เรื่องราวบางเรื่อง หรือ เส้นทางบางเส้นทาง ไม่มีวันบรรจบกันได้ตราบนี้และตลอดไป
มีบางคนทุ่มเถียง เขาว่า อยู่ที่เราจะพยายามตัดเส้นทางนั้นมาต่อกัน
หรือ จะปล่อยให้เป็นแบบนั้น ไปเรื่อยๆ
ความห่างบางทีเราก็สร้างกันขึ้นมาเอง ความไม่เข้าใจบางครั้งเราก็ก่อกันเอง
ถ้าไม่เชื่อ ผมแนะนำให้ไปหาเพลง อยู่อย่างเหงาเหงา ของ บอย พีซเมกเกอร์ ฟัง
ในบางท่อนของเนื้อเพลง เขียนว่า
รู้สึกบ้างไหม ทำไมเดี๋ยวนี้เดินไม่ค่อยจูงมือ ไม่เชื่อถือในคำพูดกัน ..
จะดีกว่าไหม ถ้าในเวลาแบบนั้น
มีคนหนึ่งดึงมือของอีกคนมาเกาะกุมไว้ และ เชื่อถือในทุกคำพูดของอีกฝ่าย
เมื่อคนหนึ่งวิ่งหนี แล้วอีกคนคอยวิ่งตาม แม้ว่ามันจะเหนื่อยหน่อย
แต่อย่างน้อย ความห่างก็ไม่อาจขยายตัวจนเป็นระยะทางอันแสนไกลจนรู้สึกเป็นคนอื่น
และต้องขอเวลาทบทวนหัวใจ ว่าต่างคนต่างยังรักกันอยู่ไหม
ความห่าง ระยะทาง และ เวลา ถ้ามีมากเกินไป
ความเหงาจะเข้ามาแทนที่
..และหลายครั้ง ..ที่เราเลือกทิ้งส่วนที่ดีที่สุดในชีวิตออกไป
เมื่อใครคนใหม่ เข้ามาในวันเวลาที่เหงา
พอเรื่องระหว่างคนสองคนจบลงแบบนั้น แล้วดันมีคนเกิดสำนึกได้ขึ้นมา
ผมขอแนะนำให้คุณฟังเพลง ชีวิตที่ขาดเธอ -pup potato ฟังอีกเพลงครับ
ได้อารมณ์ จนอยากเอาศีรษะไถข้างฝา
..ช่วงชีวิตฉันที่ขาดเธอ เหมือนจะตาย หัวใจจะทนไม่ไหว
ได้แต่มองร้องหาว่าเธอ อยู่ไหนและเป็นอย่างไร ....
พอเสียส่วนที่ดีที่สุดไปแล้ว เราคงรู้สึกกันเหมือนในเนื้อเพลง
จะดีกว่าไหม ถ้าหากเราสำนึกกันได้ก่อน จะต้องมารู้สึกแบบนั้น
มันเป็นความรู้สึกที่ทรมาน เจ็บปวด และทำอะไรไม่ถูก เมื่อเส้นทางของคนสองคน
ไม่ว่าจะผูกพันกัน ในฐานะใดก็ตาม ต้องกลายเป็นเส้นขนานที่มีระยะห่างออกไปเรื่อยๆ
กลายเป็นคนรู้จักกันที่กลายเป็นคนแปลกหน้า
เดินสวนทางกัน แล้วทำเป็นมองไม่เห็น
แม้คิดจะยิ้มทัก แต่สีหน้ากลับกลายเป็นบึ้งตึง
มันแย่...บอกได้แค่นั้น
...ไม่มีคำตอบเบ็ดเสร็จว่าจะทำอย่างไร เส้นขนานถึงกลับมาเป็นเส้นตรงเดียวกัน
มันขึ้นอยู่กับสภาพการณ์ และ ความคิดฝังหัว
้เช่น เมื่อตอนเรียนมหาวิทยาลัย ปีสาม เพื่อนสนิทของผมไปสารภาพรักกับเพื่อนหญิงอีกคน แล้วถูกปฏิเสธกลับมา ฝ่ายหญิงมีเงื่อนไขแรกว่าต้องหล่อ ทำให้เพื่อนผมสอบตกตั้งแต่เงื่อนไขแรก และที่สำคัญเธอไม่เคยคิดกับเขาเป็นอื่นนอกจากคำว่าเพื่อน
แต่ หลังจากนั้น แม้กระทั่ง คำว่าเพื่อน ทั้งสองคนก็ไม่มีให้แก่กัน
ฝ่ายชายไม่กล้าทักทาย หยอกล้อ พูดคุย เหมือนแต่ก่อนกลัวว่าฝ่ายหญิงจะไม่ชอบใจ กลัวเธอจะคิดว่า เขายังคิดกับเธอเกินเพื่อน และกลัวคนอื่นแซวเธอจนเขิน
ฝ่ายหญิงสร้างระยะห่างระหว่างกันและกันให้ไกลขึ้น ที่ใดมีเขาอยู่ จะไม่มีเธออยู่ที่ตรงนั้น
แม้เขาสองคนจะบอกว่า ขอให้กลับมาเหมือนเดิม
แต่ก็ไม่ได้ทำได้อย่างที่คุยกันไว้
ไม่มีใครวิ่งเข้าหากัน มีแต่วิ่งหนีกัน
ผมไม่รู้ว่า ฝ่ายใดเจ็บปวดกว่ากัน แต่เมื่อมองจากความผูกพันก่อนหน้าและนิสัยส่วนตัว
ผมว่า ฝ่ายชายมันเจ็บจนแทบบ้า
...ขอพักไว้ตรงนี้ก่อน ในข้อถกเถียงของเส้นทางที่แตกแยกจะมีวันหวนคืนได้ไหม
ผมคงตอบว่า ทั้งได้ และ ไม่ได้ ต่างก็เป็นคำตอบที่ถูก
ขึ้นอยู่กับว่า
ทางเลือกนั้น เราไม่ได้โกหกหัวใจของตัวเองอยู่ตลอดเวลา
จากคุณ :
กาแฟสอง
- [
23 มี.ค. 50 18:36:38
]