ดอกไม้ริมทาง กับ ผีเสื้อน้อย
หมอกน้ำค้างยามเช้าเกาะพราวบนยอดหญ้า ความหนาวแผ่กระจายไปทั่วอณู
สิ่งมีชีวิตหลากหลายกำลังขยับกายตื่นจากการพักผ่อนยามราตรี บ้างก็ยังคงปิด
เปลือกตาซุกกายหาไออุ่นรอให้พระอาทิตย์ปลุกในตอนสาย
ผีเสื้อน้อยบินมาหาดอกไม้ริมทางเพื่อนรักของมันแต่เช้าตรู่
ดวงตะวันยังไม่ทันส่องแสง ดอกไม้ริมทางยังไม่ทันตื่น..
นี่ นี่ ริมทาง ตื่น ตื่น หลับอยู่ได้ เช้าแล้วนะ
ดอกไม้ริมทางงัวเงียลืมตาตื่นขึ้นมา
มีอะไร ผีเสื้อน้อยมาหาเราแต่เช้าเลย นี่ไม่ใช่เวลาตื่นของเรานี่
ผีเสื้อน้อยทำหน้าระรื่น
เราก็มาชวนริมทาง ดูพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกันน่ะสิ มันสวยมาก รู้หรือเปล่า
ดอกไม้ริมทางตื่นเต้นใหญ่
จริงหรือ เราเห็นทีไร พระอาทิตย์ก็ส่องแสงเจิดจ้าทุกที เรามองเต็มตาไม่ได้มันปวดตา
จริงสิ เราเห็นคนเค้าพูดกัน ว่าเวลาเช้า ๆ พระอาทิตย์ค่อย ๆ เลื่อนขึ้นสู่ท้องฟ้า
เปล่งแสงไม่เต็มที่สวยงามนัก
งั้นเรามาดูพร้อม ๆ กันนะผีเสื้อ
ผีเสื้อน้อยบินต่ำมาเกาะดอกไม้ริมทาง รอคอยพระอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้าในยามเช้า
ริมทาง ริมทาง นั่นพระอาทิตย์ขึ้นมาแล้ว โห
สวยจริง ๆ สวยมาก ริมทางเห็นไหม
จริง ๆ ด้วย สวยมาก สวยจริง ๆ เราไม่รู้เลยนะ ดีล่ะเราจะตื่นเวลานี้มาคอยดู
พระอาทิตย์สวย ๆ แบบนี้ทุกวัน
ผีเสื้อน้อย หันมาคุยกับ ดอกไม้ริมทางเพื่อนรัก
ริมทาง เราอยากเห็นพระอาทิตย์สวยๆ แบบนี้ใกล้ ๆ จัง
อย่าเลยผีเสื้อ เราว่าเห็นไกล ๆ แบบนี้ก็สวยแล้ว อีกอย่าง
พระอาทิตย์อยู่ไกลสุดขั้วเลยเจ้าไปไม่ถึงหรอก
ผีเสื้อน้อยดื้อและหัวรั้น บอกกับ ดอกไม้ริมทางไปว่า
ริมทางไปไหนไม่ได้ ต้องอยู่กับที่ ส่วนเรา บินไปไหนต่อไหนก็ได้
สบาย ริมทางอิจฉาเราน่ะสิ
เปล่าเลย เราหวังดีกับผีเสื้อต่างหากล่ะ
ริมทางบอกผีเสื้อน้อยน้ำเสียงจริงจังและตัดพ้อ
ผีเสื้อน้อยพูดต่อ
เราขอโทษ เราล้อเล่น ดวงตะวันสวยงามจริง ๆ ริมทางอย่าห้ามเราเลยนะ
เราอยากไปเห็นใกล้ ๆ แล้วเราจะมาเล่าให้ริมทางฟังนะว่ามันสวยงามมากขนาดไหน
เราว่ามันคงสวยกว่าที่เราเห็นไกล ๆ แน่เลย
ดอกไม้ริมทางมองเพื่อนด้วยความเป็นห่วง แต่รู้ว่าคงห้ามเพื่อนไม่ได้
เราคงห้ามผีเสื้อไม่ได้ ระวังตัวด้วยนะ ถ้าผีเสื้อไปถึงจริง ๆ เราก็ดีใจ
แล้วกลับมาเล่าให้เราด้วยนะ เราจะรอผีเสื้ออยู่ที่นี่นะ
ผีเสื้อน้อย ส่งยิ้มหวาน ๆ ให้กับ ริมทาง เพื่อนรัก
ริมทาง เราไปก่อนนะ จะรีบไป แล้วจะรีบกลับมาเล่าให้ริมทางฟัง
เราคงคิดถึงผีเสื้อมาก รีบกลับมานะ ไม่ว่า ผีเสื้อจะไปถึงหรือไม่
ก็ต้องกลับมาหาเรานะผีเสื้อ เราจะรอ ดอกไม้ริมทางน้ำตานองหน้า
อย่าร้องไห้สิ ริมทางเราสัญญา เราจะกลับมาหา ริมทาง แน่ ๆ เราสัญญา
ผีเสื้อกางปีกของตัวเองสวมกอดริมทาง ก่อนจะเริ่มออกเดินทางไป
ดอกไม้ริมทางมองตามหลัง ผีเสื้อน้อยเพื่อนรักแล้วรู้สึกเป็นห่วง
ดอกไม้ริมทางรู้ดีว่า ผีเสื้อจะไม่มีทางไปถึงพระอาทิตย์ได้เลย
แต่ดอกไม้ริมทางรู้จักนิสัยผีเสื้อน้อยเพื่อนรักดี ถ้าคิดจะทำอะไรแล้วไม่เคยฟังใคร
นอกจากจะพบเจอหรือสัมผัส และรับรู้ด้วยตัวเอง
เข้าสู่เช้าวันที่สี่
ดอกไม้ริมทางยังคงตื่นแต่เช้าตั้งแต่รู้ว่าเวลามองพระอาทิตย์ยามเช้าสวยงามเพียงใด
ริมทางมองดวงตะวันสายตาเหม่อลอย หมองเศร้าเพียงลำพัง
ริมทางอดคิดถึงผีเสื้อไม่ได้ ทำให้หวนนึกถึงวันเก่า ๆ
ยังจำครั้งแรกที่ได้พบเจอกับผีเสื้อน้อยได้ดี ครั้งนั้นริมทางยังเป็นดอกไม้ช่อเล็ก ๆ
ห่อหุ้มเยื่อใบไม้อยู่เลย ส่วนผีเสื้อก็ยังตัวเล็ก ๆ พึ่งหัดบิน มีอยู่วันหนึ่งช่วงฤดูฝน
ฝนตกหนักมากเจ้าผีเสื้อน้อยบินกลับถิ่นฐานของมันไม่ทัน ปีกของมันไม่แข็งแรง
พอเปียกฝน มันก็บินไม่ได้ล่วง ลงสู่พื้นใกล้ ๆ ลำต้นของดอกไม้ริมทาง
ดอกไม้ริมทางเห็นผีเสื้อน้อยหนาวสั่น แล้วนึกสงสาร โน้มตัวเอาใบไม้ของตัวเอง
บังฝนให้ผีเสื้อน้อย เวลาผ่านไปจากนาที เป็นชั่วโมง ฝนยังไม่หยุดตก
แต่ดอกไม้ริมทางไม่ปริปากบ่นสักคำว่าเมื่อยเมื่อต้องฝืนตัวเองมาบดบังฝนให้ ผีเสื้อน้อย
ในที่สุดดอกไม้ริมทางและผีเสื้อน้อยก็ไม่โชคร้ายเกินไป เวลาผ่านไปชั่วโมงกว่า ฝนหยุดตก
ดอกไม้ริมทางพยุงตัวเอนลำต้นของตัวเองให้ตั้งตรงตามเดิมบิดตัวเองไปมาให้หายเมื่อยเพื่อ
กลับสภาพเดิมก่อน จะหันไปดูผีเสื้อน้อย
เป็นยังไงบ้างดีขึ้นหรือยัง หายหนาวบ้างไหมผีเสื้อน้อย
เจ้าผีเสื้อน้อยยิ้มทั้งน้ำตา ขอบคุณดอกไม้ริมทางมาก ถ้าเราไม่ได้ดอกไม้ริมทาง
ป่านนี้เราคงตายไปแล้ว ขอบคุณมาก ขอบคุณ
ดอกไม้ริมทางส่งรอยยิ้มแห่งมิตรภาพให้ผีเสื้อน้อย
ไม่เป็นไรเราเต็มใจช่วยผีเสื้อน้อยนะ
บุญคุณครั้งนี้เราจะไม่ลืมเลยตลอดชีวิตของเรา ดอกไม้ริมทาง เราเป็นเพื่อนกันได้ไหม
ได้สิ เรายินดีมาก เราเป็นเพื่อนกันนะ นับตั้งแต่นั้นมาผีเสื้อน้อยจะบินมาเล่นมาคุย
กับดอกไม้ริมทางทุกวัน
ริมทางบ่นพึมพำกับตัวเอง ขณะจ้องมองแสงนวล ๆ ของพระอาทิตย์
ผีเสื้อเพื่อนเรา เธอจะเป็นยังไงบ้างนะ เมื่อไรเธอจะกลับมาเสียที นะ เราคิดถึงเธอมาก
ฝ่ายผีเสื้อน้อยเองเวลานี้รู้สึกตัวเองเหนื่อยล้ามาก ไม่มีแรงจะบินต่อไป
หลังจาก 3 วันเต็ม ที่บินมุ่งหน้าไปตามทิศทางเพื่อจะ..... ไปให้ถึงดวงตะวัน
ให้ได้เห็นความสวยงามของแสงพระอาทิตย์อ่อน ๆ ในยามเช้า
แต่
..เช้าวันนี้เจ้าผีเสื้อน้อยกลับพยุงตัวเองให้โบยบินอีกต่อไปไม่ไหว
นอนแน่นิ่งเฝ้ามองพระอาทิตย์สาดแสงนวล ๆ ยามเช้ากลางท้องหญ้าในทุ่งนาสีเขียว
เจ้าผีเสื้อน้อยบ่นกับพระอาทิตย์ไปลม ๆ แล้ง ๆ โดยไม่รู้ว่า พระอาทิตย์จะได้ยิน
และกำลังมองมายังผีเสื้อน้อยด้วยสายตาอาทร
เจ้าผีเสื้อน้อยถึงกับน้ำตาซึม
ท่านดวงตะวัน ท่านสวยมากยามนี้ แล้วนี่อีกนานแค่ไหนกัน เราถึงจะได้เห็นท่านใกล้ ๆ
ได้มองแสงสวยงาม ของท่าน สามวันแล้วที่เราบินไปหาท่าน แต่
ทำไมมันถึงไม่มีวี่แวว
ว่าเราจะได้เข้าใกล้ท่านเลย เหมือนว่าเราบินหาท่าน แต่ท่านกลับหนีเราไกลออกไปทุกที
พระอาทิตย์มองมายังผีเสื้อน้อยยิ้ม ๆ
เจ้าผีเสื้อน้อย ทำไมเจ้าถึงอยากเห็นข้าใกล้ ๆ
เจ้าผีเสื้อน้อยตกใจ!!!หันซ้ายหันขวา มองไม่เห็นใครจะขยับปีกบินหนีก็ไม่ได้
เพราะเหนื่อยล้าเกินจะขยับ
นั่นเสียงใคร ท่านอยู่ที่ไหน ทำไมเรามองไม่เห็นท่าน
เราเอง เราอยู่นี่ผีเสื้อน้อย ผีเสื้อน้อยถึงกับตะลึง งง งัน เมื่อรู้ว่าเสียงนั่นเป็นเสียง
ของพระอาทิตย์
ท่านพระอาทิตย์ พูดกับเราหรือ
อืมม์ ก็ใช่นะสิ เราถามเจ้าว่า ทำไมเจ้าถึงอยากมองเห็นข้าใกล้ ๆ เจ้าไม่กลัวข้าหรือ
เราไม่กลัว เราอยากเห็นท่านส่องแสงในยามเช้า ท่านสวยมาก
ผีเสื้อน้อยตอบพระอาทิตย์อย่างที่เธอคิดและเห็น
เฮ้ออ
พระอาทิตย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่
เจ้าผีเสื้อน้อยเจ้านี่ไม่รู้อะไรเลย แต่ถึงอย่างไรเราก็ขอบคุณที่เจ้าชมว่าเราสวยนะ
แต่เราอยากจะบอกเจ้าว่า เจ้าไม่มีทางเข้าใกล้ข้าได้เลย ก็อย่างที่ ดอกไม้ริมทาง
เพื่อนของเจ้าได้เตือนเจ้าแล้ว แต่เจ้าไม่ฟังเอง
ทำไมล่ะท่าน ทำไมเราถึงเข้าใกล้ท่านไม่ได้ ผีเสื้อน้อยถามด้วยความสงสัย
เราไม่ได้อยู่โลกเดียวกับเจ้า เราอยู่กันคนละโลก มันห่างไกลกันมาก ที่สำคัญ
เรามีพลังอำนาจร้อนแรงเผาไหม้ทุกอย่างได้ ทันที เจ้าอย่าฝีนตัวเองเลย ต่อให้เจ้า
ตายแล้วเกิดใหม่อีกกี่รอบ เจ้าก็ไม่สามารถเข้าใกล้ข้าได้ กลับไปหาเพื่อนเจ้าเถิด
ดอกไม้ริมทางคอยเจ้าอยู่ เราได้ยินเค้าบ่นถึงเจ้าทุกเช้าเวลาที่เค้าเฝ้ามองเรา
เราก็คิดถึงริมทางเหมือนกัน และเราก็เชื่อท่านว่าเราคงไปหาท่านใกล้ ๆ ไม่ได้แล้ว
เพราะ
เราคงบินต่อไปไม่ไหว ริมทางเพื่อนรักของเราคงจะหัวเราะเยาะเราแน่
ถ้าเรากลับไป แล้วบอกว่าเราไม่สามรถมองท่านในยามเช้าใกล้ ๆ ได้
ผีเสื้อน้อยพูดกับพระอาทิตย์น้ำเสียงเศร้าสร้อย
ไม่หรอกดอกไม้ริมทางไม่มีทางหัวเราะเยาะเจ้าแน่นอน ดีใจเสียด้วยซ้ำไปที่เจ้ากลับ
ไปหาเค้า ปรกติริมทางไม่เคยทำร้ายจิตใจเจ้าเลยไม่ใช่หรือ เราเห็นเค้าหวังดีกับ
เจ้าเสมอมา เอางี้สิ ถ้าเจ้าอายเพื่อนเจ้า เจ้าก็บอกเพื่อนเจ้าสิ ว่าเจ้าได้คุยกับเรา
เพื่อนเจ้าต้องเชื่อเจ้าแน่ ๆ ถ้าเจ้าบอกไป ยกเว้นเสียแต่ว่า...... เจ้าเคยโกหกเพื่อนของเจ้า
เค้าต้องไม่เชื่อเจ้าแน่
ผีเสื้อน้อยรีบตอบกลับทันที ไม่ เราไม่เคยโกหกอะไรกับริมทางเพื่อนรักของเรา
งั้นก็ดีสิ เจ้าจะได้มีเรื่องกลับไปบอกเล่าให้กับเพื่อนของเจ้าไง
เราขอบคุณท่านมากที่ให้คำชี้แนะ ถ้าเราเชื่อฟังเพื่อนเราบ้างเราก็คงไม่ต้อง
เหนื่อยเมื่อยล้า แบบนี้ เราสัญญาต่อไปเราจะรับฟังและยอมรับความคิดเห็น
ของเพื่อนที่หวังดีกับเรา และเป็นเพื่อนที่ดีต่อเราเสมอมาตั้งแต่เราเป็นเพื่อนกัน
ว่าแล้วตอนนี้เราคิดถึงริมทางเพื่อนรักของเราจัง
ดวงอาทิตย์ยิ้มแฉ่ง
ตอนนี้ริมทางเพื่อนรักของเจ้าก็กำลังมองข้าอยู่เหมือนกัน และก็บ่นเหมือนทุกวันว่า
คิดถึงเจ้า เป็นห่วงเจ้า
เอาล่ะเราต้องทำหน้าที่ให้แสงสว่างแก่โลกแล้วล่ะ ต่อไปนี้เจ้าจะคุยกับข้าไม่ได้แล้วนะ
ปรกติเราก็ไม่คุยกับใครอยู่แล้วมันผิดกฎของเรา เราขอให้เจ้าเดินทางกลับไปหาเพื่อน
ของเจ้าอย่างปลอดภัยนะ
เราขอบคุณท่านมาก เราจะกลับไปบอกเพื่อนรักของเราว่าเราโชคดีมีโอกาสได้คุยกับท่าน
ไม่มีการตอบรับจากพระอาทิตย์อีกต่อไป
ผีเสื้อน้อยค่อย ๆ ฝืนร่างกายพยุงตัวเองบินขึ้นท้องฟ้าอีกครั้งจุดมุ่งหมาย ไม่ใช่เพื่อมุ่งหน้า
ไปหาดวงตะวัน แต่เป็นการกลับไปที่เดิม ที่ที่มีเพื่อนรักและเป็นห่วงเธอคอยเธอ อยู่ต่างหาก
ท้องฟ้ามืดมิด มีแสงดาวระยิบระยับพริบพราย
ดอกไม้ริมทางยังไม่มีทีท่าว่าจะหลับตาให้สนิทลงได้ แหงนหน้ามองท้องฟ้าจิตใจล่องลอย
คิดถึงแต่ผีเสื้อน้อยเพื่อนรัก
หนึ่งอาทิตย์แล้วสินะที่ผีเสื้อจากไปป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้
สุขสบายดีอยู่หรือเปล่าหนอ เราเป็นห่วงเธอจังผีเสื้อน้อย
ริมทางเรากลับมาแล้วริมทางเรากลับมาหาเธอแล้ว
ผีเสื้อน้อยบินมาอยู่ตรงหน้าดอกไม้ริมทาง ดอกไม้ริมทางหันไปตามเสียง เห็นมีสิ่งหนึ่ง
บินมาหาไม่ชัดเจนนักแต่ก็รู้ว่านั่นเป็น ผีเสื้อน้อยเพื่อนรักของมัน ดอกไม้ริมทางดีใจมาก
ยิ้มแก้มปริ โอนเอนเคลื่อนไหวตัวเองไปมา เพื่อเป็นสัญลักษณ์บอกว่าเธอดีใจเป็นที่สุด
ใช่ผีเสื้อน้อยจริง ๆ ด้วย เราดีใจมาก ดีใจจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว เราดีใจที่ได้เจอผีเสื้ออีก
เป็นยังไงบ้างเหนื่อยไหม มานี่สิ มาพักพิงข้างเรานี่เร็วมาเหนื่อย ๆ
ผีเสื้อน้อยบินลงต่ำล้มตัวพักพิงอยู่กับดอกไม้ริมทาง มองหน้าริมทางน้ำตาคลอเบ้า
เราดีใจมากที่ได้กลับมาหาริมทางอีกเราคิดถึงริมทางมากเลยนะ
หยุดพูดเหอะ ผีเสื้อดูเจ้าเหนื่อยมากเลย อย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้เลยพักผ่อนเถอะนอน
อยู่ข้าง ๆ เรานะเราจะดูแลผีเสื้อเองแล้วพรุ่งนี้เช้าเรามาดูพระอาทิตย์ยามเช้าด้วยกัน
ผีเสื้อน้อยฟังไม่จบประโยคก็ม่อยหลับพร้อมร้อยยิ้มพริ้มพรายบ่งบอก
ได้ว่าเวลานี้ผีเสื้อน้อยมีความสุขมากที่สุดแล้ว
ส่วนดอกไม้ริมทาง
ค่อย ๆ ขยับตัวเองเข้ามาใกล้กับผีเสื้อน้อยเพื่อจะได้เอาใบไม้ของตัวเอง
ปิดบังหมอกน้ำค้างให้ผีเสื้อน้อยเพื่อนรักก่อนจะหลับตาลงมีหยดน้ำใส ๆ
แห่งความสุขไหลอาบแก้ม และบอกตัวเองว่า
..
คืนนี้จะเป็นคืนที่เธอนอนหลับได้สนิท ไม่ต้องพะวงอะไรอีกต่อไปแล้ว
..
THE END
แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 50 08:44:34
จากคุณ :
ดินสอสีน้ำ
- [
10 ก.พ. 50 11:27:00
]