Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ขอฝากหัวใจเอาไว้ที่เธอ 14

    วันรุ่งขึ้นเดินทางกลับ หล่อนแลกที่กับพยาบาลอีกคนเพื่อไปนั่งข้างชนิดา ทิ้งให้หมอภัทรนั่งอยู่ที่เดิม จะเดินไปถาม ก็ไม่กล้า จะทำอย่างไร ก็กระวนกระวายใจไปเสียสิ้น

    รถเดินทางกลับจากนครศรีธรรมราชอย่างรวดเร็ว ต่างจากขามาที่รู้สึกช้าไปถนัดใจ หมอวริญาเอาหนังสือมาปิดหน้า แล้วนั่งหลับจนชนิดาโวยวาย

    “แล้วอย่างนี้ใครจะมาเล่นไพ่กับดาล่ะฮะ? น้องตอง น้องนา พี่สาย ว้า ไม่ครบขา”

    “เรียกพี่ก้านซีคะ”

    คำแนะนำจากลลินา ทำให้คนที่เพิ่งโวยวายยอมกลับไปนั่งหน้าตูมอย่างเดิมแต่โดยดี เพราะความเก่าเรื่องถูกกีดกันจากวงยังไม่ทันหาย จะให้ไปง้อก่อน มันเสียท่าอย่างรุนแรง!

    “เอาเถอะ เล่นสามคน ก็ถือไพ่กันคนละสองอันแล้วกัน”

    กลายเป็นข้อสรุปเช่นนั้นในที่สุด สามคน คนละสองมือ เป็นอันครบขาเล่นสลาฟมาตรฐานได้หนึ่งเกมพอดิบพอดีไม่มีขาด

    “หมอภัทรปวดคอแย่แล้ว” ตติรสออกปากกลางวงไพ่ อมยิ้ม “ดูสิ หันเกือบจะทุกห้านาที ตาละห้อยเชียว หมอหวานไม่ยอมไปนั่งด้วย”

    “คนนี้ตาละห้อย คนโน้นตาเขียวปั่ดนะคะ”

    “ไหน?” หันไปดูตามคำบอกของลลินา ก่อนจะนิ่วคิ้ว “ไม่ตาเขียวปั่ดหรอก แต่ยิ้มแปลกพิกล เหมือนนางร้ายในละครเลย”

    “อ่านนิยายมากเกินไปหรือเปล่าน้องตอง” สาวห้าวประจำโรงพยาบาลว่า “วางไพ่ได้แล้ว ไม่ต้องไปเฉไฉเรื่องคนอื่น”

    ระหว่างที่สถานีข่าวกำลังทำงานกันอย่างเข้มข้น คนที่เป็นต้นเหตุทั้งหมดก็เรื่องตั้งท่าจะหลับใหลไม่ให้รู้เรื่องราว..เหนื่อย...หล่อนเหนื่อยมามากพอแล้ว บางทีบางครั้ง อยู่เฉยๆ เสียบ้าง ก็คงจะดีกว่าแกว่งเท้าไปหาเสี้ยนให้ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง

    กับหมอธรณินทร์ ก็เหลือไว้แต่ความเป็นเพื่อน...ใช่...เป็นเพื่อนกัน ยกความผิดให้เป็นความผิดของหล่อนเสียดีกว่า เพราะหล่อนรับไม่ได้เอง เพราะหล่อนเป็นคนยึดติด...อ้อ..หรือไม่ก็เพราะเป็นคนโลเล อยู่ใกล้ใคร ก็รักคนอื่นเขาไปทั่ว มีฮาเร็มเป็นของตัวเอง สับรางได้เก่งยิ่งกว่าเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟใต้ดิน





    “รถจอดค่ะ แวะพักทำธุระส่วนตัวสิบห้านาทีนะคะ ล้อหมุนเมื่อไหร่ตีตั๋วรถตู้กลับเองได้เลยตามสะดวก เชิญค่ะ”

    เสียงเจ้าหน้าที่ประกาศบอกปลุกหมอวริญาขึ้นมาจากท่านอนงีบสัปหงก ชะโงกหน้าออกไปมองเห็นห้องน้ำก็นึกปวดฉี่ขึ้นมาดื้อๆ จึงเก็บหนังสือ แล้วหันไปชวนคนข้างตัว

    “ไปห้องน้ำกันไหม?”


