ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ คุณเปียร์รุส มากนะครับที่ช่วยรวบเนื้อเรื่องให้ผม เพราะผมเพิ่งเข้ามาโพสเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับเรื่องสั้นหรือนิยายน่ะครับ ขอให้ทุกท่านช่วยขัดเกลาให้ด้วยนะครับ
ลิงค์ครับ
ตอนที่ 1 เส้นทางที่ต้องเดิน
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5176951/W5176951.html
ตอนที่ 2 เส้นทางลงเหว
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5181570/W5181570.html
ตอนที่ 3 พบจุดจบ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5184461/W5184461.html
ตอนที่ 4 ผู้นำพา
พารนรู้สึกมืดมนไปหมด ไม่รู้จะเดินไปทางไหนดี ไม่มีทางออก ทุกอย่างจบสิ้นหมดหนทาง เขาดิ้นรนสุดชีวิต เหนื่อยในความฝัน และทุกครั้งเมื่อตื่นขึ้นมา ก็ต้องเหนื่อยใจกับความจริงทุกครั้ง ไม่มีแม่ คนที่รักเราที่สุดในโลกแล้ว ไม่มีคนรัก ไม่มีงาน ไม่มีเงิน ไม่มีเพื่อน ไม่มีเกียรติใดๆ ชายหนุ่มตกงานมานานนับเดือนยังหางานไม่ได้
ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง และไม่อยากจะลุกขึ้นมาอีกเลย เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นข้างตัวเขา เขานึกอดที่จะต่อว่าคนที่โทรมาไม่ได้เพราะเขาไม่ต้องการจะคุยกับใครในเวลานี้จริงๆและก็ไม่คิดว่าใครจะมาคุยกับเขาด้วย เขาพลิกตัวเพื่อยกหูโทรศัพท์
ฮัลโหล เขาพูดเสียงห้วนๆแข็งๆ ด้วยความไม่พอใจ
ฮัลโหล ขอสายพารนครับ เสียงที่พูดฟังดูคุ้นหู
ผมเองครับ เขาตอบ
พารนเหรอ เฮ้ย! นี่ข้าเอง เขาจำได้แล้วจากเสียงที่แนะนำตัว โดยที่ไม่ต้องบอกชื่อ เขาย่อมจำได้นี่คือเพื่อนสนิทสมัยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันมาตลอด 4 ปีและยังคบกันมาตลอด เพียงแต่ไม่ได้โทรไปหาหลังจากแม่เสียไป
เออ มีอะไรรึ โทรมาแต่เช้าอย่างงี้น่ะ
อ้อ เออ ก็อยากจะชวนเอ็งไปข้างนอกหน่อยน่ะ พอว่างไหมละ
ไปไหนละ วันนี้ไม่ทำงานรึไง เขาพูดด้วยเสียงประชดเล็กน้อย
วันนี้วันเสาร์เฟ้ย อะไรลืมวันเลยรึไง เพื่อนพูดด้วยความสนุก ไม่รู้สึกในเสียงประชดของเขา
แล้วตกลงไปไหนละ ยังไม่บอกเลย
เออ แล้วเดี๋ยวพาไปแหละ ว่าแต่ข้าจะไปรับเอ็งที่บ้านตอน 9 โมงเช้านะ เตรียมตัวด้วยละ พอข้าไปถึงจะได้รับเอ็งไปเลย เพื่อนพูดแบบสรุป
เขาไม่ต้องการไปไหน แต่ด้วยเพื่อนพยายามเกลี้ยกล่อมอยู่นาน และอยากให้ไปด้วยจริงๆ จึงตอบตกลงด้วยอาการยังไม่อยากไปอยู่ดี
9 โมงเช้าเพื่อนเขามารับถึงบ้าน ตรงเวลาพอดี เพื่อนคนนี้เป็นคนที่ตรงต่อเวลามาก จะว่าไปแล้วก็มีเพื่อนสนิทคนนี้ที่ยังทนคบเขาอยู่ได้จริงๆ อย่างน้อยก็มารับเขาวันนี้เพื่อไปไหนไม่รู้ ยังคงเป็นปริศนาให้กับเขาอยู่ในใจ
เขาถามเพื่อนว่าทำไมมารับเขาไปข้างนอก ทั้งๆที่ว่าที่ผ่านมาไม่เห็นติดต่อเขามาเลย เพื่อนอธิบายให้เขาเข้าใจว่า เป็นเพราะมีงานที่ยุ่งมากๆตอนช่วงที่เกิดเรื่องพอดี เขามาช่วยงานแม่ของพารนได้แค่วันเดียว แล้วเขาก็ต้องบินไปต่างประเทศ จนมาวันนี้เขากำจัดงานของเขาได้บางส่วนแล้ว นึกถึงเลยรีบมาหาและพาไปข้างนอกนี่เอง
เกือบ 11 โมงเช้าเพื่อนขับรถมาถึงเขตกำแพงเมือง ดูเหมือนว่าเป็นเมืองเก่ามาก่อน กำแพงก่อด้วยอิฐหนา แบบโบราณ แต่มีซากหักพังไปตามกาลเวลา คงเหลือซากหักพังที่ยังคงเป็นกำแพงบางส่วนเท่านั้น รถเลี้ยวมาที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง เขาจอดรถสนิทดีแล้ว ชวนกันลงจากรถ
ทั้งคู่เดินเข้ามาที่ใต้ต้นไม้ใหญ่นี้ ยิ่งเดินเข้ามาใกล้ลำต้น เขาก็ยิ่งแปลกใจ เพราะลำต้นไม้นี้มีโพรงอยู่หลายโพรงและข้างในมืด เขาเดินตามเพื่อนเข้าไปในโพรงที่เป็นประตู ในใจเขารู้สึกกลัวอยู่บ้าง แต่เพราะมีเพื่อนเดินนำหน้าเขา และดูเหมือนเพื่อนเขาจะรู้จักสถานที่นี้เป็นอย่างดี
เข้ามาภายในต้นไม้ ที่แท้ในต้นไม้นี้เป็นเหมือนโบสถ์ มีพระประธานทรงพระทานพรอยู่องค์หนึ่งคงทำด้วยปูนปั้น แต่องค์ท่านสวยงาม เป็นที่ดึงดูดใจอย่างมาก ช่างที่ทำคงมีฝีมือในการปั้นอย่างแน่นอน เพื่อนเข้าไปนั่งที่เสื่อภายในโบสถ์ และเชื้อเชิญให้เขานั่งลงด้วย
เพื่อนอธิบายให้ฟังว่า เขามาที่นี่เวลาที่เขาไม่สบายใจ และกลับไปด้วยความรู้สึกที่มีความสุขทุกครั้งไป พระประธานที่อยู่หน้าเราเป็นพระศักดิ์สิทธิ์ขอพรอะไรท่าน ถ้าเราเป็นคนดี ท่านจะช่วยให้ประสบผลสำเร็จ และประสบแต่ความสุข
พารนไม่ค่อยเชื่อเรื่องเหล่านี้เท่าไรนัก ประกอบกับไม่มีอารมณ์ที่จะรับรู้เรื่องอะไรทั้งนั้นในเวลานี้ เขาได้แต่ฟังเพื่อน จนเพื่อนต้องบอกให้ขอพรจากพระประธาน เขาจึงขอให้ท่านช่วยชี้แนะแนวทางด้วย
ออกจากโบสถ์ต้นไม้แล้ว ตัวเขาไม่อยากทำอะไรเลย เพื่อนพาไปทานข้าว และไปดูอะไรเพลินๆก่อนกลับบ้าน
พารนล้มตัวนอน เขาคิดว่าวันนี้ก็เหมือนกับวันอื่นๆ ไม่มีใครช่วยเขาได้ แม้ขนาดพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ตาม เขายังคิดในแง่ลบอยู่ตลอดและจบปลักอยู่อย่างนั้นไม่ดีขึ้นเลย
จากคุณ :
อนันต์สิทธิ์
- [
2 มี.ค. 50 15:56:07
]