Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เธอคือหัวใจของฉัน

    เธอคือหัวใจของฉัน

    ห้องเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยกองแผ่นเสียงวางอยู่บนโต๊ะ และแผงเครื่องควบคุมอยู่ตรงหน้ากับหูครอบไมโครโฟนเคลื่อนที่เครื่องเล็กที่วางอยู่ใกล้ ๆ มันเป็นภาพที่ฉันเคยคุ้นมานาน และมักจะทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นทุกครั้งที่เดินเข้ามาในห้องนี้ แต่ทำไมนะวันนี้ความรู้สึกแย่ ๆ ในใจจึงยังไม่หายไปเสียที

    ฉันหยิบหูครอบไมโครโฟนขึ้นสวมหัว ปรับระดับไมค์ให้ตรงปาก พลางสูดลมหายใจยาวเรียกความมั่นใจให้ตัวเองอย่างที่เคยทำมาจนเคยชิน ก่อนจะเริ่มกดปุ่มเปิดไมค์เมื่อเพลงที่กำลังเปิดอยู่จบลง

    “ สวัสดีค่ะ พบกันเช่นเคยกับดีเจมายด์ในเย็นวันศุกร์อย่างนี้ และแน่นอน...เพลงเพราะ ๆ สบาย ๆ ยังอยู่กับคุณไม่ไปไหนกับ 123 Lovely Life FM ที่สำคัญ หกโมงตรงหลังเคารพธงชาติ เตรียมหยิบโทรศัพท์กันได้เลย บอกความรู้สึกดี ๆ ผ่านคลื่นดี ๆ พร้อมรับสิทธิ์ร่วมเดินทางกับเราใน Lovely Life Lovely Trip ที่ปารีสเมืองแฟชั่น  คราวนี้มายด์จะขออู้งานตามไปนำคุณทัวร์ให้เต็มอิ่มกับช่วงเวลา 7 วัน รับรองว่าสนุกแน่ค่ะ เอาล่ะ ตอนนี้...ไปฟังเพลงที่คุณขอมาก่อนดีกว่า กับวงกลม...ของบัวชมพู ฟอร์ดค่ะ... ”

    ฉันพูดออกไมค์อย่างร่าเริงด้วยความเคยชิน แต่ถ้าคุณนั่งอยู่ตรงหน้าฉัน ไมได้ฟังแค่เสียงจากวิทยุอย่างคนทั่วไป คุณก็จะได้เห็นเหมือนที่เพื่อนร่วมงานของฉันกำลังเห็นจากด้านนอกห้อง เบื้องหลังกระจกที่กั้นไว้

    หยาดน้ำใส ๆ มันรื้นคลอหน่วยตาขณะที่ฉันเอื้อมมือไปกดปุ่มปิดเฮดโฟน ดวงตาพร่ามัวด้วยน้ำตาที่คลอคลองจนต้องแหงนหน้าเงยขึ้นไม่ให้มันหยดลงมา นึกขอบคุณพระเจ้าที่ช่วยให้เสียงฉันเป็นปกติพอจะพูดออกไปอย่างที่เคยทำได้

    เสียงเพลง ที่ฉันเป็นคนสั่งเปิดเองตามข้อความที่ส่งมาขอดังขึ้นเบา ๆ

    ...เป็นวงกลมวงหนึ่งที่มันไม่เต็มวง เป็นวงกลมที่มันกระท่อนกระแท่นไป เสี้ยวหนึ่งของมันหล่นหาย พาตัวเองวนมาไม่มีทิศทาง...

    ฉันถอนใจยาว พยายามไม่สนใจกับเสียงเพลงนั้น ฝืนยิ้มให้เพื่อนที่ยืนมองอยู่ด้านนอกอย่างยากลำบาก นึกภาวนากับพระเจ้าในใจ ขอให้ฉันผ่านพ้นเรื่องที่เลวร้ายพวกนี้ไปเสียที ให้ฉันกลับมาเป็นคนเก่าเสียที

    ...พระเจ้า...จะลบความทรงจำทั้งหมดของฉันไปเลยก็ได้นะ...

