ความคิดเห็นที่ 1 อาศรมอารมณ์รัก รวมอารมณ์รักร้าง.....................เลิกลา รวมกลุ่มกันขึ้นมา.....................เล่าย้อน สานต่อเรื่องราวพา....................ให้คิด หัวอกที่สะท้อน........................เพราะสิ้นรักลือ? เย้ย ไปทำงานสายแล้ว บทเดียวก่อนนะเข้าค่ะ จากคุณ : sugarhut - [ 7 ก.พ. 50 08:36:46 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กุมภาสิบสี่นี้                 มีรัก ชวนเพื่อนที่รู้จัก            ชิดใกล้ เขียนโคลงอย่างคึกคัก    สักหน่อย สาวหนุ่มอย่าซุ่มไว้         ช่วยฟื้นการกวี. จากคุณ : เจียวต้าย - [ 7 ก.พ. 50 10:14:35 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ความรักลอยทั่วฟ้า....................ธานี หวังว่าคงพอมี..........................สิทธิ์คว้า กุมภาช่างราวี...........................หัวอก อกหักจนใจล้า..........................โธ่ เอ้ย ตัวเรา จากคุณ : sugarhut - [ 7 ก.พ. 50 12:35:07 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สวัสดีครับ คุณหมอวฤก น้องแอม ปู่เจียวต้าย -- รอหันมา -- ๏ วันแห่งรักหากใช้         ทุกวัน คงมิเบือนคมหัน             สะบัดบั้ง เอาใจ,สู่ใจพลัน             ตวัดเกี่ยว รอ-กอดหัน,กอรั้ง           เหนี่ยวร้าวจางลง ๚ จากคุณ : xers  - [ 14 ก.พ. 49 14:49:51] * รอเรือกอดไม้หันกอรั้งท้าย ขอรับ แหะๆเอาของเก่าเคยเขียนที่ รดน. มาแปะร่วมอารมณ์ก่อนนะครับ พอมาอ่านงานเก่าของตัวเองนี่ดูแข็งๆ แฮะ ----------------------------------------------- จากคุณ : xers - [ 7 ก.พ. 50 12:49:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เสพสวรรค์เสพสวาทรื้น            สรรพรส สนานสระสรงมธุรพจน์             แผ่วแย้ม คะนองคลื่นครวญพยศ             พยุคลั่ง ซัดฝั่งเซาะฝั่งแต้ม                  แต่งห้วงหฤหรรษ์ กระนั้นลมสงบแล้ว                  ลืมเลือน ไฉนพ่อ หนาวเยือกห่อนย้อนเยือน         เยี่ยมหน้า เมฆคลุ้มหม่นควันเสมือน          สายหมอก ซ้อนซ่อนสุรีย์จ้า                     แจ่มสิ้นจางสูรย์ อาดูรเคยโอบเคล้า                  คู่หมาย เสียงพิรุณเสนาะสาย               สวาทสร้าง รื่นรสอัศจรรย์กลาย                 กรอมโศก แห้งเหือดโลกแล้งร้าง              อกร้าวรานไฉน ************************************** สวัสดีชาวอาศรมชาวโคลงทุกท่านค่ะ จากคุณ : มะแวง - [ 7 ก.พ. 50 13:39:08 ]

ความคิดเห็นที่ 6 รักเลือน-ใจเลือน ---------------------------------- กระทบใจ, เรากระทบซึ่งชีวิต ฝั่งฝันนั่น, บางนฤมิตร รอเปิดเผย เราต่าง, ระหว่างวุ่น, ล้วนคุ้นเคย ลืมเลือนผ่านเลย  ใจเราเอง เราผ่านรัก  ผ่านใจ  ไม่รู้รัก ทรุดโทรมชีพหนัก โดยเรื่องเร่ง บริโภค บริภาษ สาดคำเล็ง กักฬระเส็งเครง เราไม่รู้ ผ่านเช้า  ผ่านใจ ไปกี่เช้า เลียบเลาะ ทางเศร้า ชราสู่ อีกกี่เช้า ที่เราเหลือ เผื่อตาดู ก่อนถึงวันนิทราสู่เชิงตะกอน. 2-7-2550-1 *สวัสดีทุกท่านครับ ไม่รู้เป็นไร บ่ายๆ นี่ง่วงจังเลย อิๆ จากคุณ : Ar@p - [ 7 ก.พ. 50 13:41:16 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ร้อยรักมายอกย้อน                ย่ำทรวง  อกเอย ไร้รสทิพย์จากสรวง                สวาทชู้ ไร้ดาวระดาดดวง                  เดือนดับ ขาดแม่เรียมย้อนรู้                 รักนั้นทุกข์ไฉน จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 7 ก.พ. 50 14:13:11 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ยามร้างดอกจึ่งรู้        รสรัก จิตตกบมิพัก              ร่ำไห้ ใจหักหนักหน่วงนัก    นึกหน่าย โลกเลย เคยกอดยามนี้ไร้        จิตร้อนใจหนาวฯ จากคุณ : CrazyHOrse - [ 7 ก.พ. 50 14:40:32 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ๏ ร้อนเอยแรงรักร้อน         แรงถวิล รสร่ำน้ำตาริน                    หลบไห้ ก้อนเกลือค่อยกัดกิน          ยามก่อน หวานนอ กลับขื่นขมตรมไหม้            เมื่อน้ำเงินกลืน จากคุณ : โกฏิดารา - [ 7 ก.พ. 50 15:35:45 ]

ความคิดเห็นที่ 10 หิวเลือดกระสันเนื้อ      กินกลืน เช้าค่ำคร่ำข้ามคืน        จวบแจ้ง เหลืองเรื่อเรื่อเริงรืน     อรุณโผล่ นางแม่ทั้งห้าแกล้ง      หมดแล้งแรงกู อดสูไร้คู่เนื้อ                      เรียมเชย ชวนเพื่อนเพื่อนเชือนเฉย      เล่นเพื่อน แคมฟร็อกก่ปิดเลย             กระทรวงห่- กระสับเสี้ยนหงุดเงี้ยนเงื้อน   จึ่งผึ้งดรรชนี ติดเรตไปไหมเนี่ย          โคลงกู ขอท่านเหล่าโคลงครู      ยกโทษ หวังขำบ่ได้ดู                ความหยาบ ขอแลกหนึ่งยิ้มโลด       แค่นี้ชื่นใจ โฮ่ๆๆ  สวัสดีท่านทิวาเช่นกันครับ  *0*  ขอให้มีความสุขวาเลนไทน์ที่จะถึงนี้นะครับ  ส่วนผมโสดสนิทก็ได้แต่นั่งระทมอมทุกข์ต่อไป  กระซิก ๆ T^T แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 50 16:02:15 จากคุณ : ปฤษณะ - [ 7 ก.พ. 50 15:45:16 ]

ความคิดเห็นที่ 11             ๏แม้ยามตื่น มิได้ร่วม สโมสร              ก็ขอร่วม ยามนอน ภิรมย์ขวัญ              แม้ยามตื่น มิได้สู่ ร่วมสมกัน              ยามเธอฝัน ฉันร่วม สู่สมเธอ         ๏จูบแล้วจูบเล่าเฝ้า               จูบนวล         หวานกรุ่นริมปากชวน            ชื่นเช้า         หวานลิ้นแลกลิ้นยวน             เย้ายั่ว ยิ้มแม่         ตะกองกอดคลึงคู่เคล้า           คู่เคลิ้มคะนึงหาฯ         ๏อัศจรรย์สรรสะอึกสะอื้น        อัศจรรย์         เร้าโลกร่วมโรมรัน                  โลกเร้า         ธรรมชาติมนุษย์สนธิพันธุ์         ธรรมชาติ         อายก็แอบกระซิบกระเซ้า         กระซิกกระซี้หนีอายฯ แหะ แหะ ขอรับ สวัสดี ขอรับ ปล. ถึง คุณ ปฤษณะ คคห. ๑๐ อย่าใช้งานแม่นางทั้งห้า หนักเกินไปนะ ขอรับ อิอิ แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 50 15:56:27 แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 50 15:54:37 จากคุณ : นายทิวา - [ 7 ก.พ. 50 15:53:56 ]

ความคิดเห็นที่ 12 th.wikisource.org/wiki/อาศรมชาวโคลง คีย์เวิร์ด ครับ มิตรชาวโคลงที่รู้ประวัติความเป็นมาของอาศรมชาวโคลง เข้าไปให้รายละเอียดเกี่ยวกับอาศรมชาวโคลงก็ดีนะครับ สนุกๆ จากคุณ : Ar@p - [ 7 ก.พ. 50 16:02:16 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แวบเข้ามาอีกที เอาข่าวมาฝาก สำหรับบางใคร ที่อยากมี "บ้าน" ของตัวเอง ไว้เก็บงานส่วนตัว ที่นี่ เขาเปิด "บล็อก" เป็นชุมชนใหม่ ขอรับ สมัครง่าย เอางานลงเก็บไว้ง่าย ๆ แหะ แหะ ถ้าสนใจ ก็เข้าไปสมัครกันเลย ขอรับ ที่นี่เลย ขอรับ http://www.oknation.net/blog/ ปล. กระป๋ม ก็ไปแอบเปิด "บ้าน" ไว้แล้ว เอางานเก่าบางส่วน ไปเก็บไว้ ขอรับ อิอิ ที่นี่เลย ขอรับ http://www.oknation.net/blog/naitiwa แวะไปเยี่ยมเยือนทักทายกันได้ ขอรับ แหะ แหะ เสร็จแล้วก็ ชะแวบล่ะ จากคุณ : นายทิวา - [ 7 ก.พ. 50 16:46:28 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตามมาอ่านงานกวี ท่านอาจารย์ ทั้งหลายเจ้าค่ะ ขำขำขำขำขำขำขำขำ...ก๊ากกกกกกกก จากคุณ : รวยระรินกลิ่นชา - [ 7 ก.พ. 50 17:54:12 ]

ความคิดเห็นที่ 15 วฤกขอขอบพระคุณทุกท่านมากครับ ที่กรุณาเข้ามาแวะเยี่ยมเยือนอาศรมชาวโคลง บางท่านเข้ามาอ่านเฉย ๆ บางท่านนำผลงานมาฝากไว้ ซึ่งทำให้อาศรมชาวโคลงดูครึกครื้นขึ้นในบัดดล เริ่มจากคุณกระท่อมน้ำตาลหวาน (sugarhut) ...#1,3. นำอาศรมอารมณ์รัก ... แบบรักร้างมาฝากไว้ ขอตอบโคลงคุณ sugarhut ก่อนนะครับ ..... อารมณ์อันอาจพ้น...............พรรณนา ความรักครั้งรักรา...............ร่อยร้าง น้อยหรือหนึ่งกถา.................ถ้อยกล่าว ถึงอกอันเคว้างคว้าง.............ไขว่เค้าเงาลวง ฯ ต่อมาทั่นเจียวต้าย ....  สหายอาศรมฯ วฤกชอบบาทจบของโคลงทั่นมากครับ "สาวหนุ่มอย่าซุ่มไว้         ช่วยฟื้นการกวี" เอ้า .... เร็วเด็ก ๆ สาว ๆ หนุ่ม ๆ มาช่วยกันหน่อย ภู่เถ้า .... เอ๊ย! ผู้เฒ่าอาศรมฯ จะได้อู้งานกันต่อ   แหะ ๆๆๆ ไม่ได้เขียนโคลงนานจนสนิมเกรอะกรัง xers ..... เอาโคลงเก่าเมื่อปีที่แล้ว มาฝาก xers มองเห็นงานเก่า ๆ ของตนเอง เมื่อเทียบกับปัจจุบันแล้ว แตกต่างกัน นับเป็นสิ่งที่ดีครับ ที่ xers มีพัฒนาการในการเขียนโคลง อยากชวนพวกพ้องน้องพี่ชาวอาศรมฯ ลองกลับไปดูพัฒนาการของงานตนเองบ้าง ส่วนตัววฤกเอง เข้ามาในถนนนักเขียนเมื่อ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๔ งานเก่า ๆ หายไปเยอะมาก เพราะหายไปกับ HDD ที่เสียหายมาหลายรอบ งานที่พอตามมาอ่านได้ ไม่ค่อยพัฒนาเท่าใด เป็นเพราะตัวเองขี้เกียจ เขียน ๆ หยุด ๆ โคลงเลยสะดุด ๆ อยู่อย่างเดิม มะแวง....... นักโคลงฝีมือดีอีกท่านหนึ่ง ขอบคุณครับที่นำโคลงไพเราะมาฝากกัน ........ อัศจรรย์ ที่ยิ่งอัศจรรย์แล้ แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 50 18:37:44 จากคุณ : วฤก - [ 7 ก.พ. 50 18:35:27 ]

ความคิดเห็นที่ 16 รักรุมรุมเร่าร้อน.................เพลิงรัก สุมซ่อนหัวใจหัก.................ห่อนได้ ไฟกาฬยิ่งโหมหนัก.............แทบสิ้น ปราณแม่ แรงเร่าเบาเกลือกใกล้..........เช่นชั้นฉิมพลี รุกลี้เราเร่งเร้า....................รุกรน หยดเหงื่อรินปะปน..............เกลื่อนแก้ม รอยรักที่ฝากบน................รอยจูบ นั่นนา คือสวาทเจิมแต่งแต้ม.........โลกให้คลายหมอง ทองทาฉาบซึ่งชั้น..............ฉิมพลี คือเรื่องราวโลกีย์..............โลกล้วน เวียนวนว่ายนานปี.............วัฏจักร ดุจดั่งหญิงชายม้วน...........เชือกมัดตนเอง จากคุณ : เทพกร - [ 7 ก.พ. 50 21:26:55 ]

