ความเหงาในร้านดอกไม้
มองตู้ดอกไม้สะท้อนถึงการเดินทางผู้คนในเมือง
ในหน้าร้อนของเดือนเมษา
เวลาเช้ายันค่ำ
หนุ่มสาวมากมายต่างเดินผ่านร้านฉันไป
โดยมิได้หันมองมาที่ร้านฉัน
แม้กระทั่งคนที่ฉันรู้จัก
เขาก็จะจ้ำอย่างรวดเร็ว
ด้วยสายตาที่แลไปเพียงข้างหน้า
หรือว่าใจเธออาจจะหยุดพักอยู่ ณ ที่ใด
กับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง
พักมองด้านซ้ายหรือขวาบ้างนะ
พวกเขาไม่เคยหยุดมองความสวยงาม
ที่อยู่ในตู้ดอกไม้เลยหรือ
หรือว่า ดอกไม้ที่ฉัน ละเมียดกับการจัดด้วยความตื่นเต้น...จะเหมาะแต่เพียงกับปริศนา..ของผู้รับกระเช้าดอกไม้เยี่ยมไข้
อาจจะเหมาะแค่การตั้งบนโต๊ะข้างๆเตียงคนไข้
ที่นอนจมทุกข์ที่ใดสักแห่ง เพียงเท่านั้น.... เท่านั้นนะหรือ
ที่จะได้สบโอกาสเชยชมความสวยงามของดอกไม้
ยามเมื่อเธอไม่มีใคร
ยามเมื่อเธออาจจะต้องอยู่เดียวดาย
กับสายตาที่เพ่งมองเพดานของโรงพยาบาล
แล้วนึกถึงวันคืนที่เธอได้แต่มุ่งไปข้างหน้า ด้วยสายตาที่อ่อนล้าแลเลื่อนลอย
อย่าลืมหันมองดูซ้ายและขวา
ให้เท่าเทียมกันด้วยนะ
ในร่างกายของเราดูเหมือนว่าจะมีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ไม่จำเป็นสำหรับเรา
อย่ารอให้สิ่งเล็กๆข้างขวาต้องเจ็บช้ำ
แล้วค่อยนึกถึงความสะดวกสบายของข้างซ้าย
และเมื่อไรที่เธอเริ่มแลเห็นเท่าๆกัน
ใช่แต่เพ่งเพียงทางข้างหน้าเท่านั้น หรือหนหลังในอดีต
เธอก็จะมองเห็นคนข้างๆ
ในเงาของกระเช้าดอกไม้ที่ตั้งวางเคียงเธอ
แต่อย่ารอให้ถึงวันนั้นวันที่เธอต้องเจ็บป่วยหรือวันที่เธอไม่มีใคร
เพราะเงาของคนนั้นจะมีได้
ก็อาจต้องอาศัย กระเช้าดอกไม้ ตั้งวางเคียงข้างก่อน
แล้วเธอมั่นใจได้อย่างไรว่าเธอจะได้รับมัน.......
และจงจำไว้ว่าความสดชื่นของดอกไม้มันไม่อยู่กับเธอนานนัก
และฉันก็ไม่อาจจะเรียกร้องให้ผู้คนที่เดินผ่านไป
ผ่านมา ดูดอกไม้ที่สั่นไหว
ยามเมื่อฉันมองดอกไม้ในตู้กระจก
ความใสของกระจกช่วยส่องสะท้อนฉากการเดินทางของผู้คนในเมือง
และเมื่อเพ่งพินิจให้ได้องศาที่เหมาะสม
ฉันก็จะเห็นเงาสะท้อนกลับมาคือตัวฉันเอง
มีฉากหลังคือดอกไม้หลากสี เบ่งบาน
ความเหงาในร้านดอกไม้จึงวนเวียนย่ำอยู่
ในท่ามกลางผู้คนที่ผ่านไปมา
มีเพียงฉันนั่งรอ....ริดกลีบดอกที่เหี่ยวเฉา
สลับกับฉากการเดินทางของผู้คนมากมาย
..........เพียงลำพัง
ในเมืองที่เร่งเร้า
ฉันว่าเราอาจต่างก็เหงาเหมือนๆกัน แคสเปียร์ 27พ.ค.46
บทบันทึกนี้ฉันได้บันทึกมาตั้งแต่ปี46
ในร้านดอกไม้ที่สยาม.....ตอนนั้นฉันทำงานเป็นช่างจัดดอกไม้...
จากคุณ :
จ็อบ
- [
21 ก.พ. 50 04:08:28
]