Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    อย่ายั่วเจ๊จัน (เจ๊ขอร้อง) เรื่องสั้นสำหรับผู้ใหญ่รักแท้รักเดียวครับ

    คืนนั้นฝนตกพรำๆ…

               ลุงจ้อน อดีตนายทหารเกษียณอายุ นอนกอดหมอนข้างพลิกไปมากระสับกระส่าย สุดท้ายต้องลุกจากเตียง เหลียวมองเจ๊จันเมียแกในความสลัว เงาร่างตะคุ่มอ้วนท้วนนอนกรนครอกๆเป็นกิจวัตร แกเดินออกจากห้องนอนด้วยสีหน้าผิดหวังบางอย่าง แต่ลุงจ้อนก็ต้องยืดอกเหี่ยวๆยอมรับได้กับเรื่องที่เกิด ทั้งที่ไม่น่าจะเกิด…

               …ไม่รู้อะไรมาดลจิตดลใจให้ลุงจ้อนคึกคัก ปึ๋งปั๋ง อยาก ’เตะปี๊บ’ ขึ้นมาเอาตอนค่ำๆ หรืออาจจะเป็นเพราะเมฆฝนอึมครึม อีกไม่นานฝนคงตก บรรยากาศให้ ไอเดียดี แฮปปี้ชัวร์

               ลุงจ้อนจัดแจงแปลงร่างเป็นสามีที่ดี ช่วยเจ๊จันล้างจานชามหลังลูกค้ากินไว้กองพะเนิน แกยิ้มลุ่มลึกแววตาเป็นประกายหรี่ๆ ไม่เจิดจ้าแวววาวเหมือนสมัยหนุ่ม ล้างจานชามไปไม่มีบ่นเช่นครั้งก่อนๆที่ถูกเมียเรียกใช้ เสร็จสรรพมาต่อด้วยเก็บโต๊ะเก้าอี้ เป็นการวอร์มอัพไปในตัวและปิดร้าน ‘เจ๊จันอาหารตามสั่ง’ ทันที กันเจ้าของร้านหนีพอดีฝนเริ่มตกพรำๆ
       
               “มิน่า…ฝนถึงตกพรำๆ” เจ๊จันแขวะตอนกินข้าวด้วยกัน
     
               “แหม! เจ๊ก้อ…จ้อนเห็นเจ๊เหนื่อยอยากจะช่วยน่ะ” ลุงจ้อนพูดกับเมียแบบนี้มาตลอด หลังจากแต่งงานถึงรู้ว่า เจ๊แกมีอายุแก่กว่าสองปี ทั้งคู่อยู่กินกันมามีลูกสองคน ออกเรือนกันไปหมดแล้ว นานๆถึงจะกลับมาเยี่ยมสักที

               หัวคิ้วของเจ๊จันชนกันโครมใหญ่ มองลุงจ้อนนิ่งๆ เปล่า…ไม่คิดจะทำซึ้ง แต่คิดอีกอย่าง…มันจะมาไม้ไหนฟะ…?

               ละครทีวีใกล้จบ ลุงจ้อนชิ่งไปอาบน้ำทาแป้งหอมฟุ้ง สวมเสื้อกล้ามกางเกงแพรเตรียมพร้อม ขึ้นไปนอนสงบนิ่งบนเตียง ดุจราชสีห์รอตะปบเหยื่อ ไม่นานนักเจ๊จันก็ตามขึ้นมา เสียงเตียงลั่นบอกได้ดี กับน้ำหนักตัวกว่าหนึ่งหาบ

               ราชสีห์จ้อนยังคงใจเย็นไม่บู่มบ่าม นอนฟังเสียงฝนพรำๆอีกครู่จึงขยับตัว รู้ดีว่าหากปล่อยเวลาให้นานกว่านี้ เมียที่เคารพจะกรนครอกๆ

               “เจ๊จัน จ้อนหน๊าว…หนาว” ลุงจ้อนออเซาะพลางกอด

               “พี่จ้อน…” เจ๊จันยังให้เกียรติสามีอยู่เสมอ เรียกพี่จนติดปาก ถึงน้ำเสียงจะห้วนไปนิด

               “จะทำอะไรเนี่ย?”