    “ไม่เป็นไรค่ะหมอ” ลลินาตอบ หน้าดำคร่ำเคร่งอยู่กับการลงไพ่ในมือของตัวเอง เช่นเดียวกับตติรส และชนิดาที่ตั้งท่าจะล้มกันท่าเดียว คนเป็นหมอจึงเลี่ยงลงมาจากรถเงียบๆ ไปต่อท้ายรอคิวเข้าห้องน้ำหลังเจ้าหน้าที่อีกหลายคน

    ความรู้สึกเหมือนมีคนมอง ทำให้หญิงสาวกระสับกระส่าย หันมองไปรอบ ก่อนจะสะดุดกับดวงตาคมกริบของดุจดาว ที่จับจ้องมาแน่ว คล้ายกับว่า เจ้าตัวกำลังมาดหมายอะไรบางอย่าง จนคนถูกมองต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น

    นี่ก็อีกเรื่องหนึ่ง...ยิ่งถลำลึกเข้าไปมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกกลัวใจคน

    ทำไมหนอ ชีวิตช่วงหลังของหล่อนนี่หาความสุขไม่ได้เลย

    ทำธุระส่วนตัวอย่างเร่งรีบ ไม่ทันถึงสิบห้านาทีหญิงสาวก็เดินกลับขึ้นมายังรถ ไม่ลืมล้างหน้าตาให้สะอาดสดชื่น หลังจากไข้เมื่อวานลดไปแล้วจนเหลือเท่าระดับปกติ มีแต่ความรู้สึกล้า ที่ยังหลงเหลืออยู่บ้างนิดๆ หน่อยๆ สัญญากับตัวเองว่าประเดี๋ยวจะกลับไปพัก แล้วก็ภาวนาให้รถไปถึงให้เร็วๆ

    กลับขึ้นมานั่งที่เดิม เลื่อนข้าวของสัมภาระที่ตั้งเกะกะกลับไปเก็บเข้าที่ ก่อนที่สายตาจะไพล่ไปเห็นถุงเซเว่นถุงหนึ่งแขวนอยู่ตรงที่วางแก้ว ด้านในมีของตุงอยู่ แพทย์หญิงสาวจึงเอื้อมมือไปหยิบมาเปิดดูด้วยความประหลาดใจ

    ด้านในนั้นมีขนมปังกับนมสดกล่องใหญ่ แล้วก็ยาอีกแผง ไม่มีชื่อเจ้าของ ไม่มีสัญลักษณ์ใดๆ หญิงสาวจึงหันไปถามชนิดา ที่กำลังกรีดไพ่อย่างชำนิชำนาญ

    “ขนมของใครคะ?”

    “ของ ‘ผู้หวังดี’ ค่ะ” สาวห้าวตอบยิ้มๆ แจกไพ่หกชุดไปตามสมาชิกที่นั่งเรียงกันตามอัตถภาพ “เอามาแขวนไว้เมื่อสักครู่นี้เอง”

    “ใครคือผู้หวังดี?” คนเป็นหมอ(เซ็นเซอร์ครับ)ยิ่งงง

    “แหม ถ้าบอกเดี๋ยวดาจะโดนบาทาโดยไม่จำเป็น ทานหน่อยเถอะค่ะ เจ้าของเขาเป็นห่วงหมอจะแย่แล้ว”

    ก็ยังไม่กระจ่างขึ้นสักเท่าไรอยู่นั่นเอง แต่ด้วยความหิวจึงหยิบขนมปังไส้หมูหยองนั้นขึ้นมาแกะกินอย่างว่าง่าย รองท้อง ส่วนยา หล่อนมีของตัวเองอยู่แล้วจึงเก็บทั้งแผงนั้นลงกระเป๋า เผื่อไว้เป็นยาสำรอง

    อิ่มแล้วก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หนังท้องตึง หนังตาหย่อน ไม่นานก็เคลิ้ม ด้วยความดีใจอยู่ลึกๆ

    ตื่นอีกครั้ง ก็คงจะถึงบ้านจริงๆ สักที





    รถทัวร์ไม่ได้เลี้ยวเข้าไปด้านในโรงพยาบาล แต่จอดอยู่แค่ด้านนอกเพื่อความสะดวกต่อการเลี้ยวรถกลับในสนามหญ้าเลี้ยงวัวขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่พากันลงจากรถอย่างรวดเร็ว บางคนก็กลับบ้านพัก บางคนก็มีครอบครัวมารอรับ บางคนก็กลับด้วยรถของตัวเอง

    “วันอังคารต้องทำงานอีก ได้หยุดชดเชยแค่วันจันทร์วันเดียวเอง ยังไม่ทันจะหายเหนื่อยดีเลย” เสียงบ่นพึมดังมาจากรอบทิศ โดยเฉพาะพยาบาลรุ่นดึกทั้งหลาย ที่ต้องการพักสังขารต่ออีกสักสองสามวันเต็มแก่

    หมอวริญายังนั่งอยู่บนรถ รอให้คนลงไปจนเกือบหมดแล้วค่อยขนกระเป๋าของตัวเองออกมาบ้าง ลากอย่างทุลักทุเลไปตามทางเดิน ตามหลังตติรส ลลินา และชนิดาที่เดินนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว

    หมอภัทรยืนอยู่ด้านหลัง คอยรับกระเป๋าจากสุภาพสตรีด้านบน หากคนที่เดินรั้งมาท้ายสุดกลับกำกระเป๋าของตัวเองแน่นแล้วเดินลงไปโดยไม่เรียกขอความช่วยเหลือ...หนักแขนก็หนัก หากทิฐิในใจทำให้หญิงสาวดื้อดึงดัน ก้มหน้านิ่งแล้วเดินดุ่มไป ไม่สนใจว่าด้านหลังจะมีใครตามหลังมา ตติรสและลลินาแยกย้ายกลับบ้านของตัวเองไปก่อน เช่นเดียวกับชนิดา ที่มีบ้านอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก

    หญิงสาวเปิดล้อเลื่อนกระเป๋าแล้วลากไปตามพื้นคอนกรีต ด้วยอารามที่ก้มหน้าไม่ได้มองใคร จึงเกือบชนเข้ากับร่างของหัวหน้าพยาบาลสาวเต็มแรง

    “ไม่ทราบว่ารีบไปไหนคะหมอ?” เสียงถามห้วนแข็งจนคนเป็นหมอต้องรีบพึมพำขอโทษ เงยหน้าขึ้นมองจึงได้เห็นรอยยิ้มแปร่งประหลาดบนหน้าสวยๆ ของดุจดาว ดวงตาสีเข้มสวยนั้นทอประกายลึกลับจนหล่อนสะกิดใจ หากก็บอกตัวเอง...ปล่อย... แก้ปัญหาที่ตัวเอง ด้วยการรีบเดินลิ่วจากไปอย่างรวดเร็ว

    ไม่ทันได้เห็นว่าดุจดาวกำลังยิ้มมุมปาก มองตามหลังไปอย่างหมายมาด  

    ทางเดินเข้าบ้านพักไม่ไกลนัก เจ้าหน้าที่แยกย้ายกันกลับบ้านไปหมดแล้ว เหลือแต่เพียงคนที่พักอยู่ด้านใน ซึ่งส่วนใหญ่ก็ล่วงหน้าไปก่อนแล้วเกือบหมดเช่นกัน หล่อนลงมาทีหลัง ลากกระเป๋าไปเพียงลำพังตามถนนคอนกรีต

    ทราบ..ว่ามีคนเดินตามมาด้านหลัง แต่ก็ห้ามใจ อย่าไปสน...อย่าไปรับรู้ กลับบ้าน ไปอยู่กับตัวเองดีที่สุด...





    รถเบนซ์สีเงินคุ้นตาจอดอยู่หน้าบ้านพัก คนที่เดินมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใจหายวาบ...หมอธรณินทร์มา!

    เค้าความยุ่งยากก่อตัวขึ้นอีกแล้ว หล่อนเหนื่อย...เหนื่อยเต็มที...อยากพักผ่อน ไม่อยากทะเลาะกับใคร ไม่อยากทะเลาะกับใครโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลานี้

    ทำไมหนอ...ทำไม...

    แล้วคนที่หล่อนยังไม่อยากเจอหน้านักหนาก็เปิดประตูออกมาจากรถที่จอดนิ่งสนิทด้วยสีหน้าขุ่นเคือง โมโห ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาหา หากแทนที่จะเข้ามาหาหล่อนโดยตรงหมอธรณินทร์กลับสาวเท้าไปด้านหลังเลยไปแล้วเหวี่ยงกำปั้นใส่ใบหน้าคมสันของคนที่เดินตามหลังหล่อนมาเต็มแรง

    “ไอ้หมาลอบกัด ชอบเล่นทีเผลอแย่งแฟนชาวบ้าน” เสียงคำรามดังลั่นด้วยเลือดหึงขึ้นหน้า เสียงกรี๊ดดังประสานทั้งจากหมอวริญาและดุจดาวที่เดินตามมาใกล้ โชคดีที่มันไม่ดังมากนักและคนที่เหลือต่างพากันเข้าไปพักผ่อนในบ้านกันเกือบหมดแล้วเพราะความเหน็ดเหนื่อย จึงไม่มีใครได้เห็นผู้อำนวยการหนุ่มลงไปนั่งจ้ำเบ้าอยู่กับพื้น เพราะโดนกำปั้นลุ่นๆ โดยไม่ทันตั้งตัว ครั้นขยับจะลุกขึ้น หมอธรณินทร์ก็ตามมาจิกกระชาก

    “ขึ้นมาสิวะ มาต่อยกันสักตั้ง ผู้หญิงอื่นไม่มีแล้วเหรอถึงต้องมาแย่งแฟน(เซ็นเซอร์ครับ)...สันดาน ไอ้หน้าด้าน คนมีเจ้าของแล้วยังสะเออะจะมายุ่งอย่าง(เซ็นเซอร์ครับ)ต้องโดนแบบนี้”

    “หยุดนะแทน” มือเรียวบางเอื้อมมายื้อยุด ใช้ร่างทั้งร่างบังเขาไว้จากการตรงเข้าไปทำร้ายหมอภัทร ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะต่อยกลับเลยสักหมัดเดียว

    “คุณจะบ้าแล้วเหรอ ไปต่อยผู้อำนวยการทำไม”

    “ทำไมจะทำไม่ได้ ก็มันไม่ใช่เหรอที่มาเกาะแกะกับหวาน ตั้งแต่เริ่มย้ายมาอยู่ที่นี่แล้วใช่ไหม ไม่ต้องมาโกหกนะ เรื่องของหวานผมรู้มาตลอด”

    “ไม่จริง”

    หล่อนปล่อยมือออกจากหมอธรณินทร์ด้วยความโมโห ก่อนจะหันไปมองหมอภัทร ที่มีดุจดาวคอยช่วยประคองด้วยความเป็นห่วงเป็นใย

    “ผู้อำนวยการเป็นอะไรมากหรือเปล่า?”

    “ยังมีหน้ามาถามอีก” ดุจดาวขึ้นเสียง “ยังไม่รู้อีกเหรอว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะใคร เอาไอ้แฟนนิสัยทรามๆ ของเธอไปให้พ้นจากโรงพยาบาลรัชอรุณดีกว่า”

    คนเป็นหมอสะอึกอึ้ง ดีแต่หมอภัทรเป็นฝ่ายบอกขึ้นมาก่อนว่า

    “พอ...พอแล้ว คุณดาว... วริญา ไปเคลียร์กับคนรักของคุณเถอะ”

    “หมอปล่อยไม่ได้หรอกนะคะ ยอมได้ยังไง เข้ามาระรานคนอื่นถึงข้างในนี้ นิสัยอันธพาลชัดเลย มิน่าล่ะถึงเข้ากันได้”

    “ไม่เป็นไรหรอก แค่เรื่องเข้าใจผิด”

    “ยังมาปากดี” หมอธรณินทร์ทำท่าจะปรี่เข้าไปอีก “แน่จริง(เซนเซอร์ครับ)สาบานมาสิว่า(เซ็นเซอร์ครับ)ไม่ได้คิดจะแย่งแฟน(เซนเซอร์ครับ) ไม่งั้นทำไมแฟน(เซนเซอร์ครับ)ถึงอยากเลิกกับ(เซนเซอร์ครับ)ขึ้นมา”

    “แทน หยุด ทั้งหมดมันไม่เกี่ยวกับหมอภัทรได้ยินไหม?”

    หมอวริญาระเบิดเสียง ผลักร่างสูงเต็มแรงเพื่อให้เขาหยุดร้อน...แล้วเน้นเสียง

    “เรื่องเราที่มันจบก็เพราะหวานอยากให้จบ เพราะหวานเอง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหมอภัทรเลยสักอย่างเดียว เรื่องนี้เราคุยกันเอง จบมั้ย?”

    “ไม่...”

    “โกหก คิดจะจับปลาสองมือเห็นๆ กันอยู่ เมื่อคืนยังเห็นที่หน้าห้องน้ำ”

    “คุณดาว” แพทย์หญิงสาวหันไปมองอย่างไม่อยากเชื่อสายตา เห็นดุจดาวยังเกาะแขนหมอภัทรแน่น เม้มริมฝีปาก

    “เอากลับไปดูแลกันใกล้ๆ เถอะ มาอยู่ที่นี่ก็หว่านเสน่ห์กันจนคนอื่นเวียนหัวไปหมดแล้ว”

    หมอธรณินทร์หันขวับ ตะคอกเสียงถาม

    “จริงหรือเปล่าหวาน?”

    “แทน” หล่อนอยากรู้นัก ทำไมเขาถึงต้องมาทำท่าว่าโกรธเคือง ทำท่าว่าเป็นเจ้าของ ในเมื่อหล่อนเป็นอิสระ เป็นอิสระเพราะแฟนเก่าชั่วๆ มันทิ้งไปกกกิ๊กนานแล้ว

    มองหน้าหมอภัทร หน้านั้นก็เฉยจนหล่อนพูดอะไรไม่ออก กดดัน มือของหมอธรณินทร์ก็ยังกดอยู่บนมือของหล่อนจนเจ็บ...เจ็บลึกเข้าไปถึงในใจ....

    “ลาออก...แล้วกลับไปอยู่กับผม ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ผมเลี้ยงคุณเอง ไปเก็บกระเป๋าเดี๋ยวนี้”


    “ไม่! คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน เราจบกันแล้ว!”

    “ไม่จบ! คุณยังรักผม”

    “ฉันไม่ได้รักคุณ ความรักของเราจบลงไปตั้งแต่วันที่ฉันเดินออกจากชีวิตคุณวันนั้นแล้ว ฉันมั่นใจ มันไม่มีทางกลับมาได้อีกแล้ว”

    “หวานมองผมสิ...มองตาผม...ผมรักคุณ รักคุณคนเดียวได้ยินไหม?”

    หล่อนจ้องหน้าขาวคมสันของหมอธรณินทร์แน่ว...ภาพเก่าๆ ลอยขึ้นมาให้น้ำตาคลอ...หล่อนจะต้องไม่ใจอ่อนอีกแล้ว....ไม่ใจอ่อนอีกแล้ว  

    อย่าใจอ่อนอีก

    “ผมเลิกกับกบแล้ว ผมบอกคุณแล้วว่าเรื่องระหว่างผมกับกบมันเป็นความผิดพลาด คนอื่นเขาก็เคยผิดพลาดเหมือนผม เขาก็อยู่กันได้”

    จริงหรือ?.....

    จากคุณ : p.ivy - [ 9 ก.พ. 50 14:44:07 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom