ยิ้นกับปรางค์รู้จักกันมานาน แต่ทำไมถึงไม่ค่อยคุยกันก็ไม่รู้ปารณีย์เปรยลอยลม สองมือยังคงง่วนอยู่กับการทำขนมสองตาจับจ้องไปยังหญิงสาวร่างเล็กบางในชุดแส็คสีชมพูหวาน ผมสีน้ำตาลอ่อนถูกดัดเป็นลอนใหญ่ ดวงตากลมโตฉายแววตื่นตระหนกเล็กน้อย ริมฝีปากบางเผยอยิ้มที่เหมือนฝืนเต็มทีในวินาทีถัดมา
ยิษฐาก้มหน้างุดแอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ ยามได้ยินชื่อนี้ทีไรใจดวงน้อยก็คอยแต่สั่นไหว เป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่าใจของหล่อนไม่ได้ตายด้านอย่างที่ใครชอบพูดกัน เพราะก้อนเนื้อที่ไร้หัวใจมานานแสนตอนนี้กลับมาเต้นถี่สั่นไหวด้วยความเจ็บแปลบที่แล่นริ้วขึ้นมาถึงขั้วหัวใจ ยากที่จะอธิบายให้ใครฟังแล้วเข้าใจอย่างที่กำลังเข้าใจตัวเองในเวลานี้
ก็เป็นอย่างนี้มาตั้งนานแล้วนี่คะ เมื่อก่อนเป็นยังไงต่อไปก็เป็นอย่างนั้น
น้ำเสียงน้อยใจของผู้ที่เปรียบเสมือนน้องสาวแท้ๆสามารถบ่งบอกอะไรได้หลายอย่าง ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ยิษฐาก็ยังเป็นคนเดิมที่เดาไม่ยาก ลองถ้าเอ่ยถึงชื่อน้องชายสุดหล่อที่อยู่แดนไกลเมื่อไหร่ ผู้หญิงตัวเล็กตรงหน้าจะมีอาการหม่นซึมไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาสบตากันตรงๆ
เสาร์นี้ทำตัวให้ว่างแล้วไปรับปรางค์ที่สนามบินด้วยกันนะจ๊ะพูดพลางจ้องอีกฝ่ายเพื่อจับพิรุธ
แล้วมันเรื่องอะไรที่จะพาหัวใจไปเจ็บอีกครั้ง ถ้าเขากลับมาเมื่อไหร่หล่อนตั้งใจไว้แล้วว่าจะเลี่ยงเจอให้ถึงที่สุด ถึงแม้ว่าบ้านจะอยู่ติดกันกั้นด้วยกำแพงรั้วก็เถอะ ฉะนั้นวันเสาร์นี้ต้องรีบทำตัวไม่ให้ว่างโดยด่วน
เออ...เสาร์นี้ยิ้นไม่ว่างหรอกค่ะ พอดีนัดกับยัยบัวไว้แล้ว
นึกอยู่แล้วเชียวว่าคำตอบจะต้องออกมาประมาณนี้ ปารณีย์ยิ้มในหน้ามองปราดเดียวก็รู้ว่าจะชิ่งกัน
งั้นไม่เป็นไรปรางค์กลับมาคราวนี้อยู่ถาวร ยังไงก็ต้องได้เจอกันอยู่ดีจริงมั้ย
ค่ะตอบรับอย่างเสียมิได้
คำตอบเหมือนคล้อยตามแต่ดูจากสีหน้าค่าตาแล้วเหมือนคนอยากร้องไห้มากกว่า ปารณีย์หยิบถาดขนมเข้าเตาอบ ก่อนจะเดินไปล้างมือที่อ่างล้างจาน
พี่ลองแง้มๆถามปรางค์ดู ปรากฏว่าหัวใจยังว่างอยู่ ถ้ายังไงก็อย่าเปลี่ยนใจไปชอบใครเสียก่อนล่ะ รายนี้พี่จองไว้ให้ยิ้นคนเดียว
เมื่อประโยคนั้นจบลงเล่นเอาคนฟังแทบช็อค หน้าเผือดสีทันที ก่อนหน้านี้หล่อนไม่เคยได้ยินประโยคทำนองนี้เลย ให้ตายสิ...เหงื่อเม็ดเป้งผุดขึ้นตรงบริเวณไรผม พี่ปารู้ได้ยังไง...
พี่ปากำลังหมายถึงอะไรเหรอคะปากแข็งเข้าไว้ยิษฐา
มือเรียวบางวางลงบนเส้นผมนุ่มสลวยก่อนจะโคลงไปมาด้วยความเอ็นดู
เถอะ...ยิ้นรู้น่าว่าพี่กำลังหมายถึงอะไร
ดูเหมือนว่าความรู้สึกที่ฝังอยู่ลึกสุดใจจะกลับมาปะทุอีกครั้ง ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน หล่อนยังลืมเขาไม่ลง ยิษฐากัดริมฝีปากตัวเองจนรู้สึกเจ็บ เจ็บ...หญิงสาวยิ้มเศร้ากับตัวเอง คำคำนี้อยู่เป็นเพื่อนเหมือนของคู่กันกับหล่อนมานานแล้ว
การแอบรักใครสักคนดูจะเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับหล่อนแล้วตอบได้คำเดียวว่า ไม่ ถ้าหัวใจบังคับกันได้หล่อนจะหยุดความรู้สึกนั้นของตัวเอง เพื่อให้คนที่ได้ชื่อว่าเคยเป็นเพื่อนยอมรับและยังคงคบกับหล่อนในฐานะเพื่อนเช่นเดิมต่อไป
เรารู้นะว่าทำไมยิ้นถึงไม่ช่วยเราเรื่องศิเด็กหนุ่มมัธยมปลายโพล่งออกมาด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจ
ยิษฐามองปรางค์ภพอึ้งๆคนมีชนักติดหลังอย่างหล่อนได้แต่พูดอ้อมแอ้มรู้อะไร
รู้ว่ายิ้นคิดยังไงกับเรา ทำไมล่ะยิ้นเราเป็นเพื่อนกันนะ บอกตามตรงว่าเรายอมรับความรู้สึกแบบนี้ไม่ได้หรอก เมื่อไหร่ที่ยิ้นไม่คิดอะไรกับเราแล้ว วันนั้นเราค่อยกลับมาเป็นเพื่อนกันใหม่
คนฟังได้แต่ยืนอึ้งมือไม้เย็นเฉียบ ใช่...หล่อนยอมรับว่าเห็นแก่ตัวกลัวว่าถ้าช่วยเขาแล้วหล่อนจะต้องเจ็บ ยิษฐารู้ตัวดีว่าหล่อนไม่มีอะไรเทียบเคียง ศิรดาสาวน้อยแสนสวยและแสนดีคนที่ปรางค์ภพมอบใจให้ เหมือนกับที่หล่อนมอบให้เขาหมดใจ
รักแรกกับใจเดียวเริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่วันที่เด็กผู้ชายตัวสูงๆหน้าตาคมเข้ม ย้ายเข้ามาอยู่ข้างบ้านของหล่อนน่ะเอง จนกระทั่งสองอาทิตย์ก่อนเปิดภาคเรียนในช่วงมัธยมปลายปีสุดท้ายผ่านไป หล่อนดีใจสุดๆเมื่อเห็นเขาคนนั้นนั่งอยู่โต๊ะตัวหลังสุดของห้องเรียน ยิษฐากระตุกพิสชาเพื่อนสนิทของหล่อนให้หันไปดู
เด็กใหม่ใช่มั้ยเนี่ย ล้อหล่อเนอะยิ้นเนอะพิสชากระซิบกระซาบให้ได้ยินกันแค่สองคน
ยิษฐาพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง หล่อนมองไปยังเขา ฝ่ายนั้นก็มองกลับมาเช่นกัน หญิงสาวส่งยิ้มทักทายรู้สึกเสียเซลฟ์นิดๆเมื่อเห็นว่าเขามองกลับมางงๆ แป้ว...
หล่ออย่างนี้คงไม่เหลือมาถึงเราหรอก อย่างเราๆก็ได้แค่มองกันตาเยิ้มอยู่อย่างนี้ต่อไป
เค้าอยู่ข้างบ้านฉันเองแหละหลังจากพูดจบยิษฐาก็หย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้
........................................................................
จากคุณ :
สวัสดีสีชมพู
- [
18 มี.ค. 50 12:36:04
]