หลังจากที่อาทิตย์ที่แล้วได้กลับบ้านไปเยี่ยมท่านพ่อท่านแม่ ก็เลยมีเรื่องจะเล่าให้อ่าน..ถือเสียว่าเป็นเรื่องเล่ากึ่งสารคดีนิดๆก็แล้วกันนะคะ^^
เช้าวันหนึ่งเจ้าอ้อมน้องสาวซึ่งอายุอานามก็ปากเข้า28และแฟนน้องชื่อเจ้ากอล์ฟซึ่งอายุน้อยกว่า1ปี เดินตรงมาหารอมแพงด้วยสายตาที่มุ่งมั่น
"พี่อุ้ย ตอนนี้อ้อมกับกอล์ฟก็กำลังว่างเราไปเยี่ยมพ่อกะแม่กันเหอะ"
รอมแพงนิ่วหน้าคิดเล็กน้อยถึงปานกลางอันที่จริงในใจลิงโลดสุดๆ เพราะอยากไปเช่าพระจตุคามรามเทพเพิ่ม เอาไว้แจกเพื่อนๆ
"ก็ได้ แล้วจะไปกันยังไงล่ะน้องสาว"
"ไปรถเช่าไงพี่อุ้ย แล้วพี่อุ้ยก็ชวนเด็กในคอนโทรลพี่อุ้ยไปด้วย จะได้ช่วยหาร" อืม...รอมแพงคิดเพิ่มอีกเล็กน้อยก็เห็นสมควร เด็กในคอนโทรลที่ว่าอายุน้อยกว่ารอมแพง2ปี
(ฮิ๊วววว..กินเด็กๆๆ) เรื่องของเรื่องเพราะว่ายาใจของรอมแพงดันไปบนบานไว้กับพระจตุคามรามเทพที่รอมแพงให้ไปเมื่อตอนวันเกิดว่าหากได้งานโครงการพันแปดร้อยล้านแล้วไซร้
ก็จะไปกราบไหว้ที่วัดต้นสังกัด ซึ่งก็คือวัดพระมหาธาตุของจังหวัดนครศรีธรรมราชนั่นเอง แล้วสิ่งที่บนบานก็เกิดได้สมใจขึ้นมาซะอย่างนั้น
อย่ากระนั้นเลยรอมแพงจึงโทรหาพ่อยอดขมองอิ่มโดยพลัน
"เฮ้ ว้อทซับ แมน ซำบายดีบ่ สูเจ้าอยากไปจังหวัดนครหรือเปล่า ไปแก้บนไง ไปเที่ยวด้วย หินสวยน้ำใสธรรมชาติสวยงามลี้ลับเหมือนรอมแพงเป๊ะ สนใจป่าวๆ"
"เอ่อ..อืม...อือ...อ่า.." ดูท่าว่าเจ้าตี๋เด็กในคอนโทรลจะลังเลเล็กน้อยกลัวรอมแพงจะหลอกไปฆ่าแล้วลืมข่มขืนกระมัง
"อาหารอร่อย..." สิ้นประโยคเด็ดดูเหมือนจะยังไม่ทันสิ้นกลิ่นปากด้วยซ้ำเจ้าตี๋ก็ตกลงโดยพลัน
"โอเค แล้วจะไปกันยังไงล่ะ อะไรทำนองนั้น" ลืมบอกไปว่าเจ้าตี๋ติดปากคำว่า อะไรทำนองนั้น ทุกประโยคต้องมี เมื่อสามปีก่อนฟังก็ขำๆรำคาญแต่พอสามปีล่วงมาชักชิน
ในคราวแรกต่างตกลงกันว่าจะเอารถเจ้าตี๋ไปแล้วให้หมู่ชายชาญผลัดกันขับแต่เมื่อเช็คสภาพรถแล้วปัญหาเยอะพอๆกะตัณหาของรอมแพง..อ๊ะเจี๊ยกกก ก็เลยเปลี่ยนใจ
หันไปไล่ล่ารถเช่าตามเต้นท์ต่างๆ และก็ได้วีออสมาหนึ่งคันในราคาย่อมเยาแต่ซดน้ำมันวินาศสันตะโร(แต่ตอนนั้นไม่รู้ค่ะ เห็นไหมซื่อ ใส ไร้เดียงสา กันทั้งแก๊งค์)
เดินทางไปตอนสามทุ่มเก้านาที ตามฤกษ์ที่รอมแพงให้ไว้เป๊ะก็เกิดทะเลาะกันนิดหน่อยพอเป็นกระสัย เพราะเจ้ากอล์ฟซึ่งเป็นคนขับกะแรกพาหลงกรุง กว่าจะออกจากเมืองกรุงได้
