มีชายสองคน....เปิดร้านตีกระบี่คู่กัน..ใครๆต่างพูดว่า..กระบี่ที่ถูกตีจากช่างสองคนนี้..ประณีตที่สุด..คมที่สุดและทนทานที่สุด...
ถึงกระนั้น..ทั้งสองก็ยังไม่พอใจ..ต้องการจะมีฝีมือยิ่งขึ้นไปอีก...จึงพากันปิดร้านออกเดินทางฝึกฝีมือตนเอง
ฝ่ายหนึ่งตกลงใจไปทางใต้เพราะได้ยินว่าเหล็กทางนั้นดีที่สุด....
ฝ่ายหนึ่งคิดขึ้นเหนือ..เพราะมีข่าวลือถึงอาจารย์ผู้ครอบครองตำราแห่งการสร้างยอดกระบี่....
ตัดสินใจดังนั้น...ต่างแยกย้ายไปคนละทาง..โดยให้สัญญากันว่าี..อีกห้าปีให้หลังจะมาพบกัน..
เพื่ิอมาพิสูจน์ฝีมือของฝ่ายตรงข้าม...
ฝ่ายเดินทางไปทางใต้..หลังจากรอนแรมได้ร่วมปี..ได้มาถึงเมืองๆหนึ่ง..
ณ ที่นั่น..ได้มีพระราชาชื่นชอบผู้ศาสตราวุธเป็นอันมากจึงมักมีการประกวดแข่งขันหายอดช่างอยู่บ่อยๆ...
ชายคนนี้ได้ร่วมแข่งขันด้วยผลปรากฏว่า...กระบี่ของเค้าเป็นที่โปรดปราน..
ชายหนุ่มได้เข้าทำงานในวัง..เป็นช่างตีกระบี่ส่วนพระองค์..และเลี้ยงดูโดยให้เกียรติเฉกเช่นขุนนางเลยทีเดียว...
อีกฝ่ายได้เดินทางขึ้นเหนือร่วม 2 ปีจึงได้พบกับอาจารย์สมใจนึก...
ชายหนุ่มรีบปวารณาตัวเป็นศิษย์โดยทันที..ซึ่งก็ตั้งใจเรียนพร้อมทั้งปรนนิบัติรับใช้อาจารย์อย่างขยันขันแข็งโดยตลอด...
จวบจนเวลา่ล่วงเลยไป 5 ปี..
ชายหนุ่มผู้ลงใต้... หลังจากได้เข้าอยู่ในวังก็มิได้พัฒนาฝีมือตนเลย...แต่ด้วยความที่มีฐานะ...
ก็ได้จัดหาเหล็กที่ดีที่สุดเท่าที่เงินจะซื้อได้จากนั้นก็ได้ตีดาบขึ้นมา...
หลังจากเสร็จเรียบร้อยก็มุ่งหน้าไปที่หมายด้วยใจลำพอง..
ฝ่ายทางเหนือแม้ในระยะเวลา 5 ปีจะฝึกฝนกับอาจารย์มิได้ขาดจนฝีมือก้าวหน้าขึ้นมากแต่...
จนแล้วจนรอดอาจารย์ก็ไม่สอนเคล็ดลับการตียอดกระบี่เสียที...
ด้วยความร้อนใจประกอบอารมณ์โมโหจึงได้พลั้งมือสังหารอาจารย์ตนพร้อมกับแย่งตำรามา...
หลังจากศึกษา..ไม่ช้าไม่นานก็สร้างยอดดาบขึ้นสำเีร็จพร้อมเก็บข้าวของเดินทางกลับด้วยหัวใจลิงโลด...
ครั้นวันพบหน้าทั้งสองได้คุยถามสารทุกข์สุกดิบของกันและกัน..
จากนั้นได้หยิบกระบี่ของตนออกมาพร้อมกับฟาดใส่คู่ต่อสู้อย่างเต็มกำลัง..
ด้วยมั่นใจในอาวุธตนทั้งคู่...
เพียงกระบี่เดียว....กระบี่ของช่างจากแดนใต้ก็หักไปราวกับเป็นเหยือกกล้วยยังไงยังงั้น..
ช่างฝ่ายเหนือ ได้ทีจึงกล่าวแก่เพื่อนรักว่า
"เพราะเพื่อนมัวแต่หลงงมงายกับวัตถุภายนอกจนลืมไปว่าแท้จริง..ต่อให้เหล็กวิเ๋ศษแค่ไหน...
กระบี่มีอาจจะดีไปได้.. หากผู้ตีมิเก่งกล้าเพียงพอเลย.. "
"เรายอมรับ " ผู้ปราชัยพูดบ้าง
"แต่ยังไงเสีย..ตัวเจ้าก็มิอาจจะอ้างถึงความเป็นยอดนักตีกระบี่เช่นกัน ! "
" ด้วยเหตุใด " ผู้ครองตำราถามด้วยเสียงฉุนเฉียว
ช่างตีกระบี่ในวังได้ยินก็หัวเราะพร้อมกับพูดว่า
"หากแม้นกระบี่นั้นเป็นสุดยอดแห่งดาบจริงแต่ก็จะมีประโยชน์อันใดเล่า....
ในเมื่อตัวเจ้า..ย่อมโดนประํฌามจากทั้งแผ่นดินเพราะคลั่งวิชาจนถึงกับลงมือสังหารผู้เป็นอาจารย์...
กระบี่ที่สร้างจากมือคนเยี่ยงนี้จะมีค่าเหนือกว่าเศษเหล็กผุๆ หรือ!
.................................................................
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า..
เงินตรามิอาจชนะวิชา แต่วิชา่ย่อมไร้ค่า หากขาดคุณธรรม
ขอบคุณที่อ่านเรื่องเพ้อเจ้อของผมจนจบครับ.....
แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 50 23:25:02
แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 50 07:20:13
จากคุณ :
toggae095
- [
29 มี.ค. 50 07:13:22
]