ตอนที่ 16 : ผูกใจด้วยความผูกพัน
คนที่นอนขดตัวเป็นกุ้งหลับสนิทอยู่บนเตียงนอนของเขาตอนนี้ ทำให้ณนนท์ ถึงกับต้องชะงักมือที่กำลังเอื้อมไปดึงผ้าห่มมาคลุมให้...
เฌลลีชอบนอนกอดผ้าห่ม ไม่ว่าจะอากาศเย็น หรืออากาศร้อน เขาก็ไม่เคยเห็นเธอห่มผ้า บ่อยครั้งที่เขาต้องหอบผ้ามาห่มของตัวเองมาคลุมให้เธอ แล้วค่อยออกไปจากห้อง เฌลลีก็โวยวายในตอนเช้าว่าใครแอบย่องเข้าห้องเธอ เขาจึงแก้ปัญหาด้วยการมีผ้าห่มสองผืนวางอยู่บนเตียงเสมอ...
ระยะแรกที่เฌลลีมาอยู่ที่บ้านและตียึดห้องนอนเขาเป็นห้องของตัวเอง เธอมักจะล็อคห้องนอนทุกครั้ง แต่เพราะตู้เสื้อผ้าของเขาก็อยู่ในห้อง โต๊ะทำงานก็อยู่ในห้อง บางครั้งที่เขาต้องไปทำงานแต่เช้าก็ต้องเคาะประตูห้องให้เธอมาเปิดเพราะต้องอาบน้ำ แต่งตัวในห้องนั้น เฌลลีงัวเงียเดินมาเปิดแล้วก็ล้มตัวลงไปนอนต่อ หลังๆ มาเธอคงขี้เกียจลุกมาเปิด เลยตัดปัญหาด้วยการไม่ล็อคประตูเสียเลย
ห้ามทำมิดีมิร้ายฉันเด็ดขาด เธอเอานิ้วชี้จิ้มหน้าผากเขา
คุณน่ะโอเว่อทเวนตี้ หมดโปรโมชั่นที่ผมจะทำมิดีมิร้ายไปตั้งนานแล้ว เขายื่นหน้ามาใกล้
ไอ้บ้า กลัวที่ไหน...เฌลลียื่นหน้าเข้าไปชิดจนหน้าผากชนดั้งจมูก
เอ๊า หรือไม่จริงล่ะ หนังเหนียวเคี้ยวไม่ลง ปากยังจัดจ้านแต่เดินกุมจมูกหนีไป
ชิ ที่จริงแล้ว เธอไม่ได้กังวลหรอกว่าจะถูกณนนท์ทำมิดีมิร้าย เพราะเธอไว้ใจเขา หลายครั้งที่ต้องไปไหนมาไหนด้วยกันสองคน เธอพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า
ให้ฉันไปนอนค้างอ้างแรมที่ไหนในโลกก็ได้ถ้าคนที่ไปด้วยกันคือแก เพราะฉันไว้ใจแก แต่กับคนอื่นฉันไม่ นั่นเป็นประโยคที่เป็นเหมือนกำแพงและเกราะป้องกันตัวเองไปในตัว คำว่า ไว้ใจ มีความหมายและมีค่ามากกว่าที่จะถูกทำลายไปด้วยอารมณ์หรือความรู้สึกชั่ววูบ ณนนท์จึงสำนึกเอาไว้ในใจเสมอว่า เขาแตะต้องเฌลลีไม่ได้... เพราะความไว้วางใจทั้งหมดของเธออยู่ที่เขา
เฌลลีรู้สึกว่าบ้านนี้คือบ้านของเธอ สามพี่น้องคือครอบครัวเดียวกับเธอ เธอไว้ใจทั้งสามคนอย่างไม่มีข้อแม้ และโชคดีก็คือทั้งสามพี่น้องเป็นคนดีพอที่เธอจะวางใจไปจนตลอดชีวิต
ขยับไปไอ้หน้าแป้น จะนอนด้วย อยู่ๆ ณนนท์ก็หอบหมอน หอบผ้าห่มขึ้นมาบนห้อง
เฮ้ย แกจะมานอนกับฉันได้ยังไง ที่นอนแกอยู่ที่โซฟาหน้าทีวีนู่น
วันนี้จะนอนนี่ มีไรมะ เขาทำหน้าทะเล้น มีพลาสเตอร์ปิดพาดดั้งจมูก
แล้วถ้าแกเกิดทำอะไรฉันขึ้นมา ฉันก็แย่ดิ
ยัยบ้า ใครจะทำลายโบราณวัตถุลงไปได้ ว่าจบก็โดดขึ้นเตียงอย่างไม่เกรงใจว่ามันจะพังลง เขาหันหลังให้ เธอเองก็หันหลังให้เขา
แกมีอะไรไม่สบายใจใช่ไหม เธอรู้ ว่ามาแบบนี้ต้องมีเรื่องไม่สบายใจเป็นแน่
อื้อ เสียงนั้นอยู่ในลำคอ
