Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    พรายพยากรณ์ ตอนที่5

    ลิงค์เจ้าค่ะ
    พรายพยากรณ์ ตอนที่1
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5027610/W5027610.html

    พรายพยากรณ์ ตอนที่2
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5035970/W5035970.html

    พรายพยากรณ์ ตอนที่3
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5046456/W5046456.html

    พรายพยากรณ์ ตอนที่4
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5064019/W5064019.html



    พรายพยากรณ์ ตอนที่5

    เวลาที่ผ่านไปกับการกบดานอยู่กับสองสาว คล้ายมีโลกใบใหม่มาแสดงอยู่ตรงหน้า พฤติกรรมแต่ละอย่างล้วนแล้วแต่สร้างความสนิทสนมเพิ่มมากขึ้น ความสบายใจเมื่อได้อยู่ใกล้สองสาวผสมกับการฝึกพริ้วตัวหลบมุขอันแพรวพราวของพิณชนิดา พานให้รู้สึกไม่อยากกลับไปสู่ความเป็นจริงในโลกธุรกิจ  หน้าตาที่บวมปูดช้ำเขียวก็จางหายไปเกือบหมดซึ่งก็เป็นเหตุให้พิณชนิดามาเพ่งมองภูมินทร์อย่างปลื้มอกปลื้มใจอยู่ในขณะนี้

    “จุ๊ๆๆๆ คุณนี่หล่อไม่เบาเหมือนกันนะ สมแล้วที่เป็นเนื้อคู่ฉัน” แม้จะยืดกับคำชมนั้นแต่ก็ยังอดตะขิดตะขวงใจไม่ได้เมื่อประสานกับสายตาชื่นชมอย่างเปิดเผยนั้น

    “ขอบคุณ แต่ไม่ต้องมองผมอย่างกับจะกลืนกินอย่างนั้นก็ได้ ผมผวา” คำพูดของชายหนุ่มไม่ได้สร้างความกระอักกระอ่วนกับพิณชนิดาแต่อย่างใด

    “อ้าว คนหล่อก็ต้องชมสิคะ เอาน่ายังไงฉันก็เข้าใจว่าคุณยังทำใจไม่ได้ แต่เชื่อฉันสิไม่นานคุณก็จะชอบ”
    “คุณพูดทะลึ่งอะไรของคุณอีก อยู่แบบคนกันเองอย่างนี้พูดได้แต่ถ้าอยู่ต่อหน้าคนอื่นผมห้ามเด็ดขาดเลยนะ คนเขาได้ยินแล้วจะคิดกันยังไง” นานๆไปชายหนุ่มเริ่มเคลิ้มว่าเป็นคนกันเองกับสองสาวเข้าเสียแล้ว คำพูดนั้นทำให้พิณชนิดาอมยิ้มแต่ก็อดต่อปากต่อคำไม่ได้

    “คุณไปห่วงขี้ปากคนทำไมกัน ขึ้นชื่อว่าคนแล้วต่อให้เรื่องไม่มีอะไรแค่ไหนก็สามารถพูดปากยาวปากยื่นไปได้เพราะความสนุกปากกันทั้งนั้นล่ะ ถ้ามัวแต่แคร์คำคนอยู่ชีวิตนี้ก็ไม่ต้องกระดิกตัวทำอะไรกันพอดี”
    ชายหนุ่มได้แต่นิ่งอึ้งเถียงไม่ออก ..เอ้า..ในเมื่ออยากมองก็จะให้มองเสียให้พอ..

