรือพี่ๆ เลี้ยงดูนายไม่ได้ตลอดชีวิตหรอกนะ
ใจเย็นน่า ณนนท์ น้องคงจะเหนื่อยมากแล้ว พอก่อนเถอะ เฌลลีสงบศึก... เธอไม่ได้เป็นห่วงน้องเล็กมากไปกว่าเจ้าพี่ชายขี้โมโหนั่นหรอก เฌลลีไม่อยากให้ณนนท์อารมณ์เสียด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ เพราะมันทำให้เขาเสียสุขภาพ
คุณจะไปรู้อะไร คุณไม่ใช่คนในครอบครัวเรา คุณไม่รู้หรอกว่าแม่เป็นห่วงน้องเล็กแค่ไหน ที่ส่งมาให้อยู่กับผม ก็เพราะรู้ว่าถ้าอยู่ที่โน่นน้องก็ต้องเกเร ติดเพื่อน ไม่สนใจการเรียน แล้วเป็นไง คราวนี้ผมจะมีหน้าไปบอกแม่ได้ยังไงว่าดูแลน้องได้ แต่ณนนท์ตัวแสบก็ดันฟาดหางมาที่เธอเข้า
แกไม่ได้เป็นห่วงน้อง แต่แกเป็นห่วงตัวเองต่างหาก
คุณเป็นใคร จะรู้ดีไปกว่าผม เขาเป็นน้องผม ผมรู้จักเขาดี
ใช่สิ ฉันมันเป็นคนอื่นนี่ ฉันไม่ใช่คนในครอบครัวแก ฉันไม่รู้หรอกว่าน้องแกเป็นคนยังไง เพราะขนาดตัวแกเองฉันยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเป็นคนยังไง ว่าจบก็เดินลงจากบ้าน ชนเข้ากับร่างสูงๆ ของน้องกลางจนเธอหงายหลังตึงลงไปกองกับพื้น... ก็ตัวสูงใหญ่ซะขนาดนั้น
นี่เจ๊ นอกจากจะขับรถชนผมแล้ว ยังเดินชนอีก เจ็บนะเนี่ย เขายังยืนเท้าสะเอวมองหน้าตาเฉย
นายเจ็บคนเดียวเมื่อไหร่ ว่าจบก็ลุกขึ้นเดินออกนอกบ้าน ปิดประตูปัง
นี่เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นที่สุขุมวิทหรือไง ยัยซุ่มซ่ามกริ้วอะไร ถึงได้เผ่นพรวดไปหยั่งงั้น น้องกลางเพิ่งเข้าบ้าน ยังงงไม่หายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีใครตอบคำถามนั้น พี่ใหญ่กับน้องเล็กเดินเข้าห้องใครห้องมัน ปล่อยให้น้องกลางเดินเป็นหนูตกถังไปมา
ตลอดเส้นทางที่ขับรถกลับ เธอรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจอย่างบอกไม่ถูก ลำพังแค่ณนนท์ไม่รักก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนโดนมีดเสียบกลางยอด-อก แล้วยังพูดจาไม่รักษาน้ำใจให้เธอยิ่งรู้สึกเหมือนมีมีดอีกเล่มเสียบซ้ำลงแผลเดิม
แป้น คุณจะไปไหน ที่บ้านเกิดอะไรขึ้น ณฌาโทฯ หาเฌลลีซึ่งเพิ่งขับรถออกไปไม่นานนัก
ฉันจะกลับจันทบุรี พี่น้องคุณ คุณก็ถามเองสิ ฉันมันคนนอก ว่าจบก็ตัดสายไป ปล่อยให้ณฌายืนงง เป็นไก่ชนถูกถีบกลางอากาศ พร้อม ดูเวลาจากนาฬิกาแขวนผนังรูปควายยิ้ม
ห้าทุ่มเนี่ยนะ ช่างไม่กลัวตายจริงๆ ผู้หญิงคนนี้ ว่าจบก็เดินไปเคาะประตูห้องพี่ใหญ่ป๊อกๆ
เฌลลี กลับจันทบุรีตอนห้าทุ่ม ต่อให้พี่ไม่เคยรักเธอเลยแม้สักเสี้ยวหัวใจของพี่ที่มี แต่พี่ก็ใจดำเกินไปที่ปล่อยให้เธอกลับ ภาษาลิเกๆ แบบนี้จะมีก็แต่เฉพาะณฌาเท่านั้น สำหรับสามพี่น้อง
ฉันไม่เคยบอกให้กลับ ไปสิ ไปตามกลับมาถ้านายรักเธอนัก
ผมเป็นห่วง ไม่ใช่รัก
เออ ฉันผิดเอง แล้วไง เป็นห่วงก็ไปตามกันเองสิ
ผมไปด้วยนะพี่กลาง น้องเล็กยืนอยู่หน้าห้องและได้ยินบทสนทนาของพี่ชายทั้งสอง
โอ เค น้องเล็กโทฯ ไปหาพี่แป้นที บอกว่าเราสองคนกำลังจะไปเที่ยวจันทบุรีกัน
ฮะ บ้านเงียบลงทันทีเมื่อสิ้นเสียงรถของณฌา และปล่อยให้ความสงสัยเกาะครอบคลุมความรู้สึกของพี่ชายคนโตว่าเขาทำอะไรผิด
ความรักที่เขามีให้น้องชาย เป็นเรื่องผิดหรือ? ที่เขาสั่งห้ามไม่ให้รับงานแสดงก็มีเหตุผลรองรับและเป็นเงื่อนไขที่ตกลงกันตั้งแต่แรก แล้วเขาทำผิดตรงไหน ทำไมน้องไม่เข้าใจเขาบ้าง หรือบางทีอาจเป็นเขาเองที่ไม่ยอมรับและทำความเข้าใจน้อง...
นายสองคนมาทำไมเนี่ย สองหนุ่มยืนอยู่หน้าบ้าน
มาตามพี่แป้นกลับบ้านดิ น้องเล็กทำหน้าทะเล้น เหมือนเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ไม่เคยมีเรื่องราวใดเกิดขึ้น
ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย พี่นายต่างหากที่เป็น โดนอะไรสิงเข้าก็ไม่รู้ ขี้โมโห ไม่สมเหตุสมผล
คุณอย่าไปเอาอารมณ์อะไรกับพี่ผมเลย พักนี้เขางานยุ่ง ถ้าช่วงไหนๆ งานเยอะๆ ยุ่งๆ จะเป็นแบบนี้แหละคุณยังไม่ชินอีกเหรอ
แล้วเรื่องอะไรฉันต้องมานั่งคอยรองรับอารมณ์มันด้วยล่ะ
แจ็คพอต เพราะพี่อยู่ตรงนั้นพอดีไงครับ
นายก็เหมือนกัน น้องเล็ก ทำอะไรทำไมไม่บอกพี่เค้าบ้าง แล้วทะลึ่งไปโดดคาบที่เค้าสอนพอดีนี่
ใครจะรู้ว่าอาจารย์พิเศษที่ว่า จะเป็นพี่ชายตัวเองล่ะฮะ ถ้ารู้ เรื่องอะไรผมจะโดดให้โดนด่าล่ะพี่ก็
ไหนสัญญาแล้วไงว่าจะไม่รับเล่นละคร
ก็แค่หาประสบการณ์ สนุกๆ เพลินๆ ที่จริงผมก็ไม่เคยโดดเรียนเลยนะ นั่นแหละคาบแรก ประเดิมด้วยอาจารย์ณนนท์ โดนซะ
ซวยไป ณฌาซ้ำเติมน้อง
พรุ่งนี้เราไปเที่ยวเกาะกูดกันนะพี่แป้นนะ น้องเล็กอยากไป อยากไปโอ๊ะ อยากไปอยากไป
น้อยๆ หน่อย ไอ้น้องอย่าเว่อร์นัก ไปนอนพักผ่อนเอาแรงกันได้แล้วทั้งสองคน พรุ่งนี้เช้าพี่จะปลุกเวลาเดิม
คร้าบบบบบบ สองหนุ่มว่าง่าย เพราะจะได้ไปเที่ยวเกาะในเช้าที่จะถึง
เฌลลี นอนก่ายหน้าผาก คิดถึงณนนท์ ถ้าเขามาด้วยคงสนุกกว่านี้ เธอนึกถึงชายหนุ่มร่างสูงที่มักจะเดินนำหน้าแล้วทิ้งช่วงไว้ราวสองเมตรเสมอ ในทุกครั้งที่ต้องเดินด้วยกัน เฌลลีไม่เคยได้ เคียงข้าง เขาเลยสักครั้ง
ตามหลักตรรกะแล้ว ผมขายาวกว่าคุณสองเท่า ย่อมเดินเร็วกว่าคุณสองก้าว ดังนั้นหากคุณต้องการจะตามผมให้ทันมีทางเดียวคือวิ่ง แต่คุณเกิดมาเตี้ย ขาสั้น อ้วน หน้าแป้นและไม่สวยก็ต้องทำใจหน่อยนะ
ใครบอกยะ ทางที่สอง คือ นายหยุดเดินตะหาก อ่อ แล้วฉันก็ไม่ได้เอาหน้าวิ่งด้วย ถึงมันจะแป้น ก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการเดินช้า วิ่งเร็วนี่ เขาไม่โต้ตอบ แต่ก็เดินช้าลง
------------------------------------------
และหลังจากที่สองพี่น้องกลับถึงบ้าน พี่ชายที่แสนดีก็ทักขึ้นทันที
เที่ยวซะเพลินเลยนะ
เอ๊า วันหยุดนี่ครับคุณพี่ หนุ่มโสดๆ ที่ไม่ต้องแบกงานไว้บนบ่าอยู่ตลอดเวลาก็ต้องมีเวลาพักผ่อนเป็นของตัวเอง ใครจะไปเหมือนพี่ล่ะ
แล้วยัยนั่นหายงอนหรือยัง
เขาไม่ได้งอนผมนี่ น้องกลางออกตัว
ผมด้วย น้องเล็กรับลูก
ใครทำ ก็แก้เองนะคร้าบบบ ว่าจบก็เข้าห้องตัวเองไป ปล่อยให้น้องเล็กกับพี่ใหญ่เผชิญหน้ากันอย่างเสียมิได้
พี่แป้นเป็นไงมั่ง ณนนท์ถามน้องเล็ก
ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ฮะ
อ้อ ดี เขายังไม่คลายสงสัย
ผมขอตัวนะครับ
เดี๋ยวก่อน น้องเล็กถึงกับสะดุ้งเฮือก เพราะไม่แน่ใจว่าจะเจอพายุพี่ชายอีกหรือเปล่า
ครับ
อย่าให้รู้ว่าโดดเรียนอีก อ้อ... แล้วก็อย่าให้แฟนละครสาวๆ ตามมาจนถึงบ้านล่ะ นั่นแปลว่า ไฟเขียวเรื่องงานแสดงแล้ว น้องเล็กเดินยิ้มขึ้นบ้าน
หน้าบานเชียวนะเจ้าพระเอก
ตีบทกระจายเลยใช่ไหมล่ะครับ
-----------------------------------------------------
ตอนก่อนหน้านี้ค่ะ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4995190/W4995190.html
จากคุณ :
ดาริกามณี
- [
3 ม.ค. 50 13:58:22
]