แกอยากบอกอะไรฉันใช่ไหม เฌลลีตั้งคำถามอีกครั้ง
อื้อ คำตอบเดิม
ว่ามา
ผมเป็นห่วงน้อง
เรื่องที่น้องกลางเมาหัวทิ่มกลับมาสองสามวันนี้น่ะเหรอ
น้องเล็กไม่ค่อยกลับบ้าน
เรื่องเรียนเขาเป็นยังไงบ้าง
ผมเช็คที่คณะแล้ว ผลการเรียนน้องเล็กอยู่ในเกณฑ์ดี เขาเป็นคนเรียนดีมาแต่ไหนแต่ไรแล้วเรื่องเรียนตัดไปเพราะผมรู้ว่าน้องผมเอาตัวรอดได้ แต่มีอยู่ตัวหนึ่งที่เขาติดเอฟมา ผมคุยกับอาจารย์ผู้สอนแล้ว เขาเป็นเพื่อนผมเอง ที่เขาให้น้องเล็กติดเอฟไม่ใช่เพราะน้องเล็กเรียนแย่แต่เพราะน้องเล็กไปเสียมารยาทกับเขา ดันไปท้าต่อยอาจารย์
น้องเล็กเนี่ยนะ เฌลลีไม่อยากเชื่อ เพราะน้องเล็กเป็นเด็กมารยาทดีพอสมควร เรื่องท้าต่อยท้าตี ไม่น่าจะมีเกิดขึ้นได้
ดูเหมือนจะถูกเพื่อนยุ ตอนนี้น้องเล็กติดเพื่อนซึ่งหลายคนอ่อนการอบรมเรื่องมารยาท มันเป็นธรรมดาของเด็กผู้ชายเมื่ออยู่ในกลุ่มเพื่อน ที่จะต้องแสดงความกร่าง เจ๋ง เก่ง เท่ ของตัวเองซึ่งบางทีมันก็ไม่ถูกที่ถูกทาง
แม่รู้เรื่องไหม
นั่นแหละที่ผมกังวลล่ะ
แล้วเรื่องน้องกลางล่ะ ตอนนี้เฌลลีไม่นอนแล้ว เธอลุกขึ้นมานั่งและฟังเขาพูด
น้องกลางอกหัก เขารักน้องยุ้ยมาก แต่ทั้งคู่ก็เลิกกัน ผมไม่รู้สาเหตุว่าทำไมเพราะน้องกลางไม่เล่า แต่ความเปลี่ยนแปลงของเขามันชัดเจน เขาเหมือนผม ปากกับใจไม่ค่อยไปทางเดียวกันนัก เขาบอกว่า ไม่เป็นไร แต่ในลึกของดวงตามันบอกว่าเขาเป็นอะไร, ผมเป็นห่วงน้องกลางมากกว่าน้องเล็กด้วยซ้ำ
เขาโตแล้วนะ เขาจัดการกับชีวิตตัวเองได้
แล้วคุณเห็นไหม ว่าตอนนี้เขาเซื่องแทบไม่รับรู้เรื่องราวอะไรแล้ว ผมไม่อยากให้มันมีปัญหาไปกระทบเรื่องงานของเขา
แล้วแกจะทำยังไง
ไม่รู้เหมือนกัน... ผมถึงมาปรึกษาคุณนี่ไง
ให้น้องเล็กไปขอโทษอาจารย์ ยื่นคำร้องขอแก้เอฟตามระเบียบของมหาวิทยาลัย แต่เรื่องของน้องกลางนี่...ฉันยังคิดไม่ออก
ผมไม่สนใจหรอกว่าเขาเลิกกันด้วยสาเหตุอะไรแต่ผมไม่อยากเห็นน้องผมเป็นแบบนี้
ทุกเรื่องมีทางออกนะ อย่าคิดมากไปเลย
ผมไปนอนดีกว่า วันนี้ล็อคห้องเลยนะพรุ่งนี้ผมตื่นสาย ไม่ต้องปลุก ว่าจบก็เดินออกจากห้องไปเสียเฉยๆ อย่างนั้น ณนนท์เป็นแบบนี้เองเสมอ เรื่องที่เขาไม่สบายใจ มักจะไม่ใช่เรื่องของตัวเอง แต่เป็นเรื่องของคนรอบๆ ตัวที่ทำให้เขารู้สึกเป็นห่วงและเป็นกังวลตามไปด้วยทุกครั้ง
เฌลลีเป็นเพื่อนคุย และให้คำปรึกษาได้ในบางเรื่อง แต่ก็ไม่ทุกเรื่อง เพราะณนนท์มีโลกของตัวเองที่
เธอไม่อาจเข้าถึง และเขาก็ไม่เคยเปิดโอกาสให้เธอเดินเข้าไปในโลกใบนั้น นอกจากเรื่องของน้องสองคนแล้วสิ่งที่เฌลลีอยากถามเขาที่สุดคือเขาเคยมีปัญหาด้วยเรื่องของตัวเขาเองบ้างหรือไม่ และถ้ามีแล้วเขาแก้ปัญหาเหล่านั้นยังไง มีใครที่ทำให้เขาสบายใจได้นะ...
บางทีอาจจะเป็น น้องคนนั้น ซึ่งดูเหมือนทั้งคุณสมบัติ และรูปสมบัติจะเหมาะสมลงตัวเพ๊ะ เธอไม่รู้ว่าระหว่างมิตรภาพของทั้งสอง ดำเนินไปในแบบไหน แต่การทำงานที่เดียวกันนั่นทำให้ทั้งคู่ใกล้ชิดกันมากกว่าเธอซึ่งเจอกับเขาเพียงสัปดาห์ละครั้ง และอยู่ห่างถึงเกือบสามร้อยกิโลเมตร
-----------------------------
และเช้าวันถัดมา ประโยคแรกที่เฌลลีถามณนนท์ก็คือ เรื่องที่ทำให้เธอนอนไม่หลับเมื่อคืน
แก... ฉันถามอะไรหน่อยได้ไหม เฌลลีคนกาแฟช้าๆ ไม่ยกขึ้นจิบ อันที่จริง เธอไม่ได้จิบมันเลยจนมันเย็นชืดไปแล้วต่างหาก
ว่ามา ณนนท์ไม่ได้เหลือบมองเธอสักนิดเดียว
แกชอบน้องคนนั้นเหรอ เธอรบรวมความกล้าทั้งหมดพูดออกไป
น้องคนไหน เขาตีหน้าเซ่อ แต่เธอรู้ว่าหมายความถึงคนเดียวกัน
น้องขนมเค้กน่ะแหละ
ใครบอกคุณ เขาวางถ้วยกาแฟเปล่าลง ก่อนทำท่าจะลุกจากเก้าอี้
ฉันแค่ถามดู เพราะฉันไม่เคยได้ยินแกพูดถึงผู้หญิงคนไหนเลย นอกจากน้องคนนั้น
เอาไว้ว่างๆ จะบอก ตอนนี้ไม่ว่าง จะไปทำงานแล้ว เฌลลีเงียบกริบ เมื่อเจอประโยคปฏิเสธแบบแย้งไม่ได้ ผู้หญิงคนนั้นสำคัญมากจนต้องหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเลยเชียวหรือ
เป็นไรอีก หน้าหงิกแต่เช้า กินข้าวไม่อร่อยเหรอ หรือกาแฟขมไป
เปล่า ไม่มีอะไร
โอ เค งั้นเพื่อความสบายใจของคุณ ผมบอกได้เต็มปากว่า ผมไม่ได้รักใครในแบบคนรัก ว่าจบก็ยักคิ้วให้ พร้อมทั้งเอานิ้วจิ้มหน้าผากเธอก่อนไปอีกต่างหาก
เมื่อคืนนอนไม่หลับเพราะเรื่องนี้ใช่มะ... ตางี้ดำปี๋เป็นหมีแพนด้าเชียว ไอ้หน้าแป้นเอ๊ย
เรื่องของฉัน ยุ่ง เธอค้อนควับ...
ไว้ผมรักใครจริงๆ ขึ้นมาเมื่อไหร่ ผมจะบอกคุณเป็นคนแรก
ฉันก็เหมือนกัน น่าน... ยอมแพ้เมื่อไหร่ล่ะ
อื้อ... ลืมบอกไปล่ะ ว่า น้องขนมเค้กฝากขนมมาเชื่อมสัมพันธไมตรี แล้วก็บอกอีกด้วยว่าเค้าอิจฉาคุณ เธอจะชื่ออะไร เฌลลีไม่รู้ล่ะ แต่ถ้าบอกว่าน้องคนนั้น หรือ น้องขนมเค้ก ล่ะก็เป็นอันรู้กัน
อิจฉาฉันเรื่องอะไร
เค้าบอกว่าคุณเขียนหนังสือเก่งนะ เค้าติดนิยายที่คุณเขียนงอมแงมเลยล่ะ
งั้นฝากไปบอกด้วยว่าฉันก็อิจฉาเค้าเหมือนกัน
เรื่องที่เค้าทำงานที่เดียวกับผมน่ะเหรอ
เปล่า... เรื่องที่เค้าทำขนมเค้กเป็นต่างหาก
---------------------------------------
ตอนก่อนหน้าค่ะ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5084422/W5084422.html
จากคุณ :
ดาริกามณี
- [
30 ม.ค. 50 14:27:44
]