ความคิดเห็นที่ 1
บทที่44
ปิศาจ
อยู่ดีๆ ลมก็หยุดพัด
กำแพงทรายทลายลงสู่พื้นดินจนฝุ่นฟุ้งมืดฟ้ามัวดิน แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเหล่านักรบที่รู้วิธีการรับมือกับพายุทราย สัญญาณเคลื่อนทัพถูกส่งต่อกันไปเรื่อยๆ จากผู้บัญชาการ ตัดกับความมืดมิดของรัตติกาลราวกับทางเดินแห่งไฟ
แม้จะยังห่างไกลจนแลดูเหมือนมดแมลง กองทหารก็กำลังเข้ามาใกล้ปราสาทแห่งนี้ทุกขณะ หากแต่แม่มดราตรีผู้เป็นเป้าหมายกลับไม่ปรากฏกาย เขาได้แต่กระสับกระส่ายอยู่บนหลังมังกรด้วยความกังวลอย่างบอกไม่ถูก หัวใจเต้นแรงจนเจ็บ
เจอท่านแม่แล้วจะทำอย่างไร
คำถามนี้วนเวียนอยู่ในใจไม่รู้จักจบสิ้น ท่านแม่คิดจะทำอะไรกับเขากันแน่ เซนิวก็ไม่รู้ไปอยู่ไหน แล้วท่านพ่อยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่จริงหรือไม่
เซนิว... ซิลลาครางในลำคอ แล้วก้มลงพูดกับมังกรที่ส่งเสียงครืดคราดในลำคอราวกับกำลังตอบรับ ทำไมเจ้าไม่อยู่กับฉัน ไม่อยู่เคียงข้างฉัน ทั้งๆ ที่ในโลกนี้มีฉันที่รักเจ้าที่สุด
แค่เรื่องผู้ชายคนนั้นเจ้าก็ถึงกับไม่ให้อภัยฉันเชียวหรือ
ใบหน้างามก้มต่ำ จึงไม่อาจมองเห็นจุดแสงสีเขียวสว่างเจิดจ้าลอยนิ่งอยู่บนฟ้า เหนือศีรษะเขาไปสูงลิ่ว
อาจจะเหมือนแก้ตัว แต่คงต้องบอกว่าคราวที่แล้วฉันไม่พร้อมเท่าไหร่ นับว่าเสียมารยาทต่อท่านจริงๆ ต้องขออภัยด้วย
ดาบโค้งเรียวประดับอัญมณีงดงามวาดไปมาในอากาศอย่างไม่เร่งร้อน แต่ดวงตาสีทรายไม่มีแววล้อเล่น ทำให้เจลวานต้องขยับกายเข้ามาอยู่ในท่าที่รัดกุมยิ่งขึ้นแม้จะยังหลบอยู่หลังกำแพงหิน
จะซ่อนตัวไปทำไม ฉันรู้ว่าเป็นท่าน
หากเป็นในสถานการณ์อื่นเขาคงจะไม่มีทางยอมออกไปเป็นแน่ แต่ความเงียบที่ชวนให้กังวลใจอย่างประหลาดกดดันจนเขาต้องแสดงตัวออกมา
เราไม่จำเป็นต้องสู้กัน เด็กหนุ่มเอ่ยพลางลดดาบลงต่ำ
ฉันคงจะปล่อยให้ท่านไปสังหารท่านแม่ไม่ได้
แม่มดราตรี...ปล่อยเอาไว้ไม่ได้
งั้นท่านก็ยิ่งต้องสังหารฉัน
มากับเรา เด็กหนุ่มยื่นมือให้สหาย เราไม่อาจให้คำสัญญาว่าท่านจะอยู่ได้อย่างปกติ แต่เราจะพยายามสุดความสามารถ
ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลส่ายศีรษะช้าๆ สายไปแล้วเจลวาน ฉันได้เลือกแล้ว
เราไม่อยากสู้กับท่าน
ท่านจะแก้แค้นให้บิดา ให้ชาวเมืองของท่าน เซนิวค่อยๆ ก้าวเข้ามาใกล้ ส่วนฉันก็ปกป้องบุพการี พวกเรามีเหตุผลเหลือเฟือที่จะต้องสู้กัน
ดวงตาสีดำสนิทหรี่ลงอย่างเคร่งเครียด ก่อนจะปิดลงช้าๆ แล้วลืมขึ้นใหม่ คราวนี้ไม่มีแววลังเลเหลืออยู่
ยกดาบขึ้นมาเจลวาน!
เจ้าชายหนุ่มตวาดก้อง ก่อนจะเป็นฝ่ายพุ่งตัวเข้าหาคนที่ยืนนิ่งตั้งรับอยู่ เสียงโลหะปะทะกันดังกึกก้อง สะท้อนไปมาทั่วห้องโถงกว้าง
เป็นอะไรไป เซนิวปราดเข้าประชิดตัวคนสูงกว่า ก่อนจะตวัดดาบไปยังลำคอคู่ต่อสู้ ไหนท่านเคยกระหายอยากจะประลองกับฉันนักหนา
เจลวานเอนกายหลบได้อย่างหวุดหวิด แต่คมดาบบางพลิ้วก็เรียกเลือดสีแดงสดให้ไหลซึมจากลำคอเป็นทางยาว เซนิวยังไม่เปิดโอกาสให้เขาพักหายใจ ตามรุกไล่กระชั้นชิด ทั้งคู่ประดาบกันอยู่หลายอึดใจ เด็กหนุ่มผมดำจึงเป็นฝ่ายล่าถอยออกมา
ลมหายใจของทั้งคู่ถี่รัว ผสานกับความเย็นของอากาศจนกลายเป็นควันสีขาว ดวงตาสองคู่สบประสานหยั่งท่าที รอคอยจังหวะที่จะเข้าปะทะอีกครั้ง
ครึ่ก...
เสียงทรายถล่มออกมาจากช่องประตูด้านหนึ่งทำหน้าที่แทนสัญญาณ คราวนี้เจลวานเป็นฝ่ายเสือกดาบรี่เข้าใส่ใบหน้าของเจ้าชายหนุ่ม เซนิวเอนกายพลิ้วหลบไปด้านหลัง ก่อนจะตวัดดาบกระแทกอาวุธในมือคู่ต่อสู้โดยแรงจนเกิดประกายไฟแปลบปลาบ ดาบของท่านชายแห่งแดนทะเลทรายกระเด็นหายไปในความมืด เด็กหนุ่มจึงคว้ากริชเล่มเล็กออกมาจากอกเสื้อ แทงสวนเฉี่ยวหางคิ้วของชายหนุ่มไปเล็กน้อยพอเกิดรอยแดง คิ้วสีน้ำตาลเข้มขมวดเคร่ง แล้วตวัดดาบในมือกระแทกกริชเล่มนั้นจนหักสะบั้น
ดวงตาสีดำไหววูบ แม้มันจะเป็นเพียงมีดเล่มเล็ก แต่หากคุณค่าของมันกลับยิ่งใหญ่ เซนิวเองก็ชะงักไปนิดหนึ่ง แต่ก็เพียงพอให้เด็กหนุ่มตระหนักว่าความเป็นแม่มดยังมิได้ทำให้เธอไร้หัวใจ
หากท่านไม่คิดสังหารฉัน ก็เตรียมตัวรับความตายเสีย
ท่าน...
เซนิวไม่รอให้เขาพูดจบ เธอเกร็งนิ้วกำด้ามดาบแน่น แล้วแทงเข้าที่กลางลำตัวของคนตรงหน้าทันที ใบหน้าคมสันผิดรูปไปนิดหนึ่งด้วยความเจ็บปวด แต่ความรู้สึกแปลกๆ ก็ทำให้เซนิวก้มลงมอง
ดาบของเธอไม่ได้เสียบทะลุผ่านร่างเขา แต่เจลวานใช้มือของหนึ่งจับมันไว้มั่น เมื่อเห็นดังนั้น เธอจึงพยายามถอยออกห่าง แต่มืออีกข้างของเด็กหนุ่มคว้าคอเธอไว้ แล้วดึงร่างที่บางกว่าปลิวหวือเข้ามาแนบชิด
คิดจะทำอะไร
สติของเธอเริ่มรางเลือน ภาพตรงหน้าเริ่มพร่ามัว เซนิวจึงรวบรวมสมาธิต้านพลังของเด็กหนุ่มที่กำลังแทรกซึมเข้ามาในมโนความคิด
ปล่อย!
เจ้าชายหนุ่มกระชากเสียง พลังที่เธอแฝงเข้าไปในน้ำเสียงทำให้คนถูกสั่งถึงกับเกร็งไปทั้งร่าง เลือดหยดเล็กๆ ไหลซึมออกมาตามรูขุมขน หากเจลวานไม่ตอบและไม่ยอมปล่อยมือแต่กลับออกแรงกดจนศีรษะของเจ้าชายหนุ่มแนบเข้ากับไหล่กว้างแน่น แม้เซนิวจะกระชากดาบคืนจนเลือดสีสดหยาดหยดลงบนพื้นเขาก็ยังไม่ปล่อย มือที่กดอยู่กับต้นคอค่อยๆ สอดนิ้วเข้าไปใต้เรือนผมหยัก แล้วแหวกเส้นผมที่ท้ายทอยออก
เจลวาน ท่าน...!
เซนิวยอมปล่อยดาบแล้วดันตัวออกสุดแรงทันที ใบหน้าสวยเครียดขมึ-เย็นชา ความรู้สึกเจ็บแปลบที่ต้นคอด้านหลังทำให้เธอต้องเอามือลูบดู มีเลือดเพียงเล็กน้อยไม่ถึงหยดติดนิ้วมา แต่ใต้ผิวหนังกลับรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ฝังอยู่ในเนื้อ
พอกันที!
เสียงของเจ้าชายหนุ่มไม่เบาแต่ก็ไม่ถึงกับดัง แต่กลับก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนเป็นวงกว้าง ร่างสูงของนักรบทะเลทรายถูกพลังที่มองไม่เห็นกระแทกเข้าใส่จนกระเด็นไปกระแทกกับผนังหิน เข็มเล่มเล็กในมือร่วงผล็อยลงบนพื้น พร้อมๆ กับโลหิตที่เข้มที่ค่อยๆ ไหลอาบชโลมกำแพง
กลับไปกับเรา เจลวานกล่าวพลางประคองร่างเดินมาทางเธอ ท่านยังไม่ได้...
หุบปาก!
เสียงตวาดอย่างกราดเกรี้ยวกระแทกใส่คนตรงหน้าจนแน่นิ่งไป แต่เธอเองก็เริ่มก้าวขาไม่ออก เข็มเล่มเล็กนั้นแทงถูกจุดอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอเริ่มจะสูญเสียสติสัมปชัญญะ เซนิวพยายามเอามันออกแต่ก็ไม่สำเร็จ มันจมหายเข้าไปในเนื้อจนจับไม่ติด เธอจึงตัดสินใจเดินไปเก็บดาบที่หล่นอยู่บนพื้นแล้วเดินไปหาร่างที่นอนนิ่งอยู่ข้างกำแพง ดวงตาคู่นั้นปิดสนิท แม้จะมีเลือดออกมาก แต่ยังคงมีลมหายใจรวยริน
อ่อนแอเหลือเกิน...ท่านจิลวารี่คงผิดหวังในตัวท่าน
หาใช่ร่างกาย แต่เป็นจิตใจที่อ่อนโยน คนที่ถูกเลียงดูมาโดยไม่รู้จักความทุกข์มักจะอ่อนแอเช่นนี้
หากจุดที่แทงเคลื้อนไปอีกเพียงเล็กน้อย เธอคงจะสิ้นลมอยู่ในอ้อมแขนของเขาไปแล้ว แต่เธอรับรู้ได้ว่าเข็มของเจลวานมิได้หมายชีวิต ท่านชายผู้นี้ก็ยังเป็นเพียงเด็กหนุ่มอ่อนหัดที่นึกเมตตาศัตรูในสนามรบ
ท่านเป็นคนดีเกินไป...คนเช่นนี้ยากที่จะมีอายุยืนยาว
เซนิวยกดาบในมือขึ้นค้างไว้ชั่วครู่ ดวงตาสีทรายจ้องมองร่างนั้นอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนจะลดมือลงช้าๆ แล้วเดินออกไปทางช่องประตูอีกฟากหนึ่ง
จากคุณ :
mamimamo
- [
10 ก.พ. 50 08:54:26
]
|
|
|