ก็ปาเข้าเกือบเที่ยงคืน..โอ้อาถรรพ์เมืองกรุงมันแรงอย่างนี้นี่เอง แวะปั๊มเจ็ท(จะย่อง)(อย่าผวนนะเฟ้ย) เติมน้ำมันก่อนออกจากกรุงแล้วก็ซื้อแผนที่ปักษ์ใต้มาเป็นยันต์กันเหนียวอีกใบ
ต่อด้วยเสบียงกรังให้สมกับที่หมู่เราจักไปออกทัพ..อ่าวไม่ใช่แร่ะ จากนั้นก็เดินทางกันต่อและแวะทานข้าวต้มกุ๊ยแถวประจวบคีรีขันธ์ซึ่งอร่อยจนน้ำตาเล็ดตอนจ่ายตังค์
สี่คนซัดกันไปเกือบห้าร้อย โอ้แม่เจ้าขบวนปอบ หรือขบวนท่องเที่ยวกันแน่ฟร่ะ
ราวตีสี่เจ้ากอล์ฟที่เกาะพวงมาลัยแน่นราวพระมารดาไม่ยอมปล่อยแม้ทั้งสามที่เหลือจะเกลี้ยกล่อมยังไงก็เริ่มแพ้ใจตัวเอง
เมื่อได้ยินเสียงกรนจากเบาะหลังซึ่งเป็นของยาหยีของรอมแพงเอง ^^" จากนั้นจึงมีการเปลี่ยนคนขับโดยสลับแม่ย่านางรถให้รอมแพงขึ้นมานั่งตีคู่กับเจ้าตี๋
ราว6โมงเช้าก็เริ่มเข้าเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งต้อนรับด้วยหมอกลิบๆ ภูเขาซ้อนสลับระหมอกรอบล้อม รถไต่ผ่าภูเขาไปประมาณสี่ลูก
เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจของผู้ที่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นอย่างเจ้าตี๋
"สุดยอด ประทับใจมากเลย อะไรทำนองนั้น..บ้านอุ้ยนี่หลังเขาแท้ๆเลยนะ อะไรทำนองนั้น" เอิ่ม...มันชมหรือว่าฟร่ะ?
อากาศเย็นฉ่ำจนต้องเปิดประตูรถปิดแอร์รับลมเย็นและอากาศที่บริสุทธิ์ดุจทารกน้อยที่เพิ่งผุดพ้นจากครรภ์มารดา แต่สองหนุ่มสาวเบาะหลังยังคงสลบไสลไม่ได้สติ
ชนิดที่จับนั่งยางเผามันยังไม่ตื่น อีกราวสองชั่วโมงถัดมาก็ถึงอำเภอสิชลบ้านของรอมแพงซึ่งท่านแม่มิได้รอรับเพราะไปตลาดเพื่อหาซื้อของกินมาเซ่นสังเวยหมู่เฮา
"แม่อุ้ยไม่อยู่แล้วจะเข้าบ้านกันยังไงล่ะเนี่ย" เจ้าตี๋แหงนหน้าขึ้นมองเสาคอธิคที่เรียงรายซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ถูกเลือกสรรโดยท่านพ่อของรอมแพง
...บ้านหลังนี้ท่านพ่อของรอมแพงฉาบปูนกะมือคุมเองทุกงานเหล็กหกหุนมัดแน่นประมาณว่าต่อให้เกิดแผ่นดินไหวหรือเมืองนครยุบเป็นทะเลบ้านเราก็ยังคงอยู่..-_-"
รอมแพงเดินส่ายอาดๆเข้าไปเปิดประตูบานเลื่อนโดยพลันเพราะท่านแม่ได้โทรฯมาบอกตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้วว่าแม่ไม่อยู่เปิดประตูได้เลยไม่ได้ล๊อค ..เป็นไงล่ะชีวิตบ้านนอก..
