ความคิดเห็นที่ 1
หน้าแทรกแผ่นแรก : การเดินทางของสองพี่น้อง
ท่ามกลางความมืดมิดของทางเดินในโบราณสถาน อันมีเพียงแสงสลัวจากคบเพลิงที่ตั้งอยู่เป็นระยะบนกำแพงหินเท่านั้นที่พอใช้นำทางได้
ตุบ..ตุบ..ตุบ..
เสียงย่ำเท้าดังกึกก้องขึ้นตามทางเดินของอุโมงค์หิน
ตุบ..ตุบ..ตุบ..ตุบ..ตุบ..
ดังกึกก้องขึ้นช่วงชิงความสงัดที่เกิดจากความมืดมิดเบื้องหน้า
เฮ้! ยังวิ่งต่อไปไหวแน่นะราน่า? ชายร่างใหญ่หันไปกล่าวถามสาวน้อยข้างตัวด้วยความห่วงใย ..ถ้าไม่ไหวก็บอกพี่ได้นะ..
ยังไหวอยู่ค่ะนี่ซัง สาวน้อยร่างบางนามราน่าตอบกลับ ก่อนจะขมวดหน้าแสดงความไม่พอใจชายร่างใหญ่นามกาแรนผู้เป็นพี่ชาย แต่ว่านะนี่ซัง..ถ้า.. ว้าย!
ทว่ายังไม่ทันจะได้ตัดพ้อต่อว่า
หยุดก่อนสิราน่า! กาแรนก็ผายแขนขึ้นกั้นทางพร้อมเสียงเตือนที่ดังลั่น ข้างหน้าท่าทางจะมีกับดักน่ะ
หมับ..
..กับดักหรือคะนี่ซัง? เพื่อลดระดับความเร็วลง ราน่าจึงตัดสินใจเอื้อมมือขึ้นคว้าแขนของพี่ชายเป็นหลักยึด อยู่ตรงไหนหรือคะ?
ครั้นเมื่อสาวน้อยมองผ่านท่อนแขนของพี่ชายไป เธอก็พบทางลาดชันดิ่งลึกลงสู่ความมืดมิดเบื้องหน้า พร้อมกับหินสลักนูนรูปดวงตะวันที่ติดตั้งแทนเชิงคบเพลิงบนผนังหิน
เอ๋?.. ราน่าเงยคอกล่าวถามกาแรน นี่ซังคิดว่าหินรูปพระอาทิตย์เป็นสลักปลดกับดักอย่างนั้นหรือคะ?
..อาจจะใช่..หรืออาจจะไม่ใช่.. กาแรนตอบกลับ ..ชนเผ่าอัสเต็กน่ะเป็นชนเผ่าโบราณของทวีปอเมริกาใต้ พวกเขาเชื่อกันว่าดวงอาทิตย์คือเทพเจ้าสูงสุดของพวกเขา.. ก่อนจะหลับตาเค้นหาความคิดจากหัวสมอง นอกจากนั้นพวกเขายังเชื่อกันอีกว่า ดวงอาทิตย์หรือเทพเจ้าที่พวกเขานับถือนั้น ต้องการเลือดกับหัวใจสดๆของมนุษย์เป็นเครื่องเซ่นสังเวย.. ไม่สิ!..น่าจะเรียกว่าเป็นอาหารเสียมากกว่า...เพราะถ้าหากเทพเจ้าไม่ได้รับเลือดกับหัวใจสดๆของมนุษย์ทุกวันแล้วล่ะก็..เทพเจ้าที่พวกเขานับถือก็จะดับมอดสิ้นชีวิตลง...
นี่ซังอยากจะบอกว่า.. ถึงจะไม่ใช่คำตอบที่ตรงประเด็นนัก แต่สาวน้อยก็เข้าใจ หินรูปพระอาทิตย์อาจจะเป็นสลักของทางเดินลับก็ได้..อย่างนั้นสินะคะ?
วิ้วว~เก่งนี่นาราน่า ชายร่างใหญ่ผิวปากพร้อมรอยยิ้ม เป็นอย่างที่ราน่าพูดมานั่นแหละ ก่อนจะออกปากชมเชยน้องสาวของตนอย่างภูมิใจ ..เพียงแต่..พี่คิดว่าการจะเปิดทางลับให้ได้นั้น..มันคงต้องใช้เครื่องเซ่นสังเวยกันสักหน่อย..
ฟุบ!
ก่อนที่จะสิ้นเสียงกล่าว..
ผัวะ!!
..สันมือกร้านก็พุ่งเข้าใส่ต้นคอเรียวบางอย่างรวดเร็ว
อ๊อก! ด้วยเรี่ยวแรงจากท่อนแขนทรงพลัง ส่งผลให้สาวน้อยร่างบางนามราน่า สำลอกเอาของเหลวข้นสีแดงฉานออกมาทันที แค่ก!..แค่ก!..
ก่อนที่ของเหลวข้นสีแดงฉานนั้น..
แปะ..
..จะฉาบเยิ้ม..ไหลย้อมไปทั่วหินสลักรูปดวงตะวัน
..ทะ..ทำบ้าอะไรกันคะนี่ซัง!!! เมื่อตั้งสติได้ ราน่าก็แผดเสียงร้องดังกึกก้อง จู่ๆก็มาฟาดคอหนู!! ถามจริงๆเถอะ..หัวกลวงๆของนี่ซังกำลังคิดอะไรบ้าๆอยู่กันแน่คะ!!!
..เครื่องเซ่นสังเวยยังไงล่ะ.. กาแรนตอบกลับเสียงเรียบ พี่ก็บอกราน่าแล้วไง ราวกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร พวกอัสเต็กน่ะ เชื่อว่าดวงอาทิตย์ชอบดื่มเลือดกับกินหัวใจของมนุษย์..
ปึง!..
พริบตานั้นเอง เพดานหินเหนือหัวสองพี่น้องก็แยกออกจากกันเป็นโพรงใหญ่..
วิ้ง~
..ก่อนจะตามมาด้วยเสียงเสียดหู ที่เกิดจากการเปลี่ยนแรงดันกะทันหัน
เห็นรึยังราน่า! ชายร่างใหญ่ตะโกนออกมาสุดเสียง ทางลับไงล่ะ..ทางลับน่ะ!
แค่ก..ขอโทษที่ต้องทำลายความฝันแสนสวยนะคะนี่ซัง สาวน้อยปาดหลังมือซับคราบเลือดบริเวณริมฝีปาก ก่อนจะบ่นพึมพำเบาๆออกมาพอให้ได้ยิน แต่ช่วยแหกตาดูให้ดีก่อนสิคะ.. ขณะเอื้อมแขนเรียวไปบิดหน้าพี่ชายเงยขึ้นมองโพรงใหญ่เหนือศีรษะ ช่องที่มีไว้ปล่อยก้อนหินแบบนี้น่ะ! มันเรียกว่าทางลับอย่างนั้นหรือคะ?!?
แทบจะ..พร้อมกับที่สาวน้อยกล่าวจบ..
ตึง!..
..ก้อนหินใหญ่ก็ร่วงหล่นลงแทบพื้นเบื้องหน้าสองพี่น้อง
ครึก..ครึก...
ก่อนจะทำท่าเอนเอียงกลิ้งล้มลงทางลาด..เนื่องมาจากกฎแรงดึงดูดของโลก
แต่ก็ยังดีล่ะค่ะ ที่หินมันตกลงมาก่อนที่พวกเราจะเดินลงทางลาดไป ราน่ายิ้มอย่างโล่งใจ ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว..ก็ปล่อยให้มันกลิ้งลงไปเองเถอะค่ะ หนูจะได้ไม่ต้องห่วงเรื่องเศษหินที่แตกกระจายเพราะแรงทำลายของนี่ซัง..
ย้ากกก! โดยไม่สนใจเสียงทัดทาน..
ฟุบ
..กำปั้นยักษ์ก็พุ่งแหวกอากาศตรงเข้าใส่เงาดำทะมึนทรงกลมทันที
ตูม!!
..เพียงกระพริบตา..ก้อนหินยักษ์ก็แตกกระจาย..
ผลัก!
..กลายเป็นเศษซากชิ้นเล็กชิ้นน้อยพุ่งตัวออกไปรอบทิศทาง ราวกับสะเก็ดที่เกิดจากแรงระเบิด
อ๊อก! สาวน้อยสำลอกของเหลวสีแดงข้นออกมาอีกครั้ง เนื่องจากเศษหินขนาดเท่ากระทะพุ่งกระแทกท้องน้อยของเธอเสียเต็มรัก
ตุบ...
ขณะที่ของเหลวสีแดงข้นยังคงไหลทะลัก ออกมาจากริมฝีปากเรียวบางอย่างต่อเนื่อง
..แค่ก.. ราน่าก็ล่วงหล่นลงไปนอนกองอยู่กับพื้นหินดุจตุ๊กตาที่หมดลาน
เฮ้ย! ราน่า! ทันทีที่สังเกตเห็น กาแรนก็ตะโกนก้อง อย่าพึ่งตายนะ! พร้อมกับโผร่างเข้าไปช้อนตัวน้องสาวขึ้นจากแอ่งเลือดอย่างรวดเร็ว ใครกัน!..ใครกันที่มันทำกันน้องแบบนี้!..ใครกัน-น-น-น-น-น!?!
..ก็นี่ซังยังไงล่ะ!..แค่ก.. สาวน้อยกล่าวเสียงสั่น ..นี่ซัง..บ้าที่สุดเลย..แค่ก...ถ้าปล่อยหิน..นั่นไป..แค่ก... ราวกับเป็นคำกล่าวลาครั้งสุดท้าย.. ..มันก็กลิ้งลง..แค่ก...ทางลาด...ไม่โดนพวกเรา..แค่ก..แล้ว ..ก่อนสิ้นลมหายใจ ..ที่ทำแบบนี้..เพราะนี่ซังตั้งใจ..จะแกล้งหนูรึเปล่าคะ?..อ๊อก!..
เมื่อสิ้นเสียง..ต้นคอเรียวบางก็เลื่อนหล่นออกจากร่องแขนของพี่ชายราวสิ้นใจ
ราน่า-า-า-า-า-า-า!!!
ชายร่างใหญ่ตะโกนขึ้นสุดเสียง ก่อนจะกระชับร่างบางในอ้อมกอดจนแน่นตึง
ราน่า-า-า-า-า-า-า-า!!!
ร่างบางที่ใช้ปลายนิ้วเรียวเขียนตัวอักษรเลือดลาตายว่า
...นี่ซัง..เฮงซวย!...
---------------------------------------------------
แปะ..
ท่ามกลางความมืดมิดของทางเดินในโบราณสถาน อันมีเพียงแสงสลัวจากคบเพลิงที่ตั้งอยู่เป็นระยะบนกำแพงหินเท่านั้นที่พอใช้นำทางได้
แปะ..แปะ..
ท่ามกลางความสงัดของโบราณสถานที่มืดมิด ยามไร้ซึ่งเสียงพูดคุย
แปะ..แปะ..แปะ..
ท่ามกลางความสงัดของโบราณสถาน ที่ควรจะมีแต่เสียงย่ำเท้าเท่านั้นที่สามารถดังแทรกทำลายความสงัดได้
แปะ..แปะ..แปะ..แปะ..
เฮ้ ราน่า..ทำอะไรอยู่น่ะ? กาแรนโพล่งขึ้นอย่างเสียอารมณ์ ส่งเสียง แปะ แปะ อยู่ได้น่ารำคาญชะมัด.. ก่อนจะหันหน้าไปยังร่างบางที่ตนแบกเอาไว้บนบ่าเหมือนกับแบกกระสอบข้าวสาร
แปะ..
อ้อ หนูทิ้งรอยเลือดเอาไว้นะค่ะ ราน่าตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม ..เผื่อว่าขากลับพวกเราจะได้ไม่หลงทางไงคะนี่ซัง..
เมื่อได้รับคำตอบจากน้องสาว..
โป๊ก!
..พี่ชายร่างใหญ่ก็ทิ้งหน้าผากเข้าใส่เป้าหมายทันที
จากคุณ :
DarkNine
- [
28 ม.ค. 50 14:08:31
]
|
|
|