คุณ nanakonarubom หรือคนที่ใช้อีเมล์ waialkaew_518@hotmail.com เลิกลอกบทกวีดิฉันได้แล้วค่ะ
คุณ nanakonarubom หรือคนที่ใช้อีเมล์ waialkaew_518@hotmail.com
เลิกลอกบทกวีดิฉันและสมอ้างว่าเป็นของตัวเองได้แล้ว ไม่งั้นจะดำเนินการตามกม.ค่ะ
เพิ่งเจอว่างานตัวเองโดนลอกวันนี้เองค่ะ เจอสองบทที่โดนลอกโดยคนนี้ ในเวบ www.yenta4.com
บทแรกที่โดนชื่อ ฤดูกาลแห่งความรัก ค่ะ
ดิฉันเขียนบทกวีบทนี้โดยลงตีพิมพ์ในนิตยสาร Writer Magazine ฉบับเดือนพฤษภาคม 2537 โดยใช้ชื่อ "เจริญขวัญ"
บรรณาธิการสมัยนั้นคือ คุณขจรฤทธิ์ รักษาและกองบรรณาธิการคือ คุณพิเชษฐ์ แสงทอง
ต่อมา ดิฉันทำ Blog ของตัวเอง เลยนำมาลงอีกครั้งหนึ่ง ดังนี้
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=wansook&group=18
วันที่โพสต์ในบล็อคแก๊งค์ เป็นวันที่ 11 สิงหาคม 2549 นะคะ
ฤดูกาลแห่งความรัก
เมื่อฤดูกาลแห่งความรักมาเยือน
กรุณาเปิดเผยอาณาจักรอันลี้ลับแห่งใจเธอให้เยี่ยมยล
ให้ฉันได้ท่องไปเพื่อหว่านเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ของฉัน
และใฝ่ฝันถึงเมล็ดพันธุ์ดอกไม้จากเธอเช่นกัน
จากนั้น...ก็จินตนาการถึงทุ่งดอกไม้ไสวงามของสองเรา
ที่รัก...
อย่าโบยตีใจฉันด้วยอาการนิ่งเฉย
ดุจเดียวกับหินผาในห้วงสมุทร
ที่ไม่ยอมรับรู้ความอ่อนโยนของฟองคลื่นและริ้วลม
อย่าให้ฉันต้องซุกซ่อนตัวอย่างขลาดเขลา
อยู่กับเงาแห่งความหวาดหวั่นในใจ
อย่าให้ฉันต้องเวียนว่ายอยู่ในทะเลน้ำตาด้วยอาการดุจเดียวกับนกปีกหัก
ตั้งแต่พานพบเธอ
ฉันก็ไม่พบกับความสงบในหัวใจอีกเลย
ที่รัก...
กรุณามาเป็นตะวันอันฉานฉายส่องประกายให้หัวใจฉันอบอุ่น
โปรดมาเป็นร่มไม้ใหญ่ที่แผ่ร่มใบให้ฉันห่มเงานิทราผาสุก
มาเป็นตาน้ำให้คนพเนจรเยี่ยงฉันได้วักดื่มประทังชีพอันแล้งไร้
โปรดห่มคลุมกายฉันด้วยเรือนกายของเธอในค่ำคืนอันเหน็บหนาว
ที่รัก...
ฉันเพียงปรารถนาให้ภาพสะท้อนของสองเราปรากฏในดวงตานิรันดร
ฉันใฝ่ฝันให้ดวงใจสองดวงเกี่ยวกระหวัดกันด้วยเถาวัลย์แห่งจิตวิญญาณ
หวังเพียงต่างรินถ้อยน้ำใจให้กันและกันในทิวาวันอันหม่นหมอง
หวังเพียงต่างรินถ้อยคำสู่กันเพื่อเติมใจให้เปี่ยมเต็มในราตรีอันปวดร้าว
หากได้รับความอ่อนโยนจากเธอ
แม้หัตถ์แห่งมัจจุราชเอื้อมมาเกาะกุมวิญญาณ
ฉันก็ยังแย้มยิ้มอย่างปิติ ดุจอาการคลี่กลีบของดอกไม้
หากโอบกอดฉันไว้ด้วยดวงใจของเธอ
ฉันก็มิปรารถนาอื่นใดในชีวิตแล้ว
..........................................
ลงตีพิมพ์ใน Writer Magazine ฉบับพฤษภาคม 2537
ที่โดนคุณ nanakonarubom ไปลอกมา เป็นแบบนี้ค่ะ ลอกทุกตัวอักษรแบบไม่อายเลย
http://www.yenta4.com/webboard/viewtopic.php?cate_id=53&post_id=1022798
และวันที่คุณคนนี้เธอโพสต์ เป็นวันที่ 28 มีนาคม 2550 นี้เอง
เมื่อฤดูกาลแห่งความรักมาเยือน
กรุณาเปิดเผยอาณาจักรอันลี้ลับแห่งใจเธอให้เยี่ยมยล
ให้ฉันได้ท่องไปเพื่อหว่านเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ของฉัน
และใฝ่ฝันถึงเมล็ดพันธุ์ดอกไม้จากเธอเช่นกัน
จากนั้น...ก็จินตนาการถึงทุ่งดอกไม้ไสวงามของสองเรา
ที่รัก...
อย่าโบยตีใจฉันด้วยอาการนิ่งเฉย
ดุจเดียวกับหินผาในห้วงสมุทร
ที่ไม่ยอมรับรู้ความอ่อนโยนของฟองคลื่นและริ้วลม
อย่าให้ฉันต้องซุกซ่อนตัวอย่างขลาดเขลา
อยู่กับเงาแห่งความหวาดหวั่นในใจ
อย่าให้ฉันต้องเวียนว่ายอยู่ในทะเลน้ำตาด้วยอาการดุจเดียวกับนกปีกหัก
ตั้งแต่พานพบเธอ
ฉันก็ไม่พบกับความสงบในหัวใจอีกเลย
ที่รัก...
กรุณามาเป็นตะวันอันฉานฉายส่องประกายให้หัวใจฉันอบอุ่น
โปรดมาเป็นร่มไม้ใหญ่ที่แผ่ร่มใบให้ฉันห่มเงานิทราผาสุก
มาเป็นตาน้ำให้คนพเนจรเยี่ยงฉันได้วักดื่มประทังชีพอันแล้งไร้
โปรดห่มคลุมกายฉันด้วยเรือนกายของเธอในค่ำคืนอันเหน็บหนาว
ที่รัก...
ฉันเพียงปรารถนาให้ภาพสะท้อนของสองเราปรากฏในดวงตานิรันดร
ฉันใฝ่ฝันให้ดวงใจสองดวงเกี่ยวกระหวัดกันด้วยเถาวัลย์แห่งจิตวิญญาณ
หวังเพียงต่างรินถ้อยน้ำใจให้กันและกันในทิวาวันอันหม่นหมอง
หวังเพียงต่างรินถ้อยคำสู่กันเพื่อเติมใจให้เปี่ยมเต็มในราตรีอันปวดร้าว
หากได้รับความอ่อนโยนจากเธอ
แม้หัตถ์แห่งมัจจุราชเอื้อมมาเกาะกุมวิญญาณ
ฉันก็ยังแย้มยิ้มอย่างปิติ ดุจอาการคลี่กลีบของดอกไม้
หากโอบกอดฉันไว้ด้วยดวงใจของเธอ
ฉันก็มิปรารถนาอื่นใดในชีวิตแล้ว
โพสกันเยอะๆเลยน่ะค่ะ
nanakonarubom
วันที่ :2007-03-28 20:48:36
อีเมล์ :waialkaew_518@hotmail.com
ยังไม่หมดค่ะ เธอไปหยิบงานเก่าอีกชิ้นของดิฉันมาลอก แปะ แล้วสมอ้างว่าเป็นงานเธออย่างหน้าตาเฉยอีกบทหนึ่ง
บทที่ชื่อ หัตถาแห่งรัก งานชิ้นนี้ ดิฉันเขียนเพื่อลงตีพิมพ์ในนิตยสาร THE EARTH 2000 ฉบับที่ 16 เมื่อปี 2538 โดยใช้ชื่อ "เจริญขวัญ"
บรรณาธิการสมัยนั้นคือ คุณ ศรัณย์ ทองประเสริฐและรองบรรณาธิการคือ คุณนิพัทธ์พร เพ็งแก้ว
แต่เมื่อนำมาลงบล็อค ดิฉันเปลี่ยนชื่อบทเป็น "พันธนาการดอกไม้" และโพสต์เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2550 ดังนี้ค่ะ
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=wansook&group=33
พันธนาการดอกไม้
1.
ท่ามกลางความเดียวดายในเหมันตฤดู
ข้ายังคงขับขานบทกวีแห่งความโทมนัส
โหยร่ำจากส่วนลึกของวิญญาณ
โบยบินผ่านทิวาและรัตติกาลชุ่มหยาดน้ำตา
2.
เมื่อชีวิตได้เคลื่อนคล้อยไปสู่อีกฤดูกาลหนึ่ง
สายลมแห่งรักได้โอบรัดดวงใจ
และจุมพิตโอษฐ์แห่งข้าอย่างนิ่มนวล
อ่อนหวาน แผ่วพลิ้วราวขนนกล่องลอยกลางสายลมยามคิมหันต์
นาทีนั้น...
กามเทพได้เอื้อมหัตถ์มาสัมผัสดวงเนตรอย่างอ่อนโยน
และเปิดเผยโมงยามแห่งความสุขขึ้นเป็นครั้งแรก
ข้าสามารถสดับสำเนียงภายในได้ชัดเจนว่า
บัดนี้..
ข้าได้มอบดวงวิญญาณไว้ในหัตถาของผู้เป็นที่รักโดยสิ้นเชิง
3.
ความรักนั้นเป็นได้ทั้งบุปผางามและคมหนาม
อาจเป็นทั้งความรื่นรมย์และความร้าวรานในขณะเดียวกัน
ความรัก...
สามารถดลบันดาลให้เกิดชิ้นงานศิลปะอันงามพิสุทธิ์
แต่ในขณะเดียวกัน..
ก็อาจทำให้เวียนว่ายอยู่ในทะเลน้ำตาชั่วนิรันดร์ได้เช่นกัน
4.
เมื่อแรกเพาะพันธุ์ดอกไม้ลงในหทัยนั้น
ข้ามัวแต่ปีติตื้นตันกับเมล็ดพันธุ์ที่โปรยหว่าน
จนลืมไปว่า...
หนามดอกไม้ก็อาจจะร้อยรัดโบยตีดวงใจได้เช่นเดียวกันดอกงาม
5.
กงล้อแห่งกาลเวลาได้ผันอดีตมาสู่ปัจจุบัน
บัดนี้ คมหนามเหล่านั้นเริงร่าอย่างปราโมทย์ท่ามกลางสวนใจ
นี่คือพันธนาการดอกไม้
ที่โอบรัดดวงใจให้ไร้เสรีภาพและบาดเจ็บจากริ้วรอยร้าวราน
แต่ข้ายังคงอุทิศหยาดเลือดและหยาดน้ำตาเป็นเครื่องสักการะ
ด้วยหวังว่า...
สักวันดอกไม้จะคลี่กลีบตระการ
แม้ดวงใจจะสะท้านด้วยความทรมานจากการฝังคมของเรียวหนาม
ข้าก็ยังเฝ้าหวังว่า...
สักวันหนึ่ง กลีบดอกอันละมุนจะช่วยลูบไล้ปลอบโยนบาดแผลร้ายกาจเหล่านั้น
..........................................
ตีพิมพ์ครั้งแรก เมื่อ 2538 ในนิตยสาร THE EARTH 2000
คุณ nanakonarubom มาลอกทันทีเหมือนกัน นำไปโพสต์ลงเวบ www.yenta4.com
http://www.yenta4.com/webboard/viewtopic.php?cate_id=53&post_id=1022757
แถมลอกคอมเม้นต์ส่วนตัวของดิฉันลงไปด้วยค่ะ แต่ดิฉันลบไปแล้ว ตอนที่คุณ nanako มาลอก ดิฉันยังไม่ได้ลบคอมเม้นส่วนตัวออกไป เลยยังปรากฏอยู่ครบถ้วน ดังนี้
1.
ท่ามกลางความเดียวดายในเหมันตฤดู
ข้ายังคงขับขานบทกวีแห่งความโทมนัส
โหยร่ำจากส่วนลึกของวิญญาณ
โบยบินผ่านทิวาและรัตติกาลชุ่มหยาดน้ำตา
2.
เมื่อชีวิตได้เคลื่อนคล้อยไปสู่อีกฤดูกาลหนึ่ง
สายลมแห่งรักได้โอบรัดดวงใจ
และจุมพิตโอษฐ์แห่งข้าอย่างนิ่มนวล
อ่อนหวาน แผ่วพลิ้วราวขนนกล่องลอยกลางสายลมยามคิมหันต์
นาทีนั้น...
กามเทพได้เอื้อมหัตถ์มาสัมผัสดวงเนตรอย่างอ่อนโยน
และเปิดเผยโมงยามแห่งความสุขขึ้นเป็นครั้งแรก
ข้าสามารถสดับสำเนียงภายในได้ชัดเจนว่า
บัดนี้..
ข้าได้มอบดวงวิญญาณไว้ในหัตถาของผู้เป็นที่รักโดยสิ้นเชิง
3.
ความรักนั้นเป็นได้ทั้งบุปผางามและคมหนาม
อาจเป็นทั้งความรื่นรมย์และความร้าวรานในขณะเดียวกัน
ความรัก...
สามารถดลบันดาลให้เกิดชิ้นงานศิลปะอันงามพิสุทธิ์
แต่ในขณะเดียวกัน..
ก็อาจทำให้เวียนว่ายอยู่ในทะเลน้ำตาชั่วนิรันดร์ได้เช่นกัน
4.
เมื่อแรกเพาะพันธุ์ดอกไม้ลงในหทัยนั้น
ข้ามัวแต่ปีติตื้นตันกับเมล็ดพันธุ์ที่โปรยหว่าน
จนลืมไปว่า...
หนามดอกไม้ก็อาจจะร้อยรัดโบยตีดวงใจได้เช่นเดียวกันดอกงาม
5.
กงล้อแห่งกาลเวลาได้ผันอดีตมาสู่ปัจจุบัน
บัดนี้ คมหนามเหล่านั้นเริงร่าอย่างปราโมทย์ท่ามกลางสวนใจ
นี่คือพันธนาการดอกไม้
ที่โอบรัดดวงใจให้ไร้เสรีภาพและบาดเจ็บจากริ้วรอยร้าวราน
แต่ข้ายังคงอุทิศหยาดเลือดและหยาดน้ำตาเป็นเครื่องสักการะ
ด้วยหวังว่า...
สักวันดอกไม้จะคลี่กลีบตระการ
แม้ดวงใจจะสะท้านด้วยความทรมานจากการฝังคมของเรียวหนาม
ข้าก็ยังเฝ้าหวังว่า...
สักวันหนึ่ง กลีบดอกอันละมุนจะช่วยลูบไล้ปลอบโยนบาดแผลร้ายกาจเหล่านั้น
..........................
ดิฉันเขียนงานชิ้นนี้เพื่อลงตีพิมพ์ในนิตยสาร THE EARTH 2000 ฉบับที่ 16 พศ. 2538
แต่น่าแปลกที่ว่า เมื่อนำงานเก่า ๆ ไปโพสต์ในเวบวรรณกรรมบางเวบ กลับกลายเป็นว่า มีคนเข้าใจผิดคิดว่า ดิฉันเขียนงานชิ้นนี้ขึ้นใหม่ เพราะคาดเดาเอาเองว่า ดิฉันเขียนบทกวีให้ "ไอ้ขี้แพ้" คนหนึ่ง ซึ่งไม่มีทั้งหน้าที่การงาน อีกทั้งยังเรียนไม่จบ นับเป็นคนหลักลอยไร้ค่าคนหนึ่งบนโลกใบนี้โดยแท้
เรื่องบางเรื่อง สามารถพลิกดำเป็นขาว ขาวเป็นดำ เพราะลมปากถ่อย ๆ ที่พ่นถ้อยเลวทราม
คนบางคนชอบสร้างภาพ สร้างโลกสมมมุติขึ้นมาแล้วอุปโลกน์ตนเองเป็นนายกเมือง แล้วเพ้อคลั่ง วางอำนาจในโลกสมมุตินั้นประหนึ่งปลาทองในโหล หรือกบในกะลา ช่างน่าสมเพช
คนแบบนี้ไม่อาจอยู่ในโลกแห่งความจริงได้ จึงต้องสร้างโลกสมมุติขึ้นมา แล้วนั่งโอบกอดตนเองอยู่เพียงลำพัง แต่ละวันดื่มกลืนแต่ความหลงตนเอง ไม่กล้าเงยชีวิตออกมาเจอโลกอันกว้างใหญ่ภายนอก น่าเวทนานัก
nanakonarubom
วันที่ :2007-03-28 20:08:41 อีเมล์ :waialkaew_518@hotmail.com
ซึ่งเห็นได้ว่าเพิ่งโพสต์เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2550 นี้เอง
คุณ nanakonarubom หรือคนที่ใช้อีเมล์ waialkaew_518@hotmail.com คะ
ดิฉันจะดำเนินการตามกม. นะคะ หรือไม่ก็กรุณาทำกระทู้ขอโทษดิฉันด้วย ที่ตั้งใจขโมยงานของดิฉันไปและสมอ้างว่าเป็นผลงานตนเอง
จากคุณ :
Kala_mydog
- [
4 เม.ย. 50 03:28:40
]