เรื่องของเรื่องก็คือ จากที่ ไม่เคยรู้จัก "น้องขนมเค้ก" มากไปกว่าจากคำบอกเล่าของ ณนนท์ และหลังจากน้องเค้าแอบอยู่เบื้องหลัง อ่านเรื่องของตัวเอง (โดยไม่รู้ตัว) ไปพลางๆ คราวนี้ - ทุกอย่างเฉลย... (เจ้าตัวเค้ามาเม้นต์ ในบล็อคด้วยแหละ คริ คริ)
และหลังจากที่มีเพื่อนๆ (คุณกริชครับผม) แวะมาบอกว่าน่าจะโพสท์ลงไปในห้องนิยาย แต่ทีนี้ ด้วยความที่เราแปะลงตรงนี้ตั้งแต่คราวแรก และอีกอย่างก็มีเพื่อนๆ ที่ติดตามมาตั้งแต่คราวแรกๆ อยู่ด้วยกันมา (พักใหญ่) เอาเป็นว่า "เรื่องหน้า" เราค่อยไปแปะลงห้องนิยาย ก็แล้วกันนะคะ
ส่วนเพื่อนๆ ที่ตามอ่านไม่ทัน เราแปะเรื่องเดียวกันนี้ไปว้ที่บล็อค กับที่เว็บ www.love-stories.net ด้วยค่ะ ^^ ขอบคุณที่ตามอ่าน และ (อาจจะ) ชอบ นะคะ
มีอะไรอยากให้เราแก้ไข หรือมันผิดพลาดไปจากหลักความเป็นจริงก็ ทักท้วงกันมาได้นะคะ
แล้วก็ ขอบคุณมากที่ตามอ่าน ตลอดมาอ่ะค่ะ ตอนนี้ครึ่งแรก ผ่านไปแล้ว เหลือครึ่งหลังว่า เรื่องราวจะเป็ฯยังไงต่อ
ก็ "เรื่องตลกของโชคชะตา" นี่นะ มันต้องมีอะไรที่... ให้เซอร์ไพรท์เล่นๆ บ้างล่ะน่า.... ^^
----------------------------------------------------------
ตอนที่ 17 : จะขึ้นบ้านใหม่
เฌลลีเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี และใช้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง เธอเป็นคนขี้ใจน้อยแต่ก็ไม่ใช่คนโกรธง่าย ไม่เคยเสียใจจนถึงกับฟูมฟาย น้ำตาท่วม และมีไม่กี่เรื่องที่ทำให้เฌลลีรู้สึกเศร้าหรือเสียใจได้ ประเด็นเรื่องน้องขนมเค้กก็ตัดไป เพราะถ้าณนนท์ตอบว่า ไม่ นั่นก็แปลได้อย่างเดียวว่า ไม่มีอะไรเกินกว่านั้นจริงๆ แต่สิ่งเดียวที่เฌลลี รู้สึก มากกว่าเรื่องใดๆ ทั้งหมดคือ เพราะเขาไม่รักเธอ...
เฌลลีเคยถามณนนท์ว่าทำไม เขาไม่รักเธอ คำตอบที่ได้คือ เพราะเธอหน้าแป้น ตัวดำ ไม่สวย อายุเกิน (จริงๆ คือแก่เกินไปสำหรับณนนท์) ทั้งหมดรวมกันคือข้ออ้าง แต่เป็นข้ออ้างที่เถียงไม่ขึ้นเหมือนกัน เธอไม่เคยถามว่าต้องทำยังไงเขาจึงจะรักเธอบ้าง อย่างที่เธอรัก (ที่จริงเธอไม่เคยนึกถึงเลยต่างหาก) วันนี้ฤกษ์งามยามดี มีจังหวะ ขณะที่เขากำลังนั่งเล่นหอย... ใช่แล้ว ณนนท์นั่งเล่นเปลือกหอยที่เธอเก็บมาฝากจากริมหาดแม่รำพึงเมื่อไม่นานมานี้
แก ฉันถามอะไรหน่อยดิ... เฌลลีนั่งลงข้างๆ ดึงชายเสื้อยิกๆ
แกรอใครอยู่ คำถามตรงไปตรงมาตามประสาคนหน้าตาดี
รอใคร รออะไร บ้าป่าวแป้น นี่มันห้าทุ่มแล้วใครจะมาเอาป่านนี้ เขาเหลือบมองด้วยหางตา
ฉันหมายถึง ที่แกไม่รักใครเลย ทั้งฉันแล้วก็น้องเค้ก... ณนนท์เว้นช่วงจังหวะให้ความเงียบเข้าครอบคลุมพื้นที่
ไม่รู้สิ รอคนที่ไม่เคยมา หาคนที่ไม่เคยมีอยู่ล่ะมั้ง
แล้วฉันจะทำยังไงให้แกรักฉัน นี่ก็พุ่งเป้าตรงประเด็นเป๊ะเหมือนกัน
ไม่รู้สิ ผมก็ไม่เคยมีข้อสอบแบบนี้ในหัวด้วย
ฉันคิดว่าระหว่างเรา มันเหมือนเส้นขนานยังไงไม่รู้ ดูมันไม่มีวันมาบรรจบ ความรู้สึกของเธอเป็นอย่างนั้นจริงๆ เฌลลีถอดใจไปหลายครั้งกับความเฉยชา และไร้ความรู้สึกของณนนท์ จนบางครั้งเธอก็คิดว่า เธอกับเขาคงไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้นอกจากความเป็นเพื่อนแน่นอน...
แต่เส้นขนานก็ตีคู่กันไปไม่พลัดพรากไม่ใช่เหรอ เขาจบประโยคเท่านั้น แต่เฌลลียังไม่จบไปกับเขาด้วย เพราะเธอยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนเพียงพอ เธอจึงยังไม่ลุกไปไหน
นี่นะ คุณเห็นนี่ไหม นี่คือเปลือกหอย หน้าตาเหมือนหอยโข่งเนอะ ความรักของผมก็เหมือนเส้นก้นหอยนั่นแหละ เริ่มต้นจากจุดเล็กๆ จุดหนึ่ง ค่อยๆ เดินวนโค้งไปเรื่อยๆ เส้นก้นหอยของความรักจะเติบโตขึ้นทุกครั้งที่ก้าวเดิน แต่ในขณะเดียวกันในขณะที่ก้าวเดินในองศาเดิมที่ก้าวมาถึงมันกลับไม่ใช่จุดเดิม ในเวลาเดียวกันเราก็จะเดินทางข้างๆ กับทางเดิมที่เคยผ่านมาเป็นทางเดินที่ไม่มีวันสิ้นสุด ความรู้สึกดีๆ จะถูกเก็บไว้ในส่วนลึกของก้นหอยและมันก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในระหว่างการเดินทางส่วนความรู้สึกไม่ดีก็จะโยนทิ้งไว้นอกเปลือกของความรักไม่เก็บมาไว้ในใจ แต่ก็ยังมองเห็นอยู่ ผมคิดว่า ทางเดินของความรักเหมือนก้นหอยเติบโตทุกครั้งที่ก้าวเดินที่องศาเดิมเรารู้อะไรมากขึ้นและมีเส้นเคียงข้างระหว่างการเดินทาง ไม่พูดเปล่า ยื่นเปลือกหอยมาตรงหน้า ใช้ดินสอวาดลงบนกระดาษเป็นวงกลมก้นหอยให้ดูเป็นตัวอย่าง ขีดเส้นรัศมีศูนย์กลางบอกพิกัดความห่างระหว่างช่วงปีของขดก้นหอย สมเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์นิวเคลียร์ และอย่างไม่น่าเชื่อ... ความรักสำหรับณนนท์แล้ว ลึกซึ้งเกินกว่าที่จะเข้าใจได้อย่างง่ายดายภายในไม่กี่นาที
งง ว่ะ แต่ไม่เป็นไรหรอก เอาเป็นว่า แกไม่ได้รักฉันและแกก็ไม่รู้ด้วยว่าฉันจะต้องทำยังไงให้แกรัก เพราะฉันทำทุกทางแล้วล่ะ ยกเว้นปล้ำแกน่ะ
ยัยบ้า อย่าได้ไปพูดอย่างนี้กับใครเข้าล่ะ เป็นผู้หญิงน่ะ เที่ยวไปปล้ำผู้ชาย มันไม่เหมาะ
กลัวที่ไหน เธอย้อนทันควัน
ไป ไป ไปนอน ผมจะนอนแล้ว ตรงนี้โซฟาหน้าทีวีที่ของผม ขึ้นไปเลยบนห้อง ล็อคด้วย แล้วไม่ต้องออกมานะ ถ้าไม่จำเป็น เฌลลียิ้มขำ เอาเข้าจริง คนที่คิดแบบหัวโบราณ (กว่าเธอ) ก็คือเขานั่นเองแหละ
เออนี่ อาทิตย์หน้ามาเร็วหน่อยนึงนะ พอดีจะทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ตั้งแต่ย้ายเข้ามาบ้านนี้ยังไม่ได้ทำบุญเลยมัวแต่ยุ่งเรื่องโน้นเรื่องนี้จนไม่มีเวลาสักที เมื่อวานพอดีแวะไปที่วัดหลวงตาท่านให้ฤกษ์มาเป็นวันอาทิตย์หน้าพอดี เดี๋ยวผมจัดเตรียมเรื่องพิธี น้องกลางรับผิดชอบเรื่องดูแลแขกเหรื่อ ซึ่งก็มีแค่คนรู้จักไม่กี่คน
แล้วฉันล่ะ เฌลลีหมายถึงสถานภาพของเธอในวันนั้น
คุณช่วยดูแลความเรียบร้อยอื่นๆทั่วไป ฟังดูคล้ายๆ คนใช้ยังไง ยังงั้น
ช่วย... แปลว่ามีคนรับผิดชอบหลักๆ อยู่งั้นสิ
อื้อ, พ่อกับแม่จะขึ้นมาจากสงขลาพรุ่งนี้ จะไปรับที่สนามบินด้วยกันไหมล่ะ ณนนท์แกล้งถาม
ม่ายอ่า พรุ่งนี้ฉันมีสอนสิบโมงเช้า ต้องออกจาก กรุงเทพฯ ตั้งแต่หกโมงด้วยซ้ำ
ไหนบอกจะเป็นสะใภ้แม่ผมไง ชวนไปรับแม่ แล้วก็ไม่ไป ได้ทีก็เอาใหญ่
งั้นตกลง
แต่ผมว่า ไม่ต้องก็ได้ เดี๋ยวคุณจะสาย
ไม่แน่จริงนี่หว่า อ่ะโด่ ว่าแต่ ถามจริงเถอะ แม่รู้ไหมว่าฉันมาอยู่ที่นี่ในวันหยุดน่ะ
ไม่รู้สิ ผมก็ไม่เคยบอก แม่ก็ไม่เคยถามเหมือนกัน เพราะทุกครั้งที่แม่มาแม่จะพูดแค่ว่า อืมม์ บ้านสะอาดดีนะลูก ดูเหมือนน้องสองคนก็จะสมอ้างด้วยว่าเป็นคนทำความสะอาดน่ะ
อ๊ะ นั่นมันฉันทั้งนั้นเลยนี่
หรือคุณจะให้น้องๆ บอกว่ามีผู้หญิงคนนึงมาคอยเป็นทาสรับใช้ ทำความสะอาดบ้านให้เพราะหลงรักพี่ชายคนโตล่ะ
ไอ้บ้า...
แล้วฉันจะรู้จักไหมเนี่ยว่าใครเป็นใคร เฌลลีนึกถึงวันขึ้นบ้านใหม่ที่จะมาถึงไม่ช้านี้
เออน่ะ อย่างน้อยคุณก็รู้จักน้องขนมเค้ก
เหวอ เธอมาด้วยเหรอ
ใช่สิ เธอเป็นเพื่อนร่วมงาน แล้วผมก็ชวนเพื่อนๆ ที่ทำงานมาด้วย
โอ้ งั้นฉันไม่มาได้ป่ะ
กลัวอะไร ณนนท์ถาม
เปล๊า... กลัวที่ไหน แค่ไม่อยากเจอ เฌลลีปฏิเสธไม่เต็มเสียงนัก
แต่เค้าอยากเจอคุณ ผมบอกไปแล้วด้วยว่าคุณจะมา
เฮ้ย มัดมือชกนี่หว่า
คุณไม่ต้องคิดมากหรอก จริงๆ แล้วน่ะน้องเค้าไม่ได้ชอบผม
ไม่ได้ชอบ แล้วทำไมทำเค้กมาให้วันเกิด สั่งหนังสือจากสำนักพิมพ์หนึ่งหนึ่งสามให้พร้อมลายเซ็นนักเขียน แล้วยังเลียนแบบสมุดบันทึกฉันอีก เฌลลีหรี่ตา ตั้งคำถามอย่างตั้งใจจับผิด
โห มาเป็นชุด นี่จำได้ทุกเรื่องเลยเหรอ ณนนท์หัวเราะคิกคัก ถูกใจที่เธอจำเรื่องน้องคนนั้นได้
ก็เออสิ ศัตรูหัวใจนี่หว่า
คืองี้ น้องเค้กเนี่ย เค้าเป็นคนชอบทำขนม แล้วที่เค้าทำเค้กวันเกิดให้น่ะ เค้าก็ทำให้ทุกคนในสำนักงานนั่นแหละ ณนนท์เฉลย
แล้วเรื่องหนังสือล่ะ ยัง ยังมีเรื่องอื่นอีก
เค้าเซอร์ไพรท์วันเกิด แก้ตัวให้กันอีกต่างหาก
แล้วทำไมต้องเลียนแบบสมุดบันทึกฉันล่ะ
เค้าอยากลองทำ
ชิ วลีติดปากที่ไม่รู้จะต่อความยาว สาวความยืดต่อยังไงแล้วนั่นแหละ
คนที่เค้าชอบน่ะเป็นอีกคนซึ่งอยู่แผนกเดียวกับผม นั่นน่ะ น้องเค้าทำเค้กมาให้ทุกวันเลย
หมอนั่นคงเป็นโรคเค้กโฟเบีย มีคอเรสเตอรอลในเส้นเลือดเกินปริมาณหรือไม่ก็อ้วนตายไปแล้ว
เปล่านี่ เค้ากำลังวางแผนจะเปิดร้านเบเกอรี่กันหลังแต่งงานตะหาก
อ๊ะ จริงดิ... เฮ่อ ค่อยโล่งอก หมดศัตรูหัวใจไปอีกหนึ่ง เฌลลีถอนหายใจ อย่างที่รู้สึกจริงๆ
แต่ยังเหลืออีกเพียบ
เอ๊ะ แล้วทำไม น้องเค้กเค้าถึงไปชอบคนนั้นล่ะ แสดงว่าก่อนหน้านี้เค้าชอบแกดิ ไม่งั้นเค้าไม่ทุ่มทุนสร้างขนาดนี้หรอก เฌลลีเป็นนักสงสัยมืออาชีพ
เค้าไม่ได้ชอบผมตั้งแต่แรกแล้ว
ก็แหง...ปากหยั่งงี้ เธอเหน็บมั่ง นานๆ ทีจะมีโอกาสเอาคืน
มีแต่คนประหลาดๆ เท่านั้นแหละที่มาชอบผมน่ะ
อ้าว... ไอ้ยื่น หลอกด่านี่หว่า เธอผลักเบาๆ
หลอกด่าที่ไหน ก็ด่าตรงๆ นี่แหละ ไป ไปนอน เที่ยงคืนกว่าแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสาย ขับรถลงข้างทางจะหาว่ายื่นไม่เตือน
แล้วทำไมไม่บอกฉันตั้งนาน ว่าเขาไม่ได้ชอบแก
ผมชอบดู ตอนคุณหึงเค้าน่ะ มันตลกดี
------------------
ตอนก่อนหน้าค่ะ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5093083/W5093083.html
จากคุณ :
ดาริกามณี
- [
1 ก.พ. 50 08:32:14
]