               “ก็คืนนี้ฝนตกพรำๆ ย้ำถึงบรรยากาศเก่าๆ จ้อนก็เลยจะ…”

               “อย่าคิดบ้าๆนะพี่จ้อน แก่จะลงโลงอยู่แล้วมาทำคึก ตัณหากลับ ไปไกลๆเลยคนจะนอน”

               “โธ่…เจ๊ง่ะ น่า…นะ คืนนี้คืนเดียว นะๆๆๆๆ” ลุงจ้อนอ้อนเป็นหนุ่มกระเตาะ

               “เอ๊ะ…” ชักรำคาญ “บอกว่าไม่ก็ไม่สิ ขืนยังตื้ออีกเดี๋ยวโดน” น้ำเสียงเข้มขนาดนั้นใครจะกล้า ลุงจ้อนหน้างอ และเศร้าหนักเมื่อเมียอันเป็นที่รัก สลัดแขนแกออกอย่างไม่ใยดี

               “เจ๊จันใจร้าย…” ไม่วายพ้อเสียงอิดออด จากราชสีห์จ้อนเมื่อครู่ กลายเป็นหนูไปเลย

               เจ๊จันก็อย่างนี้แหละ ปากร้ายแต่ใจดี โกรธง่ายหายเร็ว เห็นลุงจ้อนเงียบเสียงจึงชำเลืองดู เงาตะคุ่ม
    นอนตะแคงหันหลังให้ กอดหมอนข้างแทบจะเป็นเนื้อเดียว แต่รู้ว่าสามียังไม่หลับ นึกเห็นใจขึ้นมาบ้าง เอาไงดี…กำลังคิดหาวิธีอยู่ จู่ๆมีเสียงหมาเห่าแทรกผสมกับฝนตกพรำ เกิดปิ๊งไอเดีย

               “นี่พี่จ้อน ฉันรู้นะว่าพี่ยังไม่หลับ เรามาทายเสียงหมาเห่ากันดีกว่า ถ้าพี่ทายถูกฉันยอม”

               “ฮ้า ! จริงป่าว…?” ลุงจ้อนพลิกตัวกลับทันที ดวงตาเป็นประกายหรี่ๆอีกครั้ง “แล้วเล่นทายยังไง?”

               “พี่ได้ยินเสียงหมาเราเห่าไหมล่ะ มันมีอยู่ตัวที่เห่าอีกตัวไม่เห่า ถ้าพี่ทายถูกว่าเป็นตัวไหนเห่าฉันยอมพี่คืนนี้ แต่ถ้าทายผิดก็อด ต่างคนต่างนอน กติกาเราจะแอบไปดู เห็นตัวไหนเห่าอยู่คือคำตอบ”

               เมื่อตกลงกันได้ เจ๊จันได้ให้สามีเลือกทายก่อน ลุงจ้อนลุกนั่งใช้สมาธิ วิชาหูทิพย์เคยฟังลูกไฮโลขณะรินถ้วยถูกนำมาใช้
     
               “จ้อนว่าไอ้แดงซ่า”  

               “แต่ฉันว่าEจ๋าจั่น”

               ทั้งสองพากันย่องออกมาจากห้อง ค่อยๆแง้มหน้าต่างแผ่วเบา เห็นอีจ๋าจั่นกำลังเห่าอยู่ ส่วนไอ้แดงซ่าหลับไม่รู้เรื่อง ลุงจ้อนหน้าเจื่อนเดินคอตกกลับไปนอน พยายามข่มตาแล้วมันหลับไม่ลง…

               นั่นเป็นสาเหตุทำให้ลุงจ้อนต้องลุกออกมาจากห้องใหม่ เปิดตู้เย็นคว้าเบียร์กระป๋องมาซดแก้เซ็ง นึกอยากจะออกไปชมสายฝนพรำเสียหน่อย จึงเปิดประตูผาง …ไอ้แดงซ่าตกใจ เห่าขึ้นเป็นฟืนเป็นไฟ ตรงข้ามกับอีจ๋าจั่นกลับเดินสั่นหางเข้ามา ลุงจ้อนค้อนไอ้แดงซ่าตาคว่ำ แล้วด่า…

               “ไอ้เวร! เดี๋ยวพ่อเตะกลิ้ง ทีเมื่อกี๊เสือกไม่เห่า”
     
    ++++++++++++++++

                เงินบำนาญแต่ละเดือนของลุงจ้อน เจ๊จันไม่เคยเข้าไปก้าวก่าย มีแต่ลุงจ้อนกลับชอบก้าวก่ายเงินเจ๊จัน ยังไม่ถึงสิ้นเดือนเป็นต้องขอเงินใช้ประจำ แต่หล่อนก็ให้ทุกครั้งไป แม้จะมีเสียงค่อนแคะติดปลายตามมาบ้างเป็นธรรมดา สิ่งที่เจ๊จันอดห่วงไม่ได้ คงจะเป็นเพื่อนลุงจ้อนชื่อลุงสิทธิ์ อดีตนายทหารรุ่นเดียวกัน รายนั้นลูกเมียไม่มีใช้ชีวิตเป็นหนุ่มเพลย์บอย เริ่มมีเสียงหนาหูแล้วว่าลุงสิทธิ์ชอบชวนลุงจ้อนไปเที่ยวฝั่งตรงข้าม มีร้านอาหารหลบมุมสลัว ให้บรรดาผัวเมียเผลอไปเจ๊าะแจ๊ะที่นั่น

               เย็นวันนี้เมฆฝนครึ้มดำ ลุงจ้อนนัดกับลุงสิทธิ์ไว้จะไปเล่นเกมเพลย์สเตชั่นด้วย เป็นเกมทหารตะลุยด่าน ลุงสิทธิ์ได้มาใหม่ จึงมาขอเจ๊จันออกไป หล่อนก็ใจดีอนุญาต แต่คาดโทษไว้อย่างหนึ่ง

               “อย่าให้ฉันรู้ว่าพี่โกหก แล้วไปกกอีหนูฝั่งโน้น ถ้าเงินหมดไม่ต้องมาขอนะ ฉันจะไม่ให้อีกแล้วแต่นี้ไป”

               คำคาดโทษยังก้องอยู่ในหูลุงจ้อน  ขณะเดินไปบ้านลุงสิทธิ์อยู่ปากซอย โดยไม่ลืมแวะซื้อเบียร์ไปด้วย

               ทั้งสองลุงเริ่มเล่นเกมกันออกรส ทั้งอินและออกแอ๊คชั่นไปครบ เหมือนกับตัวเองเข้าไปอยู่ในสนามรบจริงๆ

               “มึ-ไปไกลๆตีนเลย” ลุงจ้อนว่าหน้าเครียด เมื่อเห็นลุงสิทธิ์จะมาแย่งกระสุนปืน จากข้าศึกที่แกยิงได้ ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี จนมาถึงสเตจโบนัส เป็นการยิงสัตว์ป่ามีตั้งแต่สัตว์เล็กไปถึงสัตว์ใหญ่ สิ่งที่ได้จากการยิงเป็นปืนกับกระสุน  จะเรียงจากประสิทธิภาพน้อยไปหามากเช่นเดียวกัน  เพื่อไว้สู้กับหัวหน้าใหญ่ของข้าศึก

    “Eช้างน้ำเอ๊ย…” ลุงจ้อนบ่นอย่างเสียดาย ที่เห็นช้างป่าตัวใหญ่ยักษ์ โผล่ร่างออกมาแล้วผลุบหายเข้าป่าไปอีก แกกดจอยยิงไม่ทันเลยอดได้บาซูก้า

               กว่าสองเกลอจะเล่นเกมจนชนะ ปาเข้าไปสามทุ่มเศษ เบียร์หมดไปสี่ขวดเริ่มมึนๆ ลุงสิทธิ์จึงชวนลุงจ้อนไปต่อร้านอาหารฝั่งตรงข้าม แม้ฝนเริ่มตกพรำๆหาได้เป็นอุปสรรคไม่ หนุ่มเหลือน้อยทั้งคู่ตรงเข้าร้านอาหารแสงไฟสลัว มีป้ายชื่อร้านตัวใหญ่เขียนว่า ‘สวนอาหารกิ๊กกี๋’

              สาวสวยหมวยผอมนางหนึ่ง แต่งกายวาบหวิวนุ่งน้อยห่มน้อย กางเกงเอวต่ำสมัยนิยมขาสั้นกุด มันจะหลุดมิหลุดแหล่ ส่วนด้านบนเป็นเสื้อเอวลอยสูงตัวกระจิ๋ว  เผยให้ลูกค้านับซี่โครงเล่นได้ถ้าเอาไฟฉายส่อง หล่อนตรงเข้ามากอดแขนลุงจ้อน ตบยุงให้แล้วซบไหล่ ออดอ้อนขอดริ้งกับพวงมาลัย ลุงจ้อนก็จัดให้ตามแบบลุงสิทธิ์ ซึ่งกำลังนัวเนียกับขาประจำอยู่

               พอได้คืบจะเอาศอก สาวหมวยเริ่มพรรณนาถึงความขัดสนเงินทองเป็นฉากๆ อยากให้ลุงจ้อนเป็นผู้อุปการะในคืนนี้
     
               “นะเฮียนะ ช่วยหน่อยซี…”  สาวหมวยลากเสียงยาว ดวงตาพราวด้วยจริต

               “ร้อนเงินหรือจ๊ะหมวยจ๋า…” ลุงจ้อนไม่เบาเหมือนกัน ยืมไดอะล่อกโฆษณาชิ้นหนึ่งมาใช้

               “อืมห์….” สาวหมวยพยักหน้ารับ

               “ถ้าร้อนเงิน ไปหาพี่สิทธิ์เขานะจ๊ะ เฮียไม่มีตังค์”

               เจอมุขนี้เข้าไป สาวหมวยหน้าหงิก แขนลุงจ้อนที่เคยกอดตบยุงให้ ก็ปล่อยมันกินเลือดจนท้องเป่ง ก่อนสะบัดก้นไปไม่กลับมาอีก เดือดร้อนถึงลุงสิทธิ์ ต้องขอเวลานอกกับสาวขาประจำ เพื่อคุยกับเพื่อนตามลำพัง ถึงรู้เจ๊จันคาดโทษลุงจ้อนไว้ ลุงสิทธิ์ส่ายหน้าเอือมระอาเพื่อนเหลือทน ยุไม่เคยขึ้นสักที ผสมกับความมึนจึงโพล่งออกไป

               “เป็นผู้ชายประสาอะไรของมึ-วะ กลัวเมีย”

               ลุงจ้อนรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าเข้าฉาดใหญ่ ตาลุกด้วยความโกรธ เลือดลมฉีดพล่านทั้งยังมึนๆอยู่ด้วย ชี้หน้าเพื่อน

               “ไอ้สิทธิ์ มึ-ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้!”

               “กรูไม่ถอนจะทำไม ก็มึ-กลัวจริงๆนี่หว่า”

               ความอดทนขาดผึง ลุงจ้อนตบโต๊ะปังทะลึ่งพรวดพร้อมประกาศลั่น ไม่สนใจใครจะมองมาบ้าง  

               “กรูไม่กลัวเมียโว้ย แต่เมีย…ไม่กลัวกรู”  
     
    +++++++++++++++++

               เจ๊จันผุดลุกผุดนั่งนอนไม่หลับ ชักหงุดหงิดปนเป็นห่วงที่ลุงจ้อนยังไม่กลับ เวลาล่วงสี่ทุ่มไปแล้วฝนยังตกพรำๆ น่าจะได้นอนกรนอย่างเป็นสุข กลับต้องมานั่งทุกข์กังวลอยู่นี่ หรือว่าลุงจ้อนแอบไป ‘กิ๊ก’ สาวๆร้านอาหารฝั่งโน้น ฮึ่ม! มาเมื่อไหร่แม่จะแพ่นกบาลให้แยก มิน่าล่ะเงินบำนาญยังไม่ทันไร เดี๋ยวหมดเดี๋ยวมาขอ

               คิดเองเออเองเสร็จ ลุกจากเตียงไปเปิดไฟ มองตู้ลิ้นชักส่วนตัวของลุงจ้อน ไม่เคยคิดจะเข้าไปยุ่มย่ามเลยสักครั้ง แต่คราวนี้อดใจไม่ไหว เอากุญแจสำรองมาเปิด รื้อค้นอยู่ครู่ก็พบสมุดบัญชีของลุงจ้อน ปรากฏเงินในบัญชีอุตส่าห์สะสมมาสมัยรับราชการหายหมด  นี่คงเอาไปปรนเปรอแม่สาวๆจนเกลี้ยงล่ะสิ

               ใจเจ๊จันเดือดปุดๆ พยายามข่มไว้รื้อค้นต่อ พบสมุดบัญชีเก่าๆอีกเล่มอยู่ด้านในสุด คล้ายจะซ่อนกลายๆ คิ้วของเจ๊กระตุกเข้าหากัน เมื่อเห็นชื่อตัวเองเป็นเจ้าของ จึงนึกขึ้นได้ว่าเป็นของหล่อนที่เคยคิดว่าตกหายตอนย้ายมาอยู่บ้านใหม่ มีเงินอยู่ไม่กี่ร้อยบาท พอเปิดดูตัวเลขเงินในบัญชีถึงกับอึ้งไปนาน อารมณ์เดือดก็เหือดหาย  เพราะเงินในบัญชีลุงจ้อนได้โอนเข้าบัญชีนี้ทั้งหมด ยังมีฝากประจำให้อีกทุกเดือนจากเงินบำนาญของลุงจ้อน เจ๊จันถึงเข้าใจอะไรๆตอนนี้เอง

               เสียงลุงจ้อนเอ็ดตะโรไอ้แดงซ่ากับอีจ๋าจั่นอยู่หน้าบ้าน เจ๊จันรีบเก็บของเข้าตู้ลิ้นชัก ปิดไฟนอนครุ่นคิดหนัก…  

               ลุงจ้อนใช้เวลาอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเปียกไม่นาน กลับมาอยู่ในชุดเสื้อกล้ามกางเกงแพรชุดเก่ง เดินโงนเงนเข้ามาล้มแปะที่เตียง นอนตะแคงกอดหมอนข้างหันหลังให้

               เจ๊จันยังคงนอนกระพริบตาปริบๆ เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จึงตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิต พลิกตัวหาลุงจ้อน

               “พี่จ้อน คืนนี้จันหน๊าว…หนาว กอดจันหน่อยซี” เจ๊จันฉอเลาะ

               “……”  เงียบ ไม่ได้ผล งั้นลองใหม่

               “คืนนี้บรรยากาศดีนะพี่จ้อน ฝนตกพรำๆเหมือนวันเก่าๆเลย”

               “มึ-ไปไกลๆตีนเลย” ถูกสวนกลับอย่างนี้ เจ๊จันนึกเคือง

               “พี่จ้อน…” เรียกเสียงเรียบ ชักหมดอารมณ์

               “Eช้างน้ำเอ๊ย…” เสียงลุงจ้อนดังมารอบนี้ เจ๊จันสุดจะทน แยกเขี้ยวเคี้ยวฟัน ว่าอย่างอื่นพอทนได้ แต่อย่างนี้รับไม่ไหว

                “ไอ้จ้อน มึ-…”

                โครม…! โครม…!

               ลุงจ้อนเอ๊ย…ลุงจ้อน อินกับเกมเสียจนเอามาละเมอ เลยเจอเข้าไปเต็มๆ.

    ****************
    นานๆมาที ตั้งใจจะมาถี่ๆไม่ได้สักที แล้วเจอกันใหม่ครับ

    จากคุณ : พรพชร - [ 14 ก.พ. 50 00:18:25 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom