ความคิดเห็นที่ 1 เอาตัวอย่างที่รีวิวไว้ในวิทยานิพนธ์มาแปะก็แล้วกันนะค่ะ ความเรียงจัดเป็นสารคดีประเภทหนึ่งค่ะ ซึ่งสารคดีก็แปลมาจากภาษาอังกฤษว่า Non-fiction ซึ่งแปลว่าเรื่องที่ไม่สมมติ  ตรงข้ามกับคำว่าบันเทิงคดีหรือ Fiction หรือเรื่องที่สมมติขึ้น  ดังนั้น สารคดีจึงแตกต่างจากบันเทิงคดี  เพราะไม่ใช่เรื่องสมมติที่แต่งขึ้นมา แต่เป็นเรื่องราวที่เขียนบนพื้นฐานของข้อเท็จจริง ให้ความรู้แก่ผู้อ่าน โดยที่ผู้เขียนใช้ศิลปะในการเขียนก่อให้เกิดรสชาติทางภาษาซึ่งทำให้ผู้อ่านได้ความรู้และความเพลิดเพลิน จากคุณ : ปโยนิธิ - [ 4 เม.ย. 50 09:43:28 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สารคดีแบ่งเป็นหลายประเภทมาก แต่โดยรวมๆ แล้วขอแบ่งเป็นทั้งหมด 7 ประเภทก็แล้วกันค่ะ 1. สารคดีท่องเที่ยว (Travelogue) หมายถึง   งานเขียนประเภทร้อยแก้ว  ที่มุ่งให้ความรู้เกี่ยวกับประสบการณ์การท่องเที่ยวของผู้แต่ง   โดยมีลีลาการเขียนที่กอปรไปด้วยศิลปะ  เพื่อให้ผู้อ่านเกิดความเพลิดเพลินไปพร้อมกับได้ความรู้ด้วย   มีจุดประสงค์จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวหรือมุ่งที่จะเล่าประสบการณ์การท่องเที่ยวของผู้เขียนขณะเดินทางไปยังที่ต่างๆ     2.  สารคดีชีวประวัติ (Biography) เป็นงานเขียนสารคดีที่ผู้แต่งเขียนถึงเรื่องราวในชีวิตของผู้อื่นเพื่อเล่าถึงประวัติความเป็นมา  หลักการหรืออุดมคติที่ใช้ในการดำรงชีวิต   ความสำเร็จและความล้มเหลวในการดำเนินชีวิตของบุคคลนั้นๆ   3. จดหมายเหตุ (Archives) เป็นเรื่องราวที่จดบันทึกตามเหตุการณ์ต่างๆ รวมทั้งหนังสือของข้าราชการ ในระยะหลังได้รวมเอาบันทึกเรื่องราวต่างๆ ทั้งที่เป็นของทางราชการและธุรกิจเอกชนเข้าไปด้วย อาจเป็นเป็นร้อยแก้ว หรือร้อยกรองก็ได้ 4.อนุทิน (Diary) เป็นบันทึกเรื่องราวเฉพาะตัวของบุคคล การเขียนชนิดนี้แล้วแต่ผู้บันทึกจะถนัดเขียนอย่างไร  ไม่มีกฎเกณฑ์ที่แน่นอน เรื่องที่บันทึกจะเป็นเรื่องส่วนตัว ครอบครัว หรือเหตุการณ์ที่ผู้บันทึกเกี่ยวข้องอยู่ เช่น งาน หรือเหตุการณ์บ้านเมือง เป็นต้น 5.  ความเรียง (Essay)  เป็นงานเขียนที่เน้นในเรื่องของการแสดงความคิดเห็น  เป็นงานเขียนร้อยแก้วที่ไม่ยาวนัก  และเป็นเรื่องราวที่ผู้เขียนแสดงความคิดเห็น  ความเรียง   เป็นงานเขียนที่สื่อความคิดของผู้เขียนเป็นสำคัญ  ความเรียงจึงเป็นงานที่ให้คุณค่าด้านแง่คิดในเชิงปรัชญาเกี่ยวกับโลกและชีวิต   ซึ่งผู้เขียนอย่างตรงไปตรงมา   นอกจากนี้ผู้เขียนอาจใช้ความรู้ทางวรรณศิลป์มาช่วยในการเขียนความเรียง  เพื่อเขียนให้อ่านสนุกๆ   ก็ได้  เช่น   การใช้เทศนาโวหารหรือการยกตัวอย่างอุทธาหรณ์เพื่อช่วยให้ผู้อ่านเห็นจริงคล้อยตามความคิดเห็นที่ผู้เขียนเสนอไว้  เป็นต้น 6.  บทความ (Article) เป็นงานเขียนประเภทร้อยแก้วซึ่งผู้เขียนเขียนขึ้นเพื่อเสนอความรู้ความคิด   หรือความเพลิดเพลินในการอ่านอย่างหนึ่ง   โดยอาศัยเค้าที่มาจากเรื่องซึ่งเป็นความจริงในสังคม   อาจมีลักษณะเป็นการวิเคราะห์ถึงข้อดีข้อเสียหรือข้อขัดแย้งของเรื่องต่างๆ  ที่คนส่วนใหญ่ในสังคมกำลังสนใจ  หรือมีลักษณะเป็นการเสนอปัญหาเพื่อชักนำให้คนหนึ่งมาสนใจก็ได้   ขณะเดียวกันก็ต้องมีวิธีการที่น่าอ่าน  ชวนให้อยากติดตามต่อไปด้วย   7.  ปกิณกคดี (Informal Essay) เป็นบทความประเภทหนึ่ง        ซึ่งสารคดีประเภท ปกิณกคดี บางครั้งเรียกว่า สาระบันเทิงคดี  ซึ่งหมายถึงบทความที่เขียนแสดงความคิด ความรู้ แต่ลักษณะการเขียนมุ่งความเพลิดเพลินไปด้วย โดยแบ่งเป็น หัสนิยายหรือ เรื่องขำขัน, เรื่องล้อเล่น และเรื่องเสียดสีเหน็บแนม แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 50 09:46:32 จากคุณ : ปโยนิธิ - [ 4 เม.ย. 50 09:46:06 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ส่วนกลวิธีการเขียนความเรียงก็คล้ายคลึงกับการเขียนสารคดีประเภทอื่นๆค่ะ เช่น 1) ชื่อเรื่อง จะต้องตั้งชื่อให้น่าสนใจ โดยมีสาระเด่นชัด ให้ภาพที่ชัดเจนเกี่ยวกับเนื้อหา และกระตุ้นให้ผู้อ่านสนใจอยากรู้เนื้อหามากที่สุด ทั้งนี้จะต้องเน้นความสั้น กระชับ ชัดเจน และตรงประเด็น 2) การเปิดเรื่อง เป็นส่วนสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จในการเขียนสารคดี ผู้เขียนจะต้องหาวิธีการเขียนในส่วนนี้ให้น่าสนใจ  กระตุ้นให้ผู้อ่านอย่างติดตามอ่านเนื้อหาต่อไป ด้วยการใช้เทคนิควิธีต่างๆ ที่เคยมีผู้นิยมใช้กัน หรืออาจหาวิธีการใหม่ที่น่าสนใจ 3)  การลำดับเรื่อง สารคดีจะต้องมีการลำดับเรื่องที่ชวนติดตามทำให้ผู้อ่านสนใจและติดตามเรื่องต่อไปจนจบ ซึ่งอาจจะลำดับตามความสำคัญหรือความน่าสนใจของเรื่อง  และลำดับตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนการจะใช้วิธีใดนั้นจะต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของเรื่องที่จะเขียนว่าทำอย่างไรจะทำให้ผู้อ่านสนใจอ่านได้ตลอด และควรมีการใช้ส่วนเชื่อม เช่น ระหว่างการเปิดเรื่องกับเนื้อหา  และการเชื่อมโยงเนื้อเรื่อง เพื่อให้เรื่องดำเนินอย่างต่อเนื่องและสัมพันธ์กัน 