Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    สิ้นรัชกาล (พลิกพงศาวดาร ๑๓) พ.สมานคุรุกรรม

    พลิกพงศาวดาร(๑๓)

    สิ้นรัชกาล

    พ.สมานคุรุกรรม

    หลวงสรศักดิ์เห็นท้าวพระยาข้าราชการทั้งหลายนิ่งอยู่ดังนั้น ก็จับดาบขึ้นกวัดแกว่ง แล้วร้องคุกคามสำทับไปว่า

    “ คนทั้งหลายนี้ไฉนจึงนิ่งอยู่เล่า จะเข้าด้วยเราหรือหาไม่ก็ว่ามา ถ้าผู้ใดไม่เข้าด้วยเรา เราก็จะฟันเสียบัดนี้ “

    ท้าวพระยาข้าราชการทั้งหลายเห็นดั่งนั้น ก็ยิ่งสะดุ้งตกใจกลัวความตายยิ่งนัก ต่างคนต่างถวายบังคมพร้อมกัน แล้วกราบทูลว่า

    “ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอเข้าด้วยพระองค์ และจะขอเป็นข้าราชการอยู่ในใต้ละอองธุลีพระบาทสืบไป “

    หลวงสรศักดิ์ เห็นขุนนางทั้งปวงอยู่ในอำนาจสิ้นแล้ว ก็ไปถวายบังคมพระเพทราชาผู้เป็นบิดา แลรับพระราชโองการ แล้วมอบเวนสมบัติถวายแก่พระเพทราชานั้น

    ท้าวพระยาข้าทูลละอองธุลีพระบาททั้งหลาย ก็รับพระบัณฑูรแก่หลวงสรศักดิ์ แลเชิญขึ้นประดิษฐาน ณ ที่มหาอุปราช

    หลวง สรศักดิ์ผู้สำเร็จราชการที่มหาอุปราช ก็ใช้ให้ทหารไปอาราธนาพระพุทธรูป คัมภีร์ปริยัติธรรม มาจาก เรือน แลให้ไปนิมนต์พระสงฆ์คามวาสีราชาคณะมาด้วยพร้อมกัน

    แล้วก็ถวายนมัสการพระรัตนไตรยาธิคุณสุนทรภาพ ด้วยเบญจางคประดิษฐ์ แล้วให้ขุนนางทั้งนั้นกินน้ำพิพัฒน์สัตยา ถวายสาบานตามโบราณราชประเพณี เสร็จทุกประการ

    พระเพทราชาผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ก็ให้เจ้าพระยาสุรสงครามเป็นผู้รับสั่ง ให้ไปหาตัวเจ้าพระยาวิชาเยนทร์เข้ามา ถ้าสำเร็จราชการแล้วจะเลี้ยงให้ถึงขนาด

    ฝ่ายหลวงสรศักดิ์ผู้สำเร็จราชการที่มหาอุปราช เมื่อให้ไปหาตัวเจ้าพระยาวิชาเยนทร์นั้น ก็กะเกณฑ์ทแกล้วทหารให้อยู่ประจำรักษาทุกป้อมทุกประตูทั้งปวงรอบพระราชวัง แลให้ปิดประตูเสียอย่าให้ผู้ใดเข้าออกแปลกปลอมได้ ให้ตรวจตราระวังระไวเป็นกวดขันทุกตำบล

    แล้วจัดแจงทแกล้วทหารให้ไปคอยเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ ถ้าเข้ามาแล้วให้ฆ่าเสีย

    เจ้าพระยาสุรสงคราม ก็สั่งให้ทนายไปหาเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ที่บ้าน แจ้งว่ามีพระราชโองการให้หา เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ได้แจ้งก็เข้าใจเหตุทั้งนั้น

    เมื่อถามว่าใครเป็นผู้รับสั่ง ทนายก็บอกว่าเจ้าพระยาสุรสงครามเป็นผู้รับรับสั่ง  เจ้าพระยาวิชาเยนทร์จึงว่า

    “ เจ้าพระยาสุรสงครามให้หาเราไปบัดนี้ ประดุจเขียนด้วยมือแลจะลบด้วยเท้าเล่า ด้วยเจ้าพระยาสุรสงครามมีคุณูปการแก่เราเป็นอันมาก ได้ชุบย้อมมาแต่เดิมนั้น แลกลับจะมาทำลายคุณเสียดั่งนี้ ก็มิควรยิ่งนัก ถ้าเราเข้าไปบัดนี้ ดีร้ายจะมีภยันตรายเป็นมั่นคง “

