ความคิดเห็นที่ 1 ๏๏ มีนาคม ๏๏ พอแดดอุ่นกรุ่นผสมสิ้นลมหนาว พยับแดดแผดร้าวรีบก้าวหนี ภาคศึกษาสุดท้ายสอบปลายปี แข่งชิงเด่นชิงดีมีนาคม เด็กเล็กก่อนวัยเรียนยังวิ่งเต้น อนุบาลอาศัยเส้นเข้าประถม โตขึ้นมากวดวิชาเข้ามัธยม ก่อนแย่งยื้อซื้ออุดมปริญญา พ่อแม่คอยบ่นพร่ำกรรมของเด็ก อย่าเข้าโรงเรียนเล็กๆนะลูกจ๋า สาธิตดี-เด่น-ดังตั้งเป้ามา หรือมหาวิทยาลัยที่ใหญ่โต วัดค่าของคนดีดูที่ไหน ผลการเรียนหรือไรให้ดูโก้ เกียรตินิยมเหรียญทองต้องวางโชว์ ที่ติดโปร, รีไทร์ ไม่ใช่คน ทำทุกอย่างเพื่อคะแนนแสนแบ่งชั้น ก็พลอยโกงทั่วกันไม่ยั่นผล ทั้งอ้อนวอนทุจริตติดสินบน หวังเกรดตนสวยดีไม่มีเกรง เรียนอะไรเรียนไปขอให้รู้ ผลวัดดูอยู่แท้แง่ความเก่ง คือนำมาสอนตนด้วยตนเอง แล้วรีบเร่งสร้างผลเลิศเกิดความดี ๏๏ เมษายน ๏๏ พออาทิตย์ล่วงรุดตรุษเมษา พระสุริยาชักรถจักรราศี เป็นสงกรานต์ตำนานเล่าครั้งเก่ามี มหาวันวันดีปีใหม่ไทย สังขารล่องครองฤกษ์เบิกสงกรานต์ คนกลับถิ่นกลับบ้านเป็นการใหญ่ รถก็ติดแน่นเนืองหัวเมืองไกล กลับรถไฟก็แออัดยัดทะนาน ปัญญาขึ้นเครื่องบินเมือบ่มีดอก จดหมายอุ๊ยเขียนมาบอกให้ปิ๊กบ้าน เพลงหนังลุงโนห์ราจากมานาน ล้วนแรงงานชั้นรากหญ้าประชาชน ท่านผู้แทนผู้เท็จหัวเห็ดหอม ไม่เคยยอมเหลียวแลแม้จะสน ปัญหาเดิมเพิ่มทุกปีดีพิกล แสนคำบ่นไม่เคยถึงซึ้งแท้แท้ ถ้าเลือกเกิดเองได้คงไม่อยาก เป็นคนจนแสนลำบากกระอักแย่ ถึงอำนาจเปลี่ยนมือคนถือแปร ก็ไร้ผู้ดูแลแม้ร้องเรียน จากหมอชิตถึงสายใต้ให้อนาถ หัวลำโพงโยงพาดอาจคลื่นเหียน มองโฆษณาสุวรรณภูมิกลุ้มจนเอียน อยากอาเจียนคำหวานท่านผู้นำ ๏๏ พฤษภาคม ๏๏ ล่วงเดือนผ่านพฤษภาฟ้าครึ้มเมฆ พระพายเสกฝนเสริมเริ่มกระหน่ำ พอย่างเข้าเดือนหกฝนตกพรำ กบก็ร้องงึมงำระงมนา จับคันไถเคยถือลงมือหว่าน ฤดูกาลฝนแรกรอแตกกล้า อ้าวไอ้ทิดบ้านใกล้เป็นไรมา เลิกทำไร่ไถนาแล้วหรือไร พ่อทิดมั่นบอกลาว่าเลิกก่อน แบกหนี้จนหัวคลอนเกินผ่อนไหว ดันทุรังตั้งหน้าทำนาไป อีกสิบชาติก็ไม่ได้ใช้ต้นคืน สู้เอานาไปขายตายดาบหน้า บินข้ามฟ้าเงินแข็งค่าแรงหมื่น แม้อาบเหงื่อต่างน้ำทนกล้ำกลืน จะหยัดยืนเพื่อความหวังตั้งใจจริง พอกล้าเขียวเรียวใบไล้ลมฝน พ่อทิดมั่นหน้าหม่นมานั่งนิ่ง ไอ้นายหน้าหางานมันโดนยิง เพราะมันทิ้งลูกจ้างอย่างลอยแพ ละครฉากชาวนาหางานนอก แล้วถูกหลอกฉ้อฉลจนย่ำแย่ สักกี่ปีผ่านไปไม่เปลี่ยนแปร หนทางแก้ก็ไม่รู้อยู่ที่ใคร? จากคุณ : โกฏิดารา - [ 26 ม.ค. 50 22:35:42 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ๏๏ มิถุนายน ๏๏ นับปีนี้มิถุนาพระผ่านเกล้า ฉลองราชย์หกสิบเข้าเราสุขใส กราบแทบเบื้องยุคลบาทพระภูวไนย หกสิบปีผ่านไปใคร่กราบทูล กราบบาทพระทูนกระหม่อมแก้ว หกสิบปีแล้วเหมือนสาบสูญ พระกรุณาก่อเกื้ออนุกูล มารอสูรขี้ฉ้อไม่พอเพียง ขุนทหารชิงชัยเป็นใหญ่ยุค นายทุนรุกบุกรื้อฤๅหลีกเลี่ยง สื่อมวลชนวิชาการคานเอนเอียง โลกไม่เที่ยงข้าไทได้แค่นี้? จอมกษัตริย์รัฐสยามนามสง่า ทั้งโลกาล้วนตระหนักเป็นศักดิ์ศรี คุณภาพผองไพร่คงไม่ดี สุดเหลือที่บ่นโทษจะโกรธใคร หกสิบปีที่พระองค์ดำรงศักดิ์ หาเพลาพักพระกรณียกิจไม่ จะหาคนตามรอยพระบาทไป จะมีไหมจากหกสิบล้านคน กราบบาทพระทูนกระหม่อมแก้ว มิอาจกล่าวพรแพร้วพิลาสผล มิอ้างขอเทพใดให้บันดล จักทำตนตามพระองค์คงพอเพียง ๏๏ กรกฎาคม ๏๏ เกินกลางปีลี้จรอ่อนอกกลุ้ม กรกฎาปัญหารุมเหลือหลีกเลี่ยง คนแบ่งพรรคฝักฝ่ายให้เอนเอียง แล้วโต้เถียงเบี่ยงประเด็นเข่นฆ่ากัน สารพัดหลักฐานมาสาวไส้ สารพัดคำไขใช้เสกสรรค์ สารพัดสกปรกสาดใส่กัน สารพัดจะห้ำหั่นบั่นสังคม มีจริงบ้างไม่จริงบ้างสร้างความเท็จ สูตรสำเร็จเคล็ดวิชามาทับถม เอาดีใส่แต่ตัวมั่วอารมณ์ ตรงข้ามคือโคลนตมต้องล้างมัน ไฟที่จุดลุกลามเกินปรามแล้ว แม้พระทูนกระหม่อมแก้วแสนโศกศัลย์ ยังอ้างเอาพระองค์มาป้องกัน คนรู้ทันทั่วประเทศสมเพชนัก การเมืองวุ่นกรุ่นร้อนทอนอำนาจ เศรษฐกิจอัมพาตพึงประจักษ์ คิดดูหน้าดูหลังยังแทงกั๊ก คอยตวงตักประโยชน์ตนคนการเมือง เสียงเพลงงานเฉลิมฉลองยังก้องอยู่ ไทยทุกหมู่รวมใจใส่เสื้อเหลือง แต่หัวใจไม่เพียงพอก่อขุ่นเคือง ก็เคี้ยวเอื้องแทนเถิดประเสริฐตน ๏๏ สิงหาคม ๏๏ สิงหาคมขรมแซ่แต่ระเบิด บ้างก็เกิดกลางกรุงยุ่งสับสน ที่ชายแดนแผ่นดินยินปืนกล ก้องคำรามข้ามเวหนมาให้ฟัง เสียงหนุ่มเหน้าเล่าข่าวเช้าวันนี้ ปัตตานีมีโจรปล้นรถถัง ขับเพ่นพ่านหาญรบหลบกำบัง แต่รถพังเพราะเก่าโจรเข้าโลง เปิดหน้าหนังสือพิมพ์ยิ้มแสยะ ยกมือมาวางแหมะแกะซองโป่ง เอสเอ็มเอสชิงเสื้อท้ายชั่วโมง ก่อนคุยโพล่งสารพันกัดกันเอง เรื่องชีวิตดาราลงหน้าหนึ่ง ขยายเล่าเกือบครึ่งชั่วโมงเป๋ง ข่าวกุศลโฆษณาประกอบเพลง ก็รีบเร่งละเลงปากสำรากลาม ข้อเท็จจริงอยู่ไหนก็ไม่รู้ สัมภาษณ์ใครไม่ดูตูอยากถาม สักแต่ขายขยายเรื่องทุกเรื่องความ กระเดื่องนามทั้งประเทศสังเวชแทน รับหน้าที่มีค่านามว่า “สื่อ” ต้องสัตย์ซื่อถือความจริงสิ่งหนักแน่น หากสุนัขไม่เห่าก็เท่าแลน คลับคล้ายแม้นตะกวดกร่างอ้างศักดา จากคุณ : โกฏิดารา - [ 26 ม.ค. 50 22:37:14 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ๏๏ กันยายน ๏๏ กันยายนยลน้ำช้ำในอก น้ำตาตกสะทกไหวในใจข้า มรสุมสะพัดฝนท้นกันยา มรสุมน้ำตาท่วมดวงใจ กองทัพน้ำไหลบ่ามาจากเหนือ ทัพหนุนเผื่อน้ำทะเลเกเรใหญ่ ประสานหลากท่วมล้นบนเมืองไทย จะจมเกินกู้ไหวก็ไม่รู้ อัศวินแกว่นกล้าขี่ม้าเขียว ระดมทัพเต็มเหนี่ยวเข้าต่อสู้ จระเข้จับไม่ไหวได้แต่งู น้ำท่วมอยู่เหนือปากก็มากเกิน รถถังเก่าเข้ากรุรุสต๊อก มาวิ่งออกให้เด็กเล่นเห็นพอเขิน วันเด็กเดือนกันยาเฮฮาเพลิน เสียงสรรเสริญแซ่ซ้องก้องแผ่นดิน เห็นคุณพี่พฤษภาน้ำตาไหล น้องกันยายิ้มให้ไม่ติฉิน พี่ตุลาหลบหน้าไม่มายิน ร้องสั่งสิ้นจะกลับมาอย่าหลงลืม สิ้นกันยาน้ำบ่ายังมาท่วม ประชาอ่วมร้องด่าว่าไม่ปลื้ม น้ำท่วมทุ่งฟุ้งฝอยคอยรอยืม หมดยามดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กระชั้นร้าย ๏๏ ตุลาคม ๏๏ ลมข้าวเบาพัดเอียงเบี่ยงกังหัน สิ้นลมฝนต้นเหมันต์หวั่นใจหาย สามสิบปีผ่านไปไร้กลิ่นอาย ฤๅเลือดที่หล่นรายหายแห้งแล้ว คิดสะท้อนย้อนตุลาแต่คราหลัง เสียงปืนดังประทั่งโหมดินโดมแว่ว พิศว่าวทุ่งพระเมรุทองล่องฟ้าแนว เหลือบมะขามเลือดแผ่วคำคร่ำครวญ ราชดำเนินปลายทางมีทำเนียบ กลางทางเรียบบัญชาการทหารถ้วน ราษฎร์เดินนำถนนในไม่แปรปรวน ใครสกัดขวางควรหวนมาคิด บนเส้นทางอำนาจอาจหอมหวาน อยากดื่มกินชั่วกาลพาลยึดติด ผยองเดชเหตุชูผู้พิชิต หลงระเริงเหลิงริดสิทธิ์ประชา เมื่อลิ้มรสหวานล้ำของอำนาจ อุดมการณ์ชั้นปราชญ์อาจเสื่อมค่า ระวังตนระวังใจให้ปรีชา สุจริตรักษาทุกคราไป เจ็ดสิบสี่ปีผ่านดูนานนัก ยลประจักษ์ว่ายังไม่ถึงไหน อำนาจล้วนจากปวงประชาไทย อำนาจไซร้ไทยทวงอย่าหวงคืน ๏๏ พฤศจิกายน ๏๏ ดาวแมงป่องก่องฟ้าดาราเด่น นายพรานเห็นแมงป่องบ้าไม่กล้าฝืน หลบขอบโลกลับลี้หนีหายกลืน รอพระอาทิตย์ตื่นจึงคืนมา เข้าพฤศจิกระริกเคลื่อนเดือนสิบสอง น้ำก็นองล้นทั่วทุกสาขา ลอยกระทงสุโขทัยไร้ปัญญา ตระพังโพยขุ่นกว่าไม่กล้ากิน อ่านตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ เห็นประจักษ์ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ลอยกระทงลงประทีปปฏิทิน เอามาขายฝรั่งสิ้นน่ายินดี ประวัติศาสตร์สร้างใหม่ใช้ค้าขาย ประเพณีคิดขยายหลายแหล่งที่ พิพิธภัณฑ์ร้างโทรมห่มราคี กระดูกผีปู่ย่าจะด่า[^_^] สรรพตำรารุ่นปู่ไม่เคยเปลี่ยน หลักสูตรเรียนบ่นขลังเหมือนกังไส ท่องเพื่อสอบเสร็จสิ้นก็สิ้นใจ ส่งคืนตำราไปไม่รู้คิด พฤศจิกาบ้าบ่นจนแหบแห้ง เสียงนายพรานขานแย้งแจ้งตามติด มันก็เป็นเช่นนั้นแล - มหามิตร เรื่องถูกผิดนานไปใครจะจำ! จากคุณ : โกฏิดารา - [ 26 ม.ค. 50 22:39:09 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ๏๏ ธันวาคม ๏๏ สิบเอ็ดเดือนเลื่อนผ่านไม่นานนัก ธันวาคมเข้ามาทักอยู่หน้าถ้ำ พ่อฤๅษียิ้มตอบขอบใจกรรม ให้อยู่รอดครบฉนำจนสิ้นปี สารพัดเทศกาลงานฉลอง แจกเงินทองจองศาลาพระรูปสี่ ไปไม่กลับหลับไม่ตื่นฟื้นไม่มี กุสลากัมมาชี้หนีไม่ยัง อนิจจังสังขารนั้นไม่เที่ยง สุดหลบเลี่ยงบุญกรรมนำมาตั้ง คำสัจจริงไม่ตายวายชีวัง แต่คนกล่าวจริงมั่งถูกฝังดิน ถึงผ่านปีผ่านไปไม่แปรเปลี่ยน เดือนก็เวียนมาใหม่ไม่สุดสิ้น กร่อนองค์พระปฏิมาลงราคิน แล้วพูนหินดินปลวกผนวกงาม ชีพมนุษย์สุดท้ายคล้ายความฝัน มีความหมายเมื่อพลันสำนึกถาม จะดำรงเพื่ออะไรใจรู้ความ นั่นแลยามพ้นบ่วงห่วงกังวล ดาวธนูเดินลั่นธันวามาส แม่นพิฆาตศรใจไม่สับสน สมาธิสติรู้คู่ตัวตน เพียงล่วงพ้นอีกปีก็ดีใจ ๏๏๏++++++++++๏๏๏ เขียนลำนำคำนิราศต่างบาทบท ถ้อยกำหนดเดือนปีที่อาศัย เปรียบบันทึกหน้าหนึ่งซึ่งเปิดไป พลิกดูได้ในคราหลังยังจดจาร ถึงเรื่องราวหลายหลากมากสับสน แม้นใครเห็นอาจบ่นว่าฟุ้งซ่าน ความคิดแผกแตกต่างอย่างมโหฬาร ใครได้อ่านขออภัยตั้งใจเอง สำนวนกลอนอ่อนด้อยไม่ค่อยฝึก ภาษานึกเดาเอาเข้าขั้นเก่ง นิราศเดือนเตือนจิตคิดครื้นเครง ดูอวดเบ่งบ้างหนาอย่าด่าเอย๚๛ แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 50 22:40:50 จากคุณ : โกฏิดารา - [ 26 ม.ค. 50 22:40:26 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แวะมาอ่านก่อนไปนอนครับผม พรุ่งนี้บ่ายๆถ้ามีเวลาจะมาเขียนตอบครับ จากคุณ : Electrostatic precipitator - [ 26 ม.ค. 50 23:18:15 ]

ความคิดเห็นที่ 6 โอ้ โห มาอ่านอย่างเร็วก่อน แล้วจะมาใหม่นะคะ นับถือ นับถือ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 26 ม.ค. 50 23:33:26 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แวะมาดูให้ผ่านตา แล้วขออนุญาตปริ้นท์ออกมาได้ไหมจ๊ะ สีน้ำน้อยอ่านไม่ไหว ตายลาตาลายหมดแล้ว จากคุณ : sugarhut - [ 27 ม.ค. 50 11:44:24 ]

ความคิดเห็นที่ 8 นิราศเดือนโกฏดาราเรามาเห็น บันทึกเด่นเป็นกวีมีคุณค่า เลิศความเพียรเขียนพจน์รจนา เลิศภาษาพาสมชื่นชมเอย จากคุณ : คมเย็น (คมเย็น) - [ 28 ม.ค. 50 15:33:34 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณวงจรไฟฟ้าสถิต คุณทิกิ คุณสีน้ำน้อย และคุณคมเย็นที่แวะเวียนเข้ามาอ่านกันครับ จากคุณ : โกฏิดารา - [ 28 ม.ค. 50 21:16:54 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดีครับ ท่านน้องโกฏิฯ แวะเข้ามาอ่าน สวยฯ เพลินอ่านสนุกดีครับ ทำยังไงจะเขียนยาวๆ ได้อย่างนี้น่อครับ ...ว่าแต่สำนวนไม่ด้อยแล้วนา ข้าพเจ้าจิ ด้อยไม่ค่อยฝึก -------------------------------------------- จากคุณ : xers - [ 5 ก.พ. 50 12:27:50 ]