ลิงค์เจ้าค่ะ
พรายพยากรณ์ ตอนที่1
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5027610/W5027610.html
พรายพยากรณ์ ตอนที่2
ร่างบางของหญิงสาวที่คอยฉุดชายหนุ่มให้เดินตามมาดูแปลกตา ทว่ากลับเกิดเหตุโกลาหลจนไม่มีใครสนใจคนทั้งคู่แม้แต่น้อย เสียงไซเรนรถตำรวจและรถพยาบาลรวมทั้งไทยมุงที่มาดูเหตุการณ์ก็ยิ่งทำให้คนทั้งคู่กลืนไปกับฝูงชน ระยะทางจากโรงพยาบาลจนถึงคอนโดของหญิงสาวไม่ไกลกันมากนัก แต่เมื่อวิ่งไปได้ครึ่งทางก็ต้องหยุดพักยืนหอบแฮ่กๆไปทั้งคนลากและคนตาม ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองไปยังจุดที่จากมาด้วยความงุนงง
ทำไมคนเยอะนัก..ตะกี้ยังไม่เห็นมีรถตำรวจรถพยาบาลมากันมากถึงขนาดนี้เลยนี่นา.. เจ้าของเสียงหอบเหนื่อยที่พึมพำด้วยความฉงนยกมือข้างหนึ่งเท้าสะเอวอีกข้างปาดเหงื่อมองกลุ่มคนจากที่ที่ตนวิ่งออกมา แต่แล้วเมื่อหันไปทางที่พักของตนก็ต้องเบิ่งตาโตด้วยความตกใจ ควันไฟโขมงใหญ่พุ่งออกมาจากกลางตึกเสียงไซเรนรถดับเพลิงก็ดังแสบแก้วหูทำให้รู้ว่าที่พักของตนกำลังเกิดเรื่อง ใจของเธอหายวูบเมื่อนึกถึงสัตว์เลี้ยงแสนรักของน้องสาว นอกจากจะทิ้งให้ปิ่นมณีเผชิญภัยตัวเดียวแล้วยังลืมให้ข้าวสุกตามที่น้องสาวสำทับก่อนไปสอบเสียอีกด้วย
คุ๊ณ ไปเร้วว คอนโดฉันเกิดเรื่องแล้ว ว่าแล้วร่างบางนั้นก็ใส่เกียร์เสือชีต้าร์วิ่งหน้าตั้งโดยไม่ลืมที่จะฉุดกระชากมือของ เนื้อคู่เจ้ากรรม ที่ต้องวิ่งตามอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แต่เมื่อเห็นควันไฟถนัดตาก็พลอยวิ่งเร็วตามพิณชนิดาไปโดยอัตโนมัติ
ทั้งสองตั้งหน้าตั้งตาวิ่งจนไปถึงจุดหมายคือด้านล่างของคอนโดก็ให้โล่งหัวอกเมื่อพบว่าทุกอย่างเริ่มคลี่คลายลงไปมากแล้ว เพียงแต่มีคนมายืนออที่ชั้นล่างกันอย่างหนาตา
ต๊าย น้องพิณ ทางนี้ค่ะทางนี้..เสียงแหลมปรี๊ดของสาวใหญ่ร่างอวบกวักมือเรียกพิณชนิดาทำให้หญิงสาวต้องทำหน้าตาเหรอหราเดินเข้าไปใกล้ ยังไม่ทันจะเอ่ยสิ่งใดเจ้าของมือที่กวักเรียกก็บอกเล่าอย่างตื่นเต้น
ไฟไหม้ชั้น 9ค่ะน้องพิณแต่ไหม้แค่ถังขยะแล้วไอ้ถังขยะนั่นก็ดันอยู่ใต้เครื่องตรวจควัน เสียงออดเตือนไฟก็เลยดังซะลั่น ลิฟท์ใช้ไม่ได้ก็ต้องวิ่งลงทางฉุกเฉินจนตับแทบจะแลบออกมาแน่ะ แหม..แล้วทางฉุกเฉินบ้านั่นก็แคบจะตายไปค่ะ เช้าๆอย่างนี้บางคนยังไม่ไปทำงานคนก็เลยเยอะหน่อย ล้มกลิ้งหัวฟาด ขาแพลงแขนหักไปตั้งหลายคนเลยนะคะ
แล้วตอนนี้.. พิณชนิดาพูดยังไม่ทันจบประโยค ขวัญทิพย์ก็แทรกขึ้นมาอีกตามประสาคนช่างเจรจา
ตำรวจดับเพลิงมากันเก้อเลยค่ะ เพราะไม่ได้ลามอะไรมากมาย ในถังขยะนั่นมีแต่กระดาษชานอ้อยของพวกเขียนแบบไงคะควันก็เลยเยอะ พี่ว่าต้องเป็นของคุณทิม ห้อง901A แน่ๆเลยค่ะ ใคร้..ใครนะ..มันช่างมักง่ายดีแท้ทิ้งก้นบุหรี่ไม่ยอมเปิดดูว่าในถังขยะมีแต่กระดาษติดไฟง่ายอย่างนั้น.. ผู้คนที่หายตื่นตกใจเริ่มทยอยกันขึ้นลิฟท์ที่เพิ่งเปิดให้ใช้บริการได้ตามปกติ
เอ่อแล้วพี่ไปรู้จักคุณทิมนี้ได้ยังไงคะ ก็พี่ขวัญพักอยู่ห้องตรงกันข้ามพิณแท้ๆ
ก็คราวนั้นไงคะที่ทางคอนโดจัดงานสังสรรค์ผู้พักอาศัย..โอ้ยงานนั้นสนุกจะตาย จำได้ไหมคะที่...
เสียงเล่าสะดุดกึกเมื่อได้ยินเสียงบางอย่างก้องกังวาน ต๊ก..ต๊ก..ต๊ก..ต๊กช้าๆ ใบหน้าเอิบอิ่มที่เคยมีแววของความสนุกตื่นเต้นกลับซีดเผือดไปในบัดดล
สี่.. ขวัญทิพย์นับตามจำนวนครั้งของเสียงที่ได้ยิน ต๊ก..
ห้า.. เสียงพิณชนิดานับต่อจากขวัญทิพย์ราวคนละเมอ คนในลิฟท์หันมามองพิณชนิดาเป็นตาเดียว มีหลายคนเสียสละเดินเลี่ยงออกมาจากลิฟท์เพื่อให้หญิงสาวขึ้นไปก่อนแน่นอนว่าพิณชนิดาไม่ลืมลาก เนื้อคู่ ตามไปด้วย ต๊ก..
หก.. ทั้งลิฟท์นับเสียงประหลาดที่แว่วมาพร้อมกันเป็นเสียงเดียว ต่างตีสีหน้าสยอง ...แก... เสียงถอนหายใจแรงๆพร้อมกันเมื่อได้ยินเสียง แก เป็นเสียงสุดท้ายโดยไม่มี ต๊ก ที่7 ขณะที่ลิฟท์เริ่มเคลื่อนตัวขึ้นไป ไม่มีใครกล้ากดเลขอื่นนอกจากเลข16 ซึ่งเป็นชั้นที่พิณชนิดาพักอาศัย
แฮ่ม.. พิณชนิดากระแอมเบาๆก่อนจะกล่าวเป็นเชิงขอโทษทุกคนที่ดูเหมือนจะกลั้นหายใจฟังเสียงประหลาดเสียถ้วนทั่วทุกตัวคน
คือวันนี้เกิดแอ็คซิเดนนิโหน่ย พิณเลยยังไม่ได้ให้ข้าวสุกปิ่นมณี เขาคงประท้วงน่ะค่ะ อีกอย่างออดเตือนไฟคงทำให้เขาตกใจก็เลยร้องเสียงดังขนาดนี้ ต้องขอโทษด้วยนะคะ ว่าแล้วเจ้าตัวก็ก้มหน้าทำสีหน้าเจี๋ยมเจี้ยม
มะ..ไม่เป็นไรหรอกจ้ะหนู แต่อย่าลืมบ่อยก็แล้วกัน กลัวใจคุณปิ่นมณีเขาจริงๆ ป้าวัยกลางคนซึ่งยังใส่ชุดเสื้อคลุมทับเสื้อนอนกับโรลม้วนผมที่ยังม้วนอยู่เต็มศีรษะกล่าวตอบอย่างเกรงอกเกรงใจคนอื่นก็พลอยพยักหน้าหงึกหงักไปด้วย
เมื่อถึงชั้นที่16หญิงสาวก็หันไปยิ้มแหยๆพร้อมกล่าวขอบคุณผู้ที่ร่วมมือด้วยดีทุกคนที่อยู่ในลิฟท์ ซึ่งทุกคนก็ยิ้มแหยๆตอบกลับมา แว่วเสียงถอนหายใจหลายเฮือกจากคนหลายคนดังออกมาจากด้านในของลิฟท์ที่เริ่มปิด ขวัญทิพย์ซึ่งเดินออกมาด้วยกันมองซ้ายขวาเลิ่กลั่กเมื่อไม่พบสิ่งที่น่าหวาดกลัวก็รีบเดินเลี่ยงไปเปิดห้องของตนแล้วปิดเงียบอย่างผิดปกติวิสัยคนช่างเจ๊าะแจ๊ะ
พิณชนิดาเปิดประตูห้องเข้าไปแล้ววิ่งปรี่ไปในครัวเล็กๆก่อนจะออกมาพร้อมกับข้าวสุกที่ใส่จานเซรามิคสีส้มซึ่งเป็นสีโปรดของปิ่นมณี เมื่อวางจานบนชักโครกเสร็จก็เริ่มกล่าวรายงาน
วันนี้พี่พิณเปิดไพ่ประจำปี ได้ไพ่แปลกว่าจะต้องเจอเนื้อคู่และต้องไปช่วยเขาให้พ้นจากอันตรายค่ะ คิดดูนะถ้าพี่ไม่ไปช่วยเขา แล้วเขาเป็นอะไรไปพี่ก็จะไร้คู่ไปตลอดชีวิต น้องปิ่นคงไม่อยากให้พี่พิณขึ้นคานใช่ไหมคะ.. เสียงใสๆเงียบไปอึดใจ พลอยให้คนที่เงี่ยหูฟังอยู่ด้านนอกของห้องน้ำกลั้นลมหายใจไปด้วย
ถึงจะเป็นคานทองฝังเพชรเจ็ดยอดพี่ก็ไม่อยากได้ ก็เพราะอย่างนี้ พี่ก็เลยลืมให้ข้าวสุกน้องปิ่น แล้วทราบไหมว่าวันนี้มีไฟไหม้ด้วยแต่แค่ไหม้ถังขยะก็เถอะ ถ้าพี่อยู่ในคอนโดพี่คงตกใจจนวิ่งหัวล้มหัวลุกจนต้องเข้าโรงพยาบาลจนได้ ยังไงก็ต้องได้เจอเนื้อคู่ นี่พี่ไปดักเนื้อคู่เสียก่อนก็เลยรอดไม่บาดเจ็บ เอ่อ..อย่าโกรธพี่นะคะน้องปิ่นเด็กดี๊ เด็กดี
..........
เงียบไม่มีเสียงอะไรทั้งสิ้น มีเพียงคนข้างนอกที่ยืนงงเป็นไก่ตาแตกจับต้นชนปลายไม่ถูก ทราบเพียงว่าตนเจอเรื่องจี้ปล้นและกำลังถูกลากตัวไปที่ใดก็ไม่ทราบได้ ทว่าได้อาศัยช่วงที่รถติดไฟแดงวิ่งหนีหลบหลีกเข้าซอกซอยเล็กๆมากมายหลายซอยจนสามารถเข้าไปหลบในโรงพยาบาล จวบจนกระทั่งทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มจวนตัว และท้ายที่สุดหญิงสาวเพี้ยนๆที่กำลังพูดคนเดียวในห้องน้ำนั้นก็เป็นคนช่วยเขาให้พ้นจากคนร้ายกลุ่มนั้นมาได้ แต่จากคำพูดที่ได้ยินโดยเฉพาะเรื่องเนื้อคู่นั้นทำให้เขาใจหายวาบ
นี่..คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่า นี่มันเกิดอะไรขึ้น แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าผมกำลังอยากได้ความช่วยเหลือ คำถามที่ดังเข้ามาในห้องน้ำนั้นทำให้พิณชนิดาต้องเบิ่งตาโตเมื่อนึกขึ้นได้ว่าทิ้งให้ เนื้อคู่ ยืนรออยู่ด้านนอกมิหนำซ้ำยังได้ยินสิ่งที่เธอพูดอย่างชัดเจนอีกด้วย
ตายจริง เดี๋ยวไก่ตื่นกันหมดพอดี หญิงสาวรำพึงในใจขณะเดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อมองหน้า เนื้อคู่ ให้ชัดๆ
โอ้โห.. เสียงอุทานของหญิงสาวพร้อมทั้งท่าทีการมองที่ราวกับเครื่องเอ็กซเรย์นั้นทำให้ชายหนุ่มรู้สึกขนคอลุกชันจนถึงกับเดินถอยหลังไปครึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว ยังไม่นับใบหน้ามันย่องมอมเป็นปื้นพร้อมผมที่ยุ่งเหยิงจากการซิ่งมอเตอร์ไซค์และการวิ่งหนีอย่างหัวซุกหัวซุนของหญิงสาวตรงหน้าที่พาให้ผวามิใช่น้อย