ขโมยขโจรไม่มีเจ้าค่ะ ถึงมีมันก็เอาอะไรไปไม่ได้เพราะในบ้านไม่มีอะไร..-_-"
พวกเราต่างพากันแยกย้ายอาบน้ำให้หนุ่มๆอาบห้องน้ำด้านล่าง ส่วนสาวๆอาบห้องน้ำในห้องนอนของท่านแม่ อาบเสร็จก็สลบไสลกันจนกลิ่นหอมของอะไรบางอย่างลอยมา
ถึงได้รู้สึกตัว จมูกเจ้าด่างของพวกเราทั้งสี่ก็พบกับจุดหมาย ปลาทะเลนึ่งกับน้ำจิ้มรสเด็ด ต้มยำโคตรกุ้ง กุ้งสองน้ำเผา ล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือท่านแม่ โอ้สวรรค์
ซัดกันเรียบร้อยก็พากันไปท่องเที่ยวทะเลหาดในเพรา ซึ่งทรายยังขาวสะอาด เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปไว้เพราะลืม แม่ซื้อหมูสวรรค์ที่สวรรค์สุดๆถึงสองกิโล
แล้วยังมีกับแกล้มที่ทานกับน้ำอัดลม มีเพียงท่านแม่ที่ว๊อนสปาย นั่งซดอึกๆอยู่คนเดียวปล่อยให้ลูกๆลงทะเลไล่ปูลมกันตามประสา เพียงครู่ก็มีญาติโกโหติกาตามมาอีกหลายท่าน
หากใครได้อ่านเรื่อง ลูกทุ่งโมดิฟายด์ ...ตอนนี้ตัวละครในนิยายมาพบกันสองตัวแว้ว..ย่าชื่นมานั่งเป็นประธานด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม(รอมแพงยื่นเงินให้หนึ่งพัน)
ส่วนพักตร์พริ้งก็ซดสปายโฮกๆ(ท่านแม่) ตกเย็นก็ไปหาขนมสาลี่ที่เป็นสุดยอดขนม อร่อยสุดเท่าที่เคยกินมาขนาดหนุ่มที่ไม่ชอบขนมหวานอย่างเจ้ากอล์ฟยังเกาะถุงไม่ยอมปล่อย
ส่วนเจ้าตี๋ฟาดสบายพุงตามเคย(น้ำหนัก86แล้วนะแก)
วันรุ่งขึ้นพวกเรารวมทั้งท่านแม่ยกพลกันไปหาท่านพ่อซึ่งอยู่ห่างไปอีกอำเภอ คืนก่อนหน้านั้นพวกเราทั้งหมดรวมทั้งท่านแม่วิตกกังวลมากที่จะไปเจอท่านพ่อ
เพราะท่านพ่อเป็นเสือเก่า ดุชิอ๋าย แล้วยังหวงลูกสาวยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก ทุกคนจึงต่างเป็นห่วงสวัสดิภาพของสองหนุ่มเพราะเคยมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้ว
ครั้งกระนั้นเพื่อน(ขอย้ำว่าเพื่อนจริงๆ) ของเจ้าอ้อมเดินทางมาเที่ยวทะเลแถวบ้านรอมแพง แล้วเจอกับท่านพ่อ ก็เลยยกมือไหว้
"สวัสดีครับ พ่อ"
"เย๊ะเม็ม เมิ๊งเป็นใคร กุม้ายมี๊ลุกชาย ม้ายต้องมาเยียกกุว่าพ๊อ" เอิ่ม...แค่เสียงสีหนาทของพ่อพวกนั้นก็วิ่งกันกระเจิงแล้ว แล้วนี่ตัวจริงมาเองจะเกิดอะไรขึ้นหนอ..
แต่เราก็คิดเข้าข้างตัวเองว่า ลูกสาวคนโตก็ปาเข้า31 ลูกสาวคนเล็กก็ปากไป28 อายุอานามก็เหมาะสมแล้วที่จะมีเพื่อนคู่ใจหวังว่าคงไม่โดนอะไรหรอก..มั๊ง
แล้วก็ไม่มีอะไรจริงๆ พ่อใจดีขนาดพาพวกเราทั้งหมดไปทานข้าวริมแม่น้ำสั่งได้ไม่อั้น ..ท่านพ่อไม่กินอะไรเลยนอกจากเหล้า..สองแบน ซดเอาๆเพียวๆ เฮือกกกก
ระหว่างนั้นก็ส่งสายตาดุๆไปให้สองหนุ่มเรื่อยๆ ปากก็พูดประมาณนี้
"พ่อเคยฆ่าคนก็จริงแต่ นานมาแล้ว..ฮึ่ม.." (อันนี้หมดอายุความไปแล้วนะคะโปรดอย่าตาโต) ตอนนี้ท่านพ่อเป็นครู ที่เป็นที่นับถือไปทั่วและกว้างขวางพอสมควร
"แต่ถ้าถึงที่สุด ก็ไม่แน่อาจจะต้องตายกันไปข้างหนึ่ง..ฮึ่ม"
"ใครมาทำลูกสาวพ่อเจ็บ มันต้องโดนมิใช่น้อย ..ฮึ่ม.." สองหนุ่มกินอาหารน้อยเป็นประวัติการณ์..วันนั้นจบไปด้วยความโล่งใจ
ช่วงเช้าของวันนั้นเราก็ไปเที่ยวในตัวเมืองนครกันค่ะ คนเยอะมากกกกกก ถามไปได้ความว่าพรุ่งนี้เป็นวันเผาศพขุนพันธ์ผู้เลื่องชื่อ ไอ้ครั้นจะมาแย่งพระเครื่องที่ระลึกในงานศพ
ก็ไม่ใช่นิสัย อีกอย่างกลัวโดนเหยียบตายก็เลยไม่ได้ไปแย่งกับเขาค่ะ^^
จากคุณ :
รอมแพง
- [
5 มี.ค. 50 15:13:35
]