ความคิดเห็นที่ 17 Ar@p รักเลือน-ใจเลือน ย้ำเตือนจิต ชีวิตว่ายวัฏวนพัดหวน ผ่านเช้าเยาว์แน่แล้วแปรปรวน กระสวนสู่เฒ่านอนเข้าเมรุ ฯ กลอนของ AR@p มีแง่ให้คิด ครับ ใน th.wikisource.org/wiki/ มีบันทึกประวัติหน้าที่หนึ่งของอาศรมชาวโคลง จอมยุทธเมรัย .... CrazyHOrse.... และโกฏิดารา ร้อยโคลงรักร้างร้าว ดูเศร้า ๆ จังครับ ขอบคุณมากครับ ที่นำโคลงมาทักทายอาศรมฯ กุมภา....กุมพร่าพ้น................พี่หมาย ยื้อเหนี่ยวยากตะกาย...............ก่ายใกล้ นานเดือนยิ่งเลือนหาย.............ลายเหือด เหลือแต่ร่องรอยไว้.................ว่าครั้งหนึ่งเคย ฯ ปฤษณะ ติดเรตติดเหล็กกั้น.........กันกรง น.สิบแปดนี้คง...............ขีดได้ ด.เล็กเด็กน้อยจง............หนีจาก.....ก่อนนา รอก่อนรอวันไว้..............ระหว่างนี้นะหนู ฯ นายทิวา..... แวะไปเยี่ยมบล็อก แล้วครับ....   เห็นเมนูขวาสุด เป็นเรื่องวิดีโอ วฤกจึงพยายามเปิดหน้าวิดีโออยู่หลายครั้งครา เผื่อว่าจะมีวิดีโอคลิปที่น่าสนใจ ... แต่ก็เปิดไม่ได้สักที สงสัยว่าอายุเกิน .... เค้ากลัวหัวใจวายระหว่างชมสิดีโอมั้ง จึงเปิดไม่ได้ จากคุณ : วฤก - [ 7 ก.พ. 50 21:30:32 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อ่านโคลงของท่านปฤษณะและท่านพี่ทิวา สีน้ำน้อย แอบอมยิ้ม ฮาฮา พระเจ้าจอร์จ ท่านพี่เจ้าขา อย่าลืมว่าแถวๆนี้มีน้องน้อย เป็นสาวเป็นนางอยู่นะเจ้าค่ะ ทำเอาหน้าแดงเชียว รักเอยพอรักแล้ว.........................อุ่นใจ ฟ้าช่างแสนสดใส.........................ดั่งแก้ว เรืองรองผ่องอำไพ.......................สดชื่น ใจชุ่มชื่นผ่องแผ้ว.........................เช่นฟ้าคืนเพ็ญ --------------------------------------------------- เห็นคุณหมอติงว่าหนูเขียนออกมาร้างๆ เหงาๆ เลยเปลี่ยนเป็น สดใสมั้งเจ้าค่ะ จากคุณ : sugarhut - [ 8 ก.พ. 50 13:49:59 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ความเอยความรัก ใครที่เพิ่งประจักษ์มักใหลหลง เช้าสายบ่ายเย็นค่ำร่ำพะวง จนดึกดื่นยังงุนงงไม่สร่างซา อยู่มานานนึกเบื่อเหลือจะเอ่ย ชักเฉื่อยเฉยจางจืดชืดหนักหนา หลายสิบปีผ่านไปให้ระอา โอ้ลูกหลานเหลนหายหน้าเหลือ(แต่)ตัว(คน)เดียว. อันความรักมักเป็นดังเช่นนี้...............แลนา. จากคุณ : เจียวต้าย - [ 8 ก.พ. 50 14:12:15 ]

ความคิดเห็นที่ 20 กอดถนอมกล่อมน้อง.........นอนเคียง อ้อมอกนี้มอบเพียง............เพื่อเจ้า พร่ำพ้อพลอดแผ่วเสียง.......กระซิบสั่ง ไฟสวาทเร่งรุมเร้า................รักร้อนเสน่หา พระพายพากลิ่นแก้ว..........กำจาย ค่อนดึกคืนจันทร์ฉาย..........แจ่มฟ้า ประคองแนบแอบอิงกาย......กกกอด ดาวแข่งดวงจันทร์จ้า...........แจ่มเนื้อน้องนวล หวนนึกดึกดื่นนั้น...........แนบนวล หอมชื่นรื่นรัญจวน..............จิตชู้ กล่อมเจ้าหลับขับครวญ...........ขานแผ่ว ครางร่ำคำรักรู้............................แรกรู้รักสนอง สองชมสมจิตพ้อง...........พิสมัย สองชื่นระรื่นใจ...............จวบเช้า สองชิดสนิทแนบใน..........แนวสวาท สองรักสมสุขเร้า...............รับรู้รักถนอม จากคุณ : คมเย็น (คมเย็น) - [ 8 ก.พ. 50 15:18:14 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ๏ อายุอาจเหตุร้าง             ร่วมภิรมย์ แสนห่วงเสพบ่มิสม             ติดตื้น ผิดแผลงพลาดคลื่นลม      เพลาผ่อน  พักพ่อ เผลอพ่ายถึงถอนสะอื้น      อกคว้างค้างขวัญ ๚ะ เอิ้ก ๆ สักพัก "ไม้ตะพด" จะเคาะหัวศาลาไทย แหง ๆ สวัสดีค่ะพี่หมอวฤก ดีใจที่ว่างจากภาระ "คุณหมอคนสวน" มาเปิดกระทู้ได้ เอิ้ก ๆ ไปช่วยงานมูลนิธิหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) จัดกิจกรรม "โหมรักโหมโรง"                                             . http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K5104538/K5104538.html คิดถึง "ภาพคุณหมอกับซอสามสาย" ขึ้นมาเลยเชียวค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 50 02:00:28 จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 8 ก.พ. 50 15:41:54 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ชายหนึ่งผู้..............ทระนง ดูอาจอง..................เก่งกล้า เคยปลิดปลง..........ชีพศึก ทุกหย่อมหญ้า......ขยาดเกรง แต่กับน้อง...............นางเดียว ยากผูกเกลียว.......สวาทซ้อน แม่มิเหลียว............แลเหลือบ ใจพี่ร้อน.................รุ่มราญ ต้องหอบผ้า.............หอบดาว มอบแด่สาว.............กระนั้น? เจ้าทองกวาว..........จึงตอบ ช่างอัดอั้น.................หนักอุรา พิชิตเจ้า.....................จอมใจ ทำอย่างไร................แทบบ้า ศึกหทัย....................หน่วงหนัก ศึกรักข้า..................อ่อนเชิง ไปกินข้าวโพดเพิ่มพลังก่อนนะคะ มีอารมณ์ มาต่อใหม่ ^_^ จากคุณ : ซอมพอแดง - [ 8 ก.พ. 50 16:16:36 A:unknown X:202.129.0.74, 202.129.0.74 TicketID:062433 ]

ความคิดเห็นที่ 23 พี่หญิง อิอิอิ สีน้ำน้อยชอบจัง สงสัยว่า ผู้ชายแถวนี้ กำลัง นั่งไม่ติดเป็นแถวๆ จากคุณ : sugarhut - [ 8 ก.พ. 50 16:22:30 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อ้าว พิมพ์ผิดอีก ต้องหอบผ้า หอบผ่อน ฮี่ ๆ ต้องหอบฟ้า.............หอบดาว มอบแด่สาว.............กระนั้น? . . จากคุณ : ซอมฯ - [ 8 ก.พ. 50 16:24:49 A:172.21.131.228 X:202.6.107.51, 202.6.107.51 TicketID:062433 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เรือนเคยนอนถูกทิ้ง..................ให้หมอง ใจดั่งถูกจำจอง........................กักไว้ คนเคยรักเคยปอง....................มาห่าง ฟูกที่นอนร้างไร้.......................ร่องเนื้อนวลนาง ---------------------------------------------- อิอิอิ เอาต้มโคล้งโคลงเคลงมาฝากไว้ ให้ถูกระเบียบ จากคุณ : sugarhut - [ 8 ก.พ. 50 16:26:28 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อ้าว ชนกับสาวน้ำตาล ไปกินหนมครกกันมั้ย ปล.พี่วฤกคะ พี่ถนัดซออันใด อู้ ด้วง หรือ ซอสามสาย ของหนูเล่น ซอสังหาร ค่ะ แหะ ๆ จากคุณ : ซอมฯ - [ 8 ก.พ. 50 16:27:45 A:172.21.131.228 X:202.6.107.51, 202.6.107.51 TicketID:062433 ]

ความคิดเห็นที่ 27 โหมรัก-ไม่โหมโลง --------------------------------------- เธอ-ฉันโหมแต่รัก หนักและเน้น แต่ก่อนรักเล่นเล่น   เดี๋ยวนี้ไม่ เพราะยิ่งรัก ก็ยิ่งรู้ว่า หัวใจ ต้องการมากกว่าสาไถยไปวันวัน ช่วงชีวิต ช่วงวัน   ที่ผ่านลึก เราพบว่า บางผลึกของบางฝัน เปล่งประกายให้เห็นอยู่ด้วยกัน “ชีวิตเรา” ที่หนักนั้น มันผ่านแล้ว. 2-8-2550 *สวัสดียามค่ำทุกท่านครับ เกือบลืม ขอชื่นชมหนูเซอร์มากที่ช่วยทำให้อาศรมชาวโคลงมีที่เก็บกระทู้ ถ้าเป็นไปได้น่าจะเติม “สมุดเยี่ยม” เข้าไว้ด้วยอีกสักจุดหนึ่งนะครับ. จากคุณ : Ar@p - [ 8 ก.พ. 50 19:04:46 ]

ความคิดเห็นที่ 28 . ความหนาวและความเหงา หนาวเนื้อว่าห่มเนื้อ     หายหนาว  จริงฤา ไยกลับทิ้งคราบคาว    ขุ่นเชื้อ ยิ่งห่มยิ่งสั่นพราว       ในอก  เจ็บนอ เจ็บยิ่งเจ็บรังเรื้อ        เจ็บพิษสวาสสันต์ หนาวหวั่นหวังอกโอ้   โลมองค์ หาเสาะอุ่นอกคง        พลาดแล้ว ซั่นซุกลูกนกดง         แบเบาะ เขาอิ่มกามมิแคล้ว    หน่ายเนื้อแหนงหนี เหงาใจเงาเง่าเง้า       เหงาเหงา หาไขว่ไล่คว้าเงา       เง่าโง่ โง่เง่างั่งงมเมา          รสสวาท เสพอิ่มสิ้นรสโอ้        เง่าเง้าเหงากว่าเดิม จากความรู้สึกจริงที่เคยเป็นมา  ^ ^ หวังว่าวันแห่งความรักคงไม่มีใครคลายเหงาด้วยวิธีนี้นะครับ  โฮ่ๆๆๆ ------ ลงกลอนสุภาพเพิ่ม  เขียนไว้เมื่อปีก่อน  แต่เกี่ยวกะความรักเหมือนกันครับผม  *-* โอ้..  ธ อนงค์องค์รตี                             เหตุฉะนี้หรือจะช้ำเป็นซ้ำสอง รักผู้ที่มิควรรักมิอาจครอง                           น้ำตานองก็สมหน้าก็สาใจ ถามไถ่ไท้เทพพรหมธาดา ลิขิตมาให้ข้าช้ำฤาไฉน อยากจะตัดยากสลัดตัดหทัย       รักสลักตรึงไซร้ในดวงมาลย์             หรือข้าเคยทำกรรมก่อความเข็ญ     พรากสัตว์เล่นมิให้คู่สู่สมาน ชาตินี้จึ่งต้องร้าวฤดีราน                                     มีรักพาลเจ็บช้ำทุกรายไป แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 50 23:58:20 แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 50 23:41:37 จากคุณ : ปฤษณะ - [ 8 ก.พ. 50 21:50:24 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สวัสดีครับ คุณหมอวฤก และทุกท่าน ๐ ยามดึกข้า                 เมามาย ความวุ่นวาย                 ไล่ต้อน ติดบ่วงสาย                   สวาท เพราะเหล้า(เร่า)ร้อน       ราดใจ ฯ ... นั่งอ่านแต่ละความเห็นครับ อู้วว์ ว้าว... เร่าร้อน... อาศรมติดเรทไปเสียแล้ว ทำเอาสาวบางคน หน้าแดง ขอรับ อิอิ '15 คุณหมอวฤก แหะๆ เพราะแรกเข้าอาศรมได้ครูดีช่วยชี้แนะ ทาง icq ขอรับ ขอบคุณมากๆ ครับ แต่ถ้าเป็นช่วงที่ขาดจินตนาการนี่ทำไงน่ะครับ เขียนไม่ออกเลย แหะๆ '27 น้าอาร์พี น่าจะดีครับกับ สมุดเยี่ยมของอาศรมต้องขอเวลา สักหน่อย เพราะว่าจะเอาบันทึกลงฐานข้อมูลเลยดีกว่าครับ ว่าแล้วก็ฝากลิ้งค์เว็บอาศรมไว้ครับ http://arsom.hangercafe.com/ อันนี้เว็บสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทยครับ http://www.thaipoet.net/ -------------------------------------------------------- จากคุณ : xers - [ 8 ก.พ. 50 22:27:28 ]

ความคิดเห็นที่ 30 รสรักเปรียบดั่งน้ำ.........ผึ้งหวาน หนึ่งหยดทำดวงมาลย์....อิ่มได้ เพียงวันผ่านยาวนาน.....กลับเปลี่ยน  รสนา คงแต่ค่าประโยชน์ไว้.....หากแม้ผ่านวัน แหะๆๆๆ  เคาะมะออกอ่ะค่ะ...สนิมเนี่ยทำไงดีอ่ะ?... จากคุณ : กรวี - [ 8 ก.พ. 50 23:35:07 ]

ความคิดเห็นที่ 31 จากความรู้สึกจริงที่เคยเป็นมา  ^ ^ หวังว่าวันแห่งความรักคงไม่มีใครคลายเหงาด้วยวิธีนี้นะครับ  โฮ่ๆๆๆ ...... โฮวว้าว!!  จิงอ่ะ.. ไปนอนแระนะทุกๆคน  จุ๊บๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 50 00:09:34 จากคุณ : กรวี - [ 9 ก.พ. 50 00:05:03 ]

ความคิดเห็นที่ 32 แก่ก็แก่ใช่ร้าง ร่วมภิรมย์ สมเสพเสพตามสม ลึกตื้น ลีลาท่าอาจระบม บางท่า ทีแม่ แบบฟิตเปรี้ยะน้องสะอื้น ค่ำเช้ามิเว้นวัน จากคุณ : กระบือสยาม - [ 9 ก.พ. 50 01:06:20 A:124.120.164.190 X: ]

ความคิดเห็นที่ 33 ไม่อยากให้โลกนี้           มีรัก แสนแปลกเสียยิ่งนัก       คิดค้าง แค้นเหมือนถูกใครผลัก     ลงนรก แต่หากสิ้นรักร้าง            ชีพนี้มืดมน หลายคนที่รักแล้ว           อกตรม แสนที่จะขื่นขม               สุดเศร้า ไม่นานกลับชื่นชม           รักใหม่ สับเปลี่ยนเวียนคลุกเคล้า   จากร้ายกลายดี. จากคุณ : เจียวต้าย - [ 9 ก.พ. 50 09:19:34 ]

ความคิดเห็นที่ 34 น้ำตาฟ้าฉ่ำฟ้า                  เฟือนโลก สองตระกองกอดโชก       ชุ่มเนื้อ พระพายพัดสะบัดโบก      บหยุด อสุนีบาตฟาดสาดเชื้อ      ช่วงฟ้าไฟสวรรค์ฯ จากคุณ : CrazyHOrse - [ 9 ก.พ. 50 11:58:48 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อาศรมฯ ภิรมย(ะ)หรื้น             ชื่นทรวง อา ! หลากลีลาปวง                ซาบสร้าน รมณ์ รักรักจริง-ลวง                หากเสพ รัก ราครสจัดจ้าน                   จัดให้มนุษย์โหย ฯ สวัสดีพี่วฤก และทุกท่าน ขอรับ จากคุณ : พิราบเงิน - [ 9 ก.พ. 50 12:00:11 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ยามนุชนาถนิ่มเนื้อ.........................วางกร ใจพี่เจียนจากจร............................ดับดิ้น ห้วงแห่งบ่วงบรรจถรณ์....................เกินหยั่ง มองพักตร์นางพี่สิ้น........................หมดไร้เรี่ยวแรง สติที่คอยฉุดรั้ง..............................ดวงแด เพียงแค่หันมาแล...........................สบหน้า พากันเคลื่อนเชือนแช.....................จากร่าง ไหวหวั่นหันมองฟ้า.........................อกข้าระรัว ยามโอษฐ์เจ้าคลี่แย้ม.....................เบ่งบาน เสียงที่เอ่ยขับขาน.........................ยั่วเย้า โสตสดับกังวาน.............................หวัวร่อ ใจดั่งถูกโลมเล้า............................เร่งเชื้อโหมไฟ รักเอยไยช่างล้อ...........................อกชาย ทำอกแทบสลาย...........................หม่นไหม้ ยามนางห่างจากกาย......................เพียงครู่ จิตวิตกคลั่งไคล้............................แทบบ้าทันควร ---------------------------------- ขอเลียนแบบ อิโรติค นิดหน่อย พอทำน้ำยา เจ้าค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 50 14:39:16 แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 50 14:38:14 จากคุณ : ผู้หญิงสีน้ำทะเล (sugarhut) - [ 9 ก.พ. 50 12:42:42 ]

ความคิดเห็นที่ 37 รัก-หน้าที่ ---------------------------------------- สุขบ้าง ทุกข์บ้าง แบบอย่างรัก เบาหรือหนัก ล้วนเห็นและเป็นอยู่ จนวันนี้เมื่อขบคิดพินิจดู เราต่างรู้ว่า “หน้าที่” มีต่อกัน. 2-9-2550 * อีกสองสามวัน เป็นวันแห่งความรัก ดูแลตัวเองดีๆ นะครับ. จากคุณ : Ar@p - [ 9 ก.พ. 50 16:27:37 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ถึงอาร์พี่... * อีกสองสามวัน เป็นวันแห่งความรัก ดูแลตัวเองดีๆ นะครับ. กรวีสงสัยจังเลยเจ้าค่ะ ทำไมวันแห่งความรักต้องดูแลตัวเอง วันแห่งความรักนี่มันน่ากลัวมากเลยเหรอเจ้าค่ะ... จากคุณ : กรวี (กรวี) - [ 9 ก.พ. 50 16:50:34 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขออนุญาต นะครับ        ละอองราตรีร่วง      โรยทวี  ทวี  เริงย่ำรอยสุรีย              ลับล้า  ภูษาโศกสนิทมณี          นิลเนตร  ฤๅนี่  สบเศร้าจิตตัวข้า            ดึกนี้ความนัย        รอยทวีทวิซ้อน       ทรวงสถาน  ทรงสถิตแต่ทรมาน        แทบม้วย  โอรตรีมหาศาล             โสมสว่าง  ไวเทอญ  อาบอกอนธการด้วย       โปรดทั้งโดยเร็ว        ชลนาหยาดหยดพื้น    เย็นหนาว  ดาวเกลื่อนอยู่กลางหาว      หาดฟ้า  ชลนาม่านมัวพราว             พรายพร่า  ดาวจะร้างลาหน้า              หล่นทิ้งเทียมกัน        ทรงสุรโลกฤๅลดฟ้า    สู่ฝัน  ทรงสุรีย์ฤๅปวงจันทร์         จรใกล้  ทรงกวีฤๅเยาะหยัน           ยินแว่ว  ลมเอย  ทรงสรีรธาราไล้               ฤๅแท้คือเพลิงฯ  . จากคุณ : สุปศกาล - [ 9 ก.พ. 50 23:32:39 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อารมณ์รักหรือเศร้าครับเนี่ย แต่รสชาติดีแน่นอนครับ จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน - [ 10 ก.พ. 50 12:22:04 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ศัพท์สำเนียงรักร้าว.............ฤๅไฉน จึงกลั่นออกจากใจ..............ลึกนั้น ฟั่นเฟือนอยู่เพียงไร............เหลือจะกล่าว ดิ้นดับกับแสงครั้น................หากแม้นสุริยฉาย ครวญคร่ำด้วยเจ็บนี้..............ร้าวราญ ดุจดั่งเพลิงเผาผลาญ..............หม่นไหม้ ทุกข์โศกกว่าใดปาน.............เกินจะกล่าว ฝันวาดขาดสิ้นไร้.................จากห้วงความหวัง สุริยาอาบฉาบด้วย................ความทนง ขอพี่อย่าปลิดปลง................ชีพสิ้น รักบ้างอาจทุกข์ลง................ขณะจิต  นาพี่ หากชีพไม่ด่าวดิ้น.................ไม่แคล้วสุขสนอง **โอมเพี้ยง  ... **เคาะๆๆๆๆ **ช่วงนี้มีงานใหม่ให้ทำแล้วเจ้าค่ะ  หุหุหุ  มีออเดอร์ให้ถักตุ๊กตาไหมพรม  ลิงจั๊กๆๆๆ ... คงหายเหงาไปอีกสักพัก ... ........ แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 50 13:43:13 แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 50 13:37:37 จากคุณ : กรวี - [ 10 ก.พ. 50 12:53:07 ]

ความคิดเห็นที่ 42 สวัสดีวันเสาร์ชาวอาศรมทุกท่านเจ้าค่ะ พี่หญิงไปทานหนมครก แล้วเงียบเลย สงสัยหนมครกทำเอาง่วงแล้วแอบอู้แน่ๆ สวัสดี คุณกรวี เจ้าค่ะ ไม่เห็นชื่อนาน สบายดีไหมเจ้าค่ะ ---------------------------------------------- คำว่ารักผ่านเข้า...............มาเยือน ใจฉ่ำชื่นเปรียบเหมือน.......เล่นน้ำ เย็นระรื่นทั่วเรือน.............กายชุ่ม เพียงรักแค่กลายกล้ำ.......สุขล้ำเกินใคร --------------------------------- แว๊บไปทานข้าวแล้วเจ้าค่ะ จากคุณ : sugarhut - [ 10 ก.พ. 50 16:14:19 ]

ความคิดเห็นที่ 43 วันแห่งความรักนั้น          กรวี จะเลือกก่อความดี          ก็ได้ บางคนเกลือกราคี           หมองหม่น สร้างสิ่งงดงามไว้             เถิดน้องนางสาว. ขออนุญาตตอบแทนคุณอาร์พี วันแห่งความรักนั้น ไม่น่ากลัว แต่ตัวความรัก นั้นน่ากลัว เพราะเลือกให้ดีก็ได้ดี ถ้าเลือกชั่วก็ได้ชั่ว ครับ. แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 50 16:49:28 จากคุณ : เจียวต้าย - [ 10 ก.พ. 50 16:45:44 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ..        พิมพ์เพ็ญพระมาศแม้น      สิตางค์  เต็มตื่นชมโฉมสุรางค์              สุดเจ้า  ไขแสงส่องเสวยปาง               ครวญนาฏ  หวนเสน่ห์นึกใฝ่เฝ้า                 ฟอดย้ำคำหอม        คำหอมฟอดช้ำแก้ม         กำศรวล  มาห่างมาหายหวน                 โหยเศร้า  รอยร่างรัดคราวชวน               กลืนเทวศ  คงกลิ่นไรเกล้าเจ้า                 ระรวยช้าโชยเตือน        ลมเรียงดวงดาวร้อย         ประดับเหงา  ไกลมิ่งขวัญฝากเขา               เผื่อรู้  ดวงใจหนึ่งโง่เขลา                 เขียนโคลง  อยู่เฮย  โคลงก็ใบ้บอดชู้                    ร่วมช้ำชมดาวฯ จากคุณ : สุปศกาล - [ 11 ก.พ. 50 22:14:19 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ความรักเปรียบหนึ่งนั้น         ยามเย็น ชุ่มชื่นใจดังเห็น                  ร่มรื้น อีกด้านหนึ่งขุกเข็ญ             ค่ำมืด จวบสว่างจึงค่อยฟื้น            แดดจ้าร้อนจริง จากคุณ : เจียวต้าย - [ 12 ก.พ. 50 08:18:35 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เขียนโคลงแสนยากเหลือ    สุดจะเบื่อต้องเคี่ยวเข็น ความรักเวลาเย็น               ดูร่มรื่นชื่นใจจัง ครั้นค่ำก็มืดตื้อ                  ทั้งดุดื้อดันทุรัง สว่างพอมีหวัง                   กลับร้อนจ้าแดดแข็งปึ๋ง ตั้งใจเขียนอย่างนี้              แก้หลายทีชักจะอึ้ง อยากเขียนให้ซาบซึ้ง         แต่สุดท้ายก็กลับล้า ความรักก็เช่นกัน               แรกรักนั้นดูซาบซ่า ครั้นนานล่วงเวลา               รักอย่างว่ากลับจืดจาง อย่างนี้ใช่ไหมครับ กาพย์ยานี ๑๑ ดูจะง่ายกว่ากลอนอีกนะครับ เขียนฝากไว้ก่อนจะถึงวันแห่งความรักครับ. จากคุณ : เจียวต้าย - [ 12 ก.พ. 50 10:21:53 ]

ความคิดเห็นที่ 47 บอกรักผ่านฟากฟ้า              ไปถึง เธออ่านจักตกตะลึง              แน่แท้ คำหวานที่อวลอึง                 ประทับจิต เธอกลับให้ช่วยแก้               ผิดร้อยกรองกวี จากคุณ : Little Red - [ 12 ก.พ. 50 13:47:05 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ข่าวคราวของรัก “งาม” --------------------------------------- รักงามอย่างไร  “พอได้ข่าว” เป็นบางเรื่อง บางราว ให้เราเห็น บอกว่ารัก รักนั้น มันร่มเย็น มีพอให้ดับเข็ญของสองคน เป็นแรงใจ ไฟฝันให้พลันตื่น ให้คนล้มได้ยืนขึ้นอีกหน ฝ่าฟันทางท่องทำนองตน ที่แรงรักคุล้นอยู่กลางใจ ในบางย่ำที่ย่าง อย่างร้อนล้น ทุกข์ทุรนแรมร้าง ณ  ทางใหญ่ ที่ผู้คนมากเหยียดเบียดกันไป เพื่อหาช่องทางไทให้แก่ตน คงมีแต่รักหนึ่งซึ่งเรารู้ ยังคงอยู่เป็นพลังตั้งแต่ต้น แหละรักนั้น วันไหนก็ร่วมทน ฝ่าทุกข์รุกด้นไปด้วยกัน รักของเธอ เป็นอย่างไรในวันนี้ ท่ามโลกที่ช่างเลือกกระเสือกกระสัน จนคำรักทุกนิยามตามไม่ทัน ความหมายมัน แค่ “ร่วมเพศ” ทุเรศจริง ! 12-2-2550-1 *สวัสดีทุกท่านครับ.. ขอให้รักของทุกท่านเติบโตแข็งแรงนะครับ คิดซะว่ามันคือ ต้นไม้  รดน้ำพรวนดิน สม่ำเสมอ. ..ทุกอย่างก็ดีเอง  อิๆ แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 50 08:42:04 แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 50 17:48:40 จากคุณ : Ar@p - [ 12 ก.พ. 50 17:46:36 ]