คุณไปโดนอะไรฟัดมาเนี่ย ปากเจ่อ ตาบวมเชียว เสื้อผ้าก็สกปรกมอมแมม ยี๊ เหม็นด้วยสิ หญิงสาวจับตัวชายหนุ่มให้มาดูกระจกบานใหญ่หน้าห้องน้ำซึ่งสะท้อนให้เห็นชายร่างสูงโปร่งที่ดูแย่เสียยิ่งกว่าหญิงสาวที่กำลังบ่น สิ่งที่เห็นทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งอกเพราะคิดว่าน่าจะรอดพ้นจากการคิดมิดีมิร้ายจากหญิงสาวที่ยืนตาโตมองเงาตัวเองในกระจกนี้ได้
ว๊ากก นี่มันยัยเพิ้งที่ไหนเนี่ย เจ้าของร่างบางร้องเสียลั่นห้องก่อนจะก้มลงมองตัวเองสลับกับมองเงาในกระจกคล้ายกับจะให้แน่ใจว่าเงาในกระจกคือเงาของตัวเอง
เพราะคุณแท้ๆเล้ยย ฉันถึงได้ต้องวิ่งตาลีตาเหลือกออกไปทั้งที่ยังไม่ได้อาบน้ำอย่างนี้ ...อืมแต่เอาเถอะคุณคงได้ยินหมดแล้ว ว่าคุณคือเนื้อคู่ของฉัน ยังไงซะซักวันหนึ่งคุณก็ต้องได้เห็นฉันในรูปแบบอย่างนี้จนได้หลังจากที่เราแต่งงานกัน.. คำสรุปของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งโหยง
คู๊ณ..คุณเพี้ยนไปหรือเปล่า เราเพิ่งเจอะกันตะกี้นี้เอง แม้แต่ชื่อก็ยังไม่รู้จัก เอ๊ะแต่คุณอาจจะรู้จักผมจากหนังสือพิมพ์ แล้วอย่ามาเพ้อเจ้อนะผมไม่ชอบถึงคุณจะช่วยผมไว้ก็เถอะ
มือบางแตะบ่าของชายหนุ่มพลางลูบเบาๆอย่างปลอบประโลม
เอาน่า..เดี๋ยวคุณก็ชินเอง ก็ฉันบอกแล้วไงว่าเราเป็นเนื้อคู่กัน ยังไงก็มาทำความรู้จักกันเลยดีกว่าค่ะ ฉันมีอาชีพเป็นหมอดูชื่อพิณชนิดา มีน้องสาวหนึ่งคนชื่อ ภิชาสินี ส่วนญาติพี่น้องไม่มี พ่อแม่ก็ตายหมดแล้วตั้งแต่ฉันยังเด็ก คุณล่ะชื่ออะไร ว่าแต่เป็นคนดังหรอคะถึงได้มีชื่อลงในหนังสือพิมพ์ด้วย เอ๊ะหรือคุณหนีคดีอะไรมา พวกมาเฟียพวกนั้นถึงได้ตามล่าตัวซะอย่างนั้น? ชายหนุ่มกรอกตาไปมาคล้ายกำลังประมวลความคิดจากสิ่งที่ได้ยินพลางมองใบหน้าของหญิงสาวอย่างสงสัยปนงวยงง
คุณไม่รู้จักผมแน่หรอ
อ้าวคุณนี่ โดนซ้อมจนสมองฝ่อหรือไง ถ้ารู้จักแล้วจะถามชื่อคุณหาพระแสงง้าวด้ามปืนอะไรล่ะ คำตอบที่ดูจะไม่เกรงอกเกรงใจอะไรสักนิดของหญิงสาวทำเอาชายหนุ่มสะอึกและเริ่มเชื่อว่าเธอไม่รู้จักเขาจริงๆ
แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 50 15:40:25
จากคุณ :
รอมแพง
- [
10 ม.ค. 50 15:14:07
]