เธอทุจริตการสอบ!.....
ประโยคนั้นกึกก้องในความรู้สึกของเด็กหนุ่มจนประสาทอึงอล โลกทั้งโลกเหมือนถล่มครืน สมองลั่นเปรี้ยะจนชาค้างไปชั่วขณะ
เขาระวังแล้วในการค่อยๆแอบแกะกระดาษห่อเล็กๆซึ่งบรรจุข้อมูลพื้นฐานในล้ำค่าการสอบ ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ โดยแน่ใจว่าคนคุมสอบไม่ได้อยู่บริเวณวิกฤติ แต่จู่ๆ คนคุมสอบก็โผล่พรวดมาข้างหน้าราวฝันร้าย คนคุมสอบซึ่งหน้าตาน่าจะเป็นคนประหารนักโทษมากกว่า สีหน้าท่าทางโหดดิบเถื่อนและเลือดเย็น รอยยิ้มนั่นก็เต็มไปด้วยความสะใจเย้ยหยัน
เธอต้องถูกลงโทษ
น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความเฉียบขาดจนขนลุกเกรียว และวินาทีต่อมา เสียงอะไรบางอย่างก็กระหึ่มกึกก้องไปทั่วห้องสอบ เด็กหนุ่มได้สติหันไปมอง แต่ก็ต้องตัวเย็นเฉียบปากอ้าตาค้างด้วยความตกใจสุดขีด คนคุมสอบจอมโหดกำลังถือเลื่อยไฟฟ้าซึ่งคำรนคำรามอย่างน่ากลัว ก่อนจะกดคมเลื่อยลงบนมือขวาของนักลอกข้อสอบซึ่งวางค้างคาอยู่บนโต๊ะ
โอ๊ย......!!!!!
เขาร้องสุดเสียงด้วยความตกใจสุดขีดมากกว่าความเจ็บปวด มองดูมือตัวเองซึ่งยังคงกำปากกาแน่นกระเด็นหลุดลงไปกลิ้งตะตุกพลิกไปมาบนพื้น เลือดสีแดงฉีดออกมาราวท่อประปาแตก เลื่อยไฟฟ้ายังผ่าโต๊ะออกเป็นเสี่ยง กระดาษข้อสอบถูกผ่าแยกออกเป็นสองซีก เขาใช้มือข้างที่ขาดไขว่คว้ากระดาษข้อสอบซึ่งหมุนคว้างออกไปตามสัญชาติญาณหวงแหน โดยลืมไปว่ามือขาดไปแล้ว นั่นทำให้เลือดยิ่งสาดกระจายไปทั่วห้องราวกับรดน้ำสนามหญ้าด้วยสายยาง เสียงหวีดร้องระงมไปทั่ว
อะไรบางอย่างหนักๆกระแทกลงบนศีรษะ เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือก
หลับในห้องสอบเชียวเรอะ....
เสียงหัวเราะคิกคักดังพอได้ยิน เด็กหนุ่มเงยหน้ามองซ้ายขวาอย่างไม่แน่ใจและสับสนครู่หนึ่ง ก่อนสติจะค่อยๆพลิกฟื้นมาสู่ปัจจุบันและความจริง มองดูมือข้างขวาก็ไม่ได้ขาดไปไหน มันเป็นเพียงฝันร้าย ...ฝันร้ายกาจที่สุดในช่วงระหว่างการเผลอหลับในห้องสอบ แถมโดนมะเหงกคนคุมสอบอีกต่างหาก
จับดูข้อมือขวาเพื่อให้แน่ใจ มันยังไม่ขาดหายไปไหน แต่กลับรู้สึกเจ็บลึกๆราวกับเพิ่งผ่านการถูกตัดมาไม่นานนี่เอง ให้ตายเถอะ....ถ้าเมื่อคืนไม่ดูหนังสือดึกไปหน่อยคงไม่เผลอหลับไปแบบนี้
ก้มลงมองกระดาษห่อเล็กๆ ในกระเป๋าเสื้อ มันยังอยู่อย่างสงบเรียบร้อยไม่ได้หายหน้าหายตาไปไหน หันไปมองคนคุมสอบ ซึ่งตอนนี้ถอยไปอยู่หลังห้องพลางกวาดสายไปดุดันเข้มงวดเอาจริงไปมา สมกับเป็นยอดนักคุมสอบ ในมือไม่ได้มีเลื่อยไฟฟ้า หน้าตาก็ไม่ได้เหมือน เลทเธอร์เฟซ ฆาตกรโรคจิตแห่งหนังสยองขวัญแขนขาไม่ครบ Texas Chainsaw Massacre แต่ประการใด
นี่เป็นเพราะหลายวันก่อน ที่เขาดูหนังคลายเครียดกับหนังไล่ล่าคนด้วยเลื่อยไฟฟ้า หลังการดูหนังสือและวางแผนทุจริตการสอบมาจนสมองล้า การทุจริตการสอบเป็นสิ่งที่ขาดเสียมิได้ มันน่าตื่นเต้นเร้าใจไม่ต่างจากการถือเลื่อยไฟฟ้าไล่หั่นคนในหนังสยองขวัญมากนัก
เขาคือมืออาชีพในการทุจริตการสอบอย่างแท้จริง ใต่เต้าสะสมประสบการณ์มาตั้งแต่เด็กตัวเล็กๆและไม่เคยถูกจับได้แม้แต่ครั้งเดียว ผลการสอบอยู่อันดับต้นๆเสมอและน่าภาคภูมิใจ ท่ามกลางความเจ็บปวดขมขื่นของเด็กหัวดีหลายคนซึ่งตั้งหน้าตั้งตาดูตำราอย่างเดียว สุดท้ายก็พ่ายแพ้การฝีมือของเขาอย่างน่าสงสาร
เจ้าแว่น เด็กดีประจำห้องที่เคยสอบได้ที่หนึ่งมาตลอด เขายังเคยเขี่ยลงไปอยู่อันดับสองมาแล้ว เจ้าแว่นเป็นเด็กฉลาดและหัวดี แต่ในที่สุดก็พ่ายแพ้กับคนที่มีข้อมูลอยู่รอบตัวอย่างเขาด้วยคะแนนฉิวเฉียดน่าคลั่งใจ
ฉันรู้ว่าแกโกงข้อสอบ
นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายของเจ้าแว่น ความเป็นเพื่อนขาดหายลงตั้งแต่วันนั้น
แต่ก็ดีแล้ว เพราะหลังจากนั้น เขาก็ไม่มีใครมาทำให้กดดันทางการสอบอีก คนอื่นๆ ล้วนไม่คู่ควรมาต่อกร จนกระทั่งจบมัธยมปลายและก้าวสู่เวทีการสอบเจ้ามหาวิทยาลัยในครั้งนี้
มองเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง ก่อนค่อยๆใช้นิ้วคีบกระดาษในกระเป๋าออกมาอย่าระมัดระวัง ที่จริงแล้วเขามีกระดาษแบบนี้อยู่รอบตัว ซ่อนท่ามกลางเส้นผม ในแขนเสื้อ ขากางเกง ในเข็มขัด ในปกเสื้อ ในรองเท้า ในปากกา ยางลบ ล้วนมีข้อมูลบรรจุทุกรายวิชาอยู่แทบทั้งนั้น
ยิ้มในใจ... เพราะกระดาษแผ่นนี้มีสมการทางฟิสิกส์ซับซ้อนมากมายที่เขียนด้วยภาษาของเขาเอง เป็นการกันเหนียว เผื่อถูกจับได้ เพียงแต่ดูสักนิดก็เป็นแนวทางทำข้อสอบได้หลายข้อ
ค่อยๆคลี่ออกมาอย่างซ่อนเร้นและระมัดระวังโดยปราศจากอาการส่อพิรุธ แค่ชำเลืองลงไปก็พอมองเห็นรหัสลับพวกนั้น
ฉันรู้ว่าแกโกงข้อสอบ!
นั่นเป็นข้อความที่เขาเห็นในกระดาษ มันชัดเจนกว่าการชำเลืองมองทุกครั้ง
เฮ้ย.....!!!
เขาลืมตัวร้องเสียงลั่นออกมาโดยไม่ตั้งใจ นี่มันบ้าอะไร ใครมาเปลี่ยนกระดาษแผ่นนี้ นักเรียนคนอื่นหันมามองด้วยความสงสัย พร้อมกับคนคุมสอบซึ่งปรี่เข้ามาประชิดตัวทันที
โวยวายอะไร
คนคุมสอบถามด้วยเสียงเกือบตะคอก พร้อมกับเอื้อมมือมากระชากกระดาษในมือของเด็กหนุ่มออกไป เขาใจหายวาบ นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกจับได้ วินาทีนั้นเขาตะหนักถึงความหวาดกลัวชนิดหนึ่งซึ่งทะลักขึ้นมาในความรู้สึกอย่างรวดเร็ว ความหวาดกลัวอันเกิดจากความอับอายขายหน้า ความเสียชื่อเสียงและการถูกประนามหยามหมิ่น ผลงานซึ่งทำมาดีๆ ตั้งแต่เด็กจะมาพังครืนล่มสลายในวันนี้เอง เหงื่อเริ่มไหลจนชุ่มโชกไปทั้งใบหน้าและแผ่นหลังราวกับนักโทษกำลังจะถูกลากตัวไปลานประหาร
เธอจะบ้าเหรอ....
เสียงคนคุมสอบที่ตอนนี้แทบไม่ต่างจากผู้คุมคุกในความรู้สึกของเด็กหนุ่ม เหมือนแว่วมาแต่ไกล จากสุดขอบนรก
นี่มันกระดาษเปล่า....ถือมันขึ้นมาทำไม...คิดจะทำอะไร
สมองของเด็กหนุ่มลั่นเปรี้ยะขึ้นมาอีกแล้ว กระดาษเปล่า...เป็นไปได้อย่างไร ก็เมื่อครู่เขามองเห็นข้อความประหลาดนั่นเต็มตาเต็มความรู้สึก จะว่าคนคุมสอบจะล้อเล่นก็ไม่มีทางเป็นไปได้ หน้าตาท่าทางแบบนั้นไม่มีทางล้อเล่นเด็ดขาด
เปล่าครับ...
พอได้สติก็รีบฝืน ยิ้มปฏิเสธภาระความรับผิดชอบทั้งหมดทั้งปวงอย่างรวดเร็ว ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไว้ก่อนเป็นดีที่สุดในตอนนี้
งั้นนั่งสอบต่อไปดีๆ
คนคุมสอบเน้นเสียงอย่างกำชับก่อนจะก้มหน้าลงมาบอกข้างหูด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบเอาจริงเอาจังจนน่าขนลุกว่า
แต่อย่าให้ฉันรู้ว่าเธอทุจริตการสอบ ไม่งั้น......
มันอะไรกันนี่...เด็กหนุ่มร้องในใจ คนคุมสอบมีสิทธิ์มาลงมะเหงกบนหัวชาวบ้านเล่นแบบนี้ มาข่มขู่คนสอบแบบนี้ด้วยเหรอ... คอยก่อนเถอะ.... ให้สอบเสร็จก่อน ฉันจะหาทางเล่นงานแก...
เขาเริ่มหันมองซ้ายขวาอย่างระมัดระวัง พอไม่มีฐานข้อมูลสำคัญเขาก็ไม่แน่ใจในการทำข้อสอบ แต่ไม่เป็นไร...ยังไม่กระดาษซึ่งบรรจุข้อมูลในแนวเดียวกันนี้อีกในปากกาลูกลื่น เขาค่อยๆ หมุนด้ามปากกาออกมาอย่างแผ่วเบา แต่การกระทำยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์เพราะเขาสังเกตเห็นสาวน้อยนางหนึ่งซึ่งนั่งโต๊ะข้างๆ มีท่าทางล่อเลศนัยผิดปกติ
ลางสังหรณ์อย่างคนเจนประสบการณ์ บอกว่าเธอกำลังจะทุจริตการสอบ.....
ตอนนี้คนคุมสอบเดินไปหลังห้อง เป็นโอกาสอันดีในการก่อเหตุ เขามองอย่างสนใจ ดูว่าเจ้าหล่อนจะซ่อนข้อมูลไว้บริเวณไหน บางทีอาจจะเป็นขาอ่อน ซึ่งเป็นจุดซ่อนเร้นที่ไม่มีใครกล้าตรวจเท่าไร เขากลืนน้ำลายเอื๊อกเมื่อนึกภาพเธอค่อยถลกชายกระโปรงขึ้น
แต่เขาคิดผิด
เธอพลิกหงายฝ่ามือซ้ายวางบนโต๊ะ มือขวากำคัทเตอร์ แล้วค่อยๆ ใช้ใบมีดคมกริบบรรจงกรีดเป็นทางยาวลงบนข้อมือด้วยสีหน้าท่าทางเรียบเฉยเหมือนไม่มีความเจ็บปวดใดๆ เลือดไหลทะลักเป็นสายในขณะที่เธอค่อยๆดึงกระดาษชุ่มเลือดแผ่นเล็กๆออกมาจากรอยแผล
เฮ้ย.......!!!!!
เขาพรวดพรวดลุกขึ้นร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ โต๊ะถูกกระแทดล้มโครมไปข้างหน้า นี่มันบ้าอะไรกัน ยังมีคนคิดวิธีซ่อนกระดาษข้อมูลสำคัญได้วิปริตผิดแผกแตกต่างมากไปกว่าที่เขาคิดอีก เธอคนนั้นหันมามองพลางยกมือซ้ายอาบเลือดขึ้น เอานิ้วชี้แตะริมฝีปากเป็นนัยว่าอย่าเอะอะเสียงดังไป โดยไม่สนใจกับบาดแผลตัวเองเลยสักนิด
โวยวายอะไรอีก จะบ้าหรือไง....
เสียงคุกคามของคนคุมสอบดังเต็มรูหู ก่อนมะเหงกจะหล่นเปรี้ยงลงเต็มหัว หมอนี่มาถึงที่เกิดเหตุรวดเร็วทันในเหลือเกิน แบบนี้น่าจะไปเป็นตำรวจมากกว่าคนคุมสอบ
ก็.......
เด็กหนุ่มชี้มือสั่นระริกไปทางเด็กสาวต้นเหตุ แต่คำพูดที่กำลังจะหล่นออกมาก็ชะงักค้าง
เด็กสาวคนนั้นนั่งหันมามองอย่างประหลาดใจ ไม่มีรอยแผลหรือสีแดงฉานของเลือดเลยสักนิด ไม่มีคัทเตอร์ไม่มีกระดาษอะไรเลย นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน เธอมองหน้าเขา มองหน้าคนคุมสอบ แล้วผายมือออกบอกอาการว่าไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรสักนิด
คนคุมสอบมองหน้าเด้กหนุ่มอย่างเอาเรื่องก่อนตะคอกเสียงดังว่า
จะบ้าหรือไง อยู่ดีๆ ก็เอะอะโวยวาย..ถ้าประสาทแด๊กก็กลับบ้านไปซะอย่ามาก่อกวนห้องสอบ
คนคุมสอบบ้าอะไรปากจัดชะมัด เขาได้แต่คิดในใจ รีบยกมือไหว้ขอโทษแล้วจัดโต๊ะเก้าอี้ให้เข้าที่ นั่งทำข้อสอบต่อไป แต่ตอนนี้สมาธิในการทุจริตแตกซ่านไปหมดแล้ว
หนทางในการทุจริตการสอบซึ่งเคยปลอดโปร่งโล่งใจมาตลอดตอนนี้เริ่มมีปัญหาแล้ว เป้าหมายในชีวิตที่เคยวาดเอาไว้สวยงามว่าจะต้องทุจริตการสอบไปจนถึงตำแหน่งใหญ่โตในอนาคตเริ่มไม่ราบรื่นเสียแล้ว หรือนี่จะเป็นอาการสติแตกเบื้องต้น ไม่มีทาง...เขาคำรามในใจ เขาไม่มีวันบ้าก่อนวัยเกินใจฝัน....เขาไม่ต้องการถูกส่งเข้าโรงพยาบาลโรคจิตก่อนวัยอันควร!
แต่สิ่งที่เห็นแปลกๆในวันนี้มันอะไรกันแน่ เริ่มต้นจากข้อความแปลกๆในกระดาษ และภาพสาวน้อยอาบเลือดเมื่อครู่ มันต้องมีคำอธิบายในเรื่องนี้
มองปากกาอย่างไม่แน่ใจ มันถูกหมุนด้ามออกมาจนจะหลุดแล้ว กระดาษแผ่นเล็กๆบรรจุข้อมูลสำคัญม้วนอยู่ในนั้น แค่ดึงออกมาอ่านเท่านั้น แต่ทำใมใจมันถึงสั่นโดยไม่มีเหตุผล
คนคุมสอบเดินไปหลังห้องอีกแล้ว...เขารู้ว่ามันเป็นเพียงกลลวงให้คนเข้าสอบตายใจ ทันทีที่สัมผัสถึงการทุจริตการสอบ เขาจะกระโจนเข้าหาเป้าหมายทันทีราวเสือร้ายตะครุบเหยื่อ
แต่จอมทุจริตอย่างเขาไม่เคยหวั่น
เด็กหนุ่มค่อยๆดึงกระดาษออกมาอย่างระวังตัวสุดขีด แล้วค่อยคลี่ออกมาอ่านด้วยใจเต้นระทึก
ฉันรู้ว่าแกโกงข้อสอบ!
ข้อความนรกนั่นปรากฏอีกแล้ว อักษรเหล่านั้นเหมือนขยายใหญ่ขึ้นเป็นขุนเขาถาโถมเข้ากระหน่ำถล่มทลายในความรู้สึกจนใจหายวูบกดทับหนักอึ้งราวร่วงหล่นลงก้นเหวลึกไม่มีที่สิ้นสุด กระดาษแผ่นนี้เขาบรรจุลงปากกากับมือ ไม่มีใครรู้เด็ดขาด แต่ข้อความมันเปลี่ยนไปได้อย่างไรจะว่ามีคนมาแอบเปลี่ยนก็ไม่น่าเป็นไปได้ มันเป็นฝีมือของมนุษย์ เทวดา หรือหมาตนใดกันแน่ !
อยากจะตะโกนออกมาให้ลั่นโลกจะได้ระบายความอัดอั้นตันใจ แต่คนคุมสอบจอมโหดคงไม่ไว้หน้า จึงได้แต่ชำเลืองมองไปมาอย่างว้าวุ่นใจ อนาคตสดใสแห่งการทุจริตจะดับวูบลงวันนี้หรืออย่างไร
อีกข้างหนึ่งของเขาเป็นเด็กหนุ่มซึ่งก้มหน้าทำข้อสอบอย่างเอาเป็นเอาตายไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แบบนี้คงตั้งหน้าตั้งตาดูหนังสือเหน็ดเหนื่อยทั้งปีทั้งชาติอย่างน่าเวทนา เขาเย้นหยันในใจ....มันช่างน่าสงสารจริงๆ คนพวกนี้
แต่หมอนั่นดูคุ้นตาชอบกล เขาเริ่มรู้สึกอย่างนั้น เหมือนเคยเห็นกันมากันที่ไหนสักแห่งซึ่งนึกไม่ออก
เด็กหนุ่มคนนั้นเหมือนรู้ตัวว่าถูกมองแบบผิดปกติ เขาหันมามองแวบหนึ่ง
นั่นมันถึงกับทำให้เด็กหนุ่มจอมทุจริตถึงกับตะลึงนั่งตัวแข็งขนลุกเกรียว เขานึกออกแล้ว นี่มันเจ้าแว่น เพื่อนสมัยมัธยมต้น หน้าตาท่าทางแบบนี้ถึงจะโตขึ้นกว่าวัยเด็กมากเขาก็จำได้ดี เพราะเคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาพักหนึ่ง เจ้าแว่นคนซึ่งเขาเคยเอาชนะมาได้ ทำลายความมั่นใจในที่หนึ่งมาตลอดจนหมดสิ้น
เจ้าแว่นผู้พ่ายแพ้จนต้องกินยาตายในเวลาต่อมา !
แกตายไปแล้ว.... ด้วยสาเหตุอันน้อยนิดและไม่สมเหตุผล แค่สอบแพ้เท่านั้น !!!
เจ้าแว่นหันมามองอีกพลางแสยะยิ้มให้อย่างคุ้นเคย ก่อนก้มหน้าก้มตาทำข้อสอบต่อไป
มันจะบ้ากันใหญ่แล้ว เด็กหนุมรู้สึกเหมือนตัวเองจะบ้าไปแล้วจริงๆ นี่ถ้าลุกขึ้นโวยวายจะมีใครเชื่อว่าคนตายไปแล้วจะมานั่งทำข้อสอบแข่งอยู่ข้างๆ แบบนี้ใครจะไปเชื่อ!!!
โปรดติดตามตอนจบในตอนต่อไปเด้อ
แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 50 09:36:07
แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 50 09:34:45
แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 50 09:20:30
จากคุณ :
Psycho man
- [
14 มี.ค. 50 09:17:57
]