Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เรื่อง ดีใจร้าย บทที่ 1 เส้นทางที่ต้องเดิน (เรื่องสั้น)

    เส้นทางที่ต้องเดิน

         เช้าวันนี้พารนขับรถมาถึงบริษัทแต่ 8โมงเช้า เหมือนทุกวัน บ้านกับบริษัทที่พารนทำอยู่ห่างกันเพียง 6 กิโลเมตร ทำให้พารนไม่ต้องรีบตื่นและออกจากบ้านแต่เช้ามืดเหมือนคนอื่นๆ ที่ต้องแข่งขันดิ้นรนกันไปตั้งแต่ยังไม่สว่าง  ซึ่งที่ทำงานพารนเข้างาน 8 โมงครึ่ง

          ดูเหมือนว่าชีวิตเขาอยู่อย่างสบาย  เพื่อนฝูงและญาติพี่น้องต่างมองพารนว่าเป็น คุณชาย   มีพร้อมหมดทุกอย่าง และไม่เดือดร้อนอะไร พ่อแม่ของเขาเป็นข้าราชการบำนาญ เกษียณแล้วอยู่ที่บ้าน

          พารนมีพี่สาวอยู่อีกคน ดูเหมือนว่าพี่สาวอยู่กับพ่อแม่ เพื่อช่วยดูแลท่านทั้งสอง ประกอบกับพี่สาวของพารนสุขภาพไม่ค่อยดี ร่างกายไม่แข็งแรง เจ็บป่วยอยู่เสมอ พอเรียนจบแล้ว พ่อแม่จึงให้ช่วยดูแลเรื่องค่าเช่าซึ่งเป็นกิจการของครอบครัวและเรื่องภายในบ้านแทน

           แน่นอนละด้วยเหตุที่ทางบ้านพารนมีฐานะ พารนเป็นลูกชายคนเล็ก และคนเดียวของครอบครัวย่อมมีแต่คนเอาใจมาตั้งแต่เด็ก จึงไม่น่าแปลกใจที่ดูเหมือนว่าเขาไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย

          “สวัสดีคะ พี่พารน” น้องลีที่เป็นลูกน้องของพารนทักทาย เช้านี้ก็เหมือนกับทุกวัน พารนจะเข้ามาที่โต๊ะทำงานเพื่อเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ เตรียมดึงข้อมูลทำงานออกมา พารนเป็นผู้จัดการฝ่ายขายของบริษัท จึงต้องเข้างานแต่เช้าเพื่อนำข้อมูลเตรียมการประชุมกับฝ่ายขาย

          “สวัสดีครับ พี่พารน เจ้านายขับรถตามผมมาติดๆเลย วันนี้ ยังไม่ทันหายใจเลย มาแหละ” น้องเส เป็นหน่วยสนับสนุนฝ่ายการขายด้าน IT “ก็แน่ละ มาให้มันแต่เช้ากว่านี้หน่อยสิ จะได้หายใจทัน” พารนต้องการให้ลูกน้องของตัวเองไม่ต้องถูกตำหนิจากเจ้านาย
     
          ที่ผ่านมาพารนถูกเจ้านายตำหนิเรื่องการมาสายของลูกน้อง และการทำงานของลูกน้องที่ไม่มีประสิทธิภาพ  พารนพยามดึงลูกน้องให้ทำงานอยู่ที่บริษัท มากกว่าที่ต้องการให้ลูกน้องจากไปที่อื่น  แต่กลับถูกกดดันจากเจ้านายที่ไม่เข้าใจลูกน้อง และกดดันโดยการเรียกเข้าไปต่อว่าอยู่เป็นเนื่องนิจ  พารนเองก็โดนกดดันเรื่องยอดขาย เพราะที่ผ่านมาพารน ยังทำยอดขายไม่ได้ตามที่เจ้านายต้องการ
     
          “ที่บริษัทนี้ ผู้จัดการฝ่ายขายเข้าออกกันเป็นว่าเล่นเลย” น้องเส ผู้ซึ่งอยู่ทีบริษัทแห่งนี้มานานเล่าให้ฟังตอนที่สนทนาเรื่องของบริษัท น้องเสอธิบายว่าบริษัทนี้เอาเปรียบมากเกินไป และไม่เคยฟังลูกน้องเลย แถมเจ้านายเองก็มาจากพนักงานขายมาก่อน บริหารงานไม่เป็นเพราะนโยบายที่ไม่แน่นอน และบริหารบุคคลก็ไม่เป็นด้วย มีพนักงานเข้าออกบริษัทยังกับเดินพาเหรด  เขากดดันจนพนักงานรวมทั้งผู้จัดการอยู่ไม่ไหว ผ่านมาตั้ง 4-5 คนแล้ว  พารนอดคิดในใจไม่ได้ว่าเขาจะเป็นผู้จัดการอีกคนหรือเปล่าที่ต้องลาออก

            คนทั่วไปไม่เคยเห็นว่าพารนจะทุกข์ร้อนอะไร และไม่เคยลำบากทำให้เขาเป็นที่อิจฉาของคนอื่นๆ จริงๆแล้วพารนก็มีเรื่องไม่สบายใจหลายเรื่อง  ตั้งแต่ที่บ้าน แม่ก็ไม่แข็งแรง เป็นโรคหัวใจ เส้นเลือดอุดตัน สองเส้น ทานยาอยู่เป็นประจำ แม่เป็นศูนย์กลางของครอบครัว และญาติพี่น้องด้วย แม่เป็นคนอารมณ์ดี ยิ้มแย้มอยู่เสมอ  เขาสนิทกับแม่มาก
     
            ส่วนที่พารนไม่สบายใจอีกเรื่องก็มาจากแฟนของพารนที่กดดันพารนเรื่องหน้าที่การงาน เขาต้องการให้พารนมีความมั่นคงในชีวิต และมีเงินเพื่อสร้างครอบครัว  พารนรู้ว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาแต่งงาน ขอให้คนรักรอต่อไปอีกหน่อย  อย่างไรพารนก็รักแฟนคนนี้

            และเรื่องที่พารนไม่สบายใจมากๆคงไม่พ้นเรื่องงานที่ทำอยู่  งานที่ทำนี้ ไม่ใช่เส้นทางเดินที่พารนตั้งใจเดินมา  พารนจบด้านการตลาด ไม่ใช่การขายโดยตรง แต่อาศัยความที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน พารนเลยลองรับงานนี้

            พารนเข้ามาทำงานตอนแรก เจ้านายไม่มีข้อมูลอะไรให้  ต้องศึกษาและรวบรวมข้อมูลเอง จากเอกสารข้อมูลของผู้จัดการคนเก่าและจากการสอบถามพนักงาน รวมทั้งแผนกช่างที่มีการทำงานร่วมกัน กว่าจะรวบรวมข้อมูลได้ก็เกือบเดือน

            และกว่าจะเริ่มต้นในการขายก็เสียเวลาไปกับแบบฟอร์มในการขายที่ผู้จัดการคนเก่าไม่เคยทำไว้อีก ทำให้พารนทำงานยากมากขึ้นกว่าเดิมในการขาย  นับเป็นเรื่องหนักใจมากของเขา

           อีกทั้งความไม่แน่นอนในเรื่องของนโยบายบริษัท ที่มีเจ้านายคอยเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา รวมทั้งความไม่แน่นอนของค่าคอมมิชชั่น และราคาขายที่เปลี่ยนอยู่เสมอ ทั้งๆที่พารนทำงานอยู่ที่นี่มาเกือบ 6 เดือนแล้ว

          “พี่พารน เจ้านายเรียกพี่น่ะ” เสวิ่งเข้ามาบอก
          หลังจากเจ้านายโทรมาเรียกตัวเข้าไปก่อนหน้านี้ พารนเดินไปที่หน้าห้อง เคาะประตู ได้ยินเสียงเชิญ เขาจึงเปิดประตูเข้าไปในห้องเจ้านาย

           “นั่งลงสิพารน” เจ้านายเชิญ  
           “ขอบคุณครับ”

           “เป็นไงบ้าง” ประโยคทักทายที่แสนจะธรรมดาฟังกันบ่อยไป
           “สบายดีครับ” พารนตอบกลับ พร้อมทั้งคิดในใจว่าเมื่อไรเจ้านายจะเอ่ยเรื่องที่ต้องการจะพูด

           “พี่เรียกเราเข้ามาเนี่ยอยากจะพูดกับเราเรื่องงานหน่อย”
           “งานเป็นไงบ้าง” เริ่มเข้าประเด็น

           “งานก็อย่างที่พี่ทราบ ผมรวบรวมข้อมูลเป็นเล่มให้พี่ ซึ่งไม่มีใครทำมาก่อน และผมเองเข้ามาทำ ก็ไม่มีข้อมูลมาก่อนเลย เลยทำให้เสียเวลาไปกับเอกสารเหล่านี้น่ะครับ” เขาตอบอย่างรวดเร็ว

           “บอกตรงๆนะพารน พี่ไม่ต้องการให้เราเสียเวลากับเรื่องข้อมูลเหล่านี้ งานพวกนี้ให้ธุรการเขาทำสิ” พารนคิดในใจว่าธุรการจะรู้เรื่องของสเปคต่างๆ รวมทั้งราคาได้อย่างไร ถ้าเขาไม่รวบรวมข้อมูล และมาถามเจ้านายสะเอง
     
           “พี่ต้องการยอดขาย ซึ่งเราเองก็ยังทำไม่ได้อย่างที่พี่ต้องการ” เจ้านายถามทำหน้าหัวเสีย แต่แล้วคงสังเกตสีหน้าของพารน เลยเปลี่ยนสีหน้าแล้วถามพารนเรื่องส่วนตัว

           “ช่วงนี้แม่เป็นไงบ้าง” เจ้านายเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว ทำให้คิดว่ามีแผนอะไรอีก
           “ไม่ค่อยแข็งแรงครับ ผมก็เป็นห่วงอยู่เหมือนกัน” พารนรู้ว่าเจ้านายถามไปงั้นๆละ
            เพราะที่ผ่านมาพารนก็เคยบอกเรื่องนี้ให้เจ้านายทราบ  รวมทั้งเคยขอเวลาช่วงพักเที่ยงกลับไปบ้าน เพื่อเอาปูทะเลที่ซื้อไว้ตอนเช้ากับแม่ค้าเจ้าประจำมาขายในที่ทำงาน ซึ่งแม่ชอบกลับไปให้ลูกจ้างที่บ้านทำให้แม่ทาน

           “พารนพี่มีความคิดอย่างหนึ่งว่าอยากให้เราทำงานแบบรับเป็นจ็อบๆ ไป พารนจะได้มีเวลาดูแม่ด้วยไง”
            “พี่หมายความว่าจะให้ผมออกจากงานประจำเหรอครับ” พารนย้อนถามทันควัน

            “พี่ไม่ได้ให้เราลาออกนะ เรายังคงทำงานกับพี่ต่อไปนั่นละ เพียงแต่ว่า เราไปติดต่องานให้พี่ข้างนอก และพอมีใครติดต่อพารนมา ก็มาสั่งออร์เดอร์ที่พี่ พี่จะให้ค่าคอมมิชชั่นเราไง หรือถ้าอยากได้แบบเป็นงานๆไป งานหนึ่งก็รับเป็นเงินก้อนไปเลยดีไหม”

             พารนคิดในใจว่าขนาดงานประจำ ค่าคอมมิชชั่นของลูกน้องยังไม่แน่นอนเลย แล้วอย่างนี้จะให้เรายังไง พารนเริ่มไม่แน่ใจเจ้านาย

            “พี่จะให้ผมเริ่มงานเป็นจ็อบเนี่ยเมื่อไรครับ”
            “ก็สิ้นเดือนนี้ไง เริ่มเดือนหน้าพารนไม่ต้องเข้ามาทำงานประจำแล้ว แต่เข้ามาที่บริษัท เพื่อใช้คอมพิวเตอร์ และเอาออร์เดอร์ลูกค้ามาได้ทุกเวลาเลยนะ” เจ้านายพูดเป็นเชิง และพร้อมมองหน้าพารน เพื่ออยากรู้ว่าพารนจะคิดอย่างไรกับการตัดสินใจของเขา และอยากได้รับคำตอบของพารนว่า ตกลง

            วันนี้เป็นวันสิ้นเดือนแล้ว เดือนหน้าคือพรุ่งนี้ เงินเดือนในเดือนนี้เป็นเดือนสุดท้าย และถ้าหากพารนเป็นคนที่มีหนี้สิน หรือเป็นคนที่เดือดร้อนเรื่องเงิน พารนจะทำยังดีในตอนนี้  แต่นี่เป็นพารนที่ไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่อดคิดเสียดายไม่ได้ ตามลักษณะของคนทั่วไป

            “ก็เท่ากับว่าต่อไปผมไม่ได้เงินเดือนแล้วสิครับ” พารนถามด้วยความคับข้องใจ
            “อืมม ก็ทำนองนั้น แต่พี่ไม่ได้ให้เธอออกนะ ยังคงทำงานกับพี่อยู่”
    เจ้านายพูดกำชับและเน้นย้ำประโยคว่า ไม่ได้ให้เธอออกนะ ให้พารน
    ได้ยินชัดเจน เพื่อเป็นการยืนยันในความพยายามให้พารนรู้สึกดีดีกับเขาก่อนจากกัน
            “ครับ ผมเข้าใจ” คำว่าเข้าใจของพารนหมายความอย่างนั้นจริงๆ

           พารนย่อมรู้อยู่แก่ใจแล้วว่านี่เป็นการให้ออกจากงานประจำ ในแบบนิ่มๆ และนับต่อจากนี้ไปจะไม่มีเงินเดือน ไม่มีเงินชดเชยใดๆจากบริษัทด้วย เจ้านายฉลาดที่จะพูดเพื่อไม่ให้พารนโกธรและต่อว่าเจ้านาย และที่สำคัญไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยใดๆให้กับเขา เพราะถือว่าพารนยังทำงานอยู่กับบริษัท บริษัทไม่ได้ไล่ออก หรือเชิญออก  เพียงแต่เปลี่ยนนโยบายให้ทำงานอีกรูปแบบหนึ่ง

              ความผิดของพารนในครั้งนี้ คือ พารนไม่มียอดขายให้กับเขา ที่ผ่านมาล้วนแล้วแต่เขาเอาลูกค้าที่ติดต่อพารนไปเป็นลูกค้าของเขา โดยอ้างว่าเป็นลูกค้าเก่าที่ติดต่อเขามาก่อน หรือเป็นลูกค้าที่ติดต่อทางโทรเข้ามาที่บริษัทไม่ว่าจะเป็นลูกค้าใหม่ หรือใครแนะนำมาย่อมเป็นของบริษัท เขาจะเป็นคนขายเสียเอง แล้วอย่างนี้เขาต้องการให้พารนเข้ามาเป็นผู้จัดการฝ่ายขายทำไมกัน

              เจ้านายของพารนบริหารงานไม่เป็น ไม่เคยเข้าใจหน้าที่ของแต่ละคน รวมทั้งตัวเขาเองว่าอยู่ในฐานะอะไร ควรวางตัวแบบใด  และโดยหน้าที่ของเขาควรให้นโยบายที่ชัดเจนแน่นอน การคุมนโยบายแล้วสั่งการให้ผู้จัดการแต่ละแผนกดำเนินการไปนั้นจึงจะถูกต้อง

              พารนเองก็ไม่พอใจเจ้านายเขามาตั้งแต่แรกแล้ว เขาคิดว่าหาลูกค้าเป็นรายๆไปอาจจะดีกว่านั่งประจำก็ได้

             “ก็ดีเหมือนกัน จะได้ดูแลแม่ได้ดีกว่าที่เป็นอยู่” พารนคิดปลอบใจตัวเองและคิดถึงอนาคตตัวเองตลอดทางกลับบ้านวันนั้น

              หลังจากวันนั้น พารนติดต่อลูกค้าได้หลายราย และนำเข้าไปที่บริษัท เจ้านายบอกกับพารนว่าต้องการให้พารนคุยกับเขาเรื่องค่าคอมมิชชั่น และค่าผลตอบแทน แต่เอาเข้าจริงเขาบอกว่าให้พารนเขียนค่าตอบแทนเสนอไปให้เขา โดยเอาไปวางไว้บนโต๊ะห้องทำงานเขา แล้วเขาจะพิจารณาอีกที

              ส่วนลูกค้าที่พารนติดต่อได้ ก็ให้พารนมอบให้ลูกน้องเขาช่วยทำใบเสนอราคาให้ลูกค้า  แล้วลูกค้าติดต่อมาให้พารนเป็นธุระให้ในการอธิบาย หรือคอยแก้ปัญหาให้กับลูกค้าแทนเขา

              พารนรอให้เจ้านายเรียกเพื่อคุยเรื่องที่เขาเสนอแต่เจ้านายเขาก็ไม่เคยพูดเรื่องค่าตอบแทนกับเขาอีก อ้างว่ายังไม่ว่างพิจารณา ขอให้พารนช่วยงานเขาไปก่อน

              สุดท้ายพารนคิดว่า เจ้านายเขากำลังเล่นตลก  เขาถูกเจ้านายหลอกใช้ไปวันๆ พารนเลยไม่ช่วยเจ้านายของเขาอีกต่อไป และตัดสินใจออกจากบริษัทอย่างสิ้นเยื้อใย
     
              ที่ผ่านมาถึงแม้พารนจะออกจากบริษัท โดยไม่ได้เงินเดือนประจำก็ตาม แต่เขาก็ยังถือว่าเป็นพนักงานคนหนึ่ง เขาพยายามหาลูกค้า และพยายามรักษาลูกค้าให้คงอยู่กับบริษัทเสมอมา เพื่อไม่ให้ลูกค้าไปกับคู่แข่งของบริษัท หากลูกค้ามีปัญหามาให้เขาช่วยแก้ไข เขาก็ไม่เคยปฎิเสธลูกค้าเลย ยินดีช่วยเหลือเต็มที่

              บางครั้งเขาใช้โทรศัพท์มือถือที่เป็นเงินส่วนตัวของเขา ติดต่อบริษัทหรือหน่วยงานต่างๆแทนลูกค้าของเขา เพื่อต้องการให้ลูกค้าประทับใจเขา และติดเขานั่นเอง

              แต่เจ้านายไม่เคยใยดีกับเขาเลย แม้แต่เงินค่าคอมมิชชั่นก็ไม่เคยเอ่ยกับเขาในช่วงเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เขายื่นข้อเสนอไปบนโต๊ะของเจ้านาย มีแต่เอาผลประโยชน์จากเขาแต่ฝ่ายเดียว บริษัทได้ลูกค้าจากที่เขาหามาได้แล้วหลายรายก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า

           พารนเลยตัดสินใจที่ไม่ใส่ใจอีกต่อไป เขาไม่เข้าไปที่บริษัทและไม่โทรไปหาเจ้านายอีกเลย หากมีลูกค้าโทรเข้ามาหาเขา พารนจะบอกลูกค้าไปว่าเขาลาออกจากบริษัทไปแล้ว จึงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ เพื่อเป็นการตัดปัญหาและจะได้ไม่ต้องมารบกวนเขาอีก

    แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 50 22:13:31

    แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 50 19:06:06

    แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 50 18:25:19

    แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 50 18:14:51

    แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 50 18:06:25

    จากคุณ : อนันต์สิทธิ์ - [ 27 ก.พ. 50 14:23:55 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom