Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    "โคตรมันส์ พันธุ์กู้ภัย" เรื่องจริง..ในปฏิบัติการป่วนสยอง หลอนสะเด็ด !

    "โคตรมันส์ พันธุ์กู้ภัย"
    เรื่องจริงที่ของหน่วยกู้ภัย...ในปฏิบัติการที่ป่วนสยอง หลอนสะเด็ด !
    โดย b_lek2000@hotmail.com

    ตอน...วีรบุรุษสุดจำเป็น
    ผม..อดีตเป็นพนักงานรับ-ส่งเอกสารของบริษัทแห่งหนึ่ง หน้าที่การงานขณะนั้น ไม่ว่างานราษฎร์หรืองานหลวง ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานกู้ภัยฯ เลย แต่เหมือนดั่งสวรรค์บัญชาโชคชะตาลิขิตเปลี่ยนทิศชีวิตต้องอุทิศกายให้งานกู้ภัยฯ แบบเต็มตัว โดยที่ผมไม่ได้คิดกะเกณฑ์ชีวิตไว้ล่วงหน้าว่าอนาคตจะต้องสวมชุดซาฟารีตะลุยภารกิจเกี่ยวกับความเป็นความตาย

    จำได้ว่าคืนนั้นราวตี 2 ผมขับรถมอเตอร์ไซค์กลับจากสังสรรค์กับเพื่อนฝูง แม้เมานิดหน่อย แต่ยังมีสติดี ขณะเลี้ยวมอเตอร์ไซค์คู่ใจเข้าซอยบ้าน ก็พบว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่ปากซอย คือมีรถเก๋งผู้ชนจอดขวางถนน ใกล้ ๆ กันนั้นมีมอเตอร์ไซค์ผู้ถูกชนล้มคว่ำ และมีลุงคนหนึ่งนอนบาดเจ็บพะงาบ ๆ แต่ไม่มีไทยมุงคนไหนกล้าเข้ามาช่วยเลย อีกทั้งคงลืมโทร.แจ้งเหตุแน่ ๆ ผมจึงรีบจอดมอเตอร์ไซค์แล้ววิ่งไปช่วยพยุงลุงบาดเจ็บ จากนั้นปรี่ไปดูที่รถเก๋ง พบว่ามีหญิงวัยกลางคนนั่งสั่นพั่บ ๆ ด้วยความตกใจกลัวอยู่ในรถ

    “อ้าวพี่ ทำไมไม่พาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาลล่ะ” ผมถาม
    พี่ผู้หญิงร้องไห้ ปากพร่ำละล่ำละลักว่า “น้อง ช่วยพี่ด้วย พี่ทำอะไรไม่ถูกแล้ว”

    ผมหันรีหันขวาง เอาไงดี แต่ชักช้าไม่ได้ คนเจ็บอาการสาหัสมาก เลือดเปรอะเต็มใบหน้า “งั้นพี่ช่วยเปิดประตูหน่อย” ว่าแล้วผมก็วิ่งไปอุ้มลุงบาดเจ็บขึ้นรถเก๋งทันที “ไปโรงพยาบาลด่วนเลยพี่ !”

    “น้อง พี่ตกใจมาก ขับไม่ไหวแล้ว ช่วยขับแทนพี่ได้มั้ย” เสียงเธอสั่นเครือ

    ยุ่งล่ะสิ เกิดมาผมไม่เคยขับรถยนต์เลย ขับเป็นแต่มอเตอร์ไซค์ สถานการณ์เริ่มกดดันบีบเค้นให้ทุกอย่างเลวร้ายลงทุกที อีกทั้งสายฝนต้นวสันตฤดูเริ่มโปรยปรายลงมา

    ผมฝากมอเตอร์ไซค์คู่ใจไว้กับร้านขายของชำหน้าปากซอย ก่อนจะเข้าไปนั่งที่เบาะคนขับด้วยความมึนงงกับปุ่มเกียร์ต่าง ๆ พลางพร่ำถามว่า ปุ่มนี้ทำอะไร ปุ่มโน้นทำอะไร เข้าเกียร์ยังไง พอสตาร์ทรถได้ปั๊บ ผมก็เหยียบคันเร่ง รถกระตุก 2-3 ที คนเจ็บที่นอนเบาะหลังกระแทกเบาะรถตามแรงกระตุก แล้วเครื่องก็ดับลง พอสตาร์ทได้ใหม่อีกครั้ง รถก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ผมตกใจมาก กระทืบเบรกทันที รถหยุดฉับไว ใบหน้าผมกระแทกเข้ากับพวงมาลัยอย่างจัง คนเจ็บกลิ้งกึก ๆ ร่วงลงมากระแทกที่พื้นวางเท้า ปัดโธ่ ! ซวยจริง ๆ

    ผมกับพี่ผู้หญิงช่วยกันอุ้มคนเจ็บขึ้นมานอนพักบนเบาะอีกครั้ง ก่อนสตาร์ทรถได้ใหม่แล้วขับประคองไปอย่างทุลักทุเลจนถึงโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท

    เมื่อคนเจ็บถึงมือหมอเรียบร้อยแล้ว ไม่นานนักญาติ ๆ ก็แห่กันมาที่โรงพยาบาล (หลังจากคนเจ็บแจ้งเบอร์โทร.ให้ผมช่วยโทร.ไปบอก) ญาติ ๆ และพี่ผู้หญิงคู่กรณีต่างก็ยกมือไหว้ขอบคุณผมเป็นการใหญ่เลยนะ โอ้โห ตอนนั้นผมภูมิใจมากเลย ดีใจยิ่งกว่าได้เมียสวยแถมถูกหวยซะอีก แต่ว่าผมจะต้องกลับไปเอามอเตอร์ไซค์ที่จอดฝากทิ้งไว้ที่ร้านขายของชำหน้าปากซอย พี่ผู้หญิงพอได้สติ จึงอาสาขับรถเก๋งปุเลง ๆ พาผมส่งกลับไปที่จุดเกิดเหตุ

    ต่อมาผมได้รู้จักกับพี่ ๆ กู้ภัยฯ ของมูลนิธิแห่งหนึ่ง จึงคิดว่าหากเราได้สมัครเป็นอาสากู้ภัยฯ พร้อม ๆ กับทำงานประจำที่บริษัทแห่งเดิมไปด้วย ก็จะทำประโยชน์ให้สังคมมากกว่า จึงตัดสินใจสมัครเป็นอาสากู้ภัยฯ ตั้งแต่นั้นมา

    ทีนี้การทำงานประจำในตำแหน่งพนักงานรับ-ส่งเอกสาร ทำให้ผมต้องวิ่งรถตามท้องถนนบ่อย ก็เลยพบเห็นอุบัติเหตุบ่อย ด้วยหัวใจของคนที่เป็นอาสากู้ภัยฯ เมื่อเห็นอุบัติเหตุก็รีบเข้าไปช่วยทุกครั้ง ที่รถมอเตอร์ไซค์ของผมจะเก็บอุปกรณ์กู้ภัยฯ ชิ้นเล็ก ๆ ไว้เพียบ พร้อมชุดอาสากู้ภัยฯ ไว้ด้วย เมื่อจะออกปฏิบัติหน้าที่อาสากู้ภัยฯ ยามฉุกเฉินจะได้คว้าชุดมาสวมใส่ได้ทัน แต่เมื่อการปฏิบัติหน้าที่กู้ภัยฯ พร้อม ๆ กับต้องปฏิบัติงานประจำไปด้วย ก็กระทบกับงานประจำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    หัวหน้าที่บริษัทเรียกผมไปคุยหลายครั้ง ผมก็เลยค้นหาตัวเอง ว่างานที่ชอบจริง ๆ น่าจะเป็นงานกู้ภัยฯ ช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์มากกว่างานรับ-ส่งเอกสาร ผู้ใหญ่ที่ผมเคารพท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า

    “งานอะไรก็ตาม ถ้าเราชอบ ก็จะทำได้นาน”

    ผมว่าจริงนะ และงานนั้นควรจะเป็นงานที่มีเงินเดือนประจำและมีสวัสดิการเลี้ยงชีพได้ด้วย คิดได้ดังนั้นผมก็ยื่นใบลาออกจากบริษัทเดิม แล้วถอดชุดอาสากู้ภัยฯ เพื่อสมัครเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ตัวจริงแบบเต็มเวลาตั้งแต่นั้นมา

    ตอน..ถามใจ...ก่อนตะลุยกู้ภัยฯ

    บุคลากรด้านงานกู้ภัยฯ มีทั้งที่เป็นอาสากู้ภัยฯ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ตัวจริง ใครที่จะมาเป็นอาสากู้ภัยฯ นั้น ต้องถามใจตัวเองว่าพร้อมที่จะเสียสละทั้งเวลาและความสุขสบายหรือไม่ เพราะก่อนจะมาเป็นอาสากู้ภัยฯ นั้นส่วนใหญ่จะมีงานประจำทำแล้ว จึงใช้เวลาว่างหรือหลังเลิกงานมาเป็นอาสากู้ภัยฯ อีกทั้งงานนี้ต้องเสียสละอย่างมาก เพราะต้องออกค่าใช้จ่ายเองหมดทุกสตางค์ เช่น ชุดยูนิฟอร์ม, ค่าน้ำมันรถ, ค่าอุปกรณ์กู้ภัยฯ เป็นต้น แถมไม่มีเงินเดือน ไม่มีเบี้ยเลี้ยงด้วย นอกจากงานกู้ภัยฯ เฉพาะกิจที่ต้นสังกัดเจาะจงมาจึงจะมีเบี้ยเลี้ยงให้

    จะเห็นได้ว่ากว่าที่ใครสักคนจะมาเป็นทีมกู้ภัยเก็บศพน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และเมื่อได้เป็นอาสาหรือเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ น้องใหม่แล้ว ก็จะต้องเรียนรู้งานกู้ภัยฯ ต่อไป ดังนั้น สถานการณ์ในเหตุการณ์จริงจึงเป็นสนามวัดใจกู้ภัยฯ น้องใหม่ได้อย่างดี โดยมีอาสาหรือเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ รุ่นพี่คอยเป็นพี่เลี้ยงให้ และงานวัดใจหนึ่งนั้นเรียกได้ว่าเป็นด่านอรหันต์ ว่ากู้ภัยฯ น้องใหม่จะอยู่หรือจะไป ภารกิจ ปฏิบัติการ “อำเพื่อชาติ” จึงแผลงฤทธิ์ขึ้นให้ขนหัวลุกตั้งแต่บัดนี้ !

    (โปรดติดตามตอนต่อไป...)

    จากคุณ : b_lek2000@hotmail.com - [ 17 ม.ค. 50 15:50:54 A:125.26.234.10 X: TicketID:124970 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom