Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ตาราปุริส ตอนจบ

    ตอนแรก
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5106650/W5106650.html

    ตอนที่ 2
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5113698/W5113698.html


    ขอบคุณทุกท่านที่วิจารณ์ให้นะเจ้าค่ะ
    อ่านแล้วคิดยังไง ช่วยบอกด้วยค่ะ
    ไม่ต้องเกรงใจ พูดได้ทุกอย่างค่ะ
    -----------------------------------------------------------

    เสียงสุนัขเห่าบ๊อกบ๊อกอยู่รอบ ๆ กาย ปลุกให้คิโยะตื่นขึ้นมา เธอค่อย ๆ ขยับตัว แล้วลืมตาทีละน้อยเพื่อปรับสายตารับแสงสว่างรอบตัว เธอยังไม่ตาย

    คิโยะนอนอยู่บนชายหาด มองไปรอบตัวมีแต่น้ำ คงเป็นเกาะแก่งกลางน้ำของ ที่คิโยะไหลมานั่นเอง ด้านหน้าของคิโยะมีเด็กคนหนึ่งกำลังนั่งคุกเข่าจ้องหน้าเธอ คิโยะเหลียวหลังไปดูรอบตัว นอกจากเด็กคนนั้นแล้วไม่มีผู้ใดอีกเลยในละแวกนี้

    เบื้องหลังของเธอเป็นโตรกธารน้ำไหลเชี่ยวกราด และสูงชันยิ่งนัก หากคิโยะตกลงไปคงแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี

    เด็กน้อยจ้องหน้าคิโยะแล้วก็ยิ้มให้เหมือนรู้ทันในความคิดของเธอ เด็กผู้หญิงตัวเล็กตากลมผมสีน้ำตาลเข้ม ยื่นกระบอกน้ำให้คิโยะ

    เธอค่อย ๆ รับกระบอกน้ำมาดื่มทีละนิด จิบลงไปพอให้ดับกระหาย ลำคอของคิโยะปวดแสบไปทั่ว ดวงตาก็พร่าพรายเจ็บร้าวเป็นระยะ ร่างกายนั้นไม่ต้องพูดถึงเต็มไปด้วยรอยถลอกและรอยขีดข่วน

    “พี่สาวฟื้นแล้ว นั่งพักสักครู่นะ เดี๋ยวหนูจะเอาเรือมารับไปขึ้นบก” เด็กน้อยบอกคิโยะ

    “เธอเป็นคนช่วยพี่ไว้หรือ แม่หนูน้อย” คิโยะถามเด็กน้อยตรงหน้า

    “ไม่ใช่หนูหรอก พรหมลิขิตต่างหากที่ช่วยพี่ไว้” เด็กน้อยตอบเธอพร้อมทั้งยิ้มให้แล้วก็เดินจากไป

    เด็กผมสีน้ำตาลเข้มตัวเล็กกระจ้อยร่อย กับเรือลำเล็กและสุนัขหนึ่งตัว คือสิ่งที่พรหมลิขิตบันดาลบันดาลให้เธอมาพบเจอหรือนี่ คิโยะนั่งเรือไปกับเด็กน้อยที่เธอพบไปถึงฝั่งอีกฟากหนึ่ง พอขึ้นฝั่งได้คิโยะก็เจอกับบิดาของเด็กน้อย ผู้มีผมสีเดียวกับบุตรสาว ดวงตาอบอุ่นฉายแววปราณีอยู่เป็นนิจ ทำให้คิโยะหวนระลึกถึงตาราปุริส ตาราปุริสก็มีแววตาเช่นนี้

    “เป็นไงแม่หนู เห็นเจ้าตัวเล็กบอกว่าเจอแม่หนูบนเกาะริมแก่ง” ชายผู้นั้นเอ่ยปากถามคิโยะ

    “พลาดตกน้ำจ๊ะ ไหลมาไม่รู้ไกลแค่ไหน รู้สึกปวดระบมไปทั่วร่างเลยจ๊ะ” คิโยะตอบชายตรงหน้า

    “ถ้างั้นก็พักด้วยกันก่อน ลูกสาวฉันคงชอบแม่หนู เห็นมาถึงกระซิบกระซาบบอกจะไปเอาของให้พี่สาวแล้วก็วิ่งเข้าไปในบ้านเลยนั้น” ชายไม่ทราบชื่อคนนั้นพูดกับคิโยะ

    “ลุงชื่ออะไรจ๊ะ ฉันจะได้เรียกถูก แล้วแม่หนูน้อยลูกสาวลุงชื่ออะไรยังไม่ได้ถามเลย” คิโยะถามชื่อออก

    “ฉันชื่อ ยะโฮ ส่วนลูกสาวฉันชื่อ เชอร์ที” ชายแปลกหน้าตอบคิโยะ

    “ลุงยะโฮ อยู่ที่นี้สองคนกับลูกสาวแค่นั้นเหรอจ๊ะ”คิโยะถาม

    “อืม ก็แค่ที่เห็นนี่แหละ แถบนี้พืชพันธุ์อะไรก็หายากลำบาก ผู้คนเขาไม่อยู่กันแล้ว”ยะโฮตอบกลับ

    “แล้วทำไมลุงกับลูกสาวไม่ย้ายตามพวกเขาไปละจ๊ะ” คิโยะถามแสดงความสนใจ

    “แม่หนูเอ้ย ชีวิตหากรู้จักคิดให้มีสติ อยู่ที่ไหนก็เหมือนกัน แม้แถบนี้จะมีไม่มีพืชพันธุ์ขึ้นเหมือนถิ่นอื่น แต่ก็มีอาหารอย่างอื่นให้ประทังชีวิตได้ แล้วที่สำคัญอยู่ที่ไหนก็ไม่เหมือนอยู่บ้านเรา ดิ้นรนตามหาไขว่คว้า วิ่งตามกันไป แต่สุดท้ายก็แค่เหนื่อยแล้วดับสูญเหมือนกันทุกคน”ยะโฮ มองคิโยะด้วยแววตาเอ็นดูพร้อมกับบอกเหตุผล

    ขณะที่คิโยะกำลังสนทนากับยะโฮ เชอร์ทีบุตรสาวก็วิ่งกลับออกมาจากในบ้าน ตรงดิ่งมาหาคิโยะกับพ่อที่นั่งอยู่บนแคร่ หน้าเรือน ในอ้อมแขนของเด็กน้อยมีเสื้อแบบเดียวกับที่เธอสวมใส่อยู่แต่ขนาดใหญ่กว่าหลายเท่าตัว พอมาถึงเด็กน้อยก็มอบเสื้อให้คิโยะ

    “มีพี่ผู้ชายผ่านมานานแล้ว เขาให้เสื้อตัวนี้ไว้ แล้วก็ให้ตัวที่หนูใส่นี่ด้วย เขาบอกว่าสักวันหนึ่งจะมีพี่สาวมาใส่เป็นคู่หนู แล้ววันนั้นให้หนูเล่าให้พี่สาวฟังถึงเรื่องของพี่ชาย” แม่หนูพูดจบก็ยื่นเสื้อให้คิโยะ

    “ลูกสาวลุงแกช่างพูด แต่สิ่งที่แกพูดเป็นความจริงทุกอย่าง แม่หนูลองคุยกับแกดูละกัน แล้วแม่หนูจะรู้สิ่งที่แม่หนูอยากรู้ แต่อย่าเอาทิฐิมานะและภาพที่เห็นมาตัดสินใจก่อนที่จะได้ฟังละกัน ลุงจะเข้าครัวไปทำอาหารให้ทาน” ยะโฮ พูดจบก็เดินเข้าไปในบ้าน ทิ้งลูกสาวไว้กับคิโยะเพียงลำพัง

    คิโยะรับเสื้อจากมือแม่หนูมาคลี่ดู ผ้าฝ้ายสีน้ำตาลเข้ม ทอลายแบบพื้นเมือง ประดับด้วยเปลือกหอยและลูกเดือยปักเป็นลาย คิโยะยกเสื้อขึ้นเพื่อจะสวม พลันสายตาเหลือบไปเห็นอักษรโรมันที่ปักไว้บนชายเสื้อ T.K. อักษรย่อที่ตาราปุริส สลักติดจี้แต่ไม่ยอมบอกความหมายแก่คิโยะ

    เชอร์ทีเห็นคิโยะจ้องมองตัวอักษรที่ปักไว้ก็เหมือนจะเข้าใจความหมายในสายตาของคิโยะ เด็กน้อยจึงเอ่ยขึ้นมาโดยที่คิโยะไม่ทันได้ถาม

    “พี่ชายเขาบอกว่าเป็นสัญญาลักษณ์ประจำตัวเขากับพี่สาวที่พี่ชายรัก แต่พี่ชายไม่อาจจะอยู่กับพี่สาวได้ พี่ชายจึงต้องจากมา และพี่ชายก็รู้ว่าพี่สาวจะต้องตามหาพี่ชาย แต่ไม่ว่าจะตามยังไง พี่สาวก็ตามหาพี่ชายไม่เจอหรอก” เชอร์ทีบอกคิโยะ

    “พี่ต้องเจอสิจ๊ะ พี่ต้องตามหาเขาให้เจอ” คิโยะพูดแสดงความมั่นใจ

    “พี่สาวอย่าว่าหนูยังงั้นยังงี้เลยนะจ๊ะ พี่สาวจะตามหาพี่ชายเจอได้ยังไง ในเมื่อพี่สาวเองยังไม่รู้ตัวเองเลยว่าตัวคือใคร แล้วพี่สาวกำลังตามหาใคร” เชอร์ทีจ้องหน้าคิโยะพร้อมกับบอกเธอ

    “ทำไมพี่จะไม่รู้ พี่ชื่อคิโยะ พี่กำลังตามหาตาราปุริส ผู้ชายที่พี่รัก” คิโยะตอบเด็กน้อย

    “พี่แน่ใจเหรอว่าตัวเองชื่อคิโยะ กำลังตามหาตาราปุริส ตลอดทางที่พี่ตามหาพี่ชาย มีใครรู้จักตาราปุริสบ้างไหม” เชอร์ทีมองหน้าคิโยะพร้อมกับถามเธอ

    “เอ๊ะ แม่หนูนี่ยังไง พี่ชื่อคิโยะแล้วทำไมจะไม่ใช่ชื่อตัวเองละ แล้วคนที่พี่ตามหาก็ชื่อตาราปุริส แม้จะไม่มีใครรู้จักพี่ก็จะตามหาเขา” คิโยะเริ่มฉุนเฉียวที่ถูกเชอร์ทีพูดจาเชิงสั่งสอน

    “แต่พี่ชายของเชอร์ทีไม่ได้ชื่อ ตาราปุริสนะจ๊ะ พี่ชายของเชอร์ทีชื่อ คีตะ” เด็กน้อยพูดกับคิโยะพร้อมทั้งหัวเราะขำขันแกมสงสารคิโยะ ทำให้คิโยะเริ่มโมโห เพราะคิโยะไม่นึกว่าเด็กวัยนี้จะกล้าล้อผู้ใหญ่เล่น ไม่มีสัมมาคาราวะเอาเสียเลย

    “นี่หนูพี่ไม่มีเวลามานั่งเถียงกับหนูนะ ถ้าหนูไม่มีอะไรจะบอกพี่แล้วก็แค่นี้เถอะ พี่จะตามหาตาราปุริส” คิโยะตอบเชอร์ทีไปด้วยน้ำเสียงแสดงความไม่พอใจ

    “พี่สาว ก่อนที่พี่สาวจะโมโห พี่สาวฟังหนูก่อนนะจ๊ะ พี่ชายเคยบอกพี่สาวใช่ไหม จริงคือเท็จ เท็จคือจริง สิ่งไหนแน่ ภายใต้ม่านหมอกที่พี่สาวต้องการคำตอบ หากพี่สาวนิ่งเฉย สักวันหนึ่งเมฆหมอกจะสลายไปเอง แต่หากว่าพี่สาวรีบเร่งเข้าไปค้นหาคำตอบ พี่สาวจะหลงอยู่ในวังวนของม่านหมอกนั้นจนไม่สามารถหลุดพ้น” เชอร์ทีจับมือคิโยะขึ้นมาลูบพร้อมทั้งจ้องตาแสดงความจริงใจ

    “แล้วยังมีอีกอย่างหนึ่งนะพี่สาว พี่สาวจะตามหาตาราปุริสคนไหนละจ๊ะ ตาราปุริสที่ชื่อตาราปุริส หรือว่า ตาราปุริสที่รูปลักษณ์เป็นตาราปุริส” เชอร์ทียิ้มน้อยยิ้มใหญ่คล้ายกำลังดีใจที่ได้ของเล่น เด็กคนนี้คงจะพอใจที่ได้แกล้งให้คิโยะปวดหัวเล่น

    ใช่สินะ คิโยะคิดอยู่เงียบๆ ตาราปุริสมักจะบอกเธอเสมอ หากเห็นสิ่งใดเลือนลางกลางม่านหมอกหรือควันไฟ อย่าเดินเข้าไปดู แต่จงนิ่งเฉยรอให้ควันจาง รอให้หมอกสลาย แล้วก็จะรู้เองว่าสิ่งนั้นคืออะไร

    “อืม ใช่ตาราปุริสเคยบอกพี่แบบนั้น แล้วดิพเพอร์ และคีตะของแม่หนู เกี่ยวข้องกับตาราปุริสยังไง เขารู้จักกันหรือเปล่า” คิโยะถามเชอร์ที

    “พี่สาวนี่เอาอีกแล้ว หนูพูดให้ฟังนี่พี่สาวไม่เคยฟังเลยใช่ไหม อย่ายืดติดกับสิ่งที่ได้เห็นและสิ่งที่ได้เจอ ความจริงแค่เส้นผมบังภูเขา ถ้าพี่สาวมีสมาธิ จิตสงบพี่สาวจะพบคำตอบขงทุกคำถามเอง” เชอร์ทียิ้มยั่วให้คิโยะ พร้อมกับเลี่ยงไม่ยอมตอบให้ตรงคำถาม

    “นี่เชอร์ที พอพี่ถามทำไมเราไม่ตอบแล้วเวลาตอบทำไมไม่ตรงคำถาม จะกวนประสาทพี่ไปถึงไหน เป็นเด็กเป็นเล็กทำตัวแบบนี้ไม่น่ารักเลยรู้ไหม” คิโยะต่อว่าเชอร์ทีที่ไม่ยอมตอบให้ตรงคำถามที่เธอต้องการรู้

    “อืม พี่สาวเป็นแบบที่พี่ชายบอกไว้จริงๆ ดื้อ และไม่ยอมฟังใคร แต่เอาเถอะเชอร์ทีชอบพี่สาว พี่สาวอย่าเพิ่งโมโหเลย พ่อทำอาหารเสร็จแล้วไปทานข้าวก่อนดีกว่า” เด็กน้อยพึมพำ พร้อมกับจูงมือคิโยะขึ้นบ้าน

    คิโยะทานอาหารเสร็จก็นั่งเหม่อมองไปนอกบ้าน ยะโฮไม่ยอมเอ่ยปากพูดสิ่งใดอีกเลย เขาบอกเพียงแค่ว่า คุยกับลูกสาวลุงเถอะ แล้วแม่หนูจะรู้ทุกอย่าง รู้อะไรละคิโยะอยากตะโกน

    พ่อลูกแปลกคู่นี้ พ่อก็อมพะนำไม่ยอมพูด ส่วนลูกก็พูดไม่ตรงประเด็นเด็กแก่แดด คิโยะคิดวนไปวนมากับคำพูดของเด็กน้อย ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้นคิโยะก็ได้ยินเสียงเรียกนั้นมาอีกแล้ว “ลิลิล ตื่นเสียทีสิ กลับมาเสียที”

    พอได้ยินเสียงเรียกนี้คิโยะเริ่มปวดหัวอีกแล้ว เธอหันไปจ้องหน้าเชอร์ทียังไม่ทันจะพูดสิ่งใดเด็กน้อยก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน

    “ไม่ต้องถามนะว่าหนูได้ยินไหม หนูไม่ได้ยินหรอก เสียงนั้นมีพี่สาวคนเดียวที่ได้ยิน เพราะมีสาวมีความเกี่ยวพันกับเจ้าของชื่อ พี่สาวนึกให้ออกสิว่าพี่สาวเกี่ยวพันกับเขายังไง” เชอร์ทีอธิบายให้คิโยะฟัง

    “หนูรู้ได้ยังไงว่าพี่ได้ยินเสียงอะไรอยู่ แล้วรู้ได้ยังไงว่าเป็นเสียงเรียกชื่อ” คิโยะถามเชอร์ทีอย่างข้องใจสงสัย

    “พี่สาวสงบจิตแล้วพี่สาวจะรู้ ถ้าหากจิตพี่สาวยังว้าวุ่นแบบนี้ ไม่ว่ากี่ภพพี่สาวก็จะตามหาพี่ชายไม่เจอ เพราะว่าพี่สาวมองข้ามสิ่งที่ใกล้ตัวพี่สาวไป พี่สาวมองข้ามความจริง เส้นผมบังภูเขาพี่สาว แค่เส้นเดียว” เชอร์ทียิ้มน้อยยิ้มใหญ่ขณะที่บอกให้คิโยะทราบ

    “สงบจิต สงบจิต แล้วพี่จะรู้ไหม ว่าตาราปุริสอยู่ที่ไหน แล้วยังจะเกี่ยวข้องอะไร กับดิพเพอร์และคีตะอีก แล้วยังจะมีเจ้าของชื่อลิลิลที่เกี่ยวข้องกับพี่อีก เชอร์ทีบอกพี่เลยไม่ได้เหรอว่าคนเหล่านี้เกี่ยวข้องกับตาราปุริสยังไง” คิโยะถามเชอร์ที

    “พรหมลิขิตไม่มีใครกำหนดให้ ไม่มีใครช่วยได้ พี่สาวต้องช่วยตัวเอง” เชอร์ทีตอบคิโยะ

    “เอ๊ะ! เดี๋ยวนะเราบอกทุกคนเกี่ยวพันกันใช่ไหม หรือว่าดิพเพอร์กับคีตะ จะช่วยกันพี่ไม่ให้เข้าใกล้ตาราปุริส แล้วยายลิลิล อะไรนั่นเขาเป็นอะไรกับตาราปุริส” คิโยะชักสีหน้าสงสัยถามเด็กน้อย

    “เอ้า พี่สาวคิดอะไรไปใหญ่วุ่นวายไปหมด จิตไม่สงบก็แบบนี้แหละ คิดจนหัวระเบิดก็คงตามหาพี่ชายไม่เจอหรอกแบบนี้ น่าสงสาร แล้วพี่ชายยังต้องมาตามดูแลอีก กรรมจริงๆ”เชอร์ทีบ่นอุบอิบ

    จากคุณ : sugarhut - [ 8 ก.พ. 50 08:51:02 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom