สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกท่าน และขอสวัสดีปีใหม่ย้อนหลังด้วยนะคะ ขอให้ทุกท่านมีความสุข คิดสิ่งใดที่เป็นสิ่งดีงามก็ขอให้สมความปรารถนานั้นทุกประการเจ้าค่ะ คิดถึงทุกๆคนนะคะ^^
ว่าแล้วก็มาอ่านนิยายเรื่องใหม่ของรอมแพงกันดีกว่า แหะๆ
พรายพยากรณ์ ตอนที่1
รถยุโรปคันหรูแล่นมาในทางที่มืดครึ้ม ฝนที่ตกปรอยๆทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างเชื่องช้า แสงไฟริบหรี่จากฟากตรงกันข้ามทำให้ผู้ขับต้องระมัดระวังยิ่งกว่าเดิม ใบหน้าคมเข้มเอี้ยวตัวหันกลับไปมองร่างของเจ้าตัวเล็กทั้งสองร่างที่นอนเค้เก้กันอยู่ด้านหลัง ก่อนจะหันมายิ้มให้กับหญิงสาวผู้นั่งเคียงข้างที่หันมามองหน้าราวกับนัดกันไว้ มือแข็งแรงกุมพวงมาลัยมั่นตั้งอกตั้งใจขับรถเข้ากรุงเทพฯ
ทุกสัปดาห์ครอบครัวเล็กๆของเขาจะพากันไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆที่น่าสนใจ ในอาทิตย์นี้ก็เช่นกัน จุดหมายที่เพิ่งลาจากคือพัทยา เพียงพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและบานาน่าโบ๊ทที่พุ่งฉิวแหวกท้องทะเลสีครามก็ทำให้ลูกสาวตัวน้อยสองคนหมดเรี่ยวแรงนอนสงบนิ่งภายในเวลาที่ไม่นานหลังจากที่พากันขึ้นรถกลับ
มือที่กุมพวงมาลัยเอื้อมผ่านมาจับมือบางของคนข้างๆอย่างรักใคร่เอ็นดู ผู้เป็นภรรยาเองก็บีบตอบพร้อมอมยิ้มน้อยๆอย่างมีความสุข กานต์กมลมองปราชญ์ผู้เป็นสามีด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมด้วยความรัก
นับตั้งแต่หญิงสาวจำความได้ก็พบว่าตัวเองอยู่ในบ้านเด็กกำพร้า แต่เพราะความใฝ่ดีจึงตั้งใจร่ำเรียนจนจบและได้ทำงานเป็นพยาบาลอย่างที่ตนวาดหวังไว้จากนั้นจึงใช้ชีวิตความเป็นอยู่อย่างสงบเสงี่ยม จนได้พบกับปราชญ์ที่มาตรวจร่างกายประจำปีซึ่งเกิดติดใจพยาบาลสาวจนถึงขั้นคบหาดูใจจวบจนได้แต่งงานกัน
หญิงสาวมั่นใจว่าการที่เธอตัดสินใจแต่งงานกับผู้ชายคนนี้เป็นการตัดสินใจที่ถูกที่สุดในชีวิตเพราะไม่เคยมีสักวันที่เธอจะมีความทุกข์กายทุกข์ใจ ยิ่งมองไปที่พยานรักทั้งสองก็ยิ่งชื่นใจ ถึงแม้จะเป็นหญิงทั้งคู่แต่ก็น่ารักน่าเอ็นดูมีเค้าพ่อและแม่อย่างพอเหมาะพอเจาะ พิณชนิดาลูกสาวคนโตที่อายุเพียงเก้าขวบคางเริ่มแหลมออกมาได้รูปน่ามอง ในขณะที่ลูกสาวคนเล็กภิชาสินีอายุเจ็ดขวบยังคงมีวงหน้าที่กลมป้อมอย่างเด็กๆ
เอ๊ะ! เสียงอุทานของผู้เป็นสามีทำให้เธอต้องละสายตาจากลูกสาวทั้งสอง หากเพียงเอี้ยวตัววูบแสงไฟใหญ่ก็สาดส่องเข้ามาประทะหน้า ยังมิทันจะตั้งตัวเสียงเบรคและเสียงแหลมสูงของอะไรบางอย่างก็ดังขึ้นมาพร้อมกับแรงกระแทกมหาศาลที่พาให้ทุกอย่างตลบกลับเข้าสู่ความดำมืดและหนาวเหน็บไปถึงห้วงวิญญาณ...
...............................................................
พี่พิณ ภิไปสอบก่อนนะ ... ร่างสมส่วนค่อนข้างสูงใหญ่เกินมาตรฐานหญิงไทยคว้าเอาเป้ขึ้นมาสะพายบ่า ปากก็พูดงึมงำทั้งที่ยังคาบขนมปังนุ่ม มืออีกข้างถือกล่องนมสดไว้ก่อนจะใช้อีกมือที่ยังว่างเปิดประตู ทว่าคล้ายจะนึกอะไรขึ้นมาได้จึงได้ใช้นิ้วที่เป็นอิสระจากการถือกล่องนมคีบขนมออกมาจากปาก
อ่อ อย่าลืมเอาข้าวสุกไปไว้ในห้องน้ำด้วยนะพี่เดี๋ยว ยัยปิ่นมณีจะร้องคอนโดแตก ไปล่ะ.. สั่งความเสร็จก็ทำท่าจะปิดประตูตามแต่ก็ต้องยั้งไว้เพราะเสียงเรียกจากพี่สาว
เดี๋ยวๆๆๆ ยัยภิ ตะกี้เธอก้าวเท้าไหนออกจากประตู..เท้าซ้ายหรือเปล่า?..แล้วผมน่ะรวบๆให้มันดีๆหน่อยได้ไหมหัวฟูยังกะสิงโต แว่นก็เลิกใส่ได้แล้วเรียนจนจะจบมะรอมมะร่อถึงได้ไม่มีคนมาจีบไงล่ะ เสื้อผ้าก็หาที่มันรัดติ้วๆมาใส่ซะมั่งนะ หลวมโพรกเพรกสมัยนี้ใครเค้าใส่อย่างเธอกันแล้วยะ.. ภิชาสินีถอนหายใจหลายเฮือก
เอาเหอะเย็นนี้ค่อยมาโต้วาทีกัน วันนี้ภิขอไปสอบก่อนวิชาสุดท้ายก็จะเป็นไทแล้วไปล่ะพี่สาว.. ว่าแล้วรีบจ้ำอ้าวปล่อยให้ผู้เป็นพี่มองตามอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก พิณชนิดาส่ายหน้าให้กับกิริยารีบร้อนของน้องสาวก่อนจะหันมาเอาใจใส่กับแผ่นกระดาษตรงหน้า แต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าลืมสั่งเสียน้องสาวไปอีกอย่าง มือก็รีบคว้าเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาต่อสายหาน้องอย่างเร่งด่วน
เฮ้ๆ ขึ้นรถเมล์ก็อย่าลืมโทรมาบอกเลขบนตั๋วด้วยนะแล้วโทรมาบอกพี่ พี่จะทายให้.. พูดจบก็วางหูไปอย่างสบายใจโดยไม่คิดจะฟังเสียงของฝ่ายตรงกันข้ามแม้แต่นิดเดียว มือบางค่อยๆเรียงกระดาษแข็งรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าไว้บนผ้ากำมะหยี่สีแดงอย่างตั้งอกตั้งใจ จะไม่ให้ตั้งอกตั้งใจได้อย่างไร การดูไพ่ยิปซีประจำปีมีเพียงหนึ่งครั้งต่อปีเท่านั้น และเป็นพฤติกรรมที่หญิงสาวจะทำทุกๆสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีไม่เคยขาดแม้แต่ปีเดียวนับตั้งแต่วันที่เธอค้นพบโลกอันแปลกประหลาดใบนี้เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว...
...........................................
สนใจหนังสือดูดวงหรือลูก..ก็ดี..ป้าซื้อให้ ใครมันจะว่างมงายก็ช่างมันปะไร ในเมื่อเราสบายใจเสียอย่าง..
วันหนึ่งเมื่อครั้งที่พิณชนิดาอายุสิบขวบ มือเล็กที่ไล้ปกหนังสือเล่มหนึ่งในร้านขายหนังสือเก่าทำให้คุณพันทิพาผู้เป็นป้าแย้มยิ้ม แววตาที่อ่อนโยนมองดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มที่ดูจะแวววาวเมื่อคว้าหนังสือเก่าคร่ำปกเดินลายเส้นสีทองขึ้นมาดูอย่างสนอกสนใจ
นับตั้งแต่วันที่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นในครอบครัวเล็กๆของผู้เป็นน้องชาย ซึ่งพรากเอาชีวิตของน้องชายคนเดียวและน้องสะใภ้ไปอย่างไม่มีวันกลับ ทำให้คุณพัณทิพากลายเป็นญาติคนเดียวที่เหลือของเด็กๆ เด็กหญิงตัวเล็กจ้อยทั้งสองที่แทบจะไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆเลยนอกจากฟกช้ำเพียงเล็กน้อยก็แสดงพฤติกรรมที่มองเห็นได้ว่าเป็นผลกระทบจากอุบัติเหตุแตกต่างกัน
ภิชาสินีผู้เป็นน้องสาวพูดคุยจ้อตามปกติบางครั้งก็ดูจะเกินปกติคล้ายกับพูดกับสิ่งที่มองไม่เห็น ซึ่งผู้ใหญ่ทั้งหลายก็เห็นว่าเป็นธรรมดาของเด็กในวัยนี้ที่มักจะมีเพื่อนในจินตนาการ ถึงแม้บางครั้งสิ่งที่หลานสาวตัวน้อยพูดออกมาก็ชวนให้ขนลุก
คุณแม่ขา อย่าร้องไห้นะ ภิไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย.. แล้วเด็กน้อยก็ก้มมองบางสิ่งบางอย่างตรงหน้าก่อนจะหันมามองผู้ใหญ่ทั้งหลายที่หน้าเริ่มซีด จากนั้นก็มีเสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกจากกลุ่มผู้ใหญ่เมื่อเห็นภิชาสินีหันไปวิ่งเล่นตามปกติ
ส่วนพิณชนิดาคนพี่กลับนิ่งเงียบเหม่อลอยไม่พูดจา บางครั้งไหล่บางๆที่ค่อมคู้ก็สะท้านก่อนจะนิ่งเงียบและเหม่อลอยเช่นเดิม ดวงตาดูไร้แววรับรู้ใช้ชีวิตราวตุ๊กตาไขลานสั่งสิ่งใดก็ทำโดยไม่โต้แย้งแม้แต่น้อย ทว่าหลังจากที่ได้จับหนังสือเล่มหนาที่มีกระดาษสี่เหลี่ยมผืนผ้าปึกใหญ่ฝังอยู่ด้านหน้าปก หลานสาวคนโตก็เริ่มมีชีวิตชีวา พูดจาตามปกติบางครั้งก็เกินปกติตามวิสัยเดิมที่มีความร่าเริงทะเล้นพอๆกับหลานสาวคนเล็กและเริ่มค้นคว้าโหราศาสตร์อย่างเอาเป็นเอาตาย ซึ่งน่าแปลกที่การค้นคว้าฝึกฝนของพิณชนิดา กลับเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญแม่นเสียจนคนโตๆต้องแปลกใจ..เพียงสิบเอ็ดขวบก็สามารถทำนายทายทักผู้ใหญ่ตัวโตได้อย่างคล่องเปรี๊ยะถูกต้องแม่นยำ จนผู้เป็นป้าต้องคอยบอกคอยสอนให้เก็บงำเพื่อป้องกันหลานสาวจากผู้คลั่งไคล้ในทางโหราศาสตร์..
หลังจากสิบสองขวบแล้วทุกๆเดือนกุมภาพันธ์ผู้เป็นหลานก็เปิดไพ่ให้กับทุกคนในครอบครัวซึ่งจะบอกถึงเรื่องราวในแต่ละเดือนของแต่ละคนได้อย่างละเอียดพอสมควร
ครั้นพอพิณชนิดาอายุครบสิบแปด ก็เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นเมื่อดวงประจำปีของคุณพัณทิพาในปีนั้นได้ไพ่เดอะเดดในทิศทางที่ไม่ค่อยจะดีนัก ครั้งนั้นพิณชนิดาถึงกับนิ่งอึ้งก่อนจะรีบรวบไพ่ล้างเพื่อดูไพ่ประจำเดือนซึ่งก็ให้ผลเหมือนกัน จากนั้นหญิงสาวก็เลิกดูให้ผู้เป็นป้า หากกลับแอบไปดูดวงทักษาเลข12 ตัวของไทย เลข7 ตัวของพม่า ล้วนแล้วแต่ยิ่งสร้างความแตกตื่นให้กับคนทำนาย เมื่อผู้เป็นป้าถามก็มักจะตอบเลี่ยงๆ
ก็ดีค่ะป้า ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ดวงปีนี้ก็เหมือนปีก่อนๆ..
หากเพียงช่วงเวลาของการทำนายผ่านไปไม่กี่วันคุณพัณทิพาก็เสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุทางรถเช่นเดียวกันกับบุพการีทั้งสองของสองสาว ด้วยเหตุนี้ทั้งพัณชนิดาและภิชาสินีจึงกลายเป็นคนไร้ญาติขาดมิตรโดยสิ้นเชิง ครั้งนั้นหลังจากงานศพคุณพัณทิพา ภิชาสินีถึงกับสะกิดพี่สาว
พี่พิณ ภิขออะไรพี่พิณสักอย่างได้ป่ะ
อือ..กี่อย่างก็ได้ ขอมาเถอะเพื่อน้องคนเดียวทำไมพี่จะให้ไม่ได้ พิณชนิดาพยักหน้าแรงๆให้กับน้องสาว
ถ้าพี่พิณดูดวงแล้วภิได้เดอะเดดในมุมที่เป็นความตายน่ะ บอกภิตามตรงได้ป่ะ ภิจะได้เตรียมตัวก่อนตาย
ดวงตาเรียวยาวดำขลับของน้องสาวมองลอดแว่นตากรอบม่วงอ่อนมาอย่างถือเป็นจริงเป็นจัง คิ้วสีดำเข้มได้รูปของภิชาสินีเริ่มขมวดเมื่อเห็นพี่สาวนิ่งอึ้งไปนาน
แล้วเธอไม่กลัวหรอ.. พิณชนิดาหวนนึกถึงบางคนที่หล่อนทายทักไปตามตรงแล้วเกิดอาการสติแตก อาละวาดโวยวายแล้วพาลให้นึกขยาด แน่ล่ะก็คำทำนายของเธอไม่เคยพลาด แม้หญิงสาวจะไม่เคยทำนายใครถึงขั้นตายเพราะเป็นข้อห้ามอย่างหนึ่งของผู้ที่ศึกษาทางโหราศาสตร์ แต่ก็เคยทำนายถึงอุบัติเหตุที่ล้วนแล้วแต่เป็นจริงเสียทุกครั้งไปทำให้บางคนถึงกับไม่กล้ามาดูดวงกับเธอก็มี
กลัวทำไม ตายก็ไม่ได้เจ็บปวดทุกข์ทรมานนักหรอกพี่ถ้า เราไม่ได้ทำชั่วอะไร ทำดีตายไปเป็นนางฟ้าเสียด้วยซ้ำน่าสนุกจะตายไป..
พูดอะไรเพ้อเจ้ออีกแล้วยัยภิ ...เพี้ยนไม่หายจริงเธอ..
เหอ..ว่าภิดีไป..ตัวเองก็ปกติซะที่ไหน คุณป้าตายก็ไม่เห็นจะร้องไห้สักนิด..หรือว่าดีใจที่ได้มรดกคะคุณพี่ขา.. ผู้เป็นพี่ตีเพี๊ยะเข้าที่ต้นแขนของน้องทันควัน
อู๊ยย..มือหนักจริงๆพี่พิณน่ะ ..
ก็ดูพูดเข้า ใครเขามาได้ยินก็นึกว่าจริงหรอก..ใครว่าพี่ไม่ร้องไห้พี่ไม่ให้เธอเห็นต่างหาก แต่จะว่าไปคุณป้าไปดีแล้วล่ะ คนเรามีชีวิตอยู่ก็มีแต่ทุกข์ ไหนจะเจ็บ จะป่วย เรื่องนู่นเรื่องนี่สารพัดน่าเบื่อจะแย่..คนดีอย่างคุณป้าจะต้องได้ไปในที่ดีๆและมีความสุขแน่ๆพี่มั่นใจ พี่ก็เลยไม่รู้จะคร่ำครวญมากมายไปทำไม
เหวอ..ไม่ใช่ว่าพี่พิณจะไปฆ่าตัวตายตามคุณป้าเสียนะ..
บ้า..ใครจะไปทำบาปกรรม ตายไปเกิดเป็นลูกหมาห้าร้อยชาติเรื่องอะไรจะฆ่าตัวตาย เออ..ถ้าไปเกิดเป็นลูกหมาของปารีส ฮิลตันก็น่าเกิดหน่อย แต่ถ้าจับพลัดจับผลูไปเป็นลูกอีด่างกลางวัดล่ะยุ่งเลย..
แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 50 22:18:24
จากคุณ :
รอมแพง
- [
7 ม.ค. 50 22:16:26
]