    ทนายก็เตือนว่าพระราชโองการให้หาเป็นการเร็ว เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ก็แต่งกายแล้วขึ้นเสลี่ยง มีขบวนแห่นำมาจนเข้าประตูพระราชวัง คนซึ่งคอยอยู่สองข้างประตูนั้น ก็เอาไม้พลองตีเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ตกลงจากเสลี่ยง แล้วประหารจนสิ้นชีวิต

    ส่วนพวกขบวนที่มาด้วยนั้น ครั้นเห็นนายตายแล้วก็ตกใจกลัว ต่างคนต่างวิ่งหนีกระจัดพลัดพลายไปสิ้น

    พระเพทราชาก็พาหลวงสรศักดิ์ขึ้นไปเฝ้าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงประชวรหนักอยู่ ณ พระที่นั่งสุธาสวรรย์ แลถวายบังคมแล้วกราบทูลถามพระอาการอันทรงพระประชวรนั้น แล้วก็กราบทูลแถลงกิจจานุกิจราชการทั้งปวง ซึ่งได้ว่ากล่าวบังคับบัญชานั้นเสร็จสิ้นทุกประการ  แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาว่า

    “ ถ้าพระเจ้าอยู่หัวสวรรคตไซร้ ข้าพระพุทธเจ้าจะรักษาสมบัติไว้ถวายพระเจ้าลูกเธอ กรมพระราชวังหลัง “

    สมเด็จพระบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัว ได้ทรงฟังพระเพทราชากราบทูลดังนั้น ก็เข้าพระทัยในกิริยาอันแห่งพระเพทราชาแลหลวงสรศักดิ์ อันคิดการเป็นกบฏนั้น ก็ทรงพระพิโรธเป็นกำลัง

    ทรงจับเอาพระแสงดาบซึ่งวางอยู่ข้างที่ แล้วเสด็จลุกขึ้นยืนได้ด้วยสามารถ มีพระราชโองการตรัสว่า

    “ ไอ้สองคนพ่อลูกนี้คิดการเป็นกบฏ “

    แล้วพระองค์จะเสด็จพระราชดำเนินไปประหารชีวิตพระเพทราชาแลหลวงสรศักดิ์  ก็มิอาจสามารถจะเสด็จพระราชดำเนินไปได้ ด้วยทรงพระประชวรหนักทุพลภาพอยู่แล้ว ทั้งพระกายก็สั่นจนเสด็จดำรงพระองค์มิได้ ก็ล้มลงในที่นั้น

    แลพระแสงดาบทรงก็ตกจากพระหัตถ์ แล้วมีพระราชดำรัสว่า

    “ เทพเจ้าผู้บำรุงรักษาพระบวรพุทธศาสนา จงไว้ชีวิตอีกสักเจ็ดวัน จะขอดูหน้าอ้ายกบฏสองคนพ่อลูกนี้ให้จงได้ “

    พระเพทราชาแลหลวงสรศักดิ์ ก็กลับลงมาจากพระที่นั่งสุทธาสวรรย์ แลเข้าใจว่าสมเด็จพระเจ้าแผ่นดิน จะเสด็จสวรรคตในวันนั้นเป็นแท้อยู่แล้ว

    จึ่งแต่งคนสนิทให้เอาเรือเร็วลงไปยังกรุงเทพมหานคร แลให้ทูลอัญเชิญเสด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าอภัยทศ ซึ่งเสด็จอยู่ ณ พระราชวังบวรสถานพิมุขฝ่ายหลังว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรหนักอยู่แล้ว แลบัดนี้มีพระราชโองการให้อัญเชิญเสด็จขึ้นไปเฝ้า ณ เมืองลพบุรีเป็นการเร็ว

