น้องใหม่
ฝากเนื้อฝากตัวด้วย -/l\-
รบกวนคนอ่านช่วยคอมเม้นท์กันด้วยนะ
เป็นงานเขียนที่เคยเขียนสมัยเรียนมอปลาย (เอ่อ..หลายปีแล้วนะนั่น) แล้วก็เขียนไม่จบ
แต่เป็นเรื่องที่อยู่ในใจเรื่อยมา
อยากให้ช่วยแสดงความคิดเห็นกันจะได้นำไปปรับปรุงได้ถูก ขอบคุณมากๆ
ผมพบ เธอ ครั้งแรกในวันที่สายลมหนาวของฤดูเริ่มพัดเข้ามาสัมผัสทักทาย ณ ร้านหนังสือเจ้าประจำของผมซึ่งมีมุมกาแฟเล็กๆ อยู่ที่ชั้นบน เธออยู่ที่โต๊ะตรงบริเวณริมระเบียงซึ่งยื่นไปในแม่น้ำ ในมือมีหนังสือเล่มหนึ่ง- -และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผม สะดุด ตาเธอ ด้วยหนังสือเล่มนั้นจัดเป็นหนังสือสุดโปรดอันดับต้นๆ ของผม เจ้าตัวซ่อนร่างเล็กบอบบางไว้ด้วยเสื้อคอบัวแขนตุ๊กตากับกระโปรงยาวลายดอกไม้เล็กๆ สีหวาน รองเท้าส้นเตี้ยมีสายพันร้อยรัด บนโต๊ะมีถ้วยชาที่กรุ่นไอชายังระเหยเต้นระบำอยู่เหนือถ้วยสีน้ำตาลแดงนั้น เค้กหน้าส้มเพิ่งโดนทานส่วนมุมไปเล็กน้อย ใบหน้าด้านข้างทำให้ผมเห็นแก้มขาวเนียนละเอียดที่แดงด้วยเลือดฝาด ยังคงยุ้ยในแบบสาวน้อยที่เพิ่งเติบโต ปากแดงเม้มนิดๆ ดวงตาจดจ้องหนังสือตรงหน้าอย่างตั้งอกตั้งใจ
ผมเดินเสไปที่เคาน์เตอร์ บุ้ยปากไปที่สาวน้อยคนนั้น
ใครน่ะพี่อ้าย?
เด็กแถวนี้ล่ะมั้ง พี่ก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ทำไม? งอนเหรอที่เค้าแย่งโต๊ะประจำเราน่ะ..หือม์? เจ้าของร้านคนสวยเย้ายิ้มๆ ก่อนถาม วันนี้ดินเอากาแฟกับพายบลูเบอรี่เหมือนเดิมใช่มั้ย?
ครับ
ผมรับคำ ก่อนเลือกไปนั่งโต๊ะที่หน้าประตูซึ่งอยู่ใกล้กับบันไดแทนและเริ่มต้นอ่านหนังสือที่เพิ่งซื้อมา...
ผมจมอยู่กับหนังสืออยู่เนิ่นนานจนกระทั่งเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เด็กสาวคนนั้นก็ไม่อยู่แล้ว...
ในวันเสาร์ของสองอาทิตย์ถัดมาผมกลับไปที่ร้านนั้นอีกครั้ง หลังจากได้หนังสืออย่างที่ตั้งใจแล้วผมก็ขึ้นไปยังมุมโปรด รอยยิ้มสดใสพร้อมคำทักทายดังขึ้นมาทันทีที่ผมก้าวไปถึงชั้นบน
ไงดิน มาซื้อเล่มใหม่ของชาติเหรอ?
ครับพี่ ขอบคุณนะครับที่โทร.ไปบอก
ไม่เป็นไร โทร.ไปบอกแล้วพี่ขายหนังสือได้อีกเล่ม คุ้มจะตาย พี่อ้ายหัวเราะเบาๆ ก่อนบุ้ยปากไปอีกทาง เด็กคนนั้นมาอีกแล้วนะ มานั่งนี่ทุกเสาร์เลยเนี่ย
สาวน้อยคนเดิมยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะประจำของผม เธอสวมเสื้อคอเต่าสีขาวนวล กระโปรงยาวโทนครีมอ่อน และรองเท้าเปลือยส้นเตี้ย ครั้งนี้มีเพียงถ้วยชาอยู่บนโต๊ะพร้อมกับหนังสืออีกเล่มหนึ่ง เจ้าตัวเท้าคางหันออกไปที่แม่น้ำ ดวงตาเรียวที่มีขนตาเป็นแพมองไปไกลๆ ราวกับกำลังอยู่ในภวังค์
น่ารักดีนะดิน
เอ่อ..ครับพี่ ผมรับคำอัตโนมัติก่อนเดินไปที่โต๊ะอีกตัว เหลือบมองเธอก่อนก้มหน้าสู่หนังสือในมือ
พักใหญ่ทีเดียวร่างบางในชุดขาวก็ปรากฏอยู่ที่ปลายสายตา เธอกำลังจ่ายเงินและคุยอยู่กับพี่อ้าย ก่อนหันกายเดินออกไป--ไม่รู้ว่าตาผมฝาดหรือเปล่า แต่ราวกับจะเห็นรอยยิ้มน้อยๆ จากปากอิ่มแดงนั้น ผมกำลังจะอ่านหนังสือต่อทว่าร่างสูงคุ้นตาก็มานั่งที่เก้าอี้ตรงกันข้ามเสียก่อน
เป็นไงเล่มนี้?
ก็ดีครับพี่ ปกติหนังสือของเค้า ดินก็ไม่ค่อยผิดหวังอยู่แล้ว ผมระบายยิ้มบางๆ ให้คนตรงหน้า ยังไงดินก็คงต้องตามอ่านต่อไปล่ะครับ พี่อ้ายอย่าลืมโทรบอกด้วยละกันเวลามีเล่มใหม่ของเค้ามา
จ้า พ่อลูกค้าวีไอพี คนตรงหน้ากึ่งเย้ากึ่งขำ แต่ก่อนที่พี่อ้ายจะพูดอะไรต่อเจ้าตัวก็ต้องรีบลุกไปเมื่อมีลูกค้าอีกคนมา ผมจึงไม่ทันได้ไถ่ถามว่าเธอคนนั้นคุยอะไรกับพี่อ้าย แต่ก็นั่นหละ- -มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรนักหรอก...
หลังจากวันนั้นผมก็ไม่ได้ไปที่ร้านอีก จนกระทั่งวันเกิดผมที่คราวนี้น้องสาวตัวดีเจ้ากี้เจ้าการให้จัดงานเลี้ยงเล็กๆ ที่บ้าน ทั้งที่โดยปกติเรามักจะไปฉลองอะไรกันเฉพาะในครอบครัว แต่คนต้นคิดอ้างว่า เนื่องจากปีนี้ผมกำลังจะพ้นการเรียนในระดับมัธยมแล้วจึงควรจัดงานเป็นการพิเศษและจะได้เป็นการอวด พี่ชาย กับเพื่อนๆ เธอด้วย
แล้ววันนั้นเองที่ผมก็ได้พบกับ มีน เป็นครั้งที่สาม คราวนี้เธอใส่ชุดแส็คลูกไม้สีขาว ที่บ่ามีสายเล็กๆ ผูกไว้ทั้งสองข้าง ผ้าคลุมไหล่สีฟ้าอ่อนถูกพันไว้รอบคอและปล่อยบางส่วนให้ปิดไหล่ขาวเนียน ผมยาวสลวยของเจ้าตัวถูกรวบไว้ด้วยลูกไม้แบบเดียวกับชุด ช่อลิลลี่แซมด้วยยิปโซซึ่งถูกผูกเข้าช่อไว้ด้วยผ้าลูกไม้สีขาวลายดอกเขียวอ่อนจางยื่นมาให้- -ราวกับจะรู้ว่า..ดอกไม้สองชนิดนี้เป็นดอกไม้โปรดอันดับต้นๆ ของผม
สุขสันต์วันเกิดค่ะพี่ดิน เสียงหวานใสสมตัวอวยพรโดยไม่สบตา ผมกล่าวขอบคุณทว่าไม่ได้พูดอะไรต่อ เจ้าตัวจึงแยกไปกับกลุ่มเพื่อน และด้วยที่วันนั้นเพื่อนของผมที่มาร่วมงานเองก็ไม่ใช่น้อย ดังนั้นผมจึงไม่ได้ใส่ใจกับเพื่อนๆ ของน้ำนัก
ไงพี่ดิน มีนน่ารักมั้ย? ร่างเล็กเปรียวที่เข้ามาในห้องพร้อมประโยคคำถามนั้นทำให้ผมซึ่งกำลังจะเอนตัวลงนอนแล้วต้องลุกขึ้นนั่ง
อะไรเนี่ย นึกไงมาถามพี่เนี่ยเรา?
ก็..เปล่า ก็อยากรู้ว่าเพื่อนใหม่ของน้ำน่ารักมั้ย ยายน้ำเดินมานั่งที่ข้างเตียงพร้อมกับเสหยิบหนังสือของผมขึ้นมาดู แล้วพี่ดินว่าน่ารักเปล่าเล่า?
ก็...น่ารักดี
มีนเค้ายังโสดอยู่นะพี่
อะไรเนี่ย..จะเป็นแม่สื่อหรือไงน้ำ?
ก็..แหม มีนเค้าน่ารักดี ตั้งแต่เค้าย้ายเข้ามานี่ก็มีน้ำนี่แหละเป็นเพื่อนสนิท เค้าไม่ค่อยมีเพื่อนหรอก มีนเค้าเป็นคนเงียบๆ น่ะ แต่นิสัยดีนะ เรียบร้อยเชียว หนุ่มๆ ในห้องนี้เพ้อกันเป็นแถว
ย้ายโรงเรียนมาเทอมสองอย่างนี้เลยเหรอ? แล้วเค้าย้ายมาจากไหนหละ?
ก็ย้ายมาตั้งแต่ปลายเทอมที่แล้วน่ะ เห็นว่าย้ายตามพ่อมา พ่อน้ำเค้าหย่ายยยน่ะ เลยไม่มีปัญหา เจ้าตัวเปิดๆ หนังสือในมืออย่างไม่มีอะไรทำมากกว่าจะสนใจจริงจัง ก่อนจะโยนลงไปที่พื้นห้อง มะเหงกงามๆ จึงได้เคาะไปที่หัวเล็กๆ นั้น
โอ๊ย! อะไรเนี่ยพี่ดิน?
บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าโยนหนังสือพี่ เดี๋ยวเป็นรอยหมด
โหย..คนอะไรรักหนังสือมากกว่าน้อง ป่านนี้ถึงไม่มีแฟนซะทีไง เจ้าตัวบ่น พร้อมกับคลำหัวป้อยๆ
พี่ไม่เจอคนที่ใช่ต่างหาก ผมยักไหล่ ของอย่างนี้พี่ไม่ได้เดือดร้อนต้องไขว่คว้านี่ ถึงไม่มี ชีวิตพี่ก็ยังมีความสุขกับการอ่านหนังสือ มีเพื่อน ดูหนัง อะไรของพี่ไปเรื่อยเปื่อย ชีวิตคนเรามีอะไรอีกเยอะนอกจากการมีแฟนนะน้ำ
โอ๊ย! พอๆๆ เหอะพี่ น้ำไม่มีตังค์มาติดกัณฑ์เทศน์พี่ดินหรอก ว่าแต่... น้ำทำตาเจ้าเล่ห์ ตกลงมีนถูกสเป็คพี่ดินมั้ยอ้ะ?
เฮ้ย! ถามอะไรอย่างนี้เนี่ยเรา? ถ้าถามว่าน่ารักมั้ยพี่ก็ว่าน่ารักดี แต่จะมาคาดหวังโน่นนี่น่ะ อย่าได้คิดไปก่อนเชียว
จ้า ไม่หวังก็ไม่หวัง น้ำก็อยากรู้แค่นี่แหละ ร่างเปรียวลุกขึ้นยืนก่อนหันมาด้วยใบหน้าทะเล้น ถ้าเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ก็บอกน้ำด้วยแล้วกัน ยินดีเสมอสำหรับเพื่อนรักและพี่ชายที่แสนดี
จบประโยคน้ำก็วิ่งตื๋อออกไป ผมหันกลับไปมองช่อดอกไม้ที่เอามาใส่แจกันบนโต๊ะก่อนจะนึกถึงหน้าคนให้ นี่เจ้าตัวจะรู้ไหมหนอ..ว่าโดนใครเจ้ากี้เจ้าการขนาดนี้...
จากคุณ :
มีนเมษ
- [
14 ก.พ. 50 11:44:13
]