ชั่วกัปล์ชั่วกาล
ฉันตื่นขึ้นมากลางดึก เหงื่อผุดไปทั่วร่าง น้ำตารินไหลออกมา ฉันรู้สึกเหมือนฝันร้าย แต่มันเป็นฝันที่ฉันจำมันไม่ได้เลย
"เป็นอะไรอีกล่ะ ฝันร้ายอีกแล้วเหรอ"
เสียงของสามีทำให้ฉันตื่นจากพะวัง
"ปะ..เปล่าค่ะ ขอโทษค่ะไม่มีอะไรคุณนอนต่อเถอะ"
ฉันพยายามหลบหน้า แล้วแกล้งทำเป็นนอนต่อ แต่ฉันกับลืมตาโพลงอยู่ท่ามกลางความมืดมิด เฝ้าคิดถึงบางสิ่ง บางอย่าง ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าคืออะไร มันเหมือนกับว่าฉันไม่เคยได้หลับเลย
รุ่งเช้าสามีฉันก็พูดแต่เรื่องเดิมๆ
"คุณได้คุยกับพ่อคุณ เรื่องยศของผมยัง?"
ฉันได้แต่อ้ำอึ้ง เพราะความจริงคุณพ่อ ก็ไม่ชอบลูกเขยคนนี้สักเท่าไหร่ แต่ฉันก็รั้นมาแต่งงานกับเค้าจนได้ เค้าทำทางรำคาญก่อนออกจากบ้านไป
"แล้วคุณน่ะ ไปหาหมอเช็คสมองบ้าง ตื่นทุกกลางดึก ทำเอาผมประสาทไปด้วย"
"อีกอย่างคืนนี้ผมไปทำคดีไม่กลับ ไม่ต้องรอ"
สามีฉันเป็นตำรวจ พ่อของฉันก็เป็นตำรวจ จึงเข้าใจดีว่า งานมันเสี่ยง และยุ่งเพียงไร จึงไม่เคยไปจ้ำจี้จ้ำไชเค้า ไม่ว่าเค้าจะทำอะไร หรือไปไหน แม้ว่าบางสิ่งก็รบกวนจิตใจฉันตลอดมา
ฉันเริ่มงานแม่บ้านของฉัน เก็บกวาดไปเรื่อยๆ แต่ก็สะดุดใจกับบางอย่างที่พบ
นั้นปืนของสามี เค้าไปทำงานแต่ทำไมไม่พกปืนไปด้วยนะ แต่เมื่อฉันสัมผัสปืน ภาพบางอย่างก็แวบเข้ามาในสมอง
เป็นภาพสามีของฉันกำลังกลัวลนลาน มีปืนจ่อที่เค้าอยู่ ที่ฉันเห็นนี่คือลางบอกเหตุว่า เค้ากำลังตกอยู่ในอันตรายแน่ๆ
แต่ฉันจะช่วยเค้าได้อย่างไร ความรู้สึกบางอย่างทำให้ฉันไปค้นในชุดที่เค้าใส่ มีเศษกระดาษที่จดตัวเลข ยุ่งจนดูไม่ออก
แต่ฉันกับเห็นภาพ ห้องพร้อมหมายเลขห้องในโรงแรมแห่งนึงอย่างชัดเจน และเสียงปืนที่ดังขึ้นสองนัด
ฉันจำโรงแรมแห่งนี้ได้ สามีเคยพาฉันไปก่อนที่จะแต่งงานกัน
ฉันรู้สึกเป็นห่วงเค้ามาก จนร้องไห้ออกมา มันจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีกับเค้าแน่ๆ
ฉันรีบหยิบปืนของเค้า และปืนที่พ่อเคยให้ฉันไว้ แล้วรีบไปที่แห่งนั้น โดยหวังว่าอาจช่วยอะไรได้บ้าง
ทุกๆก้าวที่ฉันเดิน มันช่างหนักเสียเหลือเกิน หายใจลำบาก ใจเต้นจนแทบทะลุออกมา ความรู้สึกบางอย่าง พยายามดึงให้ฉันถอยหลังกลับไป ฉันไม่สามารถทิ้งให้เค้าเกิดอันตรายได้ ฉันรักเค้ามากมายเหลือเกิน
นั้นฉันเห็นเค้าแล้ว แต่ขณะที่จะร้องทัก ก็มีผู้หญิงคนนึงวิ่งเข้ามาสวมกอดเค้าไว้ แล้วทั้งคู่ก็โอบกอดกันขึ้นลิฟท์ไปชั้นบนของโรงแรม
ฉันรู้สึกเหมือนโดนไฟฟ้าช็อตไปทั่วร่าง ทั้งอึ้ง ทั้งตกใจ แต่ก็แอบตามทั้งสองไปอย่างเงียบๆ
ฉันยืนอยู่หน้าห้องนั้น หมายเลขห้องเหมือนที่ฉันเห็นจากภาพในสมอง เสียงหัวเราะต่อกระซิกลอดออกมาจากห้อง
แต่ฉันก็สามารถจับใจความได้อย่างเช่นจัด
"พี่ออกมาค้างกับหนูบ่อยๆเมียที่บ้านไม่ว่าเหรอ?"
"โธ่ อีอ้วนที่บ้านมันไม่กล้าถามหรอก มันโง่จะตาย"
"ถ้าพ่อมันไม่เป็นตำรวจใหญ่ พี่ไม่สนอีอ้วนนั้นหรอก"
"ยิ่งกลางคืนสะดุ้งตื่นบ่อยๆ โครตรำคาญอยากถีบ:-)ให้ตกเตียงไปเลย"
เสียงหัวเราะของทั้งคู่ ร่วมทั้งถ้อยคำอีกมากมาย มันช่างเหมือนใบมีดที่พุ่งมากรีด ลงบนร่างฉัน จนสภาพไม่ต่างกับเศษผ้าขี้ริ้วผืนนึง น้ำตาที่รินไหลออกมา ไม่สามารถบอกได้ว่าข้างในฉันมันเจ็บมากเพียงไร
ฉันบรรจุกระสุนแล้วจึงเคาะห้อง เมื่อเค้าเปิดประตูออกมา สีหน้าของเค้าซีดเผือก ที่พบว่าฉันยกปืนจ่อไปที่เค้าอยู่
ใช่แล้วภาพนี้คือภาพที่ฉันเห็น คนที่จ่อปืนนั้นคือตัวฉันเอง
เค้ารีบพูดแก้ตัวต่างๆนาๆ พยายามทุกอย่างให้ฉันส่งปืนให้เค้า ก้มลงกราบก็ทำ ฉันรู้สึกสมเพชเค้าเหลือเกิน และ ใจมันก็เจ็บปวด จนแทบทรงตัวไม่อยู่ ฉันบอกกับเค้าว่า
"ฉันให้อภัยคุณไม่ได้ ฉันทนรับเรื่องอย่างนี้ไม่ได้ ฉันทนอยู่ต่อไปไม่ไหวแล้ว"
ฉันโยนปืนให้เค้านึงกระบอก และบอกว่า มีทางเลือกอยู่สองทาง
หนึ่งคือ ใช้ปืนกระบอกนั้นยิงฉันซะ ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ให้เค้าฆ่าฉันด้วยมือเค้าเอง
สองคือ ถ้าคุณไม่ยิงฉัน ฉันจะยิงคุณก่อน แล้วค่อยยิงตัวตายทีหลัง
เค้าคงดูออกว่าฉันจะทำจริง ฉันเพียงอยากรู้ว่าสุดท้าย เค้าจะเลือกฉัน หรือตัวเค้าเอง
แต่แล้วเสียงปืนก็ดังขึ้นจากปากกระบอกปืนของเค้า
ไม่....ฉันไม่ได้ถูกยิง เพราะฉันใส่กระสุนลูกแบงค์(กระสุนซ้อม)ไว้ ฉันรู้คำตอบแล้ว แม้ว่าไม่ได้โดนยิง แต่ตัวฉันก็ได้ตายไปตั้งแต่ได้ยินเสียงปืนนั้นแล้ว ฉันยกปืนขึ้นท่ามกลางเสียงร้องโวยวาย ขอชีวิตของเค้า ผู้ชายที่ฉันมอบชีวิตให้
รักและทำทุกอย่างเพื่อเค้ามามากมาย
เสียงปืนนัดที่สองดังขึ้น ร่างของฉันล้มลงพร้อมเลือดที่ทะลักออกมาจากขมับ ฉันฆ่าเค้าไม่ลง เลือดที่ไหลออกมา ไม่ต่างกับน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาที่เปิดโพลงของฉัน
ภาพทุกอย่างมันช่างกระจ่างชัด แม้กระทั่งความเจ็ปปวดแสนทรมาร สิ่งเหล่านี่เอง ที่ทำให้ฉันสะดุ้งตื่นกลางดึก
ฉันจำมันได้แล้ว ฉันเลือกที่จะฆ่าตัวตาย และจมสู่ความทุกข์ทรมารนี่เอง
แต่เมื่อฉันตื่น ก็ลืมทุกๆอย่าง และเริ่มต้นวนเวียนอยู่ในช่วงเวลา แห่งความเจ็บปวดตั้งแต่เริ่มแรก วนเวียนซ้ำไปซ้ำมา
มันคือการลงโทษที่ฉันฆ่าตัวตาย ฉันต้องพบความเจ็บปวดอย่างนี้ ไปอีก "ช่วงกัลป์ชั่วกาล"
จากคุณ :
เมฆาลอยล่อง
- [
3 ก.พ. 50 00:34:35
]