Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    อมตะ (SCI-FI)

    ผมชักปืนออกมาแล้วค่อยๆ บรรจงเล็งไปที่หน้าอกของชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม ท่าทางของผมคงพอจะบอกให้เขารู้ได้ว่านี่ไม่ใช่การจับปืนเป็นครั้งแรก ผมไม่ต้องการให้เขาคิดที่จะเสี่ยงทำอะไรโง่ๆ อย่างเช่น พยายามที่จะแย่งปืนกับผม ซึ่งจะทำให้ผมต้องรีบจบชีวิตของเขาลงก่อนเวลาอันควร ผมยังคงต้องการสอบถามข้อมูลอีกหลายอย่างจากเขา

    “ผมขอทบทวนอีกครั้งนะครับ คุณหมายความว่าคุณต้องการให้ผมเอาผลงานทั้งหมดที่ทุ่มเทมาด้วยสมองของผม กับเงินของคุณ บวกกับเวลาอีก 4 ปี กว่าๆ ทั้งหมดนี่ทิ้งลงถัง แล้วลืมมันไปให้หมดเหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้นอย่างนั้นหรือ ครับ”

    “ถูกต้อง”

    เป็นคำตอบสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบไร้อารมณ์แบบที่ผมยังพอจำได้ เหมือนในวันนั้น วันที่เขาชวนผมมาทำโครงการนี้กับเขา และตั้งแต่วันนั้นมาผมกับเขาก็แทบจะไม่เคยได้คุยกันอีกเลย

    ผมจ้องมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง ชายคนนี้ที่ผมรู้จักในชื่อ เทพ พิทักษ์ เขาเป็นชายวัยกลางคนที่ระบุอายุได้ยาก ไม่มีจุดเด่นอะไร ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในวงสังคม และที่สำคัญไม่มีข้อมูลความเป็นมา เขาเหมือนอยู่ๆ ก็โผล่ขึ้นมาบนโลก ผมใช้เวลายามว่างจากโครงการแฮกหาข้อมูลของเขาจากหน่วยงานต่างๆ แม้แต่จากฐานข้อมูลของหน่วยสืบราชการลับ แต่ก็ไม่พบข้อมูลใดเกี่ยวกับตัวเขาที่เก่ากว่า 5 ปี เลย และด้วยทุนทรัพย์รวมทั้งเทคโนโลยีต่างๆ ที่ผมมีใช้ในโครงการ มันจึงเป็นเรื่องที่ประหลาดมาก เขาไปหลบอยู่ที่ไหนมาก่อน 5 ปีนั้น และโผล่ออกมาจากรูกระบอกไม้ไผ่พร้อมด้วยเงินก้อนโต โดยที่ไม่มีใครมาสนใจในตัวเขาเลย มันแปลกจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ในประเทศนี้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว

    “คุณต้องการเหตุผลใช่ไหม” เขาถามผมบ้าง

    ผมพยักหน้า แต่สายตายังคงจับจ้องเขาอยู่ และปืนในมือก็ยังคงเล็งตรงไปที่เขา หากเขาเริ่มตุกติกเมื่อใดผมพร้อมที่จะยิงเขาทันทีโดยไม่ลังเล

    “ผลงานของคุณจะล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้สูญสิ้นไป”

    ผมงงอยู่ครู่หนึ่งกับคำตอบของเขา มันเป็นคำตอบที่เหนือความคาดหมายของผมจริงๆ มันทำให้ผมอดที่จะตอบโต้เขาไปบ้างไม่ได้

    “ผลงานของผมคือก้าวใหม่ของมนุษย์ชาติ มนุษย์จะก้าวพ้นขีดกำจัดของเวลา ก้าวออกจากวัฏสงสารที่ไร้สิ้นสุด ไม่มี เกิด แก่ เจ็บ ตาย อีกต่อไป” ผมชะงักไปครู่หนึ่ง “หรือเกือบๆ นะครับ ร่างกายของเราจะอยู่ในสภาวะที่สมบูรณ์ที่สุด โรคภัยต่างๆ จะไม่อาจกล้ำกลาย เราจะอยู่ได้ตลอดกาล …ถ้าร่างกายไม่ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์จนไม่สามารถรักษาได้ ความฝันของมนุษย์ทุกคนจะกลายเป็นจริง เรากำลังจะเป็น…อมตะ”

    “และนั่นจะเป็นการล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์” เขาแทรกขึ้นมา

    ผมยังคงจ้องมองหน้าเขา หน้าตาที่เรียบๆ ไร้อารมณ์ ท่าทางที่ดูนิ่งจนเกินไป ความสงสัยของผมยิ่งทวีสูงขึ้น และความเป็นมนุษย์ของเขาก็ยิ่งดูจะลดน้อยลง ผมปัดความคิดพิลึกๆ ที่เกิดขึ้นออกไปจากหัว และตัดสินใจถามเขาถึงข้อสงสัยที่ยังค้างคาอยู่

    “ผมมีคำถามบางข้อ และหวังว่าคุณจะตอบตามความเป็นจริง” ผมขยับปืนในมือเล็กน้อย เหมือนกับจะต้องการให้เขาเห็นมันให้ชัดๆ

    “คุณเป็นใครกันแน่”

    “ผมชื่อ เทพ พิทักษ์ ผู้ริเริ่ม เจ้าของและผู้สนับสนุนโครงการทดลองของคุณ” เขาหยุดเล็กน้อย “คุณตั้งคำถามได้ไม่ดีเลยนะ ถ้าเป็นตัวคุณเอง คุณจะตอบอย่างไรกัน”

    ผมลองคิดดูแล้วก็เริ่มเห็นด้วย ผมเป็นใคร ผมจะตอบว่าอย่างไร ที่จริงผมน่าจะถามว่าเขาเป็นมนุษย์หรือเปล่าไปเลยคงจะดีกว่า แต่ว่ายังก่อนเถอะ ทุกอย่างอาจจะไม่ได้เลวร้ายถึงที่สุดอย่างที่ผมคิดก็เป็นได้

    “คุณเอาอุปกรณ์ในห้องทดลองมาจากไหนกัน อย่าบอกว่าสั่งซื้อมาจากโฆษณาทางทีวีเชียวนะครับ ผมรื้อมันออกมาดูแล้ว นอกจากตัวเครื่องภายนอกแล้ว ข้างในมันเป็นคนละเรื่องกันเลย ผมตรวจสอบกับบริษัทผู้ผลิตดูแล้วไม่มีเครื่องรุ่นไหนที่มีประสิทธิภาพเท่ากับเครื่องที่ผมใช้อยู่ และพวกเขาบอกว่าผมคงจะหลับฝันไป เพราะพวกเขาไม่คิดว่าจะสามารถผลิตเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพเท่าที่ผมพูดถึงนี้ได้แน่ๆ อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาพัฒนาอีกสัก 40-50 ปี หรือว่าคุณทำงานให้กับอเมริกา จีน ญี่ปุ่น…หรือพวกตะวันออกกลาง”

    “พวกนั้นเองก็ยังไม่มีเทคโนโลยีชั้นสูงระดับนี้” เขาตอบ

    ท่าทางของเขายังคงนิ่งๆ เหมือนเดิม แต่ผมคิดว่าเขากำลังตัดสินใจในเรื่องสำคัญอยู่ แล้วในที่สุดเขาก็พูดต่อไปว่า

    “บนโลกของคุณยังไม่มีใครเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ ผมนำมาเพื่อให้คุณใช้เป็นกรณีพิเศษ บอกเพียงแค่นี้คนฉลาดอย่างคุณก็คงจะเข้าใจ…ผมอยู่บนดาวดวงนี้ในฐานะของผู้สังเกตการณ์…”

    ผมไม่แปลกใจเลยกับคำตอบของเขา ผมคิดอยู่แล้วว่าเขาต้องเป็นมนุษย์ต่างดาวแน่ๆ แต่ก็แปลกใจที่เขากลับยอมรับออกมาอย่างง่ายดาย

    “…ผมจะปิดบังต่อไปก็คงไม่เกิดประโยชน์อะไร สู้บอกความจริงออกไปแล้วพยายามอธิบายให้คุณเข้าใจคงจะดีกว่า เรื่องราวในวันนี้อาจจะจบลงด้วยดีก็เป็นได้”

    ดูเหมือนว่าเขาเองก็อ่านผมออกเช่นกัน การเจรจาในวันนี้คงจะสนุกสนานไม่น้อยเลยทีเดียว เสียดายที่ผมไม่ได้นำเทปบันทึกเสียงติดตัวมาด้วย และผมไม่คิดว่าเขาจะยินดีนั่งรอให้ผมออกไปหามาใช้สักเครื่องหนึ่ง ผมเหลือบมองปืนในมืออีกครั้งด้วยความลังเล ภาพของมนุษย์ต่างดาวนาๆ ชนิดจากในหนังที่ผมเคยดูมา พากันผุดขึ้นในหัวของผม แต่ในที่สุดผมก็ตัดสินใจที่จะถือมันไว้อย่างนั้นก่อน ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยก็ตาม อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจ

    “คำว่า ผู้สังเกตการณ์ ของคุณ หมายความว่าอย่างไร”

    “ก็หมายความตรงๆ ตามนั้น ผมเป็นคนที่คอยเฝ้าดูเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนดาวดวงนี้”

    “…แต่ครั้งนี้ดูเหมือนคุณจะไม่ได้เพียงแค่ เฝ้าดู อย่างที่คุณบอก คุณเข้ามาก้าวก่ายในเรื่องของพวกเราอย่างตั้งใจ”

    “…บางครั้งผมก็จำเป็นต้องเข้าแทรกแซงบ้าง หากพบว่ามีความเป็นไปได้ที่พวกคุณจะพาตัวเองไปสู่จุดจบ…ซึ่งที่ผ่านมาก็มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สอง”

    “ครั้งก่อนที่คุณพูดถึงเป็นเรื่องอะไร ปัญหาสงครามนิวเคลียร์ใช่ไหม”

    “…ไม่ใช่ เป็นเรื่องที่เก่ากว่านั้นมาก”

    “คุณพอจะบอกได้ไหม ผมจะได้รู้ว่ากำลังเผชิญอยู่กับปัญหาในระดับไหน”

    “…ได้ แต่ผมจะไม่อธิบายรายละเอียดให้คุณฟัง ปัญหาครั้งนั้นพวกคุณรู้จักกันในชื่อว่า…ห่วงโซ่ที่หายไป”

    ผมแทบไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ห่วงโซ่ที่หายไป บรรพบุรุษลึกลับที่หายไปจากสายโซ่แห่งวิวัฒนาการของมนุษย์ ปัญหาลึกลับที่ถกเถียงกันมาเป็นเวลานาน การก้าวกระโดดที่ทำให้เรากลายมาเป็นมนุษย์ในแบบทุกวันนี้ ใช่แล้ว เวลา เขาอยู่มานานขนาดนั้นตามที่เขาอ้างจริงหรือ มันฟังดูเหลือเชื่อเกินไป

    “…หมายความว่าคุณเข้าแทรกแซงวิวัฒนาการของเรา”

    เขาไม่ยอมตอบคำถามนี้ของผม

    “ผมบอกแล้วว่าจะไม่ขอเล่าถึงรายละเอียด คุณอาจไม่เชื่อในเรื่องที่ผมบอก แต่ผมพูดจริงๆ และการค้นพบของคุณในครั้งนี้ก็ร้ายแรงพอๆ กับเหตุการณ์ในครั้งนั้นเลยทีเดียว”
    ผมรวบรวมสติคิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้ง ก่อนที่จะเริ่มถามคำถามขึ้นใหม่ว่า

    “ถ้ามันเป็นอย่างที่คุณอ้างจริง แล้วคุณสนับสนุนให้ผมทำการทดลองนี้ไปทำไมกัน ถ้ามันอันตรายอย่างที่คุณว่าจริง คุณก็ควรจะขัดขวางถึงจะถูก”

    “…ตอนแรกผมเพียงแค่สงสัยเท่านั้น ว่ามันจะเป็นไปได้จริงหรือไม่ ผมต้องหาทางรู้ความจริงให้ได้ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น ผมจึงให้คุณทำการทดลองนี้ด้วยเครื่องมือที่พวกคุณจะมีใช้ในอีกสิบกว่าปีข้างหน้า แล้วมันก็เป็นอย่างที่ผมกลัวจริงๆ แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่ามันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร หลังจากนี้ผมก็เพียงแค่ป้องกันความรู้เล็กๆ บางเรื่องจากพวกคุณ พวกคุณทั้งหมดก็จะปลอดภัยจากหายนะในครั้งนี้”

    จากคุณ : zoi - [ 3 เม.ย. 50 08:32:04 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom