ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องของเพื่อนผมคนนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อ 8 ปีที่แล้ว (มันเครียดย้อนหลังได้นานมากเลย) หลังจากเรียนจบจากคณะวิศวะจาก มหาลัยของรัฐแห่งหนึ่งแถว ม.ศรีปทุม ด้วยเกรดที่ดูดีไม่น่าเกลียด ช่วงนั้นมันบอกว่า อยากไปเรียนต่อ ผมก็เข้าใจ คนรุ่นเราตอนนั้นเรียนจบปุ๊บ อยากต่อโท เลย มันดูเท่ห์ น้อยซะเมื่อไหร่หล่ะครับ จบโท ตั้งแต่ยังอายุน้อยๆ ใช่ม๊ะ? (จริงๆผมว่ามันคงไม่มีปัญญาหางานทำมากกว่า แต่ก็ช่างหัวมันเถอะ) มันเลือกอยู่นานว่าจะไปเรียนที่ไหนดี ระหว่างญี่ปุ่น กะ เมกา (โห....แพงๆทั้งนั้นเลยนะมรึง  ไม่ไป เวียดนาม หรือ พม่า ดูมั่งฟะ) เพิ่มความสะดวกในการดำเนินเรื่องราว อันซับซ้อนและชวนสยองขวัญของมัน ผมขอใช้นามสมมุติ แทนตัวเพื่อนผมคนนี้ว่า นาย.ก  ไอ้ ก เพื่อนผม มันตัดสินใจอยู่นานระหว่างไปเรียนต่อโท ที่ญี่ปุ่นหรือ เมกา ดี  ช่วงนั้น วัฒนธรรม ฟะหรั่งเริ่มเกร่อแล้ว มัน(ไอ้ กอ) โดยพื้นฐานเป็นพวก หัวแข็ง ชอบแหกคอก ทั้งๆที่ใครๆ ก็บอกว่า ไปเรียน ประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ กลับมา น่าจะ work หางานทำง่ายกว่า  แต่ ครับ แต่  มันบอกผม ว่า ด้วยมันเห็นว่า สาวญี่ปุ่นดูขาว(แบบไม่ซีดเหมือน ฟะหรั่ง) และเอ็กซ์ดีด้วย(ผมเดาว่ามันคงดูหนัง เอ็กซ์ ญี่ปุ่นบ่อย) ด้วยเหตุผม ปัญญาอ่อนเพียงเท่านี้ ทำให้มันตัดสินใจที่จะไปเรียนต่อที่ ญี่ปุ่น ดินแดน แห่ง โดราเอม่อน และบ้านเกิดของ ดราก้อนบอล  (สำหรับผมแล้ว ช่างเป็นเหตุผล ที่ปัญญาอ่อนมากๆ มันคิดได้งัยวะเนี่ยะ๗ จากคุณ : หมูล่องหน - [ 16 ม.ค. 50 13:48:25 ]

ความคิดเห็นที่ 2 วันที่มันไปเรียนต่อ ผมยังจำได้เลย ว่าไปส่งมันที่ดอนเมือง ดูมันคึกคักมาก กับการที่จะได้ไปเรียนญี่ปุ่น(จริงๆคงคึกด้วย สาเหตุอื่นมากกว่า) ภาษาญี่ปุ่นยังไม่กระดิกหูเลย อาศัย ภาษาอังกิด ที่ก๊อกๆแก๊กๆ ห่วยแตกของมัน แค่นี้มันก็พร้อมลุยแล้ว มันบอกว่าไม่มีปัญหา มันจะไปเรียนภาษาที่นั่นก่อน อ่านเขียนได้ ถึงจะหาที่เรียนต่อโท โอเค ไปดีเถิดเพื่อน เมื่อเพื่อนตัดสินใจแล้ว การตัดสินใจนั้นย่อมดีที่สุด  บ๊ายบาย ไอ้ กอ ตั้งใจเรียน (อย่าลืมหาสาวที่นู่นมาฝากตูด้วยซักคนหล่ะนะ เพื่อนเลิฟ ฮะๆๆ แอบหวังอยู่เหมือนกัน) ช่วงที่มันไปถึงญี่ปุ่นใหม่ๆ มันเงียบหายไปพักนึง ผมก็เข้าใจว่ามันคงกำลังยุ่งกลับการปรับตัว สำหรับการใช้ชีวิตที่นู่น หล่ะ มั้ง นานๆ เราก็ อีเมลล์ คุยกันซักที แต่ไอ้เพื่อนตัวดีของผม ก็ยังไม่มีท่าที ที่จะส่งข่างกลับมาเลยซักนิดเดียว จวบจนเวลา ได้ล่วงเลย ไป ครึ่งปีได้ อีเมลล์แรกของมัน ก็มาปรากฎให้ผมได้อ่าน จากคุณ : หมูล่องหน - [ 16 ม.ค. 50 13:57:50 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มันเล่าว่า มันไปเรียนภาษาญี่ปุ่น ที่มหาลัยแห่งหนึ่ง(เข้าใจว่าเป็นมหาลัยเอกชน) ที่อยู่ในเมืองเล็กๆ ไม่ไกลจาก นาโงย่า ตึกที่มันเรียนอยู่ มีแต่สาวๆทั้งน้านนนน    มันโม้จนผมแทบอยากจะขายทุกอย่างที่มีอยู่ แล้วแพ็กกระเป๋าตามมันไปเรียนด้วยซะจริงๆ ห้องที่มันเรียน ส่วนมากมีแต่คนจีนซะส่วนใหญ่ คนไทยมีอยู่คน สองคนเอง (ยังอุตส่าห์ ไปเจอ พี่ไทย เราอีกนะเนี่ยะ) มันเล่าว่า สาวๆจีนในห้องมันก็ใช่ย่อย น่ารักๆ ก็มีอยู่เหมือนกัน แต่มันยังคงยืนยัน ที่จะหา สาวญี่ปุ่น มาเติมเต็ม ความฝัน ส่วนลึกของหัวใจน้อยๆของมัน ที่ยังขาดหายไปมากกว่า จากคุณ : หมูล่องหน - [ 16 ม.ค. 50 14:03:42 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไอ้ นาย.ก เพื่อนผมคนนี้ สมัยเรียนด้วยกันมา มันก็ไม่เชิงว่าเป็นคนเรียบร้อยซักเท่าไหร่หรอกครับ แต่เรื่องสาวๆ นี่ ไม่เคยจะกล้าจีบใคร กับเค้าซักที ไม่รู้ ความฝันของมัน ที่จะหาแฟนสาวญี่ปุ่น จะเป็นไปได้เร้ออ  เอาหล่ะ นั่นมัน ปัญหาของมัน ไม่เกี่ยวกับผม เราตามกันไปดูเรื่องราวของมันกันต่อดีกว่านะครับ มันเล่าว่า มันก็พยายามเพียรหา ชมรม อะไร ทั้งหลายแหล่ เพื่อจะเข้าไปคลุกวงในกับสาวๆญี่ปุ่นให้ได้ ในช่วงแรก แต่ข้อจำกัดก็คือ มันยังพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ค่อยรู้เรื่องนี่หน่ะสิครับ และเพื่อนๆญี่ปุ่น ที่มันรู้จักในตอนแรกๆ ก็ดันมีแต่ไอ้หนุ่ม ญี่ปุ่นทั้งนั้น จนมันเคยบอกว่า กรู เปลี่ยนไปจีบหนุ่มญี่ปุ่นอาจจะง่ายกว่าหว่ะ ผมก็ได้แต่ให้กำลังใจมันไป ว่า มรึง พยายามต่อไป( เพื่อกู และ อย่าลืม เผื่อกูด้วย) จากคุณ : หมูล่องหน - [ 16 ม.ค. 50 14:09:27 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไอ้ กอ ถาม ผม ว่า ช่วงครึ่งหลังๆ ของปีแรก ผมจำได้มั้ยว่ามันอีเมลล์มาเล่าอะไรให้ผมฟังบ้าง อืมมม   เอ......ขอ กู นึกดูก่อน.......ถ้าจำไม่ผิด เรื่องมันเหมือนจะทำนองว่า.............ช่วงครึ่งหลังๆของปีแรก ในญี่ปุ่นของมัน มันจะมีโอกาสได้รู้จักสาวคนหนึ่ง แต่ทว่า หาใช่ สาวญี่ปุ่นที่มันไฝ่ฝันไม่ แต่เป็นสาวชาวจีน ซึ่งเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่ห้องข้างๆมันนั่นเอง สาวคนนี้มาจากเซี่ยงไฮ้ เมืองแห่งความเจริญในหลายๆด้าน ที่ผมเคยได้ยินมา ไม่ว่าจะเป็น แฟชั่น เศรษฐกิจ อาหารการกิน ตลอดจน เรื่อง ประเภทนั้น สาวในเมืองอย่างเซี่ยงไฮ้ ก็รุดหน้าไปเทียบเท่ากับประเทศ หลายๆประเทศในโลกตะวันตกเลยทีเดียว จากคุณ : หมูล่องหน - [ 16 ม.ค. 50 14:16:08 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คือ ผมเคยได้ยินได้ฟัง และอ่านหนังสือมาก็มาก เค้าว่า สาวจีน ยุคใหม่ๆ ค่อนข้างมีความคิด มีอิสระ เชื่อมั่นในตัวเองสูง และรักอิสระ พวกเธอจึงไม่ค่อยคิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่อง ความสัมพันธ์ทางกายระหว่าง ชาย และหญิง ซักเท่าไหร่ พูดง่ายๆ ว่า ได้ยินมาว่า เค้าค่อนข้าง ฟรี พอตัว นั่นแหล่ะ จากคุณ : หมูล่องหน - [ 16 ม.ค. 50 14:18:45 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อ่ะแฮ่ม.. จากคุณ : podduang-pk - [ 16 ม.ค. 50 22:11:31 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เออ ผมทำอะไรผิดไปรึป่าวคับ คุณพดด้วง หรือว่าผมเขียน คำหยาบอะไร ผิดกฎของเว๊ปนี้รึป่าว เนี่ยะ จากคุณ : หมูล่องหน (หมูล่องหน) - [ 17 ม.ค. 50 08:31:27 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สาวจีน คนนี้มาญี่ปุ่นก่อนมัน 1 ปี พูดเก่งกว่ามันเยอะเลย เค้าเลยประมาณว่า คอยเป็นพี่เลี้ยง สอนนู่นสอนนี่ให้ มันก็ตอบแทนด้วยการชวนเค้าไปทำอาหารไทยที่บ้านกินอยู่บ่อยๆ ต่อมาก็บ่อยขึ้น บ่อยขึ้น วันหยุดก็ มีออกไปเที่ยวกันบ้าง เวลากลับดึกๆจากเรียน หรือ หลังจากที่เค้ามากินข้าวกะ ไอ้กอ ที่อพาร์ทเม้นท์ของมัน ถ้าวันไหนกลับดึกมันก็จะไปส่งเค้าที่บ้าน มันบอกว่า มันเล่าอย่างนี้ อย่านึกว่า ขับรถสปอร์ทไปส่งเค้าที่บ้านนะ ชีวิต บ้านนอกของมันในญี่ปุ่น นอกเหนือจาก รถไฟ บนดินและใต้ดินแล้ว ก็ จักรยาน ครับ จักรยาน  ที่ไปส่งที่บ้านเค้านี่ก็คือ ขี่จักรยานตามไปส่ง ถีบกันไป คนละคัน คันใคร คันมัน จากคุณ : หมูล่องหน - [ 17 ม.ค. 50 08:36:36 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ใจเย็นๆครับ พี่น้อง ผมรู้ท่านที่แอบเข้ามาอ่าน คงจะรอลุ้นอยู่หล่ะสิ ว่าเมื่อไหร่ มันจะได้กันซักที ใจเย็นๆครับ ของแบบนี้ต้องค่อยๆ ดำเนินเรื่องตามแบบฉบับ นิยายน้ำเน่าที่ดี แต่ ไอ้ กอ เพื่อนผม ยืนยันและนอนยัน กับผม หลายรอบแล้ว(เอ่อ....ขอถอนคำว่า นอนยันก็แล้วกัน เดี๋ยวเพื่อนๆทั้งหลายจะคิดว่าเราสองคนเป็นเกย์) ไอ้ กอ มัน ยืนยัน กับผมหลายครั้งว่า ที่กูเล่าเนี่ยะ เรื่องจริง พัน เปอร์เซนต์นะเว้ย กูไม่เคย ขาย หมูย่างเกาหลี ไม่ใช่พี่บาส เพราะฉะนั้น กู.......ไม่ได้โม้! จากคุณ : หมูล่องหน - [ 17 ม.ค. 50 08:41:09 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สาวเซี่ยงไฮ้ ผู้มีความเชื่อมั่นในตัวเอง หน้าตาหมวย หุ่น ดีพอตัว บวก กับ คำบอกเล่า เกี่ยวกับ ความกล้าของสาวจีน ในยุคโลกาภิวัตรนี้ จะดำเนินเรื่องต่อไปแบบไหน โอ้ว  แค่คิดก็.......ก็แบบว่า  ไว้มาต่อครับ ไปทำงานก่อน จากคุณ : หมูล่องหน - [ 17 ม.ค. 50 08:43:58 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ส่งกันไปส่งกันมา เหตุการณ์ก็ดำเนินมาถึงวันหนึ่ง วันที่ผู้อ่านทุกๆท่านเฝ้ารอ เหตุการณ์ช่างเหมือนนิยายรักเกาหลีน้ำเน่า หรือ ไม่ก็ บรรยากาศ โนเนะ แบบในละครญี่ปุ่นเลย ผิดกันตรงที่ นาย.ก เพื่อนผมนั้น มันรู้สึกเหมือนกับว่ามัน คือ นางเอก ของเรื่อง จากคุณ : หมูล่องหน (หมูล่องหน) - [ 17 ม.ค. 50 18:16:25 ]

ความคิดเห็นที่ 13 วันนั้น ไอ้ กอ เพื่อน ผู้อ่อนหัดของผม ไปส่งสาวหมวยที่บ้านตามเคย วันนั้นยังไม่ดึกมาก แค่พอพลบค่ำเท่านั้น (เดาเอาเองว่าคงระหว่าง 18.00 น.ล่วงไปถึง 19.00 น.---->จะเขียนให้ละเอียดขนาดนั้นไปทำไมนะ) โอเคครับ ต่อๆๆ.... เวลาแค่พอพลบค่ำ หลังจากเดินขึ้นไปส่งบนห้องเค้าซึ่งอยู่ชั้นสอง ของอพาร์ทเม้นท์ ขณะที่เพื่อนผม กำลังขอตัวจะกลับบ้าน ทันใดนั้น  ทันใดนั้น (แต่น แต้น แต่น แต่น....แต่น แต่น ๆๆ  ทำเสียงให้ตื่นเต้น ขณะอ่านตามไปด้วยนะครับ) ทันใดนั้น จากคุณ : หมูล่องหน - [ 17 ม.ค. 50 18:21:52 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ทันใดนั้น.. 3 วันก็ผ่านไปค่ะ อิอิ ล้อเล่น เผอิญมาอ่านเจอของ จขกท น่ะค่ะ สนุกดีอ่ะ มีลุ้นน จริงๆๆ ด้วยย ช่วยมาเขียนต่อทีเถอะ อย่าได้หายไปนาน... น่ะๆๆๆๆ รออ่านนนน มากกกก จากคุณ : ...3210 (cleartheair) - [ 20 ม.ค. 50 16:20:20 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แหะๆๆ ขอโทษ เพื่อนๆด้วยครับ พอดี ช่วงที่ผ่านมายุ่งๆนิดหน่อย แหม เนื้อเรื่องกำลัง ไคลแม็กซ์ซะด้วย เลยไม่ต่อเนื่องเลย ไม่ว่ากันนะครับ มา มะ ต่อ ต่อ ถึงไหนละนี่ เมื่อเพื่อนผมขอตัวกลับบ้าน เค้าก็เดินลงมาส่งที่ชั้นล่าง ทีนี้ ตรงชั้นล่างที่จะเดินออกไปที่จอดรถมันมีประมาณ ซอกหลืบอยู่นิดนึงครับ เค้าก็ถามแบบอ้อนๆ ว่าจะกลับเลยเหรอ ฮะๆๆ ไอ้เพื่อนผมคงตื่นเต้นมาก จนไม่กล้าตอบอะไร ถ้าเป็นสมัยนี้หล่ะ แหม๊ มันคงไม่ต้องรอให้ผู้หญิงถามก่อนแล้วหล่ะครับ ......แล้วเค้าก็ถามมันว่า "เคยจูบกับใครรึยัง" โหๆๆ เป็นงัยหล่ะ ถึงตอนนี้ ผมบอกไอ้ กอ เพื่อนผม ว่า ผมอยากจะเปลี่ยนตัวกับมันจังครับ......มันยังไม่ทันที่จะได้ตอบอะไรเลย ริมฝีปากน้อย ที่ได้รูปปากนั้น ก็พลัน ประกบเข้ากับ ปากของเพื่อนผม อย่างพอเหมาะพอเจาะ และเหมือนว่า เวลาอันแสนวุ่นวาย กำลังหยุดลง.......ชั่วขณะ จากคุณ : หมูล่องหน (หมูล่องหน) - [ 21 ม.ค. 50 15:17:22 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ฟังดูโรแมนติกดีนะครับ แต่ทว่ามันหารู้ไม่ว่า จูบ จูบนั้น จะเป็นสาเหตุที่จะนำพามันไปสู่ ความผิดหวัง ความเศร้า และแทบจะเรียกได้ว่าเปลี่ยนชีวิตมันไปเลยด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่า มันจะค่อยๆ   ค่อยๆ เปลี่ยนชีวิตมันไป โดยที่มันไม่รู้ตัว  ถ้าผมมีแรงเขียนจนถึงตอนจบของเรื่องนี้ คุณจะได้รู้ว่าทำไม?? จากคุณ : หมูล่องหน - [ 21 ม.ค. 50 15:20:53 ]

ความคิดเห็นที่ 17 วันนั้นไม่มีอะไรมากเกินไปกว่า จูบ จูบ นั้น หรอกครับ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่จูบแรกของเพื่อนผม แต่ ในชีวิต ของชายหนุ่ม ธรรมดา ๆ คนนึง คุณคงไม่เคยผ่านจูบ ของหญิงสาว มามากมายซักเท่าไหร่ ใช่มั้ยครับ (ผม เน้น คำว่า ชายหนุ่ม และ ธรรมดาๆ นะครับ ไม่นับ พวก ฟะหรั่ง ชายแก่ ผู้มากประสปการณ์และ ชายหนุ่ม หน้าตาดี คารมเจ๋ง จำพวก คาสโนว่า ทั้งหลาย พวกที่ผมเอ่ยมานี่ ถือว่าเป็นกรณียกเว้นครับ) จูบกับใครซักทีนึง สำหรับคนที่ไม่ได้มีประสปการณ์โชกโชนมาก่อน  ผมว่ามันคงทำให้ใจคุณ หวั่นไหว ทำให้ใจคุณสั่นไปบ้างแหล่ะ ไม่มากก็น้อย (ถ้าเป็นผม คงไม่สั่นแค่ใจหรอกครับ ผมหมายถึง ตัวผมคงจะตื่นเต้นและสั่นไปด้วย ฮะๆ อย่าคิดลึกนะครับ) จากคุณ : หมูล่องหน - [ 21 ม.ค. 50 15:27:16 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จากวันนั้นเป็นต้นมา ทั้งสอง ก็ พัฒนาความสัมพันธ์สู่ขั้นที่เรียกได้ว่าเป็นฟนกัน ภาษาญี่ปุ่นของเพื่อนผม ก็พัฒนาตามไปด้วย เพราะถึงแม้มันจะกิ๊กกันอยู่กับสาวจีน แต่ภาษาที่ใช้สื่อสารกันระหว่างสองคนนั้นก็คือ ภาษาญี่ปุ่นครับ เธอ(หมายถึง สาวจีนคนนั้น ต่อไป ผมขอ นิยามชื่อเธอให้ว่า"หมวย" ก็แล้วกันนะครับ เพื่อให้ง่ายต่อการดำเนินเนื้อเรื่องของผม) หมวย ถึงเป็นสาวจีน แต่เธอมาญี่ปุ่นก่อน ไอ้ กอ หนึ่งปี แถมเธอก็ทำงานพิเศษ เป็นสาวเสิร์ฟอยู่ที่ร้านอาหารเล็กๆในเมืองด้วย ภาษาญี่ปุ่นเธอ เรียกว่าเก่งพอตัวเลยทีเดียว ไอ้กอ เพื่อนผมเลยได้อานิสงค์เรื่องภาษา จาก หมวยไปด้วยครับ จากคุณ : หมูล่องหน - [ 21 ม.ค. 50 15:32:43 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ....7 วันผ่านพ้น... เลยนา เมื่อไหร่คุณเจ้าของทู้ จะมา...ต่อเล่า ( กลอนมั่วมากๆ อิอิ แต่อยากอ่านต่อ น่ะเค๊อะ...) จากคุณ : 3210 (cleartheair) - [ 28 ม.ค. 50 09:30:15 ]