..
(แม่คร๊าบ..ผมหิว)
(แม่คร๊าบ..ผมหิว)
แง่ว แง่ว..แง้ว..แง๊ว เสียงเริ่มแผดดังขึ้นทุกที ๆ
มีใครได้ยินเสียงลูกแมวร้องบ้างไหมคะ เด็กสาววัยสิบแปดปี สวมกางเกงยีนส์เข้ารูป กับเสื้อยืดคอโปโล ด้านหลังพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ของร้าน
ช่วงนี้ปิดเทอมต้องอยู่กับบ้านช่วยงานในร้าน ปกติก็ไม่ต้องอยู่โยงเฝ้ามากนัก แต่นี่แม่ทะเลาะกับพ่อ หนีไปนอนที่บ้านยายตั้งแต่เมื่อคืน
เธอก้มมองตามใต้โต๊ะคอมพิวเตอร์ทุกตัวที่เรียงกันอยู่ข้างฝาอย่างเป็นระเบียบ ลูกค้าที่นั่งอยู่ สองโต๊ะแรกหันมามอง แล้วส่ายหน้า ก่อนจะหันไป
สนใจสิ่งที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ต่อ
แว๊ว..แว๊ว...
(หิว ๆ ๆ) เสียงของแมวยังดังมาเป็นจังหวะ สักพักก็เงียบไป น่าจะเป็นลูกแมวหลงทาง ซึ่งฟังดูเหมือนมีอยู่ตัวเดียว
เมี้ยว...เมี้ยว เธอส่งเสียงเลียนแบบ เผื่อมันจะส่งเสียงตอบ จะได้ตามหาต้นเสียงได้ถูก
แง่ว...แง่ว แง่ว แง้ว..แง้ว
(ผมอยู่นี่..แม่ใช่ไหม.. แม่ แม่ แม่)
เล่นเจ้าล่อเอาเถิดกันอยู่อย่างนั้น ลูกค้าคนแรกคงจะเซ็ง ก็เลยเรียกเจ้าของร้านมาคิดเงินค่าบริการอินเตอร์เน็ต แล้วเดินหน้ามุ่ยออกไป
แหะ แหะ.. ก็คนมันสงสัยนี่นา ถ้าเกิดลูกแมวมันถูกอะไรทับอยู่แล้วไปช่วยไม่ทัน มันตายขึ้นมาจะว่าไงล่ะ เธอค้อนตามหลังลูกค้า เข้าใจว่าเขา
คงรำคาญกับเธอที่ส่งเสียงเหมียว ๆ อยู่ได้ คิดเงินลูกค้าเสร็จก็เดินหาต่อ จากหน้าร้าน จรดหลังร้าน ตามซอกโต๊ะ ซอกตู้ ก็ไม่เห็นมี
จนชักจะเซ็งแล้วบ้างเหมือนกันก็เลยนั่งแผละ อยู่ริมประตูทางเข้า ที่จัดเก้าอี้เรียงข้างฝาอีกด้านไว้สองตัว เอาไว้ให้ลูกค้านั่งรอ แต่ตา
ก็ยังมองหาที่มาของเสียงอยู่
ร้านออกจะโล่ง ตรงกลางบ้านโล่ง มองเห็นสองข้างฝาได้ชัดเจน ฝั่งหนึ่งวางคอมพิวเตอร์เรียงกันแปดตัว อีกฝั่งหนึ่งของข้างฝา ก็มีเก้าอี้ที่เธอนั่ง
สองตัว ถัดไปเป็นตู้หนังสือเอาไว้ให้ลูกค้าอ่านเล่นบ้าง เช่าบ้าง ถัดไปก็ตู้กระจกยกพื้นสูง แต่ใต้ตู้ก็ไม่มีอะไร แล้วก็เครื่องถ่ายเอกสาร แมวคง
ไม่ไปอยู่ในเครื่องถ่ายหรอก มันตั้งเด่นเห็นสง่า ข้างหลังเครื่องมีซอกเล็ก ๆ เกือบติดฝานั่นก็โล่ง โต๊ะเก็บเงินหันหน้าเข้าข้างฝา ใต้โต๊ะโล่ง
ในลิ้นชักก็ชักออกมาดูหมดแล้ว แม้จะขัดกับหลักความจริงไปบ้าง ว่าแมวอะไรจะหลุดไปอยู่ในลิ้นชักรก ๆ แบบนั้น
ถัดไปเป็นโต๊ะวางของ วางเครื่องเข้าเล่มแบบสันห่วงกับเครื่องเคลือบ บนโต๊ะมีแต่อุปกรณ์ ใต้โต๊ะก็โล่ง ๆ แล้วก็เป็นผนังที่กั้นระหว่างหน้าบ้าน
กับหลังบ้านออกจากกัน มีประตูที่เปิดโล่ง มองทะลุไปถึงไหน ๆ เลี้ยวซ้ายก็ขึ้นบันไดไปชั้นสอง ตรงไปอีกหน่อยมีอ่างล้างหน้า แล้วก็ประตูห้องน้ำ
ถัดจากห้องน้ำ เมื่อก่อนเป็นครัวเดี๋ยวนี้ปรับเปลี่ยนเป็นเหมือนห้องโถงโล่ง ๆ มีแต่ตู้เย็น วางชิดข้างฝาอยู่มุมห้อง มีเครื่องซักผ้าวางติดอยู่กับ
ผนังห้องน้ำ
เออ.. แล้วแมวมันจะไปอยู่ส่วนไหนของประเทศ เอ๊ย.. ของบ้านหวา..
เธอถอนหายใจเฮือก ๆ ความสงสัยยังไม่จางหาย แต่ความเหนื่อยหน่ายเข้ามาแทรกด้วย เลยเดินออกประตู ที่ชั้นในเป็นประตูกระจก และชั้นนอก
เป็นประตูเหล็กดัด มีซอกว่างระยะห่างจากประตูชั้นนอกถึงชั้นในอยู่ประมาณสักคืบหนึ่งเห็นจะได้
(แม่คร๊าบ..แม่คร๊าบ) นั่น ๆ มีตัวอะไรไม่รู้สูง ๆ ใหญ่ ๆ เดินมาที่ประตูจะ ไม่ใช่แม่หรอก แต่ต้องส่งเสียงไว้ก่อน ขู่ไว้ มันจะได้กลัวว่าเรายังมีแม่
นั่น ๆ ๆ ตัวสูง ๆ ใหญ่ ๆ หันมาแล้ว สองสายตาประสานกัน ดวงตาสีเหลืองอำพันเบิกกว้าง ผิดกับอีกคู่หนึ่งที่น้ำตาลเข้มส่องประกายวาววาม สดใส
ฟื่อ...ๆ ๆ
(อย่าเข้ามานะ เดี๋ยวกัดนะเฟ้ย) ตัวอะไรไม่รู้ ใหญ่ยักษ์ ทำท่านั่งคล้าย ๆ กับเราเลย แปลกทำไมขา กับแขนถึงไม่เท่ากันเหมือนเรานะ..
โอ๋.. เจ้าเหมียว อยู่นี่เองมานี่มาม๊ะ เธอนั่งยอง ๆ ยื่นมือไปในซอกระหว่างประตู หมายจะจับลูกแมว หน้าตาคล้าย ๆ กับลูกเสือดาว
ลำตัวลายพร้อย หางที่ขดหนีบอยู่ฟู เหมือนกับคนกำลังขนลุกตั้งชันยังไง ยังงั้น มันนั่งขดตัวหงออยู่ ส่งเสียงขู่แฟ่ด ๆ ขยับถอยหลังไปจนสุดมุม
แง๊ว...
(อย่าเข้ามานะ เดี๋ยวเค้าจะฟ้องแม่นะ)
มาสิ.. ออกมาเร็ว เมี้ยว เมี้ยว
แง๊ว ๆ ๆ ๆ
(อะไรพูดอะไร ฟังไม่รู้เรื่อง แม่ครับช่วยด้วย แม่ แม่ ช่วยด้วย...)
ออกมาสิเจ้าเหมียว ไปหลบอยู่ทำไมตรงซอกนั่น ฝุ่นเยอะจะตาย สกปรก มา..ออกมาเร็ว
ง้าว...ง้าว ... ๆ ๆ ๆ
(แม่ครับ..ช่วยด้วย.. แม่ แม่ ... แม่อยู่ไหน แม่...แม่) เจ้าเหมียวน้อยร้องเสียงดัง จนน้ำตาคลอหน่วยตาสีเหลืองอำพัน จวนเจียนจะ
หยาดหยดลงมาทางร่องจมูก
เหมียว มานี่สิ หิวไหม เธอเอื้อมมือเข้าไป แต่ก็ยังไม่กล้าจับ
น้อง ๆ คิดเงิน แป่ว ! แหว่ว ! มันอะไรกันนักหนาฟระ ลูกค้าพวกนี้ คนกำลังยุ่งวุ้ย เธอเงยหน้า ส่งสายตาขุ่น ๆ ไม่แพ้เจ้าเหมียวที่อยู่ในรู
เอ๊ย ! อยู่ตรงซอกประตูนั่น เดินไปดูนาฬิกาจับเวลาที่แขวนไว้
สามสิบบาท เร็ว ๆ ฉันจะไปลูกแมว ดู ๆ ชักช้า กว่าจะล้วงกระเป๋าออกมาได้ เอ๋า..ยังให้แบงค์ร้อยอีก เธอเปิดลิ้นชักหยิบเงินทอนให้ลูกค้า
ขอบคุณค่ะ ไปเร็ว ๆ สิ ลีลาศอยู่ได้ เธอเดินตามลูกค้าออกมานั่งอยู่ข้างประตูเหมือนเดิม ดูเหมือนจะไม่ได้เรื่องอะไร เรียกก็แล้ว อะไรก็แล้ว
เจ้าเหมียวมันขู่แฟ่ด ๆ จึงเดินกลับมาหยิบเงินในลิ้นชัก รีบสาวเท้าออกไปยังร้านขายของชำที่อยู่ห่างออกไปอีกสองช่วงตึก กลับมาก็หาถ้วยเล็ก ๆ แต่ก็ไม่เจอ จึงไปรื้อถังขยะ หยิบขวดน้ำเปล่าที่ทิ้งไปแล้ว มาตัดเอาเฉพาะส่วนก้นขวด ไม่ลึกเท่าไหร่ เทนมลงไป แล้วเอาไปวางล่อไว้ตรงซอกประตู
เอ้า..หิวก็กินซะ ไม่ต้องเขิน เธอวางมันไว้ใกล้ ๆ ตัวลูกแมว แล้วเดินหายลับขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน ..
ก๊อก ๆ เธอเคาะประตูแล้วเปิดผลั๊วะเข้าไปตามประสาคนใจร้อน คุ้ย ๆ เอาร่างที่นอนคุ้ดคู้จมอยู่ในกองผ้าห่ม บนเตียงนอนออกมาจนได้
ยืนปักหลักอยู่ที่ข้างเตียง
อีกฝ่ายงัวเงีย อะไรฟระ ตูเพิ่งจะนอนเอานอนหกโมงเช้า แล้วนี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วล่ะ เขาลืมตาตื่น คนปลุกยิ้มหวานจ๋อย แต่อีกฝ่ายดวงตาแดงก่ำ
พอเขาเห็นหน้าเธอก็ปิดตานอนต่อ
พ่อ ตื่น ๆ เธอนั่งลงข้างเตียง เขย่าร่างเขาเบา ๆ
อือ เขาพลิกหันหลังให้ แล้วเอาผ้าห่มคลุมมิดศีรษะ แต่ก็ถูกดึงเหมือนปลอกเปลือกกล้วย
มีลูกแมว เหมือนเพิ่งคลอดเลย ตัวเล็ก ๆ มาจากไหนไม่รู้ มันหลบอยู่ตรงซอกประตูหน้าบ้านแน่ะค่ะ
อ๊าก.. พระเป็นเจ้าช่วยด้วยเถิด ลูกต้องตื่นจากฝันหวาน ๆ เพราะลูกแมวหลงทางเนี่ยนะ
อือ
พ่อ
อือ..
ฉัตรเลี้ยงมันไว้นะ
อือ
เย.. พ่อใจดีจัง ไปล่ะ งั้นพ่อนอนต่อเถอะ
อือ
เด็กสาวเดินยิ้มย่องจากมา ส่วนเขานอนลืมตานึกแช่งชักหักกระดูกไอ้ลูกแมวบ้านั่น.. อะไรวะ คนจะนอน..ดันมาขัดจังหวะ เอ๊ะ.. หรือที่จริง
ต้องโทษยายฉัตรธิดา เออ ๆ ช่างมัน ๆ ยกให้มันคนหนึ่ง อ้ายลูกบังเกิดเกล้า . เขายิ้มปิดเปลือกตา ชักผ้าห่มขึ้นคลุมโปง
พ่อ .. ๆ เสียงเล็ก ๆ แหลม ๆ แว่วมาอีก
เออ..เวรกรรมของตรู เขาเปิดเปลือกตามาใหม่ เสียงตะโกนเรียกมาแบบนี้ แสดงว่าต้องลุกไปดูมัน... เฮ้อ
0.0.0.0.0.0.0.0.0.0
จากคุณ :
สีน้ำฟ้า
- [
12 ม.ค. 50 18:23:05
]