ความคิดเห็นที่ 1
หน้าที่แปด : อดีตที่ถูกปิดกั้น
...ขอให้ฉันได้ดูอดีตเมื่อห้าปีก่อนของนาย..จะได้ไหมไนส์?...
กระถินกล่าวถามเสียงเรียบ..แต่ทว่าหนักแน่นกึกก้องสะท้อนไปทั่วบริเวณ ดุจเสียงเพรียกแห่งดวงวิญญาณของเหล่าผู้เฝ้าโบราณสถาน
..ก..กระถิน.. ชายหนุ่มผู้ถูกกระชับร่างเพื่อไต่ถาม เอ่ยปากหวังเรียกสติคู่สนทนา ..อ...
...ขอให้ฉันได้ดูอดีตเมื่อห้าปีก่อน. จะได้ไหม?...
เสมือนดั่งพูดกับสายลม ร่างบางไม่ได้แสดงท่าทีรับฟังแม้สักนิด แถมกระนั้นยังกระชับเพิ่มแรงยึดก่อนจะพร่ำคำถามซ้ำไปซ้ำมาราวกับหุ่นยนต์
...ขอดูอดีตเมื่อห้าปีก่อน..จะได้ไหม?...
หยาดน้ำใสเริ่มไหลล้น เอ่อคลอผิวแก้มนวล
...ขอดูอดีต..เมื่อห้าปีก่อน...
ฝีปากบางเม้นแน่น เสียงสั่นเครือ
...ข..ขอดูหน่อย..ได้ไหม?..ข..ขอให้ฉัน...ขอ..ขอให้..ฉัน...
นี่กระถิน! เมื่อเห็นว่าปล่อยไปเช่นนี้คงไม่ดีแน่ ไนส์จึงตัดสินใจเอื้อมนิ้วขึ้นปาดคราบน้ำตาให้ร่างบาง พร้อมกับกล่าวเรียกสติเสียงลั่น ตั้งสติหน่อยสิ!
อ๊ะ! เมื่อได้ฟื้นคืนสติ กระถินก็รีบเอี้ยวตัวหลบสายตาของชายหนุ่ม ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำราวลูกตำลึงสุก ...ขะ..ขอโทษ.... ก่อนจะสะบัดมือที่รัดแน่นราวโอบกอดออกอย่างรวดเร็ว ..เมื่อกี้..ฉันลืมตัวไปหน่อย...
..ไม่..ไม่เป็นไรหรอก... ด้วยท่าทีขวยเขินดุจหญิงสาวของคู่สนทนา ก็เล่นเอาชายหนุ่มเขินจนหน้าแดงก่ำขึ้นเช่นกัน ...สำหรับนายแล้ว..คนที่นายเรียกว่า มัน คงจะเป็นคนที่ต้องหาตัวให้พบให้ได้ใช่ไหม?..
หงึก...หงึก...
ร่างบางก้มหัวขึ้นลงช้าๆ...แสดงท่าทีเป็นคำตอบ
..เข้าใจล่ะ... ไนส์ฉีกยิ้ม จะขอดูอดีตเมื่อห้าปีก่อนใช่ไหม?
อืม กระถินตอบกลับเสียงแผ่ว ..อดีต..เมื่อห้าปีก่อน
..อดีตเมื่อห้าปีก่อนหรือ?...ถ้าเป็นนายล่ะก็... ชายหนุ่มหน้านิ่วครุ่นคิดได้สักพักก็ออกปากอนุญาต ได้สิ นายจะดูอดีตเมื่อห้าปีก่อนหรือสิบปีก่อนก็ได้ ฉันไม่ว่าอะไรหรอก ก่อนจะกล่าวข้อเสนอแลกเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย เพียงแต่..ฉันขอถามอะไรสักเรื่องก่อนจะได้ไหม?
..เรื่องของ มัน สินะ.. เบาราวเสียงกระซิบ..
...และแล้ว..ผมก็ได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมด..เรื่องราวของวิกฤตการณ์ทางเวทมนต์ครั้งยิ่งใหญ่เมื่อห้าปีก่อน..วิกฤตการณ์ทางเวทมนต์อันเป็นสาเหตุให้คณะรัฐบาลทั่วทั้งโลกตัดสินใจจัดตั้งสหพันธ์โรงเรียนผู้พิทักษ์ขึ้น..วิกฤตการณ์ทางเวทมนต์ที่ไม่มีผู้ใดบอกเล่าแก่ผมเลยนับแต่ผมฟื้นสติขึ้นจากเตียงโรงพยาบาล...
...ถ้าไม่เล่าให้ฟัง..ก็จะดูไม่ยุติธรรม..อย่างนั้นสินะ... ร่างบางกล่าวตอบด้วยแววตาที่เหม่อลอย..
...ถึงแม้กระถินจะไม่ได้เล่าให้ผมฟังทุกเรื่อง แต่ผมก็รู้แล้วว่า มัน เป็นผู้ที่ทำให้จังหวัดสามจังหวัดกับสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่อาศัยอยู่ ณ สถานที่แห่งนั้นหายสาบสูญไปจากโลกนี้ตลอดกาล..ด้วยเหตุผลเพียงเพื่อประกาศศักดาของตน...
ได้สิ ฉันจะเล่าให้ฟังเอง
...หลังจากนั้นก็ใช้เปลวเพลิงจากขุมนรก..เปลวเพลิงสีนิลกาฬแห่งหายนะ..แผดเผารุนรานออกไปทั่วทุกแห่งหน..สร้างฝันร้ายกับบาดแผลที่ยากจะรักษา..เหลือทิ้งให้แก่เหล่าผู้เหลือรอดตราบจนถึงทุกวันนี้...
---------------------------------------------------
..จะเรียกว่าโชคดีก็คงไม่ถูกนักหรอก ถึงฉันจะรอดตายมาได้เพราะไปทำงานนอกสถานที่ก็เถอะ กระถินกล่าวขณะซับคราบน้ำตา แต่ครอบครัวของฉัน..คนที่ฉันรู้จัก..คนที่ฉันรัก..ทุกคน...กลับอยู่ในอาณาเขตสามจังหวัดที่ มัน ทำลายเพื่อประกาศศักดาของตน...
..... ชายหนุ่มนิ่งเงียบรับฟังอย่างตั้งใจ ถึงแม้จะแสดงสีหน้าลำบากใจออกมาให้เห็นบ้างก็ตาม
พอฉันกลับมาถึงบ้านในวันนั้น..ฉันก็ได้รู้จักกับคำว่าความหวาดกลัวเป็นครั้งแรก...ทุกสิ่งที่ฉันคุ้นเคย..ทุกสิ่งที่ฉันรู้จัก..ทุกๆสิ่งนั้นกลับสูญสลายกลายเป็นเถ้าถ่าน จากเปลวเพลิงที่โหมลุกราวกับจะไม่มีวันดับมอดนั่น.. ร่างบางยังคงเล่าเหตุการณ์ต่อไป ฉันหวาดกลัว..ไม่ว่าจะเป็นเปลวเพลิงที่โหมลุก..ไม่ว่าจะเป็นไอร้อนที่แผ่พุ่ง..หรือกระทั่งกลุ่มควันที่ลอยคลุ้งออกมาจากซากเถ้าถ่าน...ในตอนนั้นฉันทำได้แค่ร่ำไห้อย่างไร้จุดหมาย...ร่ำไห้อย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะทำมาก่อนเลยในชีวิต... พร้อมกับเสียงกัดกรอดฟันที่ดังแทรกขึ้นเป็นระยะๆ ...แต่..ถึงฉันจะเศร้าเสียใจสักแค่ไหน..เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วมันก็ไม่สามารถแก้ไขได้...ด้วยเหตุนี้แหละ ฉันจึงพยายามเอาชนะความหวาดกลัวนั่น จนกระทั่งฉันสามารถจ้องมองเปลวเพลิงได้โดยไม่มีความหวาดกลัวใดๆหลงเหลืออยู่..
...อืม! ในตอนนี้นายไม่หวาดกลัวเปลวเพลิงอย่างแน่นอนกระถิน..แต่ฉันขอแก้นิดหน่อยตรงที่..นายน่ะไม่ได้เอาชนะความหวาดกลัวหรอก..แต่นายเปลี่ยนให้ความหวาดกลัวกลายเป็นความบ้าคลั่งแทนต่างหากล่ะ....การที่ผมคิดเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าผมจะไม่เห็นใจกระถินหรอกนะครับ..แต่เพราะเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด มันทำให้ผมอดที่จะคิดเช่นนี้ขึ้นมาเองไม่ได้ก็เท่านั้น...
..แต่ยังไงฉันก็ต้องขอบคุณความคับแค้นที่มี มัน ที่ช่วยผลักดันให้ฉันมีชีวิตอยู่ต่อไป.. หลังจากนิ่งเงียบได้สักพักกระถินก็กล่าวโพล่งขึ้นอย่างสุดเสียง พร้อมกับขยำกำหมัดจนแน่นตึง ทำให้ฉันมีชีวิตอยู่ต่อไปในฐานะกุ๊กชั้นเยี่ยมที่สามารถควบคุมเปลวเพลิงได้ทุกชนิด!!!
ทันใดนั้นเอง หมัดขวาของชายหนุ่มก็กระทุ้งเข้าใส่หัวของกระถินทันที
โป๊ก!
โอ๊ย!...เจ็บนะไนส์... ร่างบางโอดครวญขณะคลึงฝ่ามือบนหัวเบาๆ แขกหัวเขาทำไมอ่ะ?
เปล่าๆ ก็แค่หงุดหงิดกับนิสัยส่วนตัวของนายนิดหน่อยน่ะ ไนส์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงหน่ายโลก ...เอาเถอะ..เสียเวลามาเยอะแล้ว นายอยากจะทำอะไรก็รีบทำดีกว่านะ..
จริงด้วยสิ.. กระถินกล่าวก่อนจะหยิบลูกแก้วสีขาวใสขึ้นมาบนมือ ขอโทษด้วยนะ ทั้งๆที่นายกะจะให้ความทรงจำกลับคืนมาเองแท้ๆ
ฮึ ไม่เป็นไรหรอก..ที่ฉันอยากให้ความทรงจำกลับคืนมาเองก็เพราะ ฉันไม่อยากให้คนอื่นสอดแทรกความทรงจำปลอมๆให้ก็เท่านั้น ชายหนุ่มเดินเข้าหาคู่สนทนาก่อนจะหยุดยืนห่างราวหนึ่งศอก ..แต่ถ้าเป็นนายล่ะก็..ฉันเชื่อใจ ถึงแม้พอดูอดีตแล้วพวกเราทั้งสองคนอาจจะต้องต่อสู้กันเองก็ตามที...
...ขอบคุณ... เสียงใสกล่าวรับ ...แล้วก็ขอโทษด้วยนะ...
ทันทีที่สิ้นบทสนทนา
แวบ...
ประกายแสงสีเงินก็เจิดจ้าขึ้นท่ามกลางความมืดมิดแห่งโบราณสถาน ดุจดวงตะวันที่ฉายฉานขับไล่รัตติกาลยามอรุณรุ่ง
..แกรก..
ทว่า หลังจากที่ลูกแก้วส่องประกายแสงได้ไม่นาน..
เปรี๊ยะ!
..ก็พลันเกิดรอยแตกร้าวและแรงอัดมหาศาล
ตูม!
..ผลักกระแทกคนทั้งสองให้ลอยไปคนละทิศคนละทาง
โครม!
ราวกับผลจากลูกระเบิดขนาดเล็ก..ร่างของชายหนุ่มถูกแรงเหวี่ยงโยนไถลไปตามพื้น ผิดกับร่างบางที่ถูกโยนกระแทกเข้ากับผนังหินอย่างจัง
..บ้าชะมัด.. ครั้นเมื่อตั้งหลักยันตัวขึ้นมาได้ ไนส์ก็รีบพุ่งตัวไปหาคู่สอบของตนทันที เป็นอะไรรึเปล่ากระถิน?!?
..ฉันไม่เป็นอะไรหรอก..ขอบใจนะ.. เสียงใสบ่นกระปอดกระแปด ..แต่ลูกแก้วนี่สิ.. ก่อนจะยกลูกแก้วตัวการขึ้นพิจารณา ว้าย..ขนาดนี้เลยหรอเนี่ย?..
จากลูกแก้วทรงกลมสีขาวใส..บัดนี้กลับเต็มไปด้วยรอยแตกร้าวจนขุ่นมัว
เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นน่ะกระถิน? ชายหนุ่มตั้งคำถามพลางถอดถอนใจเบาๆ ..เฮ้อ...ว่าแต่นายช่วยเป็นห่วงตัวเองให้มากกว่าลูกแก้วนั่นจะได้ไหมเนี่ย?
..เมื่อครู่ ลูกแก้วของฉันทนพลังงานเวทมนต์ในห้วงเวลาของนายไม่ได้..อืม... ถึงแม้กระถินจะกล่าวตอบ แต่ดวงตากลมใสกลับจับจ้องพิจารณาลูกแก้วอย่างตั้งใจ ..ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ..มีพลังงานเวทมนต์มหาศาลผนึกห้วงเวลาเหตุการณ์ช่วงสามวันก่อนที่นายจะความจำเสื่อมอยู่..แล้วพอฉันจะคลายผนึกนั้นลูกแก้วก็ทานพลังงานเวทมนต์ไม่ไหว เกิดระเบิดออกมาน่ะสิ... เหมือนกับว่าไม่ได้ใส่ใจคู่สนทนาเลยสักนิด
หากเป็นจอมเวทมนต์ทั่วๆไป คงเข้าใจคำพูดของกระถินได้แทบจะทันที
เอ๋?..ผนึกห้วงเวลา?... แต่ทว่าสำหรับชายหนุ่มแล้ว..มันเป็นเรื่องที่เขาไม่เข้าใจเลยสักนิด
.... ร่างบางชายตาขึ้นมองคู่สนทนาพร้อมรอยยิ้ม คิก..เอาไว้อธิบายทีหลังก็แล้วกัน สำหรับเรื่องนี้มันต้องเล่ากันอีกนานน่ะ
อืม เข้าใจแล้ว...ว่าแต่เรื่องที่ฉันอาจจะเป็น มัน ล่ะว่าไง?
คิก ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกจ้ะ ไนส์น่ะไม่ใช่ มัน หรอกนะ กระถินหัวเราะเบาๆ ถึงฉันจะบอกว่ามีคนใช้พลังเวทมนต์ผนึกห้วงเวลาเหตุการณ์ของนายก็เถอะ แต่ช่วงเวลาเหตุการณ์ของนายตอนที่เจ้าปีศาจนั่นมันกำลังทำลายประเทศของฉันอยู่ไม่โดยผนึกไปด้วยนี่นา ก่อนหันไปตอบคำถามของชายหนุ่ม ตอนนั้นน่ะนายนอนดูทีวีอยู่กับบ้าน..เพราะฉะนั้นจึงเป็นคนละคนกันอย่างแน่นอนจ้า อีกอย่างนะ..ถ้าไนส์เป็น มัน จริงๆล่ะก็ ป่านนี้ฉันเข้าโจมตีหมายเอาชีวิตนายไปนานแล้วล่ะ ...แต่ความจริงแล้ว..เรื่องแค่นี้ไนส์น่าจะมองออกตั้งแต่แรกแล้วน้~า
ถ้าอย่างนั้น ถึงจะได้คำตอบพร้อมเหตุผลแล้วก็ตาม ไนส์ก็ยังคงไม่คลายความสงสัย ทำไมฉันถึงมีพลังเหนือกว่ามนุษย์ปกติล่ะ?
สำหรับเรื่องนั้น..คงเพราะไนส์เป็นพวกนักรบซะล่ะมั้ง? ..ถึงแม้จะทรงพลังมากกว่านักรบทุกคนที่ฉันเคยรู้จักมาก็เถอะ... กระถินเอียงคอหลับตาเค้นความคิด ..ตามปกติแล้วจอมเวทมนต์สายนักรบน่ะจะมีพลังทางกายภาพสูงมาก เนื่องจากการใช้พลังงานเวทมนต์มาเสริมประสิทธิภาพให้ร่างกายแทนที่จะปลดปล่อยออกมาในรูปแบบพลังงาน ก่อนจะคลี่ยิ้มส่งให้พร้อมคำตอบ ..การที่ไนส์สามารถทำเรื่องเหนือมนุษย์ได้ คงเป็นเพราะไนส์สามารถทำมันได้ตั้งแต่แรกแล้วล่ะ แต่หลังจากที่ฉันบอกว่ามันทำไม่ได้ไนส์ก็เลยคิดว่าต้องทำไม่ได้ตามไปด้วย เมื่อคิดอย่างนั้นพลังงานเวทมนต์ที่ปกติจะส่งออกมาเสริมประสิทธิภาพก็เลยหายไปน่ะสิ...
จากคุณ :
DarkNine
- [
21 ม.ค. 50 19:56:38
]
|
|
|