อ่า..สวัสดีท่านผู้อ่าน
ปลาบปลื้มปิติ น้ำตาไหลพราก
จากครั้งที่ ๑
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5137071/W5137071.html
ที่มีผู้มาคอมเม้นท์ ๑ ท่าน (และมีมาเพิ่มอีก ๑ ท่านภายหลัง)
จวบจนครั้งที่ ๒
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5173989/W5173989.html
โอ้ววววว..มายก็อด
มีผู้สงสาร เห็นใจ (หรือเวทนาก็ไม่รู้ ฮืออออ)
คอมเม้นท์เพิ่มขึ้นอีก ๔ ท่านเป็น ๕ ท่าน
อ่า..สร้างความดีใจเหลือจะกล่าว
ต้นมะเขือที่บ้านไม่เดือดร้อนให้เราไปผูกคอตายแล้ว T^T
ขอลงครั้งที่ ๓ ต่อไปฮับ
...ว่าไงอ้ะพี่?
คำถามที่แว่วเข้ามาในโสตประสาท ทำให้ผมตื่นจากภวังค์ กระพริบตาถี่ๆ ก่อนถาม
น้ำว่าอะไรนะ?
น้ำบอกว่า ตกลงวันเกิดมีนจะเอาไง? เจ้าตัวถามย้ำ คิ้วขมวดมุ่น วันนี้พี่เป็นไรเนี่ย ใจลอยบ่อยจัง
อืมม์...น้ำว่าไงหละ?
ไรเนี่ย ไม่ได้ฟังน้ำเลยเหรอ? คราวนี้สีหน้าหงุดหงิดชัดเจน น้ำบอกว่า มีนมันอยากไปจัดงานที่ร้านพี่อ้ายน่ะ ให้พี่อ้ายทำเค้ก แล้วก็ชวนแต่เพื่อนที่สนิทๆ ไง จริงๆ มีนบอกว่าแค่น้ำกับพี่ดินแล้วก็เพื่อนพี่ดินก็ได้ แค่ไปกินไร คุยไรกันนิดหน่อยน่ะพี่ มีนมันไม่ชอบคนเยอะๆ วุ่นวายๆ น่ะ
ร้านพี่อ้ายเหรอ? จบประโยค ภาพของสาวน้อยอีกคนที่ไม่ได้อยู่ในหัวข้อสนทนากลับผุดขึ้นมาแทน จะดีเหรอ จะวุ่นวายร้านพี่เค้าไปเปล่า?
มีนบอกว่าลองไปคุยๆ ดูแล้วนะ พี่เค้าก็ดูเหมือนจะโอเคน่ะแหละ ไม่น่ามีปัญหานะพี่ เราก็ไปกันไม่กี่คน ไม่ได้ถึงกับปิดร้านเค้านี่พี่ เค้าก็ยังรับลูกค้าได้เป็นปกติ
อืมม์..ก็แล้วแต่แล้วกัน ผมตอบอย่างเสียไม่ได้
แล้วนี่พี่เตรียมของขวัญให้มีนยัง? คำถามนั้นทำให้ผมสะดุ้ง น้ำขมวดคิ้วอีกรอบ อย่าบอกนะว่าพี่ลืม อาทิตย์หน้าแล้วนะ
อืมม์...ไม่ลืมหรอก ผมปฏิเสธแม้ว่าในความเป็นจริงแล้วจะตรงกันข้ามก็ตาม ในสมองตอนนี้มันไม่มีเรื่องราวของมีนเอาซะเลยจริงๆ แต่กลับเป็นสาวน้อยอีกคนที่ผมคุยกับเธอนับคำได้และแทบไม่รู้เรื่องราวอะไรของเธอเลยแทน...
วันเกิดมีนคือวันเสาร์ถัดมานั่นเอง ไผ่ไม่ได้มาเป็นเพื่อนผมเพราะมันต้องเตรียมตัวเอนทรานซ์ อีกทั้งแม่มันก็เคี่ยวเข็ญและคาดหวังกับมันมาก โชคดีที่ผมสอบได้โควตาที่คณะและมหาวิทยาลัยที่ผมต้องการแล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องปวดหัวเหมือนที่เพื่อนส่วนใหญ่เป็นกันอยู่
ผมซื้อไดอารี่แบบที่เป็นกระดาษเปล่าๆ ไม่มีเส้นให้มีน แต่ทำปกให้เธอใหม่ โดยรวบรวมพวกข้อความต่างๆ ที่ผมชอบจากหนังสือหลายๆ เล่ม มาเขียนลงในกระดาษหลากแบบแล้วปะติดรวมกันบนกระดาษสีเขียวซึ่งเป็นสีที่มีนชอบก่อนจะนำมาห่อปกไดอารี่ ผมเป็นคนชอบทำของขวัญด้วยตัวเอง หรือถ้าหากเป็นของขวัญที่ต้องซื้อก็ต้องทำอะไรสักอย่างประกอบเข้าไปเพื่อให้เป็นของขวัญชิ้นเดียวในโลกเสมอ
วันนั้นมีนใส่ชุดแส็คสีฟ้าอ่อนกับรองเท้าสานคู่ที่ผมเคยเห็นเธอสวมมาแล้ว
ขอบคุณค่ะพี่ดิน เสียงใส เช่นเดียวกับดวงตาเป็นประกาย แผลเป็นของมีนถูกปิดด้วยผมทรงใหม่ที่แสกลงมา แต่ผมก็สังเกตเห็นว่าตัวแผลก็จางลงมากแล้ว
ตกลงทำอะไรมาทานด้วยล่ะ
ทำบลูเบอรี่ชีสพายมาค่ะ เห็นพี่ดินชอบ
หือม์? รู้ได้ไงเนี่ย น้ำหรือพี่อ้ายบอกเหรอ? ผมถามอย่างไม่ได้ใส่ใจกับคำตอบ แต่มีนกลับชะงัก หน้าแดงระเรื่อ ขณะที่ผมกำลังงงน้ำก็วิ่งตื๋อมา
อะไรกันเนี่ยแอบมาคุยอะไรกันสองคน ไปนั่งโน่นเร้ว มักกะโรนีผัดกุ้ง สลัดทูน่าแล้วก็น้ำส้มมาแล้ว ประโยคท้ายเจ้าตัวทำเสียงอวดๆ เนื่องจากอาสาไปช่วยพี่อ้ายในการทำอาหารชุดดังกล่าว
จะกินได้มั้ยเนี่ย? ผมพูดเหมือนบ่น ก่อนจะหัวเราะเมื่อเห็นน้องสาวหน้างอ พูดเล่นน่า แต่น้ำกินให้พี่ดูก่อนแล้วกันนะ
น้ำค้อนวงใหญ่ ก่อนที่เราสามคนจะไปยังบริเวณที่พี่อ้ายจัดเป็นสัดส่วนไว้ให้ตรงระเบียง หลังจากอาหารทั้งหมดถูกจัดการเรียบร้อย พี่อ้ายก็ยกเค้กผลไม้ที่ทำให้เป็นของขวัญวันเกิดมีนมาให้มีนเป่าเทียนขอพร รอยยิ้มสดใสของมีนปรากฏอยู่ตลอดงาน แต่ขณะที่ปาร์ตี้เล็กๆ ของเราจะเลิกราเนื่องจากได้เวลาที่แม่มีนจะมารับ พายก็ปรากฏตัวขึ้น
อ้าว เจ้าตัวเลิกคิ้วสูง ดวงตาพราวระยับเหมือนขบขันอะไรสักอย่าง อยู่กันพร้อมหน้าเชียว
มีนกับน้ำมีสีหน้างุนงง เพราะไม่ได้รู้จักพายมาก่อน ผมจึงต้องทำหน้าที่แนะนำ
น้ำกับมีน นี่พาย..รุ่นน้องที่โรงเรียนพี่ พาย..นี่น้ำน้องสาวพี่ นั่นมีนเพื่อนน้ำ
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะ พายยังคงยิ้มขำ และมีนก็มีทีท่าอึดอัดกับรอยยิ้มนั้น
น้ำพามีนลงไปรอแม่ข้างล่างนะพี่ พี่ดินจะลงไปพร้อมกันเลยหรือเปล่า? น้ำหันมา เสียงคาดคั้นจนผมต้องลอบถอนหายใจ
อืมม์.. จบประโยคน้ำก็กึ่งลากกึ่งจูงมีนลงไป ผมเดินตามไปช้าๆ หวังให้พายพูดอะไรสักคำ แต่เจ้าตัวกลับไม่เอ่ยปากแม้แต่น้อย...
จากคุณ :
มีนเมษ
- [
1 มี.ค. 50 14:55:14
]