อรุณสวัสดิ์ ที่รักของผม
นี่คือประโยคแรก ที่ฉันได้ยินเมื่อลืมตาขึ้น
จากนิทราอันยาวนาน เขาจูบหน้าผากของฉันอย่างแผ่วเบา
แล้วส่งรอยยิ้มอ่อนโยนมาให้
ผมรักคุณมากเหลือเกิน
ด้วยอุบัติเหตุทางอากาศทำให้ฉันต้องมีสภาพ
เช่นนี้ ทั้งพ่อและแม่ต่างเสียชีวิตในครั้งนั้น และฉัน
ต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราถึงสองปี จนกระทั่งฟื้นขึ้นมา
แต่โชคร้ายยังคงตามหลอกหลอน เมื่อความ
ทรงจำทั้งหมดของฉันกลับสูญหาย
คงจะหมดสิ้นเรื่องที่น่าเศร้าแล้วใช่ไหม
ค่อยๆเดินนะ เขาบอกกับฉันเบาๆเมื่อเห็นฉัน
ลุกขึ้นยืนและมุ่งไปยังประตูห้อง แต่ยังไม่ทันขาดคำเขาก็
เข้ามาประคองฉันไว้
ผมช่วยนะ ไม่งั้นผมคงต้องกระวนกระวาย
เขากระซิบข้างหูฉัน ฉันยิ้มอย่างเข้าใจถึงแม้
ความจริงฉันจะแข็งแรงดี แล้วเราก็เดินไปพร้อมกันช้าๆ
เอริน คุณเป็นอะไรรึเปล่า
เขาถามฉันเมื่อเห็นฉันนิ่งเงียบเป็นเวลานาน
เปล่าค่ะ ฉันส่ายหน้า ฉันแค่...รู้สึกเหมือน
กับ... ช่างมันเถอะค่ะ เราไปทานข้าวกันดีกว่า
การบ่ายเบี่ยงของฉันสำเร็จเมื่อเขาไม่ถามต่อ
และเราก็ออกเดิน
หลายวันมาแล้วที่ฉันฟื้นขึ้นมาพร้อมกับมีเขา
อยู่ข้างกาย เราใช้เวลาอยู่ด้วยกันเนิ่นนาน ฉันมีความสุขที่
เขาดูแลและห่วงใยฉัน และยิ่งดีใจมากกว่านั้นเพราะเขา
เป็นของฉัน เนื่องจากเราแต่งงานกันมานานแล้ว แม้ความ
ทรงจำของฉันจะหายไป แต่เขาก็เข้ามาเติมเต็มให้ใหม่
อย่างนุ่มนวล
แล้ววันหนึ่ง...
เอริน ผมจำเป็นต้องไปธุระในวันนี้ ไม่อยาก
จากคุณไปเลย
เขาเอ่ยขึ้นในขณะที่เรานั่งด้วยกันใต้ต้นไม้ต้น
หนึ่งที่กำลังออกดอกสีขาวสวยงามบริเวณหลังบ้าน เขากุม
มือฉันไว้และสบตาฉัน ผมจำเป็นต้องไป
ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันยิ้มให้เขาที่หน้า
เศร้า ฉันอยู่คนเดียวได้ อย่าห่วงเลย
แต่ผมเป็นห่วงคุณ ผมไม่อยากเสียคุณไป
ผม
ไปเถอะนะคะ อย่ากังวลกับฉันเลย ฉันไม่
เป็นไรจริงๆ ฉันขัดขึ้น เข้าใจดีว่าเขารักและห่วงฉัน แต่ฉัน
คงไม่สบายใจ หากว่าตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องเสีย
งาน
เขายิ้มให้ฉัน ขอบคุณนะเอริน ที่เข้าใจผม
แล้วผมจะรีบกลับมานะครับ
แล้วเราก็กลับเข้าไปในตัวบ้าน สักพักเขาก็ขับ
รถออกไปโดยมีฉันยืนโบกมือให้อยู่หน้าประตู
ตอนนี้สามีของฉันทำธุระได้สองชั่วโมงแล้ว
และฉันก็กำลังเดินสำรวจห้องต่างๆฆ่าเวลาที่ว่างเสียจนไม่รู้
จะทำอะไรดี จนกระทั่งเข้ามาในห้องเก็บของใต้บันได
ภายในห้องมืดสลัวเหลือเกิน มืดจนฉันอดกลัว
ไม่ได้ต้องรีบเอื้อมมือไปเปิดไฟ แสงสว่างทำให้เห็น
อุปกรณ์มากมายที่วางระเกะระกะอยู่ภายใน... มันเป็น
เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ทั้งหมด
ฉันมองไปทั่ว ไม่มีอะไรที่แปลกแยกออกไป
นอกจากกรอบรูปอันใหญ่ที่กระจกแตกร้าวซึ่งแอบซ่อนอยู่
ตรงมุมห้อง เท้าของฉันเดินไปหยุดตรงนั้นโดยที่ฉันไม่รู้
ตัว เพราะบางสิ่งที่สะดุดตา
ชายหญิงสองคนยืนชิดกันและยิ้มกว้างอย่าง
สุขใจ หนึ่งในนั้นคือเขา สามีของฉัน แต่อีกคนข้างกันคือ
ใคร ฉันรู้สึกไม่คุ้นเลยสักนิด ทั้งๆที่ผู้หญิงในรูปหน้าเหมือน
ฉัน เหมือนตัวฉัน แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนเธอเป็นคน
แปลกหน้า...เพราะอะไร
ฉันเพ่งมองดูอย่างตั้งใจ แต่ก็ไม่ได้คำตอบ
อะไรเลย รู้แต่เพียงว่าในรูปนั้น สามีของฉันดูมีความ
สุขมากกว่าตอนนี้เสียด้วยซ้ำ ในแววตาของเขาไม่มีรอย
แห่งความเศร้าระบายไว้เหมือนตอนนี้สักนิด ฉันค่อยๆ
วางกรอบรูปนั้นลงที่เดิมอย่างแผ่วเบา และโดยไม่ได้ตั้งใจ
ฉันก็ทำอุปกรณ์ที่เป็นแก้วตกแตกสองสามชิ้น
ฉันรีบวิ่งออกไปข้างนอกตรงไปยังห้องครัว
หยิบถุงพลาสติกกลับมาเก็บเศษแก้วเหล่านั้นเอาไปทิ้ง
เมื่อตรวจดูว่าไม่มีอะไรหลงเหลือแล้ว ฉันก็ปิดประตูห้อง
เก็บของและออกมา พอดีกับที่เสียงเรียกของเขาดังขึ้นพอ
ดี
เอริน คุณเข้าไปทำอะไรในนั้นหรือ เขาถาม
เสียงตกใจและมองถุงในมือ นั่นเศษแก้วนี่ คุณเป็นอะไร
ไหมเอริน
ฉันส่ายหน้าและยิ้มให้เขาที่เข้ามากอดฉัน
ทันที ฉันไม่เป็นไรหรอกคะ แค่แก้วแตกเอง
โธ่ เขากอดฉันแน่นยิ่งกว่าเดิม คุณทำให้
ผมตกใจอีกแล้ว ผมเป็นห่วงคุณมากรู้ไหม
ขอโทษนะคะ ฉันเอ่ยเสียงเบา ว่าแต่คุณ
กลับมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำดีกว่าค่ะ
แล้วฉันก็ดันตัวเขาขึ้นบันไดไปด้านบน แอบ
ถอนหายใจอย่างโล่งอก
จากคุณ :
รวาธิน
- [
16 ม.ค. 50 15:56:14
]