ความคิดเห็นที่ 49 สวัสดีครับ คุณหมอวฤก และทุกท่าน -- ดาวละเมอ -- ๏ ดาวฝันว่าฟ้าตัด         ไมตรี มาพบหน้าด้วยสี            หม่นเศร้า ความใสที่เคยมี             ดำสนิท เพียงตะวันมาเย้า           กลับแย้มสีสวย ๚ แวะมาร่วมอารมณ์รักกลางดึกขอรับ ท่าทางช่วงนี้ ลุงหมอบ่ว่างน้อ --------------------------------------------- จากคุณ : xers - [ 13 ก.พ. 50 02:02:10 ]

ความคิดเห็นที่ 50 รักเอยเคยรู้จัก..............เคยทายทักอยู่บางครา รู้รสสเน่หา...................วาบหวามหวิวใจปลิวลอย เห็นหน้าก็ยิ้มแย้ม..........สองข้างแก้มแดงดังพลอย สัมผัสเพียงปลายก้อย....เหมือนฟ้าแลบแปลบวิญญาณ โลกนี้มีเพียงเรา............เป็นคู่เคล้าครองสถาน ตราบดินฟ้าเนิ่นนาน.......มิเปลี่ยนผันฉันรักเธอ วันวานใช่วันนี้...............ผ่านเดือนปีที่เคยเพ้อ ภาพหวานมันบางเบลอ....ตอนนี้กัดซัดกันนัว!! ฮี่ๆ ขอจบด้วน ๆ งี้แหละ มันเป็นความลับทางราชการ!!! จากคุณ : ซอมฯ - [ 13 ก.พ. 50 11:01:54 A:unknown X:202.129.0.74, 202.129.0.74, 202.129.0.74 TicketID:062433 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ดาวเดือนที่เกลื่อนฟ้า.............ดูงาม เป็นเพื่อนอยู่ทุกยาม..............หม่นไหม้ แสงแปร่งคู่ควรความ..............วิจิตรอยู่ หนาวเหน็บด้วยเจ็บไร้.............หมดสิ้นเพียงดาว เหงานักหากอยู่พร้อม.............ยามเหงา ให้รื่นจิตบรรเทา......................แน่แท้ ดาวอยู่คู่เคียงเนาว์.................นานเนิ่น อดีตสู่ปัจจุบันแล้...................ไม่สิ้นสำคัญ คนโง่หรือจักได้....................คำโคลง อาจเด่นอาจทุกโมง...............หม่นย้ำ ใช่ขาดซึ่งคำโยง..................เชื่อมจิต  นาพี่ ขอฟากฟ้าช่วยค้ำ....................ฝ่าสิ้นความเหงา sugarhut  กรวีสบายดีบ้างบางเวลา....   ขอบคุณสำหรับความระลึกถึงค่ะ ... ลุงเจียวด้าย  ขอบคุณสำหรับคำตอบอะค่ะ .... ปล. รักทุกคนน่ะค่ะ  จุ๊บๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มาแก้ความเฟอะฟะของตัวเอง(จะมีอีกรึเปล่าน๋อ) และยังคงยืนว่า "รักทุกคนค่ะ"  อิอิอิ แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 50 15:03:27 จากคุณ : กรวี (กรวี) - [ 13 ก.พ. 50 13:41:34 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ........ 00012.....00 01000.....12 00100......01(00) 01002......1200(00) *เค้าไม่ได้ใบ้หวยนะตะเอง  อิอิอิ..... ..... จากคุณ : กรวี - [ 13 ก.พ. 50 14:07:23 ]

ความคิดเห็นที่ 53 แวะมาทายทักบอกรักอีกครา ว่าแต่วฤกหายไปไหนครับ จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน - [ 13 ก.พ. 50 15:08:38 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เพลา ณ ค่ำนี้.....................โศกา ใจวุ่นอาลัยหา.....................พี่เชื้อ สุขทุกข์สิ่งใดมา..................เนาท่าน ตัวพี่จึงปล่อยเนื้อ.................วิ่งเข้าปากสิงห์ เพลา ณ รุ่งเช้า....................สิบสี่ กุมภา คือรุ่งอรุณพรุ่งนี้...................นี่แล้ว อกหักอยู่หรือพี่....................ขวัญแห่ง บ้านนา มาเถิดมายกแก้ว..................ซดเหล้ามาวกาน อิอิอิ พรุ่งนี้มาว จ้าวค่ะ มาวน้ำนมโซดา จากคุณ : sugarhut - [ 13 ก.พ. 50 17:50:02 ]

ความคิดเห็นที่ 55 สรรพสัตว์มาร่ำร้อง...................ครางครวญ เสียงช่างแสนโหยหวน..............สลดเศร้า ความรักร่ายเพลงทวน...............กรีดอก ฝูงสัตว์จึงมาเฝ้า.......................เรียกร้องต่อศาล -------------------------------------------------------- เป็นท่านเปาประชดรัก อิอิ จากคุณ : sugarhut - [ 14 ก.พ. 50 14:26:05 ]

ความคิดเห็นที่ 56 14  กพ.  วันวาร์เลนไทน์อาศรมเลยเงียบเรยอ่ะ  ไปฉลองกานหมดเยย....  แล้วจะเหลือใครให้บอกรักอ่ะเนี่ย                                                                        ...  นะทุกๆคน แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 50 15:39:26 จากคุณ : กรวี - [ 14 ก.พ. 50 15:27:16 ]

ความคิดเห็นที่ 57 มาบอกรักด้วยคนเจ้าค่ะ จากคุณ : sugarhut - [ 14 ก.พ. 50 16:28:34 ]

ความคิดเห็นที่ 58 จากคุณ : sugarhut - [ 14 ก.พ. 50 16:30:35 ]

ความคิดเห็นที่ 59 รักลวงลวงเล่ห์ลัก          เราไป รักเล่ห์ลวงล้วงใจ           ให้รัก ลวงรักเล่ห์กลไฉน          ลวงล่อ เราแม่ รักล่วงแรมเลิกรัก           เล่ห์รักเสน่หา รักลวงลวงเล่ห์รัก เศร้าใจนักเมื่อรักลวง เล่ห์รักมาหักทรวง คว้านควักล้วงขั้วหัวใจ เริ่มรักเรียนรู้รัก แรกรู้จักรักสดใส เมื่อเริ่มเรียนรู้ไป ก็เข้าใจในรักนั้น รักแรกมันแปลกดี ชื่นชีวีทุกวี่วัน หวานซ่านสารพัน แจ้วจำนรรจ์ฉันรักเธอ หลงรักคนที่รัก จนหัวปักหัวปำเสมอ พร่ำรักเสียเลิศเลอ แถมพร่ำเพ้อเสมอมา แต่เธอขยี้รัก หัวใจหักด้วยน้ำตา หลั่งล้นท้นอุรา แทบเป็นบ้าอนาถใจ จึงเริ่มลงทะเบียน ริรักเพียรเรียนรู้ใหม่ หวังรู้ถึงความนัย และเข้าใจถึงความจริง รักเอยเคยลิ้มรัก แม้เบาหนักพักใจพิง อุ่นอ้อมน้อมใจอิง แอบอกหญิงที่เรารัก เลิฟเลิฟกำเริบแล้ว ฟังเสียงแว่วแจ้วประจักษ์ หวานหวานซ่านทรวงนัก อยากเรียนรักอีกสักที นะเด็กโง่ (ฮา) จากคุณ : เทพกร - [ 14 ก.พ. 50 18:20:15 ]

ความคิดเห็นที่ 60 สวัสดีครับคุณหมอวฤก และทุกท่าน อาศรมระยะหลังมีชาวโคลงรุ่นใหม่ฝีมือดีมากมาย  แม้คนรุ่นเก่า จะร่วงโรยไปตามกาลเวลาก็ไม่น่าห่วง   บางท่านทุ่มเทมากทั้งเขียนและสร้าง “คลังอาศรม” ไว้ได้ถูกใจนัก คือคุณ xers นั่นเอง  ทางไปคลังอาศรม .... http://arsom.hangercafe.com/ ขอเชิญเข้าไปชมด้วยตัวท่านเองครับ บรรยากาศ  สีสัน การจัดอาศรม สุดยอดมาก  ถ้าเพิ่มเติมสมุดเยี่ยม หรืออะไรตามที่มีผู้แนะนำก็ดี แต่ลิงค์อาศรมบางอันยังเข้าไม่ได้ครับ งานยุ่งเหมือนกับทุกท่านเช่นกัน  พอมีวันหยุดก็ออกเที่ยวพักผ่อน ถ่ายรูปกับเพื่อน ๆ  เลยห่างอาศรมไปหน่อย อีกอย่างคือเขียนโคลงไม่ออก  เขียนได้ก็กลายเป็นโคลงแบบข้างล่าง ทุกที  เขียนไว้หลายบทเหมือนกัน  แต่ไม่ได้ส่งมาแลกกันอ่าน วันนี้เอาแค่สองบท และขอโทษคุณหมอวฤกด้วยที่ไม่มีอารมณ์รัก ตามกระทู้ ขวัญเอยขวัญสู่เหย้า           คืนเรือน   เราเทอญ ปฏิลูบนับแรมเดือน            ล่วงแล้ว ขุนศึกเหยียบฟ้าสะเทือน     ประเทศชาติ ไพร่ราษฎร์คงแด่กแห้ว       ต่างข้าวยามโหย   ฯ สุพรรณภูมิล่มล้ม             จมดิน    ลงแล ผีโขมดสูบซากกิน            กร่อนไส้ ปางรัตนโกสินทร์              ศีลรุ่ง  เรืองฤๅ อ้างจริยธรมใส่ไคล้           ไพร่ฟ้าประชาชน  ฯ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 14 ก.พ. 50 23:07:22 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เงียบเหงาจังกระทู้.............อาศรม ความรักทำอกตรม............ทั่วแคว้น หรือรักบ่มอารมณ์.............งอมจัด 'ทู้รักจึงดูแม้น..................ดั่งห้องร้างคน จากคุณ : sugarhut - [ 15 ก.พ. 50 16:22:46 ]

ความคิดเห็นที่ 62 กุมภาสิบสี่นั้น                  มีโคลง ความรักร่วมจรรโลง          มากข้อ หลากหลายชื่อทั้งโขยง      มาร่วม เพื่อนกลับมานั่งจ้อ            ว่าร้างคนโคลง. ตั้งแต่ ๑๔.๒๖ - ๒๓.๐๗ น. มีตั้ง ๖ ทู้ครับ. แต่ครึ่งหนึ่งเป็นของซูก้าฮัทคนขยันครับ. แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 50 18:07:59 จากคุณ : เจียวต้าย - [ 15 ก.พ. 50 18:05:58 ]

ความคิดเห็นที่ 63 แสนสงสารหัวใจของเรานัก เมื่อมีรักแล้วรักมักฝากแผล อยากตัดพ้อขอให้ใครเหลียวแล ก็เหลือแต่ตัวเรานี้ไม่มีใคร แสนสงสารเศษซากเราที่เหลือ เพียงเลือดเนื้อที่ยังพอหายใจได้ แต่สงสารเธอยิ่งกว่าสิ่งใด เพราะเธอไม่เคยรู้จักความรักเลย... จากคุณ : วรวากย์ - [ 15 ก.พ. 50 19:54:50 ]

ความคิดเห็นที่ 64 รักเอยหากแม่แต้ม        รูปคง จักสลักสี่แม่ทรง           รูปนั้น หนึ่งรักปักใจหลง          สองใคร่ สามใส่ทรวงหวงกั้น       สี่เข้าฝันเห็น  ฯ จากคุณ : สุปศกาล - [ 15 ก.พ. 50 21:13:41 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ฤา รสรัก จักร้าง...........แรมรา ฤา ว่ารัก นำพา............อกช้ำ ฤา รักบด บังตา...........มัวหม่น ฤา แค่เพียง ตอกย้ำ.....ล่อให้ใจตรม ---------------------------------------- อาศรมจึงร้าง อิอิอิ จากคุณ : sugarhut - [ 16 ก.พ. 50 14:00:03 ]

ความคิดเห็นที่ 66 รสรักงามห่อนรู้          โรยรา บานเบ่งดังผกา           ยั่วเย้า หอมรักกรุ่นนาสา       ซาบซ่าน ใจนอ จึงไป่ลาห่างเจ้า          คู่เคล้าคะนึงหา จากคุณ : เทพกร - [ 16 ก.พ. 50 20:25:19 ]

ความคิดเห็นที่ 67 สวัสดีครับ คุณหมอวฤก และทุกท่าน ๏ ขอบคุณความรักนั้น     จริงจริง แม้ทุกข์ก็ช่วงชิง             สุขได้ แม้หวั่นไม่พึ่งพิง             ความขลาด โลกก็งามแม้ไร้              ดอกไม้ระดับสวรรค์ ๚ ไปเที่ยวพิจิตรมาสองสามวัน เลยไม่ได้มาร่วมอารมณ์ วันรักฝรั่ง และได้ภาพมาเยอะแยะเลย จะแปะมากกลัวล้นกระทู้ครับ 60 กว่าภาพเลยเอามาฝาก บางภาพครับ -----------------------------------------------------------------------------------       ' บึงสีไฟ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2550 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : xers - [ 17 ก.พ. 50 01:43:29 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เอาใหม่ครับภาพเล็กไป -----------------------------------------------------------------------------------       ' บึงสีไฟ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2550 จากคุณ : xers - [ 17 ก.พ. 50 01:53:17 ]

ความคิดเห็นที่ 69 แวะมาทักทายอีกรอบครับ '60 ป๋าคัมภีร์ฯ ที่เขียนเว็บอาศรมเพราะตอนรับส่งซีดีอาศรม และย้อนอ่านกระทู้อาศรม ลำบากมาก กว่าจะได้อ่านครับ และเสียดายความรู้เก่าๆ ที่ทุกท่านช่วยกันค้นหามาเล่าสู่กันฟัง เลยคิดทำขึ้นมา น่าจะมีผู้ได้ประโยชน์ จากการอ่านไม่น้อยนะครับ ได้ข่าวว่าบางคนไปเที่ยวดอยอินทนนท์ ขอให้หนาวๆ เน้อ อิอิ ๏ อินทนนท์สูงเฉียดฟ้า      เมืองเรา ใครบ่มีคู่จะเหงา               หากขึ้น หนาวลมพ่นเบาบา            เป็นหมอก หยอกสนุกได้ครึกครื้น       หากขึ้นหลายคน ๚ แหะๆ ขอลักไก่ สระอึ้นน่อครับ ------------------------------------------------- แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 50 15:51:40 จากคุณ : xers - [ 17 ก.พ. 50 02:17:26 ]

ความคิดเห็นที่ 70 สวัสดีครับทุกท่าน เอาภาพหลวงพ่อโตวัดตะพานหินมาฝากครับ เห็นลานรอบองค์พระรึเปล่าครับ คุยกับคณะครูที่ไปด้วยท่านบอกว่าในเทศกาลลอยกระทง จะปล่อยน้ำเข้าไปขังเต็มลานเพื่อใช้ลอยกระทง เพื่อไม่เป็นการสร้างขยะ ในแม่น้ำ และจำกัดให้ใช้วัสดุจากธรรมชาติทำกระทง และก็เวียนตักมาใช้ต่อ กันกระทงล้นสระ และประหยัดวัสดุไปในตัว ถามท่านว่าเป็นความคิดใคร ก็บอกว่าเป็นของเจ้าอาวาสท่านหนึ่งที่วัด ผมว่าวัดไหนจะเอาไปใช้น่าจะเป็นความคิดที่ดีเหมือนกันนะ -----------------------------------------------------------------------------------       ' จากคุณ : xers - [ 18 ก.พ. 50 12:00:04 ]

ความคิดเห็นที่ 71 บ่วงสื่อยู่อี่ -------- ทุกเรื่องสมปรารถนา ไฉ่ฮี้เต็งมึ้ง --------- เจริญวษาแจ่มใส ซินเจียยู่อี่ ---------- ปีนี้จงสุขใจ ซินนี้ตั่วถั่ง ---------- ร่ำรวยไปตลอดปี มีความสุขตรุษจีนครับ จากคุณ : โกฏิดารา - [ 18 ก.พ. 50 15:24:57 ]

ความคิดเห็นที่ 72 มาอวยพร มีความสุขตรุษจีน เช่นกันครับ (ยิ้ม) จากคุณ : พิราบเงิน - [ 18 ก.พ. 50 16:04:40 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เยาวราชเยาวแน่งน้อย                        ผิวนวล ชะเอ่อ:-)ามมวล                             สรรพพร้อม ยามยิ้มแม่ช่างยวน                             เยาวหนุ่ม นาแม่ เยาวรักผลิตาล้อม                              โอบทั้งเยาวนาง ฯ แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 50 11:54:58 แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 50 11:53:09 จากคุณ : พิราบเงิน - [ 18 ก.พ. 50 16:14:52 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ถึงท่านพิราบ ตรงนี้ :-)มันอะไรอ่ะทั้น?...... จากคุณ : กรวี - [ 19 ก.พ. 50 10:27:20 ]

ความคิดเห็นที่ 75 สวัสดีหนุ่มสาวหน้าใสไร้สิวทุกท่าน ฮี่ๆ วันตรุษจีนได้ยินเสียงประทัดก่อนไก่โห่ หันไปมองพ่อไอ้หนู ถามว่า ไม่ไหว้บรรพบุรุษเหรอ คำตอบคือ บรรพบุรุษอยู่ไหนแล้วไม่รู้ ไอ้เราก็อดแหย่ไม่ได้ ... มิน่าล่ะ ไม่รวยซักที บรรพบุรุษ จะตามมาช่วย ก็เลยหาไม่เจอ ลูกหลานไม่เซ่นไหว้ ฮ่าๆๆ การเป็นสะใภ้คนจีนในปัจจุบัน คงสบายกว่าในสมัยก่อนเยอะ แต่หากบ้านไหนเคร่งครัดธรรมเนียม สะใภ้จีนที่แต่งเข้าบ้าน ก็ไม่ต่างจากคนรับใช้ดี ๆ คนหนึ่ง ไร้ปากเสียง ป้าเขาเล่าให้ฟัง เวลาเข้าบ้านต้องทักทุกคนในบ้าน ไม่ทักไม่ได้.... อากง อาแปะ อางิ้ม อาโง้ว ฯลฯ อยู่สิบคน ก็ต้องทักทั้งสิบคน เฮ่อ..คิดแล้วเหนื่อย เวลาซื้อของกินเข้าบ้าน ก็ต้องพูดชวนทุกคน ไม่พูดไม่ได้ ไอ้เราก็ว่า ลำบากนัก ก็กินมันซะที่ตลาด แล้วค่อยเข้าบ้านสิ... อันนี้เป็นคำบอกเล่าเล็ก ๆ ส่วนชีวิตสะใภ้จีนจริง ๆ จะรันทดเหมือนในหนังรึเปล่า ไม่ทราบได้ ไม่มีประสบการณ์ ^_^ เฮียเซอร์...พี่ชายเคยพาแม่ไปแอ่วบึงสีไฟ แล้วมีเด็กมาขายขนมปัง แม่พี่บอกว่า ไม่เอาค่ะอิ่มแล้ว เด็กขายขนมปังก็เดินไป ทำหน้างง ๆ พี่ชายบอกว่า.. เขาขายหนมปังให้ปลานะแม่ ไม่ใช่ขายให้คน ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : หญิงซอมฯ - [ 19 ก.พ. 50 11:53:49 A:unknown X:202.129.0.74, 202.129.0.74 TicketID:062433 ]

ความคิดเห็นที่ 76 จ้าก แก้สองที ก็แก้ไม่ผ่าน ชะเอ่อmaeงามนวล                สรรพพร้อม เขียนแค่นี้เอง โถ โถ พันติ๊บ หวัดดีกั๊บ คุณกรวี ซอมพอแดง ฮ่า ฮ่า เขียนได้ขำดี แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 50 12:09:24 แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 50 12:07:56 จากคุณ : พิราบเงิน - [ 19 ก.พ. 50 12:01:11 ]

ความคิดเห็นที่ 77 สวัสดีครับ คุณหมอวฤก และทุกท่าน + น้องโกฏิดารา สาธุครับ + พี่กรวี นั่นสิว่าจะถามอยู่เหมือนกันน่ะครับ + พี่หญิง เมื่อวานดูถ่ายทอดนางงามจีนไม่รู้ว่า จะเป็นเหมือนที่ว่ารึป่าวอ่ะ ว่าแต่คุณแม่น่ารักดีนะครับ อิอิ นึกถึงตอนตอบเด็กแบบใสซื่ออ่ะ ตอนไปพิจิตรมีโอกาสได้กินปลาสีน้ำเงิน ที่เคยอ่านในบทกาพย์เจ้าฟ้ากุ้ง พึ่งเคยเจอนี่แหละครับ นุ่มอร่อย แต่ไม่เคยเจอแบบเป็นๆ พอมาเห็นก็ตาย อยู่ในจานซะแล้วครับ แหะๆ + พี่พิราบเงิน นั่นสินะพันทิพย์แบนไว้หลายคำ ไม่รู้ว่าวันไหนเราจะโดนบ้างตื่นเต้นดี เหมือนลุงรามฯ ว่า วิธีแก้น่าจะวรรคสักหน่อย เป็น แม่ งาม ครับ เห็นโคลง สงสัยแว่บไปเที่ยว เยาวราชมาเหรอครับ ๏ พิจิตรพิจิตรด้วย        วันวาน สิ่งก่อสร้างเล่าขาน        ขับฟุ้ง ปรุงแต้มแต่งตำนาน      ยามผ่าน อารยธรรมเก่าคลุ้ง        กลิ่นคล้ายยังคง ๚ -----------------------------------------------------------------------------------        ' วัดมหาธาตุ เมืองเก่า พิจิตร มีโอกาสได้เดินทางกับผู้ใหญ่ 3 ท่าน ฟังตำนานต่างๆ ผ่านคำบอกเล่ามากมายเลยครับ จากคุณ : xers - [ 19 ก.พ. 50 15:20:11 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ลืมภาพครับเอาใหม่ -----------------------------------------------------------------------------------        ' วัดมหาธาตุ เมืองเก่า พิจิตร มีโอกาสได้เดินทางกับผู้ใหญ่ 3 ท่าน ฟังตำนานต่างๆ ผ่านคำบอกเล่ามากมายเลยครับ จากคุณ : xers - [ 19 ก.พ. 50 15:21:48 ]

ความคิดเห็นที่ 79 โลกวันนี้ ---------------------------------- เหมือนทั้งโลกวันนี้มีแต่ “ร้อน” คอยแผดสาดกวาดต้อนเช้ายันค่ำ เรา-ท่านถูกคาดโทษด้วยโฉดทำ จากบางสิ่งที่เกินคำพรรณนา ซีกไหนก็ล้วนโศกโลกใบนี้ เหนือใต้ต่างมีแต่ปัญหา ตกออกชอกช้ำอยู่ตำตา ให้สมเพชเวทนามนุษย์เรา ฆ่ากันเท่าใด ไม่รู้หยุด ประวัติศาสตร์ชำรุดในความเขลา จากวันนั้นจนวันนี้ไม่มีเบา ยิ่งหนักยิ่งโศกเศร้าไปด้วยกัน. 19-02-2550-1 *เปิดข่าวฆ่ากันนึกสมเพชขึ้นมา  ตั้งใจว่า จะหยุดดูทีวีสักเดือน หยุดอ่านหนังสือพิมพ์สักพัก...อิๆ จากคุณ : Ar@p - [ 19 ก.พ. 50 16:48:40 ]

ความคิดเห็นที่ 80 หนาวเอยหนาวขาดเชื้อ.................ไฟฟอน หนาวอกให้อาวรณ์.......................อุ่นเนื้อ ดอยสูงช่างหนาวนอน...................กระส่ายกระสับ จึงข่มใจดึงเสื้อ...........................พี่นั้นคืนไป ------------------------------------- กลับมาแล้วเจ้าค่ะ พร้อมกับโดนตัวคุ่น(ขุ้น) กัดขาลายพร้อย พี่(ท่าน)ข้างบนนู้น อินทนนท์ร้อนแล้ว ไม่หนาวดั่งที่คิด เดินใส่เสื้อแขนสั้นกุงกางขาสั้นสบาย จากคุณ : sugarhut - [ 20 ก.พ. 50 13:59:14 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เขียนโคลงคิดยอกย้อน            มากมาย จับแก่นความขยาย                 ดุ่มด้น ฉันทลักษณ์วางตัวตาย             ตามกฎ ยังห่วงกลัวไม่พ้น                    ท่านนั้นเซ็นเซอร์ จากคุณ : เจียวต้าย - [ 20 ก.พ. 50 18:20:31 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ประชาชนมีหน้าที่เสียภาษี รัฐที่ดีคืนภาษีมาเสริมสร้าง ใครงุบงิบเอาไปไม่มียาง ตายแล้วย่างลงหลุมขุมทองแดง กำลังกรอกใบเสียภาษี โอ้..เราช่างเป็นพลเมืองที่ดีจริง ๆ มานั่งคิดดูนะ เวลาเขาประมูลงานก่อสร้างอะไรสักอย่าง คิดง่าย ๆ วัดครึ่งนึง กรรมการครึ่งนึง ถ้าให้วัดเต็มร้อย บ้านเราคงไปไกลกว่าดวงจันทร์แล้วล่ะมั้ง ร่วมด้วยช่วยกันปั่น..อาศรมจะร้างแล้วววววววว ใครปลีกวิเวกนาน ๆ ขอให้หยากไย่ขึ้น!! จากคุณ : ซอมพอแดง - [ 21 ก.พ. 50 09:50:24 A:unknown X:202.129.0.74, 202.129.0.74, 202.129.0.74 TicketID:062433 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ตอบเซอร์ เด้อ แต่งก่อนไปเที่ยวเยาวราชครับ แค่เขียนห่างกัน ก็ใช้ได้แล้วเหรอ แม่ งาม ระบบมันเพี้ยนนะครับ วันก่อนพ้มทั้ง เขียนแยก ทั้งใช้ / ทั้งใช้ ( ก็ไม่ผ่าน จากคุณ : พิราบเงิน - [ 21 ก.พ. 50 12:12:14 ]

ความคิดเห็นที่ 84 มาร่วมกันปั่น`ทู้ ............... อาศรม มือประกบพนม ................ ยกไหว้ สาธุปู่เจียวพรม ................ น้ำมนต์ช่วยที เรียกเหล่าศิษย์ไกลใกล้ ..... กลับเข้าอาศรม ------------------------------ พอเขียนไป เขียนไป รู้สึกว่าความรู้มันจะตกชั้นไปเรื่อยๆ เจ้าค่ะ จากคุณ : sugarhut - [ 21 ก.พ. 50 13:46:00 ]

ความคิดเห็นที่ 85 เยาวราชเยาวแน่งน้อย                        ผิวนวล ชะเอ่อแม่ งามมวล                             สรรพพร้อม ยามยิ้มแม่ช่างยวน                             เยาวหนุ่ม นาแม่ เยาวรักผลิตาล้อม                              โอบทั้งเยาวนางฯ **รู้ความลับแระ  ทั้นพิราบไปปิ๊งสาวเยาวราชมาแน่ ขาว  สวย  หมวย  อึ้ม  อะทั้น สู้ ขาว   ซีด  ผอม  บาง  อย่างกรวีมะได้หรอก  หุหุหุ  ซิบอกให้  เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ **อาร์พี  ทำให้ได้อ่ะ  เอาใจช่วย  อิอิอิ **เพ่หญิง  จุดธูปเรียกจิพี่  ล่องลอยไปไหนกันหมดแระอ่ะ... จากคุณ : กรวี - [ 21 ก.พ. 50 14:43:44 ]

ความคิดเห็นที่ 86 อยุธยาวิโยคย้อน            ทุรยุค   แลฤๅ ปอบเฒ่าวิปลาสปลุก        ป่าช้า ผีโขมดสูบเลือดซุก          ไส้เน่า               ขุนศึกอสุรกายกล้า          เก่งจ้อตอหะแล  ฯ แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 50 20:17:33 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 21 ก.พ. 50 20:15:20 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ฟ้าก่ำกรุงเก่าไร้             กษัตรา   ธิราชเอย                   ขุนศึกกรำศึกทา            เลือดไว้ แสนศพทบซากครา       กรุงแตก แว่วหวีดปีศาจไห้           ห่มแค้นวันคืน  ฯ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 21 ก.พ. 50 20:19:29 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ศรีสรรเพชญเสื่อมฟ้า         ดินสลาย     ลงฤๅ เรือนยอดปราสาทหาย        หักทิ้ง             เจดีย์วิหารราย                  วายวอด พระปรมอัฐิกลิ้ง                เกลื่อนเถ้าถมดิน  ฯ (ปั่นทู้ ก่อนจะร้าง และกลัวคำสาปแช่งของหนูซอมฯ) จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 21 ก.พ. 50 20:22:29 ]

ความคิดเห็นที่ 89 +++ ใครลิขิต +++ ๏ พระพรหมฤาขีดเส้น..........คิดสรรค์ สรรพสุขทุกข์พัวพัน.............ผ่านพ้อง กระสวนเกษียนบรร-.............สมบท-.........บาทแล เป็นนาฏลีลาศร้อง...............ระร่ายฟ้อนระรึงเพลง  ๚ ๏ เชลงชีวิตขึ้น...................ละครคน กลางฉากอันสับสน..............ซับซ้อน เสวยกรรมก่อกรรมวน...........วัฏฏะ วาดแต่งต่อบทย้อน..............บทย้ำทำผล ๚ ๏ วิจลวิจักษณ์แจ้ง...............วิจัยเหตุ สรรเพชญธรรมุทเทศ..........ถ่องแท้ "สันทิฏฐิโก" เภท...............ผองอ-........วิชชาพ่อ ทุกข์สุขจะเกิดแก้..................ก่อนสร้างภพเสวย  ๚ ๏ จึงเผยผู้ขีดเส้น.................คิดสรรค์ สรรพสุขทุกข์พัวพัน..............ผ่านนี้ คือตนกมลอัน.....................มีอ-...........วิชชาเอย สร้างบทละครชี้....................เช่นนั้นนิรันดร์สมัย ๚ะ๛ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ ==================================================== ขออภัย เพื่อนพ้องน้องพี่ ที่จัดตั้ง PTV เอ๊ย! จัดตั้งกระทู้แล้วหายไป กลับมาอีกที ก็ปลายกระทู้แล้ว ดีนะเนี่ย .... ที่ทั่นคัมฯ และน้อง ๆ มาช่วยปั่นกระทู้ไว้ แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 50 22:31:03 แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 50 21:50:00 จากคุณ : วฤก - [ 21 ก.พ. 50 21:47:33 ]

ความคิดเห็นที่ 90 .          ยามพระแสงของ้าวเงือด      หงายฉาย  สับสวรรค์ขวัญสลาย                   สั่นสะท้าน  เพียบวิมานแมนราย                    เมรุมาศ  ต่อฮา  หาดพระโลหิตเหิรต้าน                 ประคับละล้าโลมองค์          สู่สวรรคาลัยเพี้ยง               คอคช  พาพระสรีรลายศ                        ลับแล้ว  พลเตลงลานสลด                        เพียงพ่าย  แสนระส่ำศึกเศียรแคล้ว                ขาดทั้งยังตะลึง          เดชพระบรเมศเจ้า               เจิมขวัญ  สู่นา  สูรย์ส่องอยุธยาพลัน                    พ่างพื้น  พระอุตส่าห์สละสวรรค์                  รอนราพณ์  มาปราบปลุกเมืองฟื้น                   แผ่ฟ้าแผ่ดิน          เชิญบาทวรเทพกษัตริย์เจ้า    จอมสยาม  จอมยศเย็นโลกย์ยาม                   อยู่เฝ้า  สุหร่ายรสทศบารมีหลาม                ไหลทวีป  ลงแผ่นดินค้างเกล้า                       ใส่เนื้อทวยไทย          ชลอพระโพธิสัตว์ตั้ง             เตือนไทย  ยามอยู่เย็นอาศัย                         สุขแท้  สุทธิปัญญาใด                             สถิตสู่  สยามนา  เมตตาขันตีแก้                             แต่เนื้อธรรมเทอญ ฯ ขออนุญาตเขียนต่อจากคุณคัมภีร์โบราณ และขออนุญาตคุณวฤกด้วยนะครับ. จากคุณ : สุปศกาล - [ 21 ก.พ. 50 23:22:11 ]

ความคิดเห็นที่ 91 เมื่อสวรรค์เคยเสกสร้าง         ส่งมา ใยนรกกลับสาปลา               จุ่งล้าง ให้พบเพื่อคลาดครา              เคียงคู่ ใจหนึ่งจึงจำคว้าง                 ไขว่คว้าหาไหน กราบเรียนท่านเซอร์ ใจจริงข้าฯอยากตามไปยิ่งนัก แต่จะหักน้ำใจนางก็ควรไม่ เพียงนิดน้อยในเวลาก่อนลาไกล ขอเก็บไว้ให้คนหนึ่งซึ้งทราบทรวง จากคุณ : คนเดินดินกินข้าวแกง - [ 22 ก.พ. 50 07:38:56 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ไฮ้ฮาโหลโย่เย้................ดีจัง ทู้พี่หมอนั้นยัง.................ไม่ร้าง เจ้าของกลับมาฟัง............เสียงบ่น เพราะพี่หญิงเขาอ้าง.........แช่งให้ขึ้นไย ---------------------------------------- เย้ๆๆๆ ในที่สุด ก็มีคนช่วยปั่น อึ๊บเอ้าอึ๊บช่วยกันปั่นหน่อยเจ้าค่ะ (คนแถวนี้ จะเบื่อสีน้ำน้อยแล้ว) โดน คำกรองพันทิปเข้าให้ แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 50 08:56:55 จากคุณ : ผู้หญิงสีน้ำทะเล (sugarhut) - [ 22 ก.พ. 50 08:55:49 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ยามรักแค่ผักต้ม               ยังหวาน พออยู่กันนานนาน             เริ่มร้าง มาถึงแก่เหนียงยาน           จำอยู่ ตายจักไม่อ้างว้าง              เพื่อนผู้เผาผี อารมณ์ระหว่างนี้                หมองมัว ดูข่าวแล้วมึนหัว                 อย่างร้าย บ้านเมืองช่างน่ากลัว           หดหู่ โคลงจึ่งเหี่ยวหมดคล้าย       ทอดทิ้งอาศรม. จากคุณ : เจียวต้าย - [ 22 ก.พ. 50 09:20:34 ]

ความคิดเห็นที่ 94 กระทู้ขึ้นเลขเก้า....................ยากจริง แต่ว่ากลัวจะสิง......................นิ่งแล้ว ไม่มีเคลื่อนย้ายชิง................ขึ้นหลักร้อย ชะเอ่อเอิงเอยน้องแก้ว...........เร่งเข้าสีน้ำฯ เอย ต้มโคล้งโคลงเคลง ตุเลงตุเล่ง ปั่นให้ถึงร้อย ความรักหนีหาย เหลือแต่โคลงเคลง อารมณ์ ป่วน เจ้าค่ะ จากคุณ : sugarhut - [ 22 ก.พ. 50 15:43:51 ]

ความคิดเห็นที่ 95 อาศรม'รมณ์รักร้าง          แรมเหงา หมดเทศกาลรักพาล        เบื่อโลก อารมณ์กวีเฉา                  ชาเฉื่อย เจอมะเหงกเขกซักโป๊ก    น่าจะหาย ฯ จากคุณ : CrazyHOrse - [ 22 ก.พ. 50 15:52:31 ]

ความคิดเห็นที่ 96 คุณ  CrazyHOrse เจ้าค่ะ... ...  เอ่อครือว่า  โคลงที่แต่งอ่ะค่ะ  มานโคลงประเภทไหนเจ้าค่ะ(เพราะโคลงมีหลายประเภท) กรวีแต่งเป็นแต่โคลงสี่สุภาพอ่ะเลยมะรู้เรื่องอ่ะเจ้าค่ะ  แหะๆๆๆๆ ยังไงช่วยขานไขหน่อยนะเจ้าค่ะ  มานงงอะเจ้าค่ะ... แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 50 16:46:31 จากคุณ : กรวี - [ 22 ก.พ. 50 16:42:35 ]

ความคิดเห็นที่ 97 กระทู้ขึ้นเลขเก้า....................ยากจริง แต่ว่ากลัวจะสิง......................นิ่งแล้ว ไม่มีเคลื่อนย้ายชิง................ขึ้นหลักร้อย ชะเอ่อเอิงเอยน้องแก้ว...........เร่งเข้าสีน้ำฯ เอย น่าจะเป็น*ไม่มีเคลื่อนย้ายชิง            ขึ้นหลัก  ร้อยเฮย เนอะตะเองว่าไงอ่ะ... จากคุณ : กรวี - [ 22 ก.พ. 50 16:54:29 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ฉันทลักษณ์โคลงสี่ดั้น       ธรรมดา น้องเอย หากปล่อยรูปโคลงเคลง    ครึกครื้น อย่าเอาอย่างพี่ยา              เลยแม่ อวิชชาจะพาน้องสะอื้น      อดเป็นเซียน ฯ จากคุณ : CrazyHOrse - [ 22 ก.พ. 50 17:58:13 ]

ความคิดเห็นที่ 99 น้องไม่คิดสักน้อย....................เป็นเซียน เคยแต่อยากพากเพียร...............เท่านั้น เป็นเซียนหากหัวเวียน................อย่างเช่น  พี่เฮย คงไม่เอาล่ะอะฮั้น.....................จะบอกไว้บับบายฯ **เหอๆๆๆๆๆ จากคุณ : กรวี - [ 22 ก.พ. 50 19:27:29 ]

ความคิดเห็นที่ 100 สวัสดีครับทุกท่าน อ่ะแหะๆ มาสนุกท้ายอาศรมน่อครับ อย่างที่ปู่เจียวต้ายบอก ฟังข่าวช่วงนี้ อารมณ์มันหายหมดเลยครับ โจ๊ก ก็ว่าอยู่ทำไมไม่ไปด้วยกัน ที่แท้ มีภาระใจต้องไปกระทำ นี่เอง ขะรับ มาต่อดั้นของคุณ เคซี่ ครับ ขอเป็นโทแยกอ่ะครับ เดินมาแล้วแค่ใกล้        ครึ่งทาง สิ่งชั่วร้ายกรายเวียน      มิน้อย สิ่งดีก็มีวาง                  กลาดเกลื่อน ธรรมะอธรรมเด่นด้อย    ยากเฟ้นเห็นถึง ฯ แหะๆ ดูข่าวแล้วยากแยกแยะครับช่วงนี้ ---------------------------------------------- จากคุณ : xers - [ 22 ก.พ. 50 20:33:06 ]

ความคิดเห็นที่ 101 คนขายแรง ๏ ราวเพลิงแรงแผดร้อน............เผารม แสงแดดเผาพล่านซุน................ซุกเร้น เงาผ้าหนึ่งผืนซม-.....................ซานหลบ......ร่มอา ร้อนแดดจึงเต้นลี้.......................หลบสูรย์ ๚ ๏ ร้อนใดสยบร้อน....................แรงไถง ร้อนอัดอกอาดูร........................ด่าวดิ้น ถึงพรากจากบ้านไกล................เกลือกแดด แสวงดับเดือดร้อนสิ้น..............เสาะแสวง ๚ ๏ สังคมคนแวดล้อม...............ล้วนสอน มีทรัพย์นับถือแปลง................เปลี่ยนเชื้อ เป็นผู้หมู่ชนสลอน..................สลวนชื่น-........ชมแฮ แรงร่างเลือดเนื้อเจ้า...............จึ่งขาย ๚ ๏ เสโทรสขื่นข้น...................ควรไหล เพื่อถิ่นตนกลับหาย................เหือดแห้ง ชโลมทางห่างเรือนไกล.........รายเกลื่อน ทรัพย์กลับกลายคล้ายแป้ง......ป่นปลิว ๚ะ๛ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ ============================================= สวัสดีครับ สหายชาวอาศรมฯ วฤกไม่ได้เขียนโคลงดั้นมานาน จนจำผังไม่ได้แล้ว อ่านที่ CrazyHOrse กับกรวีคุยกันแล้วทำให้ต้องไปค้นหาดู ...... ผังโคลงที่ได้มาไม่รู้ว่าถูกต้องหรือเปล่า ... ปล.รูปนี้ถ่ายได้เมื่อตอนเย็น ระหว่างขับรถไปทำงาน โอ้..... เค้าขนแรงงานอิสาน กันแบบนี้เชียวหรือ ปล. กลับมาเขียนโคลงให้จบ ขอบคุณคำแนะนำของคุณ CrazyHOrse  มากครับ ย้ายคำรับสัมผัสมาเป็นคำที่ ๕ ทำให้เขียนง่ายขึ้นเยอะ วฤกลองอ่าน ๆ ดู ยังรู้สึก ติด ๆ ขัด ๆ ยังไงก็ไม่รู้ คงเป็นเพราะไม่ถนัดในการเขียนโคลงดั้นมั้ง เลยทำได้แค่นี้ แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 50 23:53:40 แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 50 21:32:20 แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 50 21:21:24 จากคุณ : วฤก - [ 22 ก.พ. 50 21:05:11 ]

ความคิดเห็นที่ 102 แหะ ๆๆ ลืมใส่ผังมาด้วย เผื่อใครจะลองแต่งเล่นดู เป็นผังโคลงจากเว็บ มธ. มั้ง ได้มานานแล้ววฤกจำไม่ได้ ขออภัยด้วย ที่ไม่สามารถบอกแหล่งที่มาของผังโคลงนี้ได้ แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 50 21:14:46 จากคุณ : วฤก - [ 22 ก.พ. 50 21:09:28 ]

ความคิดเห็นที่ 103 แยกฝ่ายดีฝ่ายร้าย      แยกยาก จริงนอ หากแต่เท็จจริงพอ      แยกได้ เรื่องชาติใช่จะฝาก     ใครคิด ได้นา อคติพาบ้าใบ้              อย่าหลง ฯ จากคุณ : CrazyHOrse - [ 22 ก.พ. 50 21:26:40 ]

ความคิดเห็นที่ 104 เพิ่งจะเห็นคคห.ของคุณหมอวฤกครับ ผังของคุณหมอน่าจะมาจากที่นี่ http://thaiarc.tu.ac.th/poetry/khloong/dun/index.html#k4dbaht ผังฉันทลักษณ์ในเว็บนี้ค่อนข้างมีปัญหา ผิดมาก(โดยเฉพาะฉันท์ ต้องดูอย่างระมัดระวัง) ดั้นบาทกุญชรรับสัมผัสบาทสี่ด้วยคำที่สี่หรือห้าก็ได้ครับ แต่นิยมรับด้วยคำที่ห้ามากกว่า (ดูในตัวอย่างในเว็บนี้ก็รับด้วยคำที่สี่บทหนึ่ง คำที่ห้าบทหนึ่ง) โคลงดั้นบาทกุญชรที่สำคัญได้แก่ กำสรวลสมุทรและยวนพ่ายครับ กำสรวลสมุทรคงหาฉบับออนไลน์ได้ไม่ยาก ส่วนยวนพ่ายยังไม่มีใครทำไว้ ผมพิมพ์อยู่(อย่างช้าๆ) เสร็จเมื่อไหร่จะเอาลิงก์มาวางไว้ให้ศึกษากันครับ จากคุณ : CrazyHOrse - [ 22 ก.พ. 50 22:20:43 ]

ความคิดเห็นที่ 105 สวัสดีครับทุกท่าน แหะๆ คุณ เคซี่ ของคุณหมอ วฤกเค้าคงไม่ผิดนะครับ อ่านโคลงแล้วดูมีสัมผัส ทั้งสองตำแหน่ง 4 กับ ห้า แต่ จุดประสงค์ ที่เอา ผังมาฝากก็คงอยากให้ เป็นแบบอย่างอ่ะครับ แต่คุณเคซี่ก็คงตั้งใจ อย่างอื่นมากกว่าอีกน้อ ๐ กรุงเทพฯคือทั้งหมด           แห่งสยาม เสียงบ่นเปรียบเสียงจาม         ถิ่นข้อย พูดแต่ละทีกราม                   ยังเมื่อย ข้าฮัดเช้ยเป็นร้อย-                เท่าถั้นสบถที ฯ ขะรับ ------------------------------------------------ จากคุณ : xers - [ 23 ก.พ. 50 06:02:49 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ที่คุณหมอเขียนไว้เดิม สัมผัสที่คำที่ ๔ ไม่ได้ผิดเลยครับ เพราะมีตัวอย่างอยู่ทั้งในกำสรวลสมุทรและยวนพ่าย เพียงแต่นิยมใช้น้อยกว่าสัมผัสที่คำที่ ๕ เท่านั้นครับ ตัวอย่างจากกำสรวลสมุทรครับ ตระการหน้าวัดแหว้น       วงงพระ บำบวงหญิงชายแชรง     ชื่นไหว้ บูรรพาท่านสรรคสระ       สรงโสรด ดวงดอกไม้ไม้แก้ว          แบ่งบาล ฯ บทนี้จากยวนพ่ายครับ เบญจาวุทธาษฎรบ้นน      เบญจางค เบญจมารเบญญา               ผ่าแผ้ว เบญจาพิชานาง                คฌาเณศ เบญจนิวรณแร้วร้าง          ร่างเหน ฯ แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 50 14:06:24 จากคุณ : CrazyHOrse - [ 23 ก.พ. 50 09:11:08 ]

ความคิดเห็นที่ 107 โอ๊ะโอ๋พอตื่นเช้า....................มาเจอ โคลงสี่ดั้นพี่เซอร์...................พี่สี้ ยังมีพี่นางเธอ.......................บอกกล่าว สีฯใส่เฮยตรงนี้.....................จิได้ครบความ เห็นโคลงชื่อสี่ดั้น..................อยากลอง สีฯใคร่อยากทำตาม...............พี่บ้าง ดูเพียงแค่ผังสยอง.................เลยหยุด กลัวสติน้องคว้างเคว้ง.............ลอยลม ------------------------------------------ ลองสักนิด ดูแปร่งๆ แต่ข้างบนเป็นสี่สุภาพ ข้างล่างเป็นสี่ดั้น เอิ้ก เอามันเข้าปาย ขอบคุณ คุณกรวี นะเจ้าค่ะ ที่ชี้แนะ วันนี้เป็นอีกวันที่ต้องสติแตก จากคุณ : sugarhut - [ 23 ก.พ. 50 10:43:07 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ๏ แก้ไขแก้ข่าวเข้า-.........ใจผิด แต่ก่อนข้อยลิขิต.............ขาดไว้ เหตุรับสี่สุดคิด................ความต่อ-.......เนื่องนา ครั้นเปลี่ยนรับห้าไสร้........เสร็จได้ดังประสงค์ ๚ะ๛ ============================================= แก้ไขข่าวครับหนูเซอร์ #105 แต่เริ่มเดิมที วฤกเขียนโคลงดั้นแบบรับสัมผัสคำที่สี่ตามผังโคลงที่มีอยู่ ก็ติด ๆ ขัด ๆ เขียนไว้ได้แค่สองบทแรก เพราะพอเขียนบท ๓ และ ๔ ก็ติดกล ..... เนื้อหาโคลงตกทะเลไป ทั้งนี้เนื่องจากคำเอกท้ายวรรคหลังบาทสาม ซึ่งต้องสัมผัสกับคำที่สี่วรรคหน้าบาทแรกของโคลงบทถัดไป เป็นตัวการ "กลอนพาไป" ทำให้ไม่สามารถคุมความให้ต่อเนื่องได้ วฤกจึงโพสท์ไว้สองบทก่อน ตาม #101 กะว่าเกลาเนื้อความบท ๓ และ ๔ เสร็จจะมาลงเพิ่ม เมื่อทั่นเครซี่ #104 แนะนำว่า คำที่ ๕ ใช้รับสัผัสได้แล้ว วฤกก็เขียนโคลงได้ง่ายขึ้น จึงเกลาเนื้อโคลงใหม่ทั้งชุด เขียนใหม่ให้บทที่ ๑ กับ ๓ ใช้คำที่สี่รับสัมผัสคู่โท บทที่ ๒ กับ ๔ ใช้คำที่ ๕ รับสัมผัสคู่โทแทน ที่หนูเซอร์ ได้อ่านนั้น เป็นฉบับแก้ไขเพิ่มเติมแล้วครับ ส่วนที่ทั่นเครซี่แนะนำนั้น เป็นฉบับดั้งเดิม ขอรับ จากคุณ : วฤก - [ 24 ก.พ. 50 08:19:23 ]

ความคิดเห็นที่ 109 สวัสดีครับ คุณหมอวฤก และทุกท่าน แหะๆ จริงๆแล้วผมก็เห็นตามคุณ เคซี่ ขอรับ เพราะดูดั้นสมัยใหม่ก็มักนิยมใช้ คำที่ห้าสัมผัส รู้สึกมันลงตัวดี แต่ผมก็ไม่รู้ว่าใหม่ถึงสมัยไหนนะครับ OOOOO     O+ OOOOO     OX OO+++      OO OOOXX      OO ผังของดั้นเมื่อก่อนจะสัมผัสจะทำนองนี้ และรู้สึกว่าหูคนใหม่แบบผมไปไม่ถึงสัมผัส ที่ถ้ามันไม่อยู่ในช่วงจังหวะที่จะลงอ่ะครับ เคยพยายามแต่งแบบสัมผัสไม่รับที่ท้ายวรรค อ่านดูก็ยังติดๆ อยู่เหมือนเดิมครับ ส่วนสัมผัสระหว่างบทเคยเห็นใน กำสรวล กระทู้ก่อนๆ ได้มีโอกาสอ่านกำศรวลสมุทร เห็นสัมผัสระหว่างบท บาท 1 กับ บาท 2 จะเป็นแบบนี้ ไม่ตายตัวนะครับ OOOOO     OO OOOOO     OO OOOOO     OX OOOOO     O+ OOXXX      OO OO+++      OO OOOOO     OO OOOOO     OO แต่บางเรื่องก็มีตั้งแต่ต้นวรรคหรือท้ายวรรคก็มี ซึ่งผมไม่อาจแน่ใจว่าใช่รึเปล่าครับ เรื่องดั้นพยายามอ่านเอาสัมผัสระหว่างบท แต่ก็ยังไม่คุ้นครับ สงสัยหูยังไปไม่ถึงครับ แหะๆ เพราะถนัดอ่านจบบทต่อบทครับ เอากำสรวลสมุทรมาฝากเรื่องสัมผัสระหว่างบทครับ ๕๙ มุ่งเหนดยรดาษสร้อย      แสนส่วน แมนม่วนขนุนไรรยง             รุ่นสร้อย กทึงทองรำดวรโดร              รศ+อ่อน พี่แม่ ปรางประเหล่แก้มช้อย          ซาบ*ฟนน ฯ   ๖๐ เยียมาแอ้วไส้+ย่อน        บางฉนงง ฉนงงบ่อมา*ทนนสาย          แสบท้อง ขนํทิพยพงารงง                  รจ+เรข มาแม่ ยินข่าวไขหม้อน้อง              อิ่ม*เอง ฯ ๖๑ ด้าวห้นนอ+เนขชื้อ         ขนํขาย วอนว่อน*เลวงคิด               ค่าพร้าว หมากสรุกซระลายปลง        ปลิดใหม่ มือแม่ค้าล้าวล้าว                แล่นชิง  โซรมชิง ฯ ... ๖๔ เสียดายหน้าช้อยชื่น      บววทอง กูนา ศรีเกษเกศรสาว                 ดอกไม้ มาดลบนนลุะนอง               ชลเนตร ชลเนตรชู้ช้อยไห้               ร่วง*แรง  โรยแรง ฯ   ๖๕ ขอมเพรงบงงเหตุเต้น     ตัดหวาย หวายเท่า*แทงตนขอม        ตอกต้อง ขอมถือทอดตนตาย            ดด่าว ห้ยมว่าเพรงใดพร้อง            ที่น้นน  หวายยงง ฯ สนุกดีครับได้คุยกันในอารมณ์รักโคลง โคลงผมอย่าเอื้อนเน้อครับ เพราะจะไม่ได้เรื่อง แค่เอาความน่ะ ขะรับ ------------------------------------------------------------ อาศรมใหม่ถ้ายังไม่มีใครสนใจเปิด เสนอเรื่องมาได้ครับ ผมจะเป็นผู้เปิดให้ครับ.. แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 50 14:18:36 จากคุณ : xers - [ 24 ก.พ. 50 14:16:24 ]

ความคิดเห็นที่ 110 หอมละมุนกลิ่นเย้า...................นาสิก สุนทร์ดั่งการะวิก......................แห่งฟ้า อุปัทว์เหตุอาทิก.......................ลิขิตรัก เฉกเช่นโสมส่องหล้า.................แจ่มจ้าเย้ายวน --------------------------------------- อยากได้ เลข 111 แต่คงจะไม่ได้ พี่ท่าน Xers อาศรม อารมณ์รักมาแล้ว ย่างเข้ามีนา เขาว่าน้ำผึ้งเดือนห้า หวานยิ่งนัก อาศรมคราวหน้า ขอเป็น อาศรม.....น้ำผึ้งพระจันทร์ อิอิอิ แบบว่า ขอความกรุณา ผู้ที่มีคู่ทั้งหลาย รำพันชวนกันไปฮันนี่มูนดูหน่อย ได้ไหมเจ้าค่ะ (ช่วงนี้ หัวใจสีน้ำน้อย เต้นผิดปกติ อยากอ่านโคลงอีโรติค) จากคุณ : ผู้หญิงสีน้ำทะเล (sugarhut) - [ 24 ก.พ. 50 21:21:55 ]

ความคิดเห็นที่ 111 สัมผัสระหว่างบทในยวนพ่ายก็เป็นเช่นเดียวกันครับคุณ Xers แก้ไปหลายรอบครับ ๑ แก้คำผิด ๒ ปล่อยไก่ไปตัวเบ้อเริ่ม เก็บกลับเล้า ๓ สงสัยว่าต้นฉบับไม่ถูกต้อง แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 50 00:48:44 แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 50 00:45:54 แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 50 23:45:30 จากคุณ : CrazyHOrse - [ 24 ก.พ. 50 23:38:30 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ราตรี : เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี อินทรวสันตดิลกฉันท์ ราตรีก็แม่นมี........ขณะดีและร้ายปน ไป่ผิดกะคนคน......คุณโทษประโยชน์ถม ราตรีกลีกลพิโรธ.......หฤโหดคระหึมลม มืดตื้อกระพือพิรุณพรม.......และฤเราจะแยแส ราตรีดิถีสุข..........นิรทุกข์ประเทืองแด ฟ้างามอร่ามแล.........ระกะ ดฺอก กุดั่นหาว โสมส่องสนองชุษณปักษ์.......ศุภลักษณ์ลำยองคราว ยั่งยิ้ม ณ ริมพิภพราว.........ทิพลาภบำเรอเรา พิณฟ้า ณ ราตรี........ธรณีสุโนกเนา ส่งเสียงประสานเสา......-วสภาพพะนอสรวง กลิ่นหล้านภาจรจะปรน.......สุวคนธบำบวง เรณูดำรูรส ณ พวง...........พนพุ่มผกาไพร น้ำค้างพะพร่างโปรย........ชละโชยชะดอกใบ สุมทุมชะอุ่มใส..............ชิพสดเสมือนหมาย ดึกดื่น ณ พื้นอุทยทิศ........สุริย์ฤทธิแพร่งพราย ดาวเดือนก็เลือนรชนิหาย.......ระพิจ้าทิวาแทน ค่ำคืนระรื่นรัก............สุขจักประจักษ์แสน ราตรีฉะนี้แดน...........มธุรสธำรงเรือน จริงหรือจะรักรมยสุข.......นิรทุกข์ระทมเยือน โลกียสุขสุขเสมือน.......สุขโลกอุดรหรือ? คัดจาก "ราตรี" บทกวีประกอบการเรียน วรรณสารวิจักษณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ยามกลางคืนนั้น เปรียบเสมือนมนุษย์ มีทั้งยามดีและยามร้าย มีทั้งยามพายุหม่นมืดพัดคลุ้ม ลมกรดกร่อนกำลังพาเอาสารพัดสรรพสิ่งสูญหายไปในยามราตรี สายฝนและสายฟ้าฟาดฟันลงมาจากพื้นนภาเบื้องบนน่าหวั่นกลัว มีทั้งยามแสงจันทร์ส่องกระจ่างกลางฟากฟ้า พร้อมเหล่าดวงดาราอันเรียงราย เหล่าสกุณาร่ำร้องขับขานเหมือนพิณทิพย์ยามรัตติกาล มวลบุปผชาตินานาพรรณต่างก็ส่งกลิ่นฟุ้งจรุงใจ น้ำค้างที่เหยาะหยดย้อยหยาดเกาะนำให้พรรณพฤกษาสดชื่นชะอุ่มเขียวงาม หากแต่เมื่อแสงอรุโณทัยไขแจ้งจากบูรพทิศ ปวงเดือนดาวทั้งหลายก็เลือนลาลับสิ้น เปรียบดังความสุขเพียงชั่วข้ามคืนแห่งโลกียะ หรือจะมาเทียบเท่าความสุขสถาวรแห่งโลกุตรธรรมได้ http://terasphere.exteen.com/20050612/entry แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 50 11:48:21 แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 50 11:25:41 แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 50 11:34:16 แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 50 11:28:19 แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 50 11:27:00 จากคุณ : กวินทรากร - [ 25 ก.พ. 50 11:19:37 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ไอ้ข้างบนมันลิงค์บล็อกผมนี่หว่า แหะๆ....... บทกลอนร้อยกรองกวีในบล็อก เขียนแบบผู้น้อยด้อยวิชา กบในกะลายังไม่ไปไหน ผู้อาวุโสท่านใดอ่านแล้วขัดเคืองขอความกรุณาขัดเกลาจะเป็นพระคุณยิ่งนักแลฯ แต่ว่า 112 แล้ว ท่านผู้ใดจะขันอาสาตั้งอาศรมใหม่ขอรับ? มาทัก เอากลอนมาแปะ(ช่วงนี้เขียนโคลงฝืดๆ) แล้วก็ไป นิทราราตรีสวัสดิ์ขอรับ พรุ่งนี้สอบไฟนอลวันแรก อ๊ากกกกกก ๏ สื่อเท็จสื่อเทียมกลมเหลี่ยมเล่ห์ เลเพลาดพาดอำนาจผสม เสแสร้งแกล้งเสี้ยมทั้งเหลี่ยมกลม แช่งชักปลักตมจมโทษทัณฑ์ ตำราสอนสื่อต้องฉีกทิ้ง นั่งเทียนเขียนจริงปนสิ่งปั้น ไม่ต้องถามหาจรรยาบรรณ สารพันสอพลอก่อขัดแย้ง แบบนี้ไม่มีจะดีกว่า ชาติdogมัวเห่าใบตองแห้ง โจรถือปืนปล้นโยนเนื้อแดง วิ่งแร่งับแย่งแล้วแกล้งลืม เช่นนี้มีสื่อคือมีส้วม ประชาอ่วมร้องด่าว่าไม่ปลื้ม พลังชนไม่ใช่ให้ใครยืม น้ำผึ้งพิษเลิกดื่มกันได้แล้ว กาลามสูตรพระพุทธเจ้า สอนมานานเนาดุจดวงแก้ว เหตุผลตรองตริผลิวงแวว ปัญญาเพริศแพร้วจึงเห็นจริง! แก้หลายรอบ ระบบกรองคำพันทิปเค้าดีจริง - -" แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 50 21:48:58 แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 50 21:47:12 แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 50 21:45:19 จากคุณ : โกฏิดารา - [ 25 ก.พ. 50 21:43:44 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ตามลิ้งค์ที่แปะไว้...........ข้างบน มือคลิกเพราะซุกซน.......ใคร่รู้ เอาละเฮ่ยมีคน...............ที่คลั่ง แคล้มป์นา พาลนึกถึงนักสู้..............เทพเจ้าดาวเหนือ -------------------------------------------- บล็อกชายโกฏิหรือจ๊ะ พอเห็นการ์ตูนยี่ปุ่งแล้ว ให้หวนนึกถึงหมัดเทพเจ้าดาวเหนือ จากคุณ : sugarhut - [ 25 ก.พ. 50 23:48:28 ]

ความคิดเห็นที่ 115 สวัสดีครับ แหะ แหะ ขอรับ เห็น ๑๑๓ ของ โกฏิดารา ก็เลยเอาอันนี้มาแปะไว้ด้วย ขอรับ ......อหังการคนข่าว..... ๏ในสนามข่าว คือคนข่าว แข็งแกร่ง แข็งกร้าว กล้าไถ่ถาม หน้าที่ สื่อสะท้อน ย้อนชื่อนาม ถูกผิด ติดตาม นิยามเป็น ๏คนข่าว ในสนาม ทวงถามข่าว ดำเป็นดำ ขาวเป็นขาว เรื่องราวเห็น รอบด้าน ได้ดู รู้ประเด็น โฉ่ ฉาว คาวเหม็น คุ้ยเค้นคน ๏คนข่าว สื่อแท้ อย่างเป็นธรรม เปิดกว้าง ทางนำ ย้ำในหน ฉันทาคติ อคติ ชี้ตัวตน เพราะยินยล รู้เช่น เห็นชาติมัน ๏คนข่าว เลือกข้าง อย่างแน่ใจ ข้างความถูกต้องใช่, ใช่ถือมั่น ข้างคนส่วนใหญ่ใช่, ใช่ยืนยัน และตรงข้ามอีกข้างนั้น นั่นแน่นอน ๏คนข่าว เลือกข้าง อย่างตัวจริง ไม่แอบอิง สิงสู่ ทำซุกซ่อน ตัวจริง คนจริง หยิ่งทุกตอน ไม่กระล่อน เหลี่ยมเล่ห์ เซไปมา ๏ในสนามข่าว คือคนข่าว แข็งแกร่ง แข็งกร้าว อย่างคนกล้า เลือกคน เลือกข้าง ไม่ค้างคา ตาต่อตา กับศัตรู ประชาชนฯ ........................................... แหะ แหะ ขอรับ สวัสดี ขอรับ จากคุณ : นายทิวา - [ 26 ก.พ. 50 00:06:35 ]

ความคิดเห็นที่ 116 รัตนโกสินทร์ศกเถลิงโศกทั่ว ฟ้าหม่นมัวดังอาเพศเกิดเหตุร้าย ฤา ราชธานีแห่งนี้จักแตกพ่าย ชนต้องย้ายแยกแตกกระจายกระจัด อันความจริงเป็นเหมือนดังเช่นความเท็จ ประชาราษฎร์ช่างเพ็ดทูลไม่ติดขัด พูดคล่องปร๋อทุกถ้อยคำย้ำเด่นชัด ดังถูกหัดและฝึกฝนจนช่ำชอง ช่างเป็นไปได้เพียงนี้กระนั้นหรือ เมืองเราชื่อสยามหรือสยอง เป็นเมืองพุทธแค่พุทธาตามครรลอง ในใจร้องบอกเมืองบาปเมืองโลกีย์ ------------------------------------- เมื่อวานคุยกับพี่ท่าน ปีนี้บ้านเราเหมือนเกิดอาเพศ ตั้งแต่หัวปีเชียว เมื่อไร มันจะดีขึ้นน้อ จากคุณ : sugarhut - [ 26 ก.พ. 50 12:59:29 ]

ความคิดเห็นที่ 117 สวัสดีครับทุกท่าน เห็นคุยเรื่องข่าวกัน ตอนไปนั่งกินข้าวได้อ่านหนังสือพิมพ์ เจอข่าวเรื่อง มีการทุบฆ่าลูกหมู เขาวิจารณ์ว่าน่าจะเป็นแผน "เรียกร้องความสนใจ" ที่จริงก็เป็นเรื่องไร้ศีลธรรม แต่มันก็แสดงอะไรหลายอย่าง ถ้าบ้านเมืองปกติ ราคาหมูไม่ตกต่ำอย่างนี้ ภาพแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น ไม่ได้นั่งเดาเอาเองนะครับ เพราะที่ชายเพื่อนผมที่เชียงรายบอกว่า ชาวบ้านไม่ซื้อหมูเป็นกิโลชั่งขายแล้ว เขารวมเงินกันซื้อหมูตัวละ 300 บาท ล้มแล้วแบ่งกัน เป็นโชคดีของผู้ซื้อที่นั่นนะครับ และมันก็เป็นโศกนาฏกรรมของคนเลี้ยงหมูที่กำลังจะอดตาย... หรือจะคิดเอาว่าต่อไปนี้ หมูจะตายน้อยลง และพลเมืองหมูจะ ถูกควบคุมให้มีน้อยลง คนขายอาหารหมูก็เหนื่อยน้อยลง และเราก็จะไปกินผักกันมากขึ้น ๐ คอกหมูดูว่างเว้า           อาวรณ์ เสียงรำคาญก่อนนอน       หมดสิ้น บ่ต้องตื่นแต่ตอน             ย่ำรุ่ง  แล้วเวย มุ่งแต่ดุ่มด้นดิ้น               จ่ายหนี้เป็นพอ ฯ ----------------------------------------------------------------------        ' จากคุณ : xers - [ 26 ก.พ. 50 17:38:56 ]

ความคิดเห็นที่ 118 . ภาคใหม่ขอรับ อาศรมชาวโคลง ภาค ๑๘๑ : ถามสุขทุกข์ท่านนั้น.. เป็นไฉน http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5174414/W5174414.html --------------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : xers - [ 26 ก.พ. 50 18:50:24 ]