    ...เฝ้าตามหาว่ารักของฉันอยู่ที่ไหน เพียงมาเติมให้เต็มหัวใจ มันเหงาและไม่มีใครมานานแสนนาน

    ฉันเหนื่อยเหลือเกิน ฉันไม่รู้ว่าฉันจะใช้ชีวิตที่เหลือยังไง...

    ..เป็นวงกลมวงเดิมที่เริ่มเดินช้าลง เป็นวงกลมซวนเซเหมือนใกล้จะสิ้นแรง ฝืนทนต่อไปไม่ไหว เพียงเดียวดายในใจก็ยังพรํ่าเพ้ออยู่ คิดถึงเสี้ยวที่ขาดหาย ถอนใจล้มลงลำพัง...

    เสียงเพลงยังก้องดังเข้าหูฉันจนทนไม่ไหว

    ประตูบานเล็กถูกเปิดออกพร้อมกับฝ้าเช็ดหน้าสีหวานที่ถูกยื่นส่งเข้ามา แล้วค่อยแตะเช็ดหัวตาฉันอย่างอ่อนโยน

    “ แกไหวแน่นะ ? ”

    คำถามนั้นแฝงความห่วงใยไว้ในน้ำเสียงจนฉันเผลอกระโดดเข้ากอดเพื่อนไว้แน่น

    “ ...แจน...เราคิดว่าเราทำใจได้แล้วแท้ ๆ ”

    ฉันไม่ได้ฟูมฟายสะอึกสะอื้น แค่กระซิบเบา ๆ ก็ยากเต็มที
    แจนตบไหล่ฉันเป็นเชิงปลอบเบา ๆ ขณะที่ฉันต้องส่งสัญญาณให้คนข้างนอกช่วยจัดการเปิดเพลงต่อ ขณะที่ฉันไม่มีแก่ใจจะทำอะไรอีกแล้ว

    ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจจะไม่ร้องไห้ แต่หัวใจมันกลับทนไม่ได้ เจ็บปวดราวกับจะแตกสลายลงต่อหน้า โชคดีที่เข็มนาฬิกาเดินไปชี้เลข 6 พอดี เพลงชาติที่ได้ยินจนคุ้นหูจึงกลายเป็นระฆังสวรรค์ที่ช่วยให้ฉันได้ปรับน้ำเสียงให้เรียบร้อย ปาดน้ำตาบนใบหน้าให้กลับมาเป็นปกติ

    “ ได้เวลาแล้วนะคะ...Lovely life Lovely trip มายด์จะเริ่มวางหู ณ บัดนี้...”

    เพียงสิ้นเสียงฉัน เสียงเพลงก็ดังขึ้น ท่วงทำนองคุ้นหูด้วยเป็นเพลงฮิตติดชาร์ทอยู่ช่วงหนึ่งจนคุ้นชินหู แต่คราวนี้เมื่ออะไร ๆ มันเปลี่ยนไป แค่ได้ยินขึ้นมาก็เจ็บเข้าไปถึงใจ

    ...รักแท้ดูแลไม่ได้...

    ฉันเหลือบมองหน้ายายแจนที่รับโทรศัพท์แล้วเขียนอะไรยุกยิกใส่กระดาษยื่นให้คนเปิดเพลง ในใจออกจะงุนงงกับการกระทำของเพื่อนรักอยู่ไม่น้อย

    ยายนั่นไม่ใช่คนที่จะยอมเปลี่ยนรูปแบบทำอะไรตามใจตัวเองอย่างนี้ แล้วก็ไม่ใช่คนที่จะเปิดเพลงที่รู้ดีว่ามันสะกิดแผลใจฉันขึ้นมาโดยไม่มีข้อความขอจากคนฟัง

    ฉันพยายามกลั้นน้ำตาเอ่ยรับทันทีที่เพลงจบ

    “ รักแท้ดูแลไม่ได้...โปเตโต้นะคะ เปิดเป็นโอกาสพิเศษสำหรับทุกคน สำหรับคนที่กำลังมีความรัก ดูแลรักของคุณให้ดีเพื่อตัวคุณเองและคนที่คุณรักนะคะ แต่ถ้าใครยังไม่มีความรัก...”

    ฉันนิ่งไปครู่หนึ่ง ไม่แน่ใจว่าตัวเองควรจัดอยู่ในประเภทไหน

    “ บางที...คู่แท้ของคุณอาจอยู่ใกล้แค่เงาก็ได้ ดูแลหัวใจตัวเองให้ดีเพื่อรอใครคนนั้นด้วยกันนะคะ ”

    ขอบคุณสวรรค์ที่มอบเสียงนี้ให้ฉันได้เจองานที่รัก และขอบคุณที่ฉันยังสามารถรักษาน้ำเสียงนี้ไว้ได้ แม้หัวใจกำลังแหลกราน

    ฉันสูดลมหายใจยาว เมื่อแจนส่งสัญญาณมาบอกถึงการโอนสายเข้ามาของผู้โชคดี

    “ เอาล่ะค่ะ...มาทำความรู้จักกับผู้โชคดีของเรากันดีกว่า ” ฉันกดปุ่มรับ

    “ สวัสดีค่ะ...คุณ... ”

    “ ไลท์ครับ...”

    ชื่อนั้นทำให้ฉันนิ่งงัน รู้สึกถึงความร้อนของหยาดน้ำที่คลอเต็มหน่วยตา เหมือนแผลเก่าที่ยังไม่สมานตัวถูกกรีดสะกิดซ้ำ

    “ เอ่อ...คุณไลท์ จะฝากความรู้สึกดี ๆ ไปถึงใครคะ พอจะบอกได้ไหมเอ่ย...”

    เสียงฉันยังล้อกลับไปได้เหมือนไม่รู้สึกอะไร ทั้งที่ในใจมันเจ็บแปลบ

    “ ครับ...ถึงผู้หญิงคนนึงที่อยู่ในใจของผมเสมอมา ”

    น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนนักจนฉันอดอิจฉาไม่ได้

    วูบหนึ่งในส่วนลึกของความทรงจำที่พยายามซ่อนเร้น น้ำเสียงของเขาละม้ายคล้ายใครคนหนึ่งที่ทำให้ฉันต้องร้องไห้จนตาบวม

    ผู้ชายคนนั้น ที่บัดนี้เดินออกไปตามทางที่เขาควรเดิน เหลือเพียงฉันที่ยังอยู่ตรงนี้ นั่งคิดถึงรอยยิ้มของความสุข เสียงหัวเราะของความผูกพัน และหยาดน้ำตาของความเจ็บปวด

    ฉันพยายามยิ้มให้กับตัวเอง อย่างน้อยเมื่อความรักของฉันไม่สมหวัง แต่ด้วยมือคู่นี้ ด้วยเสียงนี้ และแผงเครื่องมือเหล่านี้ ฉันควรจะช่วยสื่อความรักที่งดงามของเขาไปถึงหญิงสาวผู้โชคดีนั้นให้เต็มความสามารถไม่ใช่หรือ

    คิดได้แล้วมือขาวก็ยกขึ้นปาดน้ำตา เอ่ยคำถามเสียงใส

    “ คิดว่าเธอคนนั้นจะฟังอยู่หรือเปล่าคะ ”

    “ ครับ...ต้องฟังอยู่แน่ ๆ ” เขาตอบกลับอย่างมั่นใจ ก่อนอธิบายเสียงอ่อย

    “ คือ...เธอชอบฟังเพลงคลื่นนี้มาก ผมคิดว่าเธอต้องฟังอยู่ ”

    “ ขอให้เธอฟังอยู่แล้วกันนะคะ ”

    ฉันกรอกเสียงลงไปในเฮดโฟน นึกภาวนาให้ผู้หญิงคนนั้นได้รับฟังความในใจของผู้ชายที่รักเธอมากเหลือเกิน

    “ คุณไลท์จะบอกอะไรเธอคะ ”

    ผู้ชายที่ปลายสายนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยคำถามช้า ๆ เหมือนไม่มั่นใจ

    “ ผม...ขอเพลงได้ไหมครับ ”

    “ ค่ะ...ต้องการเพลงอะไรดีคะ ”

    “ เธอคือหัวใจของฉัน...ของคุณนิกครับ ”

    ชื่อเพลงที่ได้ยินทำให้มือที่คีย์ไปบนแป้นพิมพ์ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่สำนึกในหน้าที่ที่กำลังทำและความที่ตัดสินใจไว้แล้วทำให้เสียงที่ตอบกลับไปยังคงรักษาความเป็นปกติไว้ได้

    “ ค่ะ...เดี๋ยวมายด์เปิดให้นะคะ ”

    “ ขอบคุณครับ...คือผม...” เสียงเขาตะกุกตะกักอย่างคนไม่มั่นใจในตัวเอง ก่อนที่ปลายสายจะสูดลมหายใจยาวเรียกความคิดความเชื่อมั่นให้คืนมา

    “ ผมอยากบอกผู้หญิงคนหนึ่งว่าผมขอโทษ ผมเสียใจที่ผมไม่เคยรู้ตัวเลย...” เขาถอนใจยาวเมื่อต้องรำลึกถึงความหลังที่อ่อนหวาน หากแสนเศร้าเหลือเกินเมื่อไม่มีคนคนนั้นอยู่แล้วในปัจจุบัน

    “ ผมกับเธอ พบกันในวันที่ออกจะไม่ดีนัก ผมจำได้ว่าวันนั้นเป็นงานศพของแฟนเก่าผม...พี่สาวเธอ ”

    ยิ่งอธิบาย ฉันก็รู้สึกเหมือนภาพเก่า ๆ ย้อนกลับมาฉายตรงหน้า ฉันกับเขาก็พบกันในวันที่เลวร้ายแบบนี้

    ทำไมเรื่องบังเอิญแบบนี้จึงเกิดขึ้นกับคนมากมายนักนะ

    “ ผมขอโทษนะครับ แต่ ผมจะขอทวนให้เธอฟังได้ไหม อยากให้เธอได้ยิน ได้รู้ว่าความผูกพันของผมกับเธอเป็นเรื่องจริง ”

    เขาขอมาอย่างนี้ แล้วฉันจะพูดอะไรได้นอกจาก

    “ ค่ะ...”

    มองออกไปด้านนอก แจนกำลังฉีกยิ้มหน้าบาน ไม่ได้รู้เลยว่าหัวใจเพื่อนเจ็บขนาดไหน ดูท่ายายนี่จะเห็นเรตติ้งลอยมาตรงหน้าจนลืมเพื่อนเป็นแน่ เพราะความแปลกประหลาดของคนมักจะชอบที่จะรับรู้เรื่องราวของคนอื่นอยู่เสมอ

    “ ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ขณะที่เราทั้งคู่ต่างสูญเสีย เหมือนเราค่อย ๆ เติมเต็มกันช้า ๆ โดยที่ผมเองก็ไม่ทันรู้ตัว จนเมื่อต้องห่างจากเธอผมถึงเข้าใจ ความเจ็บปวดทรมานเวลาไม่ได้เจอหน้ากัน ความโหยหาในความผูกพันที่เคยมี อยากได้ยินเสียงหัวเราะของเธอ อยากเห็นหน้าหวาน ๆ กับรอยยิ้มของเธอ ผมเพิ่งรู้ว่าผมรักเธอมากเหลือเกิน ”

    จากคุณ : Argent - [ 26 ม.ค. 50 20:03:03 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom