Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    คนพิเศษกับวันพิเศษ (เรื่องสั้นขนาดยาวตอนเดียวจบ)

    เรื่อง: คนพิเศษกับวันพิเศษ
    เขียนโดย: {``-_-}{-``-}{-_-``} สมจ๊อด


    ไม่ง่ายนัก ที่ใครจะวิ่งในระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร จากที่ทำงานถึงบ้าน ท่ามกลางฝนพรำอย่างค่ำคืนนี้
    แต่ชายหนุ่มในเสื้อยืดสีขาวกางเกงกีฬา รองเท้าผ้าใบ หลังสะพายเป้คนนี้ก็วิ่งมาได้จนเกือบจะถึงบ้านแล้ว
    ขณะนี้เขายืนหอบ ก้มหน้าเกาะเสาไฟฟ้าปาดเม็ดฝนที่หน้า รู้สึกคอแห้งกระหายน้ำ
    บ่นอุบอยู่ในใจว่าตนมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ เขาเงยหน้าขึ้นมา แสงจากไฟหน้าของรถยนต์คันแล้วคันเล่าสาดเข้าตา

    แสงจากไฟหน้าของรถยนต์คันแล้วคันเล่าสาดฝ่าละอองฝนเข้ากระจกหน้าของรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าซีวิคสีเปลือกมังคุด
    สะท้อนคอนแท็กเลนส์ ที่ติดแนบกับดวงตาคู่สวยของหญิงสาว
    ฉายให้เห็นความเศร้าในแววตาที่กระจกเลนส์เว้าทั้งคู่ ไม่อาจปกปิดได้

    นาฬิกาบอกเวลายี่สิบสองนาฬิกาสี่สิบสามนาทีแล้ว แต่รถของเธอก็ยังไม่เคลื่อนไปไหน
    เพราะถนนฟากโน้นกำลังกั้นทางเพื่อซ่อมแซม บีบให้มีช่องทางเดินรถเหลือแค่ช่องเดียว
    เธอถอนหายใจมองไฟกลมสีแดง มันแดงค้างอยู่อย่างนี้มานานจนทำให้เธอหงุดหงิด
    สามปีกว่าแล้ว ที่เธอไม่เคยผ่านมาแถบชานเมืองแห่งนี้ บ้าน ร้านค้า และถนนหนทางเปลี่ยนไปมาก
    จนเธอเกือบจะจำไม่ได้ ต้องลองผิดลองถูกเข้าซอยนั้นซอยนี้อยู่นาน อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไปหมด แม้แต่เธอ
    จนฝนเริ่มซาแล้ว เธอเสยผมและปรับโฟกัสตาให้ไกลขึ้นไปอีกฝั่งถนน
    รู้สึกคุ้นเคยกับบรรยากาศด้านนอกอย่างประหลาด

    เธอมองร้านบะหมี่เกี๊ยวร้านหนึ่งบนฟุตบาท มีคนนั่งทานอยู่ไม่มากนัก คงเป็นเพราะฝนตกและใกล้เวลาที่ร้านจะปิด
    เธอมองคนขายที่เป็นลุงกับป้า กำลังง่วนอยู่กับการลวกเส้นและเก็บกวาดโต๊ะ ช่างเป็นภาพคุ้นตาที่เลือนหายไปนาน
    ร้าน...แห่งความทรงจำ ที่เธอและ “เขา” เคยมากินบะหมี่ด้วยกันอยู่เป็นประจำ
    ไฟสีเขียวทางขวาวาบขึ้นส่งสัญญาณให้ตรงไปและให้เลี้ยว เธอตัดสินใจจากที่จะต้องขับตรงไป
    กลับหมุนพวงมาลัยพารถเลี้ยวมาหาที่จอดแถวใต้ถุนแมนชั่นใกล้ ๆ กับร้านบะหมี่เกี๊ยวร้านนั้น
    หลังลงจากรถ เธอเดินมาหยุดตรงข้างร้าน มองคุณป้าที่กำลังเก็บกวาดโต๊ะอยู่อย่างขะมักเขม้น
    เมื่อหญิงวัยกลางคนมองมา เธอก็ยิ้มทักทายก่อนกล่าว