    เสียงไขลูกบิดหน้าห้องทำให้ทราบว่าคนที่จะเข้ามาคือภิชาสินี  แต่คนที่โผล่หน้าตามมาด้วยกลับเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญอย่างขวัญทิพย์เพื่อนร่วมคอนโดที่อยู่ห้องตรงกันข้าม ในมือขวัญทิพย์มีถ้วยใบเขื่องหนึ่งถ้วยปากก็พูดคล้ายเกรงอกเกรงใจเสียเหลือเกิน
    “แหม พอดีเลยนะคะน้องภิกลับมาจากมหา’ลัย พี่เลยพลอยฟ้าพลอยฝนเข้ามาด้วย คือน้ำตาลที่ห้องพี่หมดพอดีน่ะค่ะ ถ้าจะออกไปซื้อก็กลัวว่าขนมที่อยู่บนเตาจะไม่เข้าเนื้อเข้าน้ำ รบกวนหน่อยนะคะน้องพิณ”

    พิณชนิดากลอกตาไปมา นับเป็นครั้งที่ร้อยล้านแล้วที่พี่ขวัญคนนี้ย่องมาขอยืมข้าวของ นับตั้งแต่ข้าวสารไปยันเครื่องปรุง บางคราวก็ลามไปถึงจานชามจนแม้กระทั่งเครื่องดูดฝุ่น

    “แหม พอดีเลยนะคะ พี่ขวัญพิณจะให้ยัยภิไปเอาเครื่องดูดฝุ่นอยู่พอดี ภิจ๊ะพลอยฟ้าพลอยฝนไปเอาเครื่องดูดฝุ่นที่ห้องพี่ขวัญด้วยนะน้อง ..เอาไปตั้งเกือบอาทิตย์แล้วไม่รู้จักเอามาคืนสักที..”  ประโยคสุดท้ายแม่ตัวดีพูดจาขมุบขมิบกับตัวเองใบหน้าที่ยิ้มกว้างเหมือนกับไม่ถือสาหาความทำให้ขวัญทิพย์ยังคงยิ้มได้ เมื่อเห็นว่าพิณชนิดาทำท่าจะเดินมารับถ้วยไปใส่น้ำตาลก็ต้องร้องห้ามเสียงลั่น

    “อุ๊ยๆๆไม่ต้องค่ะไม่ต้อง เราคนกันเองพี่ไปหยิบเองได้ค่ะ..” สายตาอยากรู้อยากเห็นจ้องไปยังชายหนุ่มที่นั่งทำหน้าพิลึกอยู่บนโซฟา แล้วก็ให้จำได้ว่าเป็นคนเดียวกันกับที่เจอเมื่อสี่ห้าวันที่แล้ว เท้าที่จะก้าวไปในครัวหยุดชะงักพร้อมกับทำตาโต

    “ต๊าย นี่คุณคนนั้นที่เจอกันเมื่อสี่ห้าวันก่อนใช่ไหมคะ เอ๋ ทีแรกพี่นึกว่าเป็นแขกมาดูดวงของน้องพิณเสียอีก เอ...แต่อยู่นานขนาดนี้  ..อึ้ม.. แหมน้องพิณนี่ไม่เบาเลยนะคะ” พูดเองเออเองเสร็จสรรพก็หน้าแดงเดินหัวเราะคิกคักเข้าครัวจนภูมินทร์อดครางไม่ได้
    “หรือจะเพี้ยนกันทั้งคอนโดเลยหรือฟร่ะเนี่ย..”  ภิชาสินีหัวเราะลั่นเมื่อได้ยินเสียงบ่นครางของว่าที่พี่เขย  ขณะที่พิณชนิดาทำหน้าบานเป็นจานดาวเทียม

    ‘ดู ดู๊ ดูนังลูกสาวตัวดีของเราสิคุณ คนข้างห้องเข้าใจผิดว่ามันหิ้วผู้ชายมาค้างบ้านยังทำหน้าเป็นใบบัววิกตอเรียอยู่ได้ ผมล่ะอยากตายอีกหลายร้อยรอบ’
    ‘โถ่ คุณค่ะ คิดมากไปได้ ลูกเราไม่ได้เป็นอย่างที่ยายขวัญทิพย์คิดสักหน่อย’
    ‘ใช่..จะดีจะชั่วอยู่ที่ตัวคน ไม่ได้ชั่วตามความคิดคนอื่นสักนิด ตาปราชญ์แกนี่นับวันจะโวยวายจนน่ารำคาญมากไปแล้วนะ’
    เมื่อหันไปเห็นใบหน้าแจ่มใสไม่มีสลดเดือดร้อนของหลานสาวคนโตผู้เป็นป้าก็จำต้องพูดจาเข้าข้างหลาน แต่แล้วก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้เมื่อเห็นความไม่งามในความคิดที่ผู้อื่นมีต่อหลานสาวตน

    ‘เอ..แต่จะว่าไปมันก็ไม่เหมาะ ยายพิณพูดแก้อะไรบ้างสิลูก ยายภิก็ได้ช่วยพี่เขาหน่อย’ เมื่อบอกกล่าวหลานสาวคนโตไม่ได้ก็ต้องหันมาพึ่งหลานสาวคนเล็กที่สื่อสารกันรู้เรื่องมากกว่า ซึ่งน้องสาวสุดประเสริฐก็ช่วยเป็นอย่างดี

    “พี่ขวัญคิดไปถึงไหนแล้วคะ  พี่คนนี้น่ะเป็นลูกค้าพี่พิณค่ะ พอดีดวงพี่เขาพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก พระพุธร่อแร่ พระอังคารจับไข้ เลยต้องมาคุมพระราหูอยู่ที่นี่ไม่งั้นอาจจะเด็ดซะมอเร่ได้  แล้วภิก็อยู่ทั้งคนนอนกับพี่พิณทุกวันไม่มีทางให้ใครมาทำมิดีมิร้ายพี่พิณได้หรอก” พิณชนิดาฟังคำแก้ต่างแทนให้ของน้องสาวที่ยกเอาเทพเจ้ามาแทบจะหมดตำนานด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแก้มแทบปริ ในขณะที่วิญญาณทั้งสามต่างพยักหน้าเห็นดีไปกับคำที่ ‘แปลก2’ พูดเพื่อพี่สาว ทว่าประโยคถัดไปทำเอาวงแทบแตก
    “ ถ้าพี่พิณไม่ยอมเสียเอง..” ภูมินทร์เองก็สะดุ้งจนแทบตกจากโซฟา

    “พูดซะ..เสียววูบๆ ยัยภินี่ยังไง ” พิณชนิดากระซิบกระซาบ
    “อ่าว ก็เท่าที่หนูเห็นพี่พิณนั่นล่ะทั้งแทะทั้งโลมทั้งทางสายตาและวาจา” น้องสาวตัวดีแย้งตอบด้วยเสียงกระซิบเช่นกัน

    “พี่ก็หยอกเล่นแค่ชิวๆ “ สาวมั่นใจเกินร้อยกระซิบตอบ
    “อยากให้ผมตายใจแล้ว จู่โจมเลยล่ะสิไม่ว่า” เหยื่อกระซิบตาม
    “อือ..เฮ้ย..ไม่ใช่ บ้าหรอตะเอง จะพูดจะจาอะไรก็ขอให้เห็นแก่หน้าอันงดงามของฉันบ้างนะยะ” พิณชนิดาแสร้งตีหน้าขรึมค้อนควักขัดกับแววตาที่วาววับรื่นเริง

    ขวัญทิพย์เดินออกมาพร้อมถ้วยที่มีน้ำตาลทรายพูนจนแทบล้นคนที่นั่งอยู่บนโซฟาก็พากันดีดตัวยืนขึ้นโดยอัตโนมัติ ยิ่งเห็นสายตามีความหมายที่ขวัญทิพย์มองมาที่ตนภูมินทร์ก็แทบอยากจะแทรกพื้นคอนโดหนี

    “ยัยภิส่งแขก ... อ่อไปเอาเครื่องดูดฝุ่นมาด้วยแล้วถ้าเจอจานชามลายเถาไม้ของเราก็เก็บๆมาด้วย พี่ขวัญเขาคงลืมเอามาคืน..ใช่ไหมคะพี่ขวัญขา”  
    แม่หมอสาวที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับคนอื่นเขาเลยเอ่ยประโยคสุดท้ายหยอดเสียหวานจ๋อยให้กับลูกอีช่างหยิบยืมที่ยืนตีหน้าเจ้าเล่ห์ใส่คนพูดสลับกับชายหนุ่มที่ยืนอยู่เคียงข้าง ทำให้วิญญาณทั้งสามรับทราบว่าคำแก้ต่างที่ภิชาสินีเอ่ยออกไปไม่ได้ผลแม้สักนิดเดียว คาดว่าอีกไม่นานข่าวลือเรื่องพิณชนิดาหิ้วผู้ชายมาค้างคืนในห้องเกือบอาทิตย์คงได้กระฉ่อนไปทั่วคอนโด

    และไม่ใช่เฉพาะสามวิญญาณที่รับรู้เพราะทันทีที่ร่างอวบกับร่างสูงใหญ่ของขวัญทิพย์และภิชาสินีเดินลับประตูไป ร่างสูงโปร่งของของภูมินทร์ก็กระแทกทั้งตัวลงบนโซฟาแล้วยังกระแทกเสียงถาม ‘แปลก1’ ด้วยความอารมณ์เสีย
    “ถามจริง คุณไม่รู้สึกอายหรืออดสูใจบ้างเลยหรอ ที่มีคนเข้าใจคุณผิดอย่างนั้น หรือว่ามีคนเข้าใจคุณผิดอย่างนี้บ่อยๆจนชิน”

    “อย่าหึงเลยน่า ฉันไม่เคยมีใครมาอยู่เหมือนคุณหรอก ยังไงคุณก็สำคัญที่สุดค่ะที่รัก  อีกอย่างหนึ่งจะอายทำไม มีอะไรน่าอาย คุณรู้ไหมดวงพี่ขวัญน่ะเป็นดวงขึ้นคาน ฉันน่ะโชคดีกว่าเขาตั้งเท่าไหร่ที่มีดวงเนื้อคู่มิหนำซ้ำยังพบเนื้อคู่แล้วด้วย เขาอายุตั้ง40กว่าแล้ว ตั้งแต่แตกเนื้อสาวยันเหนียงยานยังไม่มีผู้ชายคนไหนมาให้พี่แกแทะโลมสักกะคน รู้ไหมการที่พี่เขาพูดจาอย่างนี้แสดงว่าเขาอิจฉาฉัน  ถ้าฉันไม่มีดีเขาจะมาอิจฉาฉันทำไม นี่เพราะฉันมีดี น่าภูมิใจจะตายไป น่าอายตรงไหน จริงป่ะๆ”  

    ชายหนุ่มรับฟังจนเคลิบเคลิ้ม ปากที่จะอ้าเถียงเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าหึงหวงก็หุบลง สมองที่มีก็ระดมคิดตามที่แม่สาวแปลกคนนี้ชักนำ คิดจนกบาลแทบแยกก็หาคำพูดที่จะเถียงไม่ได้ หญิงสาวเห็นเช่นนั้นก็สำทับเข้าไปอีก

    “แล้วการที่ไม่ถือสาหาความคนไม่ใส่ใจกับคำที่เขาพูดเพื่อความสะใจ ก็เป็นบุญอย่างหนึ่งนะคุณ เขาเรียกว่าให้อภัยทาน ..อภัยในสิ่งที่เขาพูดเขาคิด  ซึ่งก็ได้อานิสงค์ทันทีทันควันคือจะทำให้ตัวเราไม่ร้อนรนไปกับคำพูดของเขา  ใบหน้าเราก็จะยิ้มแย้มอารมณ์ก็จะผ่องใสไม่ขุ่นมัวแก่ช้าไปอีกตั้งหลายปี เข้าใจแล้วนะจ๊ะที่รัก”

    มือบางบีบคางหนาของ ‘ที่รัก’ เบาๆอย่างเอ็นดู ก่อนจะละมือไปอย่างแสนเสียดาย นับเป็นการแต๊ะอั๋งที่เหมาะเจาะกับเวลาทำให้อีกฝ่ายไม่ทันได้ปัดป้องแต่อย่างใด  ว่าแล้วก็เดินเข้าไปในห้องค้นอะไรกุกกักอยู่พักใหญ่ ทิ้งให้ชายหนุ่มลูบคางที่ถูกสัมผัสนั้นอย่างเหม่อลอยกิริยาละม้ายสาวแรกรุ่นที่เพิ่งโดนสัมผัสเป็นครั้งแรก

    ‘ขอยาลมหน่อย คุณกานต์ผมจะเป็นลม ลูกหนอลูก..ไปเอาวิธีป้อหนุ่มแบบนี้มาจากที่ไหน เอิ้ก..ลมจะใส่’ ร่างโปร่งใสของปราชญ์ทำท่าซวนเซร้องหายาลมราวกับว่าตัวเองยังมีชีวิต กานต์กมลหัวเราะคิกก่อนจะประคองสามีให้นั่งลงบนโซฟา และอีกตามเคยที่คุณพัณทิพาผู้เป็นพี่สาวต้องพูดจาออกตัวแทนหลานสาวคนโต
    ‘แกนี่ยังไง จ้องจับผิดหลานฉันอยู่นั่นล่ะ ทีคำพูดดีๆแฝงธรรมะทำไมไม่เอามายกย่องบ้าง หลานฉันช่างคิด สมแล้วที่เป็นหลานป้า’ วิญญาณป้าทำเสียงปลาบปลื้มอย่างเต็มที่

    ร่างบางของพิณชนิดาเดินออกมาพร้อมกับโทรศัพท์มือถือและยื่นให้ชายหนุ่มอย่างที่ยื่นให้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
    “เอ้าโทรไปบอกแม่นมคุณซะว่าพรุ่งนี้คุณจะกลับบ้านแล้ว อ่อ อย่าลืมบอกแม่นมคุณด้วยว่าฉัน น้องสาว และสัตว์เลี้ยงจะไปอาศัยอยู่บ้านคุณพักหนึ่ง”

    “ห๊า!”
    “จะห๊าทำไม  อย่าได้ทำตัวมีปัญหาเชียวนะ ก็คุณยังไม่พ้นเคราะห์ ถ้าฉันไม่ไปช่วยคุณแล้วเกิดคุณตายไปฉันก็คงต้องเสียใจไปชั่วชีวิตอย่างที่ยัยภิบอก ซึ่งถ้าฉันไป ยัยภิก็ต้องไปด้วย และถ้ายัยภิไป ปิ่นมณีก็ต้องไปด้วย เข้าใจ๊?”

    “แล้วทำไมต้องไปพรุ่งนี้?” คนเจ้าปัญหายังคงไม่เก็ท

    “เพราะฉันจับยามสามตากับตำราพม่าแล้ว ฤกษ์เคลื่อนทัพคือพรุ่งนี้ตอนเก้าโมงเก้านาที ทีนี้ล่ะรบร้อยครั้งก็ชนะร้อยครั้ง โทรฯเสร็จไปหาฉันที่โต๊ะทำนาย วันก่อนฉันบอกคุณว่าจะดูไพ่ป๊อกให้แต่ก็ไม่ได้ดูสักทีมัวแต่เล่นนู่นเล่นนี่กันจนลืม ดีนะช่วงนี้ฉันเคลียร์ลูกค้าหมดแล้วและไม่รับเพิ่มด้วย อ่อเงินเดือนที่จะไปเป็นเลขาส่วนตัวของคุณฉันขอห้าหมื่นขาดตัวห้ามต่อรอง พูดแล้วจะหาว่าคุยฉันดูดวงเดือนๆหนึ่งได้เป็นแสน รีบๆล่ะ”  พูดจบหญิงสาวผู้ตอแยได้ยากก็เดินฉับๆไปนั่งปูผ้าเรียงไพ่รอ

    จากคุณ : รอมแพง - [ 24 ม.ค. 50 14:08:15 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom