Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    =AbGay= แผนลับสลับรัก [บทที่ 5 เสือกับสิงห์]

    ..

    ความเดิมตอนที่แล้ว

    บดินทร์  หนุ่มตี๋หน้าจืดหลงรักมาลีมาศ  สาวแฟกแฮกตัวยง  ผู้ตั้งสัตย์ปฏิญาณว่าจะหาสามีที่เป็นเกย์ให้จงได้  เขาจึงไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนรัก คีรี เกย์หนุ่มเจ้าเสน่ห์ให้สอนวิธีเป็นเกย์ให้แก่เขา

    ---------------------------

    เครือกุหลาบเก้าวิกฤตหนักเพราะข่าวลือแปลก ๆ ที่เจ้าคีรีตัวแสบปล่อยออกมา  แต่อยุธยายังไม่สิ้นคนดี  แม่โฉมศรีมาลีมาศจึงรับบทนางเอกขี่หมาขาวเสนอแผนการสะท้านภพ  โดยให้เจ้าสัวธนินทร์แถลงข่าวยอมรับความสัมพันธ์ของบดินทร์และคีรีเสีย  เจ้าสัวผู้ซึ่งกำลังจนตรอก  จึงอ้อมแอ้มรับปากไป



    ...



    เสือกับสิงห์


    สภาพการจราจรแออัดแถบสีลมไม่ได้ทำให้คุณชายสุดหล่อหลังพวงมาลัยร้อนใจ  เขายังคงผิวปากอย่างนึกสนุกระหว่างเคาะนิ้วเป็นจังหวะลงกับเนื้อยางแข็งหุ้มหนังหล่อเป็นวงในมือ  แม้ปอเช่สีแดงแสบทรวงของเขาจะเปิดประทุน  แต่ทางด่วนและรางรถไฟฟ้ารวมถึงตึกระฟ้าทั้งหลายก็ช่วยกั้นแสงแดดมิให้ส่องมาบนถนนอย่างรุนแรงนัก

    “ร้อนว่ะ”

    เจ้าตี๋สะพืออกเสื้อเชิ้ตสีขาวลายเทาปลดกระดุมบนสองเม็ดตามประสาหนุ่มหน้าจืดแต่อยากเท่ห์  คนข้าง ๆ เลิกคิ้วเหล่ตามอง

    “จะไม่ร้อนได้ไง  ก็มืงเล่นอยู่แต่ในห้องแอร์เสียจนซีดยังกับผีดิบ  พอมาสัมผัสภูมิอากาศกลางท้องถนนทำเป็นกระแดะผิวบาง”

    “เวรจริงกู..แค่บ่นนิด ๆ หน่อย ๆ ก็เจอมืงหาเรื่องด่า  สมมุติว่ากูบ่นว่ารถมืงงี่เง่าเปิดประทุนทำซากอะไรวะ  แอร์แมร่งก็ไม่เย็น  แถมโชเฟอร์ยังปากหมาอีก  มืงจะด่ากูมั้ยน่ะ”

    “ไม่ด่าหรอก”  คีรีตอบยิ้ม ๆ  “แต่กูจะถีบลงรถแมร่งเลย”

    “กูแค่สมมุติเฉย ๆ”  เจ้าตี๋ทำคอย่นบ่นอุบอิบ

    คีรีส่ายหน้า  เขาเหลือบมองเห็นตัวเลขสีแดงแสดงเวลารอสัญญาณไฟเข้าใกล้เลขสิบแล้ว  แผนการสุดชั่วช้าสามานย์ก็แล่นขึ้นมาในหัว

    “เหงื่อมืงออกว่ะ”

    ชายหนุ่มคว้าทิชชู่แผ่นบางหน้ารถได้ก็เอี้ยวข้างไปซับหน้าผากให้คนหน้าขาวปากแดง

    “เฮ้ย  มืงทำอะไร”  เจ้าตี๋ผงะด้วยความตกใจ

    “อยู่นิ่ง ๆ สิวะ  กูจะช่วยให้มืงหล่อขึ้นไง  หรือมืงจะเอาหน้ามัน ๆ ไปเดินในห้าง”

    เลขสีแดงเปลี่ยนเป็นสีเขียว  รถข้าง ๆ เริ่มออกตัวกันไปเรียบร้อยแล้ว  เหลือแต่ปอเช่สีแดงที่เจ้าของรถกำลังสาละวนกับการซับเหงื่อเพื่อน

    แป๊น!  แป๊น!

    เจ้าตี๋สะดุ้งอีกรอบ  เพราะเสียงแตรรถดังระงมรอบ ๆ ตัว

    “เฮ้ย  ไอ้คี  พอได้แล้วไฟเขียวแล้วโว้ย”

    คีรียังชักช้า  เขาแสร้งอ้อยอิ่งอยู่สักพักหนึ่งท่ามกลางเสียงเจริญพรจากแตรรถ  ปอเช่แดงสะดุดตาจึงค่อยแล่นผ่านสี่แยกไปท่ามกลางความโล่งอกของหนุ่มตี๋

    “ทำไมกูรู้สึกเหมือนเมื่อครู่มีแต่คนมองเราวะ  เสียวสันหลังชอบกล”

    คีรีกลั้นยิ้ม  เขาจะบอกได้ไงว่ามันเป็นความจงใจของเขาที่จะตกเป็นเป้าสายตา

    “เฮ้ย  คิดมากน่า  กูก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่หว่า  แค่ออกตัวช้าเท่านั้นเอง  ถ้ากูฝ่าไฟแดงนั่นก็ว่าไปอย่าง”

    “แต่กูก็ไม่ค่อยสบายใจอยู่ดีแหละว่ะ”

    คุณชายแห่งมัญจาโรหน้าตึง

    “มืงอายเหรอวะ  ที่อยู่กับกูเนี่ย”

    “เฮ้ย  เปล่า  กูไม่ได้อาย  กูแค่..”

    “ช่างเถอะ  กูไม่ได้คิดอะไรหรอก  กูอำมืงเล่นเฉย ๆ”

    แต่จากสายตา  และสีหน้าที่เรียบเฉยผิดกับเมื่อครู่ของคีรี  ทำให้บดินทร์ไม่สบายใจขึ้น  เขาเอื้อมมือมาจับไหล่ของเพื่อนไว้แล้วบีบแน่นเหมือนยืนยันว่าเขาไม่เคยอายเลยที่อยู่ใกล้กับเพื่อนคนนี้






    ชนนท์ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้พบกันนาน  ทั้งคู่จบมัณฑณศิลป์จากมหาวิทยาลัยศิลปากร  แต่กลับเลือกทางเดินที่แตกต่างกัน

    “สบายดีเหรอวะอาร์ต”

    ชนนท์ถามเพื่อนเก่าของตนด้วยคำถามยอดฮิต  ด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงอย่างจริงจัง  เพราะเขาเองก็คิดถึงเพื่อนคนนี้มากพอดู

    “เรื่อย ๆ ว่ะ  ชีวิตมีขึ้นมีลง  อดมื้อกินมื้อก็มีบ้าง  แต่เดี๋ยวนี้กูสบายแล้วว่ะ”

    “แล้วสิบปีที่ผ่านมานายหายไปไหนมาล่ะ”

    “ตอนจบใหม่ ๆ กูก็ออกมาหางานตรงกับสายที่กูเรียน  แต่งาน:-)หายากว่ะ  เลยออกมาเดินเตะฝุ่นอยู่สักพัก  พอดีรุ่นพี่ที่กูเคยรู้จักมาชวนกูไปทำงานจิตรกรรมที่อินเดีย  กูเห็นว่าน่าสนใจเลยไปด้วย”

    “เฮ้ย...จริงดิ  นายได้ไปอินเดียด้วยเหรอวะ  แล้วไปอยู่ยังไง”

    “ก็ใช่ดิวะ  กูไปอยู่ก็ร่อนเร่ไปทั่ว  ค่ำไหนนอนนั่น  ไม่โคนต้นไม้ก็วิหารโบราณ  กูค้นพบสัจธรรมมากมายจากโคนต้นไม้  และทำให้กูสร้างชิ้นงานได้เกือบสามร้อยชิ้น”

    ชนนท์ฟังก็ครางฮือ  “โห  แล้วนายแบกภาพวาดไปด้วยเหรอนั่น”

    “บ้าป่าววะ  ใครจะไปแบก  กูส่งกลับไทยทีละห้าหกชิ้น  ฝากคนรู้จักกลับไปบ้าง  ส่งแอร์เมล์บ้าง  จนในที่สุดก็รวบรวมได้มากพอเปิดแกลลอรี่”

    “อย่าบอกนะว่า  ที่นายโทรมาคือ..”

    “กูจะชวนไปร่วมงานเปิดตัวแกลลอรี่ของกูที่ห้างเซ็งท่านสีลม”

    “เฮ้ย..จริงดิ  เมื่อไหร่วะ”

    “วันนี้  อีกสามชั่วโมงข้างหน้า  มืงอยู่รังสิตไม่ใช่เหรอวะ  รีบมาเดี๋ยวก็ทันอยู่หรอก”

    “คนละซีกโลกเลยนะเว้ย”

    “เออน่า”  อาร์ตส่งเสียงรำคาญมาตามสาย  “ถ้ามืงเป็นเพื่อนกูจริงก็มาให้ได้ล่ะกัน  เดี๋ยวกูโทรไปชวนคนอื่นต่อ  แค่นี้นะ”

    สิ้นเสียงก็เป็นสัญญาณสายไม่ว่าง  ชนนท์วางหูโทรศัพท์บ้านในมือลง  เขารู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก  เมื่อเพื่อนที่หายหัวไปนานติดต่อกลับมาอีกครั้ง  ซ้ำยังประสบความสำเร็จในการงานอีกด้วย  ชายหนุ่มรีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนเพื่อแต่งตัวออกไปนอกบ้านให้ทันกำหนดนัด




    ..

     
     

    จากคุณ : ปฤษณะ - [ 12 ก.พ. 50 16:12:30 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom