-*- เพราะอะไรหนอ...คุณถึงไม่ค่อยกล้ามาที่นี่ล่ะ ที่นี่ก็เว็ปบอร์ดสาธารณะเหมือนกันนะจ๊ะ และไม่ใช่ที่อยู่ของคนหน้าหนาจึงต้องทำหน้าหนาถึงจะเข้ามาได้
เอาล่ะ เข้าเรื่องเลยดีกว่า...ถ้าคุณกล้าขอ เราก็กล้าให้ตามที่คุณขอมาเลย
เข้าไปอ่านตามลิงค์อย่างรวดเร็ว เท่าที่เห็นด้วยสายตาคราว ๆ เลยนะ
อันดับแรก - งานเขียนของคุณลำดับเรื่องราวไม่ค่อยดีเท่าไร
การลำดับเรื่องราวก็เหมือนกับการตัดต่อหนัง ถ้าตัดต่อไม่ดีจะพาคนอ่านงงได้ เท่าที่เห็นชัด ๆ เลย เรื่องอายุของตัวเอกในช่วงต้น ลำดับชีวิตเขาค่อนข้างสับสน โดยเฉพาะระยะเวลาในการดำเนินเรื่องของตัวละครแต่ละตัวขัดแย้งกัน แม่ทำมาหากินสร้างตัว ดาวน์รถ ซื้อที่ได้สำเร็จ แต่ลูกชายไม่ได้โตขึ้นเลย เท่าที่อ่านดูตอนแรกดูเหมือนรพจะย่ำอยู่ที่ป.4 นานเกินไป ถ้าเทียบกับแม่ที่ตั้งตัวได้ไวจนเหมือนเวลาน่าจะผ่านไปสาม - สี่ปีแล้ว เดี๋ยวเล่าข้ามไปถึงตอนโต เดี๋ยวกลับมาเด็ก
คำแนะนำเบื้องต้น ให้คุณทำตารางอายุขึ้นมาเลย แบ่งเป็นช่วงอายุที่ปรากฏในเรื่อง แล้วเขียนลงไปว่า อะไรเกิดขึ้นในช่วงไหน จะได้ไม่กระโดดไปกระโดดมา
เรื่องที่สอง - อ่านดูแล้วจำชื่อพี่น้องบ้านนี้ไม่ได้ ตกลงมีกี่คน ชื่ออะไรบ้าง คนไหนพี่ คนไหนน้อง ไม่ชัดเจน น่าจะให้ตัวเองแนะนำครอบครัวในเบื้องต้น และเวลามีตัวละครใหม่เข้าไปในเรื่องน่าจะเขียนเล่าถึงแบล็กกราวด์ให้มากกว่านี้หน่อยนะคะ
เรื่องที่สาม - ในเรื่องของพี่เลงที่อยากเป็นนักบินแต่ต้องไปสอบเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ เหตุผลไม่ค่อยชัดเจน ที่จริงอยากเป็นนักบินก็สามารถสอบนายร้อยทหารอากาศได้ จบออกมาเป็นทหารแล้วก็ได้เป็นนักบินเหมือนกัน
และทหารยังเป็นงานที่ต้องใช้ความเสียสละ ปกป้องประเทศชาติได้เช่นกัน จึงมองดูว่าเหตุผลที่พี่เลงต้องตามใจพ่ออ่อนไป อีกอย่างนักเรียนนายร้อยตำรวจไม่ใช่สิ่งที่คนหมางเมิน แต่เป็นสิ่งที่หลายคนแย่งกันเข้าเสียด้วยซ้ำ เหตุผลที่พูดกับลูกชายว่า 'ถ้าคิดแบบนี้ใครลูกหมด ใครจะเป็นตำรวจ' เลยสร้างภาพความเป็นฮีโร่ได้ไม่ชัดเจนเท่าไรนะ
เรื่องที่สี่ - เรื่องนี้นั้น ตอนต้นกับปลายไปกันคนละเรื่องเลย ตอนต้นอ่านดูแล้วจะเหมือนเป็นเรื่องราวความเสียสละของข้าราชการตำรวจที่ไปประจำสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตอนท้าย ๆ บ่นเรื่องชีวิตของรพไปทำมาหากินไรก็ไม่ประสบความสำเร็จ อ่านแล้วได้อารมณ์ว่า ตอนต้นเป็นชมพู่ จู่ ๆ กลายเป็นทุเรียนไปได้วุ้ย
คุณควรจะหาประเด็นที่ต้องการสื่อสารกับผู้อ่านให้ชัดเจนกว่านี้ แล้วมุ่งตรงไปในส่วนนั้น อย่าหลงทางเดินสะเปะสะปะ เพราะจะทำให้อรรถรสหายไปอย่างน่าเสียดาย
เรื่องที่ห้า - ดำเนินเรื่องเรียบสนิท ไม่มีจุดไคลแม็กซ์อันนี้มันจะทำเรื่องน่าเบื่อนะ เรื่องที่ดีจะต้องเร้าอารมณ์คนอ่านที่ตื่นเต้นและคอยติดตามดูตัวละคร ไม่ควรจะดำเนินเรื่องเรียบแบบนี้นะคะ อาจจะเล่นเรื่องความขัดแย้งความคิดของครอบครัวก็ได้
เรื่องที่หก - อันนี้เป็นข้อเสนอแนะเพิ่มเติมนะคะ เราอ่านดูแล้วพบว่าในการเขียนนั้น คุณได้มองข้ามพวกอารมณ์ของตัวละครแวดล้อมไปอย่างน่าเสียดาย ยกตัวอย่างเช่นคุณแม่ปามีดบินใส่พ่อ ตามสถานการณ์นั้นเรื่องมันค่อนข้างรุนแรง แต่เราไม่เห็นว่าพวกลูกที่ยืนดูจะเกิดปฏิกิริยาอะไรเลย เลยรู้สึกว่าอารมณ์ตัวละครบางช่วงดูหนัก บางช่วงดูเฉยจนน่าเสียดาย
แถมอีกเรื่องหนึ่ง คุณพ่อของรพน่าจะเอาพระออกสักสองพวงนะ เป็นนายตำรวจผู้กล้า (ฮีโร่) ไม่น่าจะต้องสวมพระพวงใหญ่สามพวง มันดูแปลก ๆ เหมือนคนขี้ขลาด
ตามธรรมดาแล้ว คนที่เล่นพระจะนิยมแขวนพระแค่ 1 เส้น มีพระห้าองค์เรียงตามลำดับ อันนี้มีที่มาจากการแขวนแบบเบญจภาคี แต่เนื่องจากเบญจภาคีที่เป็นสุดยอดพุทธคุณมีราคาสูง เขาจึงนิยมนำพระอื่นมาบูชาที่คอแทน แต่ก็ยังนิยมแขวนห้าองค์ ไม่ได้เป็นพวงสามพวงนะคะ
อ้อ ! อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้ข้ออื่น ทราบมาว่าคุณมีความตั้งใจดีที่จะนำไปตีพิมพ์และบริจาครายได้ส่วนหนึ่งให้เป็นสาธารณะกุศล ก็อยากจะให้เช็กความยาวของงานเขียนหน่อย รู้สึกว่าจะสั้นไปนิดหนึ่ง อาจจะไม่พอที่จะรวมเล่มขายได้นะคะ
ท้ายสุด...อย่าท้อที่จะทำตามความฝันของเรา แม้ว่าจะมีใครติเตียนแค่ไหน เพชรและถ่านมีธาตุประกอบเป็นคาบอนเหมือนกัน แต่เพชรกลับมีคุณค่าสูงกว่าเพราะว่าเพชรต้องผ่านแรงกดดันมากกว่าถ่านหลายเท่า ในท้ายสุดเพชรจึงเป็นธาตุที่แกร่งและมีคุณค่าเป็นที่ต้องการของใคร ๆ
ด้วยไมตรีจิตค่ะ
แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 50 14:25:58
แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 50 22:13:30
แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 50 21:05:59
แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 50 20:16:29
แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 50 20:12:26