คุณนายเตย
บ่ายแก่ๆในเดือนกันยายนของปี 2543 งานไม่ค่อยเยอะแต่ทานขนมมากไปหน่อย เดินเอ้อระเหยจะไปเข้า ห้องน้ำ มองผ่านกระจกบานใหญ่เห็นอะไรตัวเล็กๆเดินเตาะแตะอยู่สี่ห้าตัว แน่แล้ว
ฉันวิ่งลงบันได้อ้อมไปหลังตึก ทางไปที่จอดรถ แล้วฉันก็ได้พบลูกหมาตัวเล็กๆห้าตัว น่ารักจัง ฉันเล่นกับพวกมันพักนึง นึกขึ้นได้
เวลา งานนี่ หว่า เดี๋ยวตอนเย็นเจอกันนะ
ฉันบอกพวกมัน
หลังจากวันนั้น ทุกๆเช้าฉันก็จะแวะเซเว่น ซื้อนมเมจิขวดใหญ่มาฝากเด็กๆ ผสมกับอาหารเม็ดของลูกสุนัข เหมือนซีเรียลที่เราชอบทานเลย บางทีก็ให้อาหารกระป๋อง พวกมันมาเกิดใต้ทางขึ้นที่จอดรถ ก็อาศัยอยู่ตรงนั้นมา ตลอด ฉันไม่รู้หรอกว่าคนดูแลตึกจะว่ายังไง จนเช้าวันนึงฉันเดินมาดูอาหารในชามของพวกเด็กๆแล้วก็ต้องอึ้ง พริกสีแดงที่ผ่านการทุบอยู่ในชามปนกับอาหาร เจ้าห้าตัวร้องอี๊ดๆเบาๆอยู่รอบตัวฉันเหมือนจะรายงานว่า
ดูสิเขา แกล้งพวกหนูล่ะ ฉันเสียใจ ไม่นึกว่าจะเห็นอะไรอย่างนี้ เสียความรู้สึกจริงๆ รปภ.รอบดึกเดินมาดู เขาว่าเห็น เจ้าหน้าที่ดูแลตึกเดินมา นึกว่าจะเอาอาหารมาให้เสียอีก ใจคนนะ..ใจคน
จากนั้นก็มีคนมาเลือกเอาตัวผู้ทั้งสามตัวไปเลี้ยง เหลือไว้แต่เจ้าตัวเมียสองตัว ฉันก็ตั้งชื่อให้ตามธรรมเนียม ว่า ตาลกะเตย ตาลเป็นหมาขี้กลัว ช้าๆ คอยเดินตามเตยที่วิ่งหน้าเริ่ดมาหาฉันทุกครั้งที่เห็นรถเลี้ยวเข้ามา พอเริ่มโต หน่อย เพื่อนที่เป็นสัตวแพทย์ก็ช่วยมาฉีดยาให้ ฉันถามว่าเมื่อไหร่จะทำหมันได้ เพื่อนบอกสักเจ็ดเดือนก็ทำได้แล้ว ฉันไม่อยากให้ตาลกะเตยเหมือนหมาข้างถนนที่ท้องแล้วท้องอีก นมก็ยานโตงเตง พอเจ็ดเดือนฉันเอามาพาเจ้าสองตัว ไปทำหมันที่คลินิกของเพื่อน เจ้าตาลเจอยาสลบเข็มเดียวก็จอด แต่ยัยเตยเพื่อนบอกซ่าส์มากต้องสองเข็มถึงนิ่ง
สองอาทิตย์ผ่านไปฉันก็ต้องพาทั้งสองตัวกลับมาที่ออฟฟิศ รปภ.บอกคนดูแลตึกนึกว่าฉันเอาไปเลี้ยงแล้ว ทำไมฉันจะไม่อยากเอาไป แต่ที่ที่อยู่เลี้ยงไม่ได้นี่นา ฉันเลี้ยงตาลกะเตยด้วยอาหารเม็ดเพ็ดดีกรี เลยไม่ต้องห่วงว่า มันจะอด แต่กว่าจะทานทีก็ต้องง้องอน ตาลหน่ะวิ่งมาหาดีดี แต่ยัยเตยกว่าจะยุรยาทมาได้ จนฉันต้องเรียก (แกม อ้อนวอน) คุณนายคะช่วยมาทานทีเถอะค่ะ มันถึงค่อยยุรยาตรมาได้ ในซอยมหาดเล็กหลวงสองของถนนราชดำริ ใครๆก็รู้จักเจ้าสองตัวนี้ บางคนก็ใจดีเอาไก่ย่างมาฝาก มันเป็นที่รักของทุกคน เพราะฉันจะอาบน้ำให้บ่อยที่สุดเท่าที่ จะทำได้ ก็อาบตอนพักเที่ยงนั่นแหละ อาบเสร็จก็เดินจูงให้มันตากแดดจนแห้งแล้วค่อยปล่อย เพื่อนๆว่าฉันต้องรัก มากนะ ไม่งั้นไม่ยอมเดินตากแดดหรอก แต่ว่าอาบให้ทีฉันก็โทรมไปเลย
แล้วสงกรานต์ปีนึงก็ทำฉันน้ำตาไหล ออฟฟิศปิดยาว เปิดมาฉันเดินหาเจ้าสองตัว แล้วก็ไปเจอเตยนอน ซึมๆ รปภ.หญิงในซอยที่ช่วยดูเจ้าสองตัวบอกว่าตาลถูกรถชน กทม.เอามันไปแล้ว ฉันจ๋อย....เดินไปตรงสนามหญ้า เล็กๆข้างตึกที่เจ้าตาลชอบเอากระดูก (ของสลิกกี้เชียวนะ) มาฝัง ฉันเอากระดูกอันนึงมาวางไว้ พูดพึมพำน้ำตาไหล คนเดินผ่านไปผ่านมาก็มองแปลกๆ แต่ไม่สนใจหรอก ฉันขอให้มันไปดี
จากคุณ :
ลั่นทมขาว
- [
2 มี.ค. 50 10:10:23
]