    “สวัสดีค่ะ” เธอยกมือไหว้ คุณป้าหันมามองแล้วขมวดคิ้ว จ้องหน้าหญิงสาวอยู่นาน
    “อ๋อ! สวัสดีจ้า หนูคนนั้นเอง ที่ชอบมากินบะหมี่เกี๊ยวบ่อย ๆ”
    “ดีจัง จำหนูได้ด้วย”
    “อู้ย! ก็จำเกือบไม่ได้หรอกจ้า ตั้งหลายปีแล้ว นี่ไม่ได้ใส่แว่นเหมือนก่อนหรือจ๊ะ สวยและก็ผอมกว่าเดิมตั้งเยอะ
    แล้วเป็นยังไงมายังไงนี่ หายไปซะนาน แล้วทำไมมาคนเดียวล่ะจ๊ะ ? แล้วเจ้าเม่นล่ะ”
    เธอยังคงยิ้มให้ แต่เอียงหน้าหลบตาของหญิงวัยกลางคน เพราะเจอคำถามสะกิดใจที่เธอไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร
    จึงเลี่ยงไม่ตอบคำถามนั้น
    “ใส่คอนแท็กเลนส์ค่ะ ตอนนี้หนูย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว พอดีวันนี้มีธุระแถวนี้ เห็นร้านคุณป้ายังไม่ปิด
    เลยแวะมาทานบะหมี่เกี๊ยวก่อนกลับซะหน่อย”
    “แหม... นาน ๆ มาทีอย่างนี้ ต้องให้พิเศษซะแล้ว”
    “ไม่ต้องขนาดนั้นค่ะ... กำลังรักษาหุ่น” เธอหัวเราะเบา ๆ
    “แหม จะกลัวไปถึงไหน เออนี่แล้วธุระที่ว่าน่ะ คือมาหาเจ้าเม่นมันเหรอจ๊ะ?” คุณป้ายังไม่ละความสงสัย
    นี่เองที่เธอไม่รู้จะตอบอย่างไร จึงได้แต่ส่ายหน้าพลางยิ้มเจื่อน ๆ ให้ หญิงวัยกลางคนดูเหมือนจะรู้ จึงพูดเปลี่ยนเรื่อง
    “เอ้านั่งก่อน” หญิงวัยกลางคนเอาผ้ามาเช็ดคราบน้ำฝนที่เก้าอี้และบนโต๊ะ หญิงสาวกล่าวขอบคุณแล้วนั่งลง
    “เอา บะหมี่เกี๊ยวแห้งน้ำแดงค่ะ ขอซุปกระดูกหมูถ้วยนึงด้วย เอ่อ! เส้นไม่ต้องเยอะนะคะ”

    เธอมองไปรอบ ๆ จำได้ว่าข้างร้านบะหมี่เกี๊ยวแห่งนี้เคยมีร้านหนังสือการ์ตูนเช่าอยู่ร้านหนึ่ง เธอมักจะรบเร้าให้ “เขา”
    ขี่มอเตอร์ไซค์ซ้อนเธอออกมาจากอพาร์ทเม้นท์ ที่เธอกับเขาเคยอยู่ด้วยกัน เพื่อเอาหนังสือการ์ตูนมาคืนทีละหลายเล่ม
    เมื่อก่อนเธอมีนิสัยเสียอย่างหนึ่งคือ เธอมักจะเช่ามาอ่าน แล้วก็ดองไว้จนถูกปรับอยู่หลายครั้ง
    บัดนี้ร้านดังกล่าวกลายเป็นร้านเช่าวีซีดีไปเสียแล้ว

    ไม่นานคุณลุง ที่ทำหน้าที่ลวกบะหมี่ ก็ยกชามบะหมี่มาวางที่โต๊ะพร้อมน้ำซุป เธอมองเส้นบะหมี่สีเหลืองนวล
    กับเกี๊ยวที่ราดด้วยน้ำแดงและโรยกระเทียมเจียวกลิ่นหอม ทำให้บะหมี่ดูน่ารับประทาน แล้วยิ้มให้เขา
    “ขอบคุณค่ะ คุณลุงสบายดีหรือเปล่าคะ” เธอยกมือไหว้
    “สบายดี แล้วหนูล่ะ ไม่เจอซะนานเลย” เขาควักผ้าในกระเป๋ามาเช็ดมือไปมา
    “หนูสบายดีค่ะ แหม ดีใจจัง นึกว่าจำหนูไม่ได้ซะแล้ว”
    “จำได้... แล้วนี่มากับไอ้เม่นมันเหรอ” คำถามนี้อีกแล้วสิ เธอถอนหายใจ เมื่อใดก็ตาม ที่ยังคงพบเจอกับผู้คนในอดีต
    คำถามเหล่านี้ก็ยังคงวนเวียนมาเสมอ

    “เปล่าค่ะ หนูขับรถมาคนเดียว มาจากฝั่งธนนู้น หนูไม่ได้อยู่กับเม่นนานแล้วค่ะ”
    “อ้าว!! เหรอ... นี่เลิกกะไอ้เม่นมันแล้วเหรอ มิน่าล่ะ ถึงได้หายไปเลย แหม ไอ้นี่มันใช้ไม่ได้
    คนสวย ๆ อย่างหนูมันยังทิ้งได้ลงคอ”
    “เอ่อ!” เธอแทบหงายหลังเมื่อถูกจู่โจมด้วยคำพูดตรง ๆ ของลุงคนขาย แม้มันจะจริงที่เธอกับ “เขา”
    เลิกกันไปแล้ว แต่คนที่เอ่ยปากขอแยกทาง คือเธอต่างหาก
    “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ” เธอยิ้มเจื่อน ๆ ให้แล้วก้มหน้า
    “แล้วทำไมถึงคิดว่าหนูมากับเม่นล่ะคะ?”
    “ก็... ตะกี้ก่อนที่หนูจะเดินมาแป๊บนึง ลุงเห็นไอ้เม่นมันวิ่งผ่านหน้าร้าน แล้วแวบเข้าไปในมินิมาร์ทนู้นน่ะสิ
    คงไปหาซื้ออะไรละมั้ง ก็เลยนึกว่ามาด้วยกัน เดี๋ยวซื้อเสร็จมันก็คงจะมาหาอะไรกินน่ะแหละ เพราะมันมาทุกวันอยู่แล้ว”
    “หา!!...” หัวใจเธอเต้นแรงเมื่อฟังคำจากชายวัยกลางคน

    “นั่นไง มันตายยากชะมัด” ชายวัยกลางคนพยักพเยิดบอกเธอว่ามีใครคนหนึ่งกำลังเดินมา
    เธอหน้าตาตื่นลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วหันไปด้านหลัง
    ชายหนุ่มเบื้องหน้าทำตาโตมองมาที่เธอเหมือนกับไม่เชื่อสายตาตัวเอง ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับเธอนัก
    “แว” เขาเอ่ยชื่อเธอ เธอมองผู้ชายรูปร่างผอมตรงหน้า เสื้อผ้าชุดกีฬาของเขาเปียกชื้น ผมลู่ปรกหน้าตา เนื้อตัวมอมแมม
    “เฮ้! ตาฝาดแน่ ๆ เลย....ว้าว!!” เขาวิ่งเข้ามาทำท่าเหมือนจะเข้ามากอด แต่ก็ยั้งตัวเองไว้ ทำได้แค่จับไหล่เธอเท่านั้น
    “มาธุระแถวนี้น่ะค่ะ พอดีรู้สึกหิว เลยแวะมาหาอะไรทานที่นี่” เธอเว้นจังหวะ แล้วเอ่ยถามเขา
    “คุณ... เป็นยังไงบ้าง” ระยะเวลาสามปีที่ไม่ได้พบ เขาดูผอมลงกว่าเดิมมาก ผมเผ้าก็ยาว หน้าตาส่อความอิดโรยเล็กน้อย
    ยิ่งใบหน้าที่เปียกโซกจากน้ำฝนหรือเหงื่อนี่ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เขาดูแย่
    คงมีแต่แววตาเท่านั้น ที่ยังคงฉายแววมุ่งมั่นเหมือนเดิม

    “ก็ดีครับ... บังเอิญมาก ๆ ไม่นึกว่าจะเจอแวที่นี่”
    “ทำไมแต่งตัวแบบนี้ล่ะ? ไปวิ่งที่ไหนมา? แล้วตากฝนทำไม?”
    “ไม่มีอะไรหรอก พอดีวันนี้เป็นวันพิเศษน่ะครับ”
    “วันอะไรนะ?”
    “แฮ่ะ ๆ ไม่มีอะไร” เขาลูบผมไปมา คงไม่รู้จะทำตัวอย่างไร ที่จู่ ๆ ก็พบกับเธอ
    “คุณหิวรึเปล่า? ทานบะหมี่ก่อนมั้ย?”
    “แน่นอน!!” เขานั่งลงตรงเก้าอี้ตรงหน้า จ้องมองเธอไม่ละสายตา เธอเหลือบตามองเขาแวบหนึ่ง
    ก็พบกับความรู้สึกมากมายในแววตานั่น
    “มองอะไรเล่า” เธอหลบตาเขา
    “มันแปลกหูแปลกตานี่นา ก็แวไม่ได้ใส่แว่นเหมือนก่อน แถมผอมกว่าเดิมอีก”
    “ใครกันแน่ ที่ผอม” เธอดีดนิ้วชี้ไปที่ท้องของเขา เขาจึงเอาเป้ที่ถืออยู่มากอดไว้
    “แวเปลี่ยนเบอร์โทรเหรอครับ?”
    “ค่ะ”
    “มิน่า โทรไม่เคยติดเลย แถมไม่ยอมบอกกันด้วย ใจร้ายมาก” เขาพูดจบก็เบ้ปากไปมา


    [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง]
     
     

    จากคุณ : {``-_-}{-``-}{-_-``} - [ 4 มี.ค. 50 16:03:57 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom