ตึกใหญ่ตระหง่านเงื้อม........ทอดเงา
สูงเยี่ยมเทียมขุนเขา.........แข่งฟ้า
บังแสงข่มไม้เฉา............หดหู่
ลานตึกอาบแสงจ้า........อบอ้าวไอสูรย์
อาคารร้านใหญ่น้อย..........เรียงราย
บ้างตอกเสาผูกสาย...........เหล็กไว้
ป่าคอนกรีตอบอาย............ร้อนระอุ
ผงฝุ่นควันอาบไล้...............แหล่งหล้าอวลไอ
เสียงรถไฟฟ้าวิ่ง..........โครมคราม
ไหลหลั่งผู้คนหลาม......หลากล้น
สองแถวบีบแตรตาม.....ตรอกซอก
รถเครื่องสองล้อด้น......ด่วนดั้นจรดล
บนเส้นทางกลิ่นคลุ้ง..........ไอเสีย
ล้าหน่ายกายใจเพลีย.........กลับบ้าน
การงานยุ่งนัวเนีย..............เหน็ดเหนื่อย
ในจิตใจชาด้าน.................ดับไร้อารมณ์
เสียงขรมรถแย่งเข้า.........ไฟเขียว
หวังแค่ตัวคันเดียว............ผ่านพ้น
ใครตายห่าหวาดเสียว........ช่าง:-)
ขับแข่งเลือดเดือดล้น.........ระอุร้ายแรงเข็ญ
เป็นคนช่างยากแท้.........หนอคน
คอยเดือดดิ้นทุรายทุรน.......เครียดท้อ
วันวันทุกข์เวียนวน..................ว้าวุ่น
ฤาพระเจ้าเล่นล้อ........................หลอกร้ายเกินทน
คนเดินดินแย่งขึ้น..........รถเมล์
เหม็นเหงื่อทนปนเป..........ปวดร้าว
เบียดเสียดยัดเยียดเซ..........ยามหยุด
เดี๋ยวกระตุกเดิ๋ยววิ่งอ้าว............แข่งล้อยมพบาล
ซมซานซอยคดเคี้ยว.........เลี้ยวลัด
บ้านเล็กรายแออัด...........อุดอู้
ยามพลบค่ำยุงกัด..........กลุ้มสุด ทนนอ
ทนอยู่มุดคุดคู้.............เช่าห้องอาศัย
ในแดนดินถิ่นแล้ง.........น้ำใจ
ว้าเหว่เปลี่ยวหฤทัย........ระทดท้อ
ตีนถีบปากกัดไป...........ไป่ว่าง
อยากเอ่ยปากตัดพ้อ.......พระเจ้าแล้งใจ
ในคืนแรมมืดแม้น.........หมึกดำ
ในถิ่นดงน้ำครำ................เน่าคลุ้ง
วันเดือนเคลื่อนคล้อยจำ........ทนอยู่
วันผ่านพาฝันฟุ้ง......................ฝืดแล้งลบเลือน
บางคืนเดือนเด่นห้วง..........เวหน
แสงผ่องส่องสาดสกล........กล่อมห้อง
กลิ่นน้ำเน่าเคล้าปน............แทนกลิ่น ผกานา
ยุงหึ่งแทนหรีดร้อง.............ถิ่นร้างเรไร
แสงไฟฟ้าส่องฟ้า.........ข่มดาว
ซีดหม่นลี้ห้วงหาว..........ลับหล้า
คืนวันผ่านดังราว............กัลป์กัปป์
ชีพผ่านนานเนิ่นช้า.........ล่วงพ้นวันวัน
จากคุณ :
คมเย็น
- [
22 มี.ค. 50 16:25:18
]