ครั้งหนึ่งเคยมีหอคอยสีเทาทะมึน เหมือนเมฆฝนสีหม่นในวันฟ้าหมอง ตั้งอยู่โดดเดี่ยวเหนือทะเล ในหอคอยมีชายเศร้าสร้อยผู้ไม่เชื่อในความรัก หัวใจของเขาเป็นสีเทาเช่นเดียวกับหอคอย
แต่แล้ววันหนึ่งผู้หญิงสีขาวคนนั้นก็มาถึง เธอเปิดประตูหอคอยมืดมิดนั้นเข้ามา นำเอาแสงสว่างมาพร้อมกับเธอ ทำให้ชายสีเทาประหลาดใจ เมื่อแรกเขาเข้าใจว่าแสงสีขาวนั้นคือหิมะเริ่มฤดูหนาว แต่แล้วนัยน์ตาของเขาก็เบิกกว้างเมื่อพบว่าลำแสงนั้นอบอุ่นยิ่งนัก ผู้หญิงแปลกหน้านร้องเพลงให้เขาฟัง เสียงของเธออ่อนหวานจนเขาเข้าใจไปว่าดอกไม้กำลังร้องเพลง หัวใจอันเย็นชาถูกละลายจนเกิดเป็นความปิติยินดี เขาหลงรักเธอมากขึ้นทุกวันจนมิอาจขาดเธอได้
ชายสีเทาถามตนเองว่าหญิงนั้นคืออะไรกันแน่ เมื่อพบหน้าเธอนกน้อยในหัวใจจะพร้อมใจกระพือปีกราวพบเจอฤดูใบไม้ผลิ เธอเป็นดังแสงสว่างของอาทิตย์อันอ่อนโยน เป็นความรื่นเริงของท้วงทำนองอันหรรษา แต่เมื่อไม่เห็นเธอนกในหัวใจของเขามันหงอยเหงาหุบปีกอย่างเงียบงัน เศร้าสร้อย เปลี่ยวเหงา และเจ็บปวด
หากถวิลหาเธอมากกว่านี้...ข้าจะตายหรือไม่?
เขากลัวจึงได้แต่รอคอยไม่กล้าออกไปนอกหอคอย ชายสีเทายังคงเฝ้ารอด้วยความเงียบเหงา วันแล้ววันเล่า และมองลงไปที่ผืนทะเลครามนั้น
โอ้...หญิงสีขาว ข้าไม่เข้าใจเลย...ความรักมันเป็นเรื่องแปลกประหลาดเกินไป เกินความรู้ในตัวข้า แต่ข้าอยากจะเข้าใจเธออีกครั้ง...ขอแค่อีกสักครั้ง หากข้าสามารถเรียนรู้ เธอผู้เป็นดังกุหลาบตูมที่กำลังจะเบ่งบาน เป็นดังแสงสว่างที่เข้ามาขจัดความมืดมิด หากดอกกุหลาบประทับจุมพิตลงบนดวงใจสีเทาหม่นนี้ แม้นวิญญาณของข้าจะร่วงหล่นลงไปบนพื้นดินเพื่อแลกจุมพิตนี้...ก็ยอม
ชายสีเทาอธิษฐานกับจันทร์เสี้ยวตาแมว แสงสว่างอันน้อยนิดที่เขารู้จักก่อนหญิงสีขาวจะเข้ามาในชีวิต จันทร์เอ๋ย...เรื่องราวของเธอคนนั้นมันมากมายเกินกว่าชายผู้หนึ่งจะบอกเล่าให้เจ้าฟังได้ เธอคือพลังแห่งข้า...เป็นยาขนานวิเศษที่เลอเลิศยิ่งกว่ายาใดแต่เธอจะรู้ไหม....ว่าชายสีเทาเฝ้ารอ ยิ่งเวลาล่วงผ่านไปความรักกลับยิ่งเอ่อล้น ดังแสงหนึ่งฉายไปกระทบความหม่นหมองของสีเทาจนแตกสลาย มีคำพูดนับไม่ถ้วนที่เขาอยากเอ่ยกล่าวให้หญิงนั้นฟัง...
ชายสีเทายังรอคอยหญิงสีขาวอยู่บนหอคอโดดเดี่ยวเหนือทะเลนั้นต่อไป จนดวงตาแมวหายลับจากขอบฟ้าไป และส้มผลโตขึ้นมาแทนที่ เขายังยืนอยู่ ณ ที่นั้น
หญิงเอย...เธอเป็นดังจุมพิตของกุหลาบ เป็นความฝันกลิ่นหอมหวาน ชายสีเทาเรียกหาอยู่ในใจแต่เธอไม่ได้ยิน ลมเย็นพัดเอาหิมะเข้าปกคลุม มหาสมุทรเงียบงันแม้คลื่นก็มิไหวติง แต่ชายคนนั้นยังอยู่บนหอคอย จนกระทั่งหิมะหยุดตก นัยน์ตาของเขาเบิกกว้างและมองเห็น
แสงสว่างแห่งเธอส่องลงมา บัดนี้เธอผู้เป็นดังกุหลาบกำลังเบ่งบาน โน้มปีกลงเพื่อจุมพิต จูบนั้นประทับลงบนชายสีเทาหม่นผู้หงอยเหงา เขาซาบซึ้งเกินกว่าจะเอ่ยออกมาเป็นคำพูดได้
หญิงสีขาว...หากหัวใจข้าพูดได้...มันคงบอก....ว่าเธอคือผู้รังสรรค์ เธอปั้นแต่งเอาความรู้สึกต่างๆ ให้ชายหมองหม่นผู้นี้ ทั้งความหวั่นไหว ความยินดี ความถวิลหา ความลุ่มหลง ทุกสิ่งอัน...ล้วนเกิดขึ้นด้วยมือเธอ...
โอ้...ที่รัก เธอเปรียบดังจุมพิตของดอกกุหลาบที่มอบให้ชายสีเทาหม่นอย่างข้า เป็นดังแสงสว่างที่เข้ามาขจัดความมืดมิดให้ใจดวงนี้
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แก้ไขเมื่อ 16 ม.ค. 50 22:49:49
แก้ไขเมื่อ 16 ม.ค. 50 22:36:39
จากคุณ :
รัญช์
- [
16 ม.ค. 50 22:35:06
]