    ผู้รับรับสั่งก็เอาเรือเร็วรีบลงไปยังกรุงเทพมหานครในวันนั้น

    ส่วนสมเด็จพระบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัว  จำเดิมแต่แต่เสด็จล้มลงเพลานั้น พระโรคก็กำเริบมากขึ้น จึ่งมีพระราชดำรัสให้หาบรรดาชาวที่ชาววัง ซึ่งเป็นข้าหลวงเดิมประมาณสิบห้าคน เข้ามาเฝ้าในมหาปราสาทที่นั่งสุธาสวรรย์ ที่เสด็จทรงประชวรอยู่นั้น

    แล้วจึ่งมีพระราชโองการตรัสว่า

    “ บัดนี้ไอ้สองคนพ่อลูกมันคิดการเป็นกบฏ ฝ่ายเราก็ป่วยทุพลภาพหนักอยู่แล้ว เห็นชีวิตไม่ตลอดไปจนสามวัน แลซึ่งท่านทั้งหลายจะอยู่ในฆารวาสนั้น เห็นว่าไอ้กบฏสองพ่อลูกมันจะฆ่าเสียสิ้น อย่าอยู่เป็นคฤหัสถ์เลย จงบวชในพระบวรศาสนา เอาธงชัยพระอรหันต์เป็นที่พึ่งเถิด จะได้พ้นภัย “

    แล้วดำรัสให้ไปเบิกเอาไตรจีวรในพระคลังศุภรัตน์มาพอครบตัวกัน แลมีพระราชโองการตรัสให้ไปอาราธนาพระสงฆ์ราชาคณะ เข้ามาประมาณยี่สิบรูปในเพลานั้น แล้วดำรัสว่า

    “ นิมนต์พระผู้เป็นเจ้าทั้งหลาย จงนำเอาคนเหล่านี้ออกไปอุปสมบท บวชเป็นพระภิกขุในพระพุทธศาสนาด้วยเถิด “

    จึ่งพระสงฆ์ราชาคณะทั้งหลาย ถวายพระพรว่า

    “ ซึ่งอาตมาทั้งปวงจะนำเอาอุบาสกเหล่านี้ ออกไปอุปสมบท ณ พระอารามนั้น เห็นว่าผู้ซึ่งประจำรักษาประตูพระราชวังนั้น จะห้ามมิให้ออกไป “

    สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงฟังดังนั้น ก็ทรงพระพิโรธแล้วโทมนัสในพระทัยเป็นกำลัง แต่มิรู้ที่จะทำประการใด ด้วยทรงพระประชวรหนักเป็นอาสัญทิวงคตอยู่แล้ว จำเป็นจำอยู่ในบังคับพระเพทราชา จึ่งมีพระราชดำรัสว่า

    “ ถ้ากระนั้นนิมนต์พระผู้เป็นเจ้าทั้งปวง ให้อุปสมบทคนเหล่านี้ในปราสาทของโยมนี้เถิด จะได้หรือมิได้ “

    พระสงฆ์ราชาคณะทั้งหลายถวายพระพรว่า

    “ ถ้าแลพระราชสมภารเจ้าทรงพระราชอุทิศพระมหาปราสาท ถวายเป็นพระวิสุงคามเสมาแก่พระสงฆ์แล้ว อาตมาภาพพระสงฆ์ทั้งปวง ควรจะให้อุปสมบทกันได้ “

    จึ่งทรงพระกรุณาโปรดอนุญาตพระราชอุทิศถวายพระมหาปราสาททั้งสอง แลจังหวัดพระราชวังทั้งปวง เป็นวิสุงคามสีมาแก่สงฆ์เสร็จแล้ว มีพระราชดำรัสว่า

    “ นิมนต์พระคุณเจ้าทั้งหลาย กระทำซึ่งสังฆกรรมทั้งปวงเถิด “

    จึ่งพระสงฆ์ราชาคณะทั้งหลายก็ให้อุปสมบทบวชบรรดาข้าหลวงเดิมทั้งปวง เป็นภิกษุภาวะ ณ พระที่นั่งธัญญมหาปราสาทเสร็จแล้ว ก็ให้โอวาทโดยสมณกิจ แล้วพระสงฆ์ราชาคณะแลพระภิกษุบวขใหม่ทั้งหลาย ก็ถวายพระพรลากลับออกไปยังอาราม

    ขณะนั้นบรรดาข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยทั้งปวง ก็ไปมั่วสุมอยู่กับพระเพทราชา จะได้มีผู้ใดผู้หนึ่งนำพาในฝ่าละอองธุลีพระบาทนั้นหามิได้ ยังแต่พระปิย ผู้เป็นบุตรขุนไกรสิทธิศักดิ์ชาวบ้านแก่ง ที่ทรงพระกรุณาเอามาเลี้ยงไว้ในพระราชวังแต่ยังเยาว์ ให้มีนางนมพี่เลี้ยงประดุจหนึ่งลูกหลวง แลพระปิยนั้นมีพรรณสัณฐานต่ำเตี้ย ทรงพระกรุณาเรียกว่าไอ้เตี้ย

    แลพระปิยกอปรด้วยสวามิภักดิ์ นอนอยู่ปลายพระบาท คอยปรนนิบัติพยุงพระองค์ลุกนั่งอยู่เพียงผู้เดียว

    ครั้นรุ่งเพลาเช้าพระปิยลุกออกมาบ้วนปากล้างหน้า ณ ประตูกำแพงแก้ว หลวงสรศักดิ์ผู้สำเร็จราชการที่มหาอุปราช จึ่งสั่งให้ขุนพิพิธรักษาชาวที่ ผลักพระปิยตกลงไปจากประตูกำแพงแก้ว

    แลพระปิยร้องขึ้นได้คำเดียวว่า ทูลกระหม่อมช่วยด้วย พอขาดคำลงคนทั้งหลายก็คุมเอาตัวพระปิยไปประหารชีวิตเสียในที่นั้น

    สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงฟังเสียงพระปิยร้องขึ้นมาดั่งนั้น ก็ตกพระทัยจึ่งดำรัสว่า ใครทำอะไรกับไอ้เตี้ยเล่า เมื่อทรงแจ้งเหตุแล้ว ก็ทรงอาลัยในพระปิยยิ่งนัก

    แลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็สวรรคต ณ พระที่นั่งสุธาสวรรย์มหาปราสาทในเพลานั้น

    ส่วนผู้ถือหนังสือรับสั่ง ซึ่งลงไปยังกรุงเทพมหานครนั้น ก็ไปกราบทูลเจ้าฟ้าอภัยทศเสร็จสิ้นทุกประการ แลเจ้าฟ้าอภัยทศมิทันทราบเรื่องราว สำคัญว่าจริง แลพี่เลี้ยงจึงกราบทูลว่า

    “ อยู่แต่พระเพทราชาแลหลวงสรศักดิ์ แลซึ่งเสด็จขึ้นไปครั้งนี้ จงระมัดระวังพระองค์ให้จงหนัก “

    เจ้าฟ้าอภัยทศก็ทรงพยักเอา แล้วก็เสด็จลงเรือพระที่นั่งขึ้นไปยังเมืองลพบุรี ครั้นไปถึงวัดพระพรหมตำบลปากน้ำโพสพ ก็เสด็จแวะเรือขึ้นไปหาพระพรหมครูครู่หนึ่งแล้วนมัสการลา เสด็จกลับลงเรือพระที่นั่งรีบไปยังเมืองลพบุรี

    ครั้นถึงก็ให้ประทับเรือพระที่นั่ง ณ ฉนวนประจำท่า

    ขณะนั้นสมเด็จพระบรมราชบิดาเสด็จสวรรคตเสียก่อนแล้ว หลวงสรศักดิ์ก็ให้ข้าหลวงไปคุมเอาพระองค์เจ้าฟ้าอภัยทศ สำเร็จโทษเสียด้วยท่อนจันทน์ ที่ตำบลวัดทราก  

    แล พระบาทบรมนารถนารายณ์ราชบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัว เมื่อเสด็จสวรรคตนั้นเป็น วันพฤหัสบดี เดือนห้า แรมสามค่ำ ปีจอ เสด็จดำรงราชอาณาจักรอยู่ได้ ยี่สิบเก้าพรรษา สิริพระชนม์ห้าสิบเอ็ดพรรษา

    ความโดยพิศดารในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับ สมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน ตั้งแต่ต้นแผ่นดินสมเด็จพระเอกาทศรถ จนถึงสิ้นแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่ได้นำมาเล่าต่อเนื่องกัน ก็จบชุดสมุดไทยลงแต่เพียงนี้.

    ###########

    จากคุณ : เจียวต้าย - [ 23 มี.ค. 50 08:00:16 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom