 |
มงกุฎรัก เจ้าหัวใจ
บทที่1 วิวาห์ที่พลัดพราก
โครม! โครม! โครม!
เสียงเคาะประตูโครมครามไม่สามารถเรียกความสนใจของหนุ่มสาว ที่ตระกองกอดพร้อมขยับร่างกายพลิ้วไหวดุจลีลาศท่ามกลางวงดนตรีบรรเลงเพลงหวานซึ้งทั้งที่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆมีเพียงแสงสลัวจากเทียนไขเงียบกริบ จะมีก็แต่เสียงเต้นตูมตามดั่งบทเพลงที่บรรเลงด้วยหัวใจรักของทั้งสองคน
ท่าน เวสารัช เสียงข้างนอกยังเคาะประตูสีขาวบานเรียบไม่หยุด ทำอย่างกับจะให้มือนั้นทะลุแทรกผ่านเนื้อไม้เข้ามาทีเดียว
ท่านคะ หญิงสาวร่างบางในชุดราตรีสีขาวสะอาด ผมเกล้าสูงประดับด้วยดอกกุกลาบสีขาวกลีบบางน่าทะนุถนอม กล่าวเตือนชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ใบหน้าคมเข้มที่ตระกองกอดเธอไว้
ข้าอยากเข้าหอกับเจ้าก่อน เสียงนุ่มที่กระซิบแผ่วริมหู ทำเอาหญิงสาวสะเทิ้นอายใบหน้าแดงระเรื่อเพราะรู้ความหมายของคำว่า เข้าหอ ของเจ้าบ่าวได้เป็นอย่างดี
มือใหญ่ละจากเอวบางมาเชยคางมนให้สบตาเขา แล้วจุมพิตแผ่วตรงแก้มนวลที่บรรจงแต่งแต้มสีชมพูอมส้มเอาไว้อย่างสวยงาม เลื่อนมาที่เปลือกตาที่หลับพริ้มรอรับสัมผัสก่อนเลยไปถึงหน้าผากกลมกลึง ปลายจมูกเรียวเล็กและหยุดนิ่งที่ริมฝีปากอวบอิ่ม
โครม! โครม! โครม!
ท่านเวสารัช มีพระกระแสรับสั่งให้เข้าเฝ้านะ ขอรับ
ชายเจ้าของชื่อยังอ้อยอิ่งบนเรียวปากอิ่มของเจ้าสาว เขาช่างเป็นเจ้าบ่าวที่อาภัพเสียจริง แม้ในคืนวันแต่งงานทหารในบังคับบัญชายังมายืนตะโกนโหวกเหวกอยู่หน้าห้องหอ นี่แหละหนาใครๆ ที่คิดอิจฉาว่าเขาเป็นคนโปรดของพระราชา มาถึงตอนนี้น่าจะนึกสงสารเขาเสียมากกว่า สู้อุตส่าห์ส่งใบลาล่วงหน้ามาแรมเดือน พอถึงวันวิวาห์จะใช้ช่วงเวลาที่มีค่าดั่งทองคำของทุกวินาทีในคืนส่งตัวให้คุ้ม กลับมีรับสั่งให้เข้าเฝ้าเป็นการด่วน
ท่านคะ เมธาวีดันอกเขาเบาๆ เป็นเชิงเตือนและกล่าวขึ้นเมื่อริมฝีปากเธอเป็นอิสระ ใบหน้าของเขาเปรอะเปื้อนเครื่องสำอางที่เธอบรรจงแต่งแต้มบนใบหน้านวลเนียน จนดูเหมือนเด็กน้อยหน้าตามอมแมมแอบเล่นเครื่องสำอางมารดา รอยยิ้มจางๆ ปรากฏบนใบหน้าหวานก่อนหยิบผ้าผืนนุ่มขาวสะอาดมาบรรจงเช็ดให้อย่างแผ่วเบา
สัมผัสแผ่วจากปลายนิ้วพร้อมดวงตาที่เงยสบมีแววระยิบหวานชวนมอง เวสารัชไม่อยากห่างเธอไปแม้สักนาทีเดียว แต่เมื่อเขาเป็นอัศวินของพระราชา จำต้องทำตามพระบัญชา เขาถอนหายใจพรืดยาวอย่างตัดใจก่อนจุมพิตแผ่วที่หน้าผากเป็นการอำลา
ท่านคะ! เธอเอ่ยเรียกเมื่อเขากำลังจะเปิดประตูออกไป เอาผ้าคลุมไหล่ไปด้วยสิคะ ข้างนอกลมแรง ผ้าคลุมเนื้อนุ่มหนาสีดำสนิทถูกนำมาคลุมพาดให้บนบ่าผูกสายเรียบร้อยปราณีต เข็มกลัดแสดงวิทยฐานะติดทับลงไปอีกที
ขอบใจ เขาเอ่ยยิ้มๆ กับเจ้าสาวแสนสวยก่อนก้าวออกไป
เมธาวีมองตามร่างสูงสง่า ผมสีดำยาวประบ่าของเขารวบไว้อย่างเรียบร้อยด้วยเส้นหนังสีเข้ม ท่านเวสารัชของข้าช่างสง่างามยิ่งกว่าเจ้าชายแคว้นใดๆ
ผู้คนที่เบียดเสียดยัดเยียดยื้อแย่งกันออกมายืนแถวหน้า เพื่อยลโฉมสภางค์ของเจ้าหญิงพระคู่หมั้นที่เสด็จพระราชดำเนินมาประทับแรมชั่วคราวที่จาคีรัฐ ประเทศเล็กๆซึ่งได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งนักรบและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณธัญญาหาร ราษฎรอยู่เย็นเป็นสุขภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระเจ้าธฤตราษฎร์ ราชาวัยหนุ่ม ขบวนม้านำเสด็จรถม้าพระประเทียบเข้าสู่บริเวณตัวเมืองก่อนมุ่งหน้าสู่พระราชวังอันวิจิตรบรรจงเบื้องหน้า
โอ๊ย! หญิงร่างบางเซถลาเพราะแรงผลักดันของคนเบื้องหลัง ลงมานั่งหน้าเหลอหรากลางถนนที่ขบวนเสด็จกำลังจะผ่านเข้ามาเพียงเสี้ยววินาที
อัศวินหนุ่มที่ขี่ม้านำขบวนหมอบลู่ไปบนหลังม้าแล้วเอื้อมมือแข็งแรงกระชากไหล่เธอยกขึ้นอย่างเร็วก่อนที่ม้าทั้งขบวนจะฉีกร่างเธอด้วยฝีเท้าอันแข้งแกร่งและรวดเร็ว เขายังกอดเธอไว้ในวงแขนข้างเดียวพาควบมาจนถึงทางเข้าหน้าพระราชวัง ก่อนบังคับให้มาเบี่ยงหัวออกนอกเส้นทางเพียงเล็กน้อย
เวสารัชวางร่างสั่นเทาในอ้อมแขนลง แรงกระชากทำให้คอเสื้อเธอฉีกขาดเผยให้เห็นเนินเนื้อนวลเนียนแต่เขาไม่มีทางเลือก ดีกว่าปล่อยให้เธอขวางทางเสด็จและอาจเป็นอันตรายจากเกือกม้าที่ทำจากเหล็กกล้า ผ้าคลุมสีดำถูกปลดออกจากคอส่งให้สาวตรงหน้า เธอรับมาแต่โดยดีและนำมาคลุมแนบร่างปกปิดรอยขาดที่เว้าลึกอวดสายตาคนที่พบเห็น
ขอบคุณมากค่ะ เธอกล่าวพร้อมค้อมศีรษะให้ ผิวหน้าแดงระเรื่อด้วยความตกใจและขัดเขิน
ไม่มีเสียงตอบจากชายหนุ่ม เพราะเขาชักม้าให้ตามขบวนไปแล้วโดยเร็วหวังเร่งเพื่อไปอยู่หัวขบวนเช่นเดิม สองวันต่อมาหน้าพระราชวังอันวิจิตรหญิงสาวคนเดิมคอยชะเง้อคอระหง มองไปรอบบริเวณหวังรอเวลาที่เหล่าอัศวินออกเวรกลับไปยังบ้านพัก เฝ้ารอชายผู้มีพระคุณ ในมือกอดห่อผ้าเล็กๆ ไว้แน่น
ท่านเวสารัช เธอเอ่ยเรียกไม่เต็มเสียงนัก
ชายเจ้าของชื่อหันมาตามเสียง หน้าตาคมคายคิ้วเข้มหนาขมวดมุ่นเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อเขาจากสาวแปลกหน้า
เจ้ารู้จัก ชื่อข้าด้วยหรือ เขาถามยังนึกไม่ออกว่าเคยเจอสาวผิวขาวหน้าตาจิ้มลิ้มคนนี้ที่ใด
ข้าเอาผ้าคลุมไหล่มาคืนท่าน และขอขอบคุณอีกครั้งที่ท่านช่วยไม่ให้ข้าถูกม้าทั้งฝูงเหยียบตาย เธอกล่าวพร้อมส่งห่อผ้าที่กอดไว้ให้แก่เขา
เวสารัชยังทำหน้าฉงน ผ้าคลุมไหล่หรือ? แต่เขาก็รับมันมาแต่โดยดี
เมธาวีเห็นท่าว่าเขาจะจำไม่ได้ จึงเอ่ยบอกไปอีกครั้ง วันที่ท่านนำขบวนเสด็จเจ้าหญิงพระคู่หมั้น
อ้อ จำได้แล้ว เขาเอ่ยขัดขึ้นโดยที่เธอยังพูดไม่จบ ไม่เห็นต้องเอามาคืนเลย ลำบากเจ้าแท้ๆ นี่คงมายืนคอยข้าจนขาแข้งแข็งหมดสิท่า เวสารัชกล่าวยิ้มอย่างเอ็นดูเพราะเห็นเหงื่อไคลที่ไหลย้อยแสดงว่าเธอมายืนตั้งแต่แดดยังแรงอยู่
ไม่ลำบากค่ะ และจำเป็นต้องคืนท่านด้วย ก็มันของของท่าน ข้าซักและอบกลิ่นกุหลาบมาด้วยไม่ทราบว่าท่านจะชอบไหม
ข้าไม่มีปัญหากับกลิ่นใดๆ แต่คงแปลกพิลึกเสื้อผ้าของนักรบมีกลิ่นกุหลาบจางๆ ติดตัวไปด้วย เขากล่าวอย่างอารมณ์ดี เมธาวีรู้ว่าเธอทำผิดไปถนัดใช่แล้วเขาเป็นอัศวินนักรบบนหลังอาชามีหรือจะชอบกลิ่นดอกไม้หอมหวนเช่นอิสตรีเหมือนตนเอง ข้าเอากลับไปซักให้ใหม่ก็ได้ค่ะ
เวสารัชก้มลงสบตาหญิงตรงหน้านึกขันในใจ เธอทำเหมือนกับว่าเป็นความผิดร้ายแรงกะอีแค่มีกลิ่นหอมอ่อนโยนติดผ้าคุลมของแกล้วทหารอย่างเขา ทำไมต้องซักใหม่ในเมื่อเจ้าบอกว่าซักแล้ว แถมอบกลิ่นกุหลาบมาอย่างดี แสดงว่าเจ้าคงชอบดอกกุหลาบสินะ
เมธาวีพยักหน้าหงึกหงัก ข้าชอบดอกกุหลาบสีขาว กลีบมันสวยและบริสุทธิ์น่าทะนุถนอมที่สุด
เวสารัชไม่ค่อยใส่ใจเรื่องดอกไม้นัก เขาจึงไม่รู้ว่าดอกไม้แต่ละพันธุ์และกุหลาบแต่ละสีมันมีข้อเปรียบเทียบกันตรงไหนอย่างไร มือใหญ่ยกขึ้นเกาหัวจนผมยาวประบ่ายุ่งเหยิงก่อนจะสึกรู้ตัวรีบลูบๆ สางๆ ให้มันเข้าที่ เจ้าชื่ออะไรหรือ คุยกันมาตั้งนานแล้ว ข้ายังไม่รู้จักชื่อเจ้าเลย
เมธาวีค่ะ เธอบอกยิ้มขันในท่าทีที่เปลี่ยนจากนักรบผู้สง่าเป็นหนุ่มเจ้าสำอาง
จากนั้นบ่อยครั้งที่เมธาวีจะได้รับกุหลาบขาวช่อโตโดยมิได้ลงชื่อส่งมาให้ถึงบ้าน
.
.และบัดนี้ชายเจ้าของดอกกุหลาบขาวทุกช่อ
เป็นเจ้าบ่าวที่เพิ่งก้าวผ่านธรณีประตูห้องหอไป
จากคุณ :
ขุนกระบี่เจ้าน้ำตา
- [
1 มี.ค. 50 23:04:05
]
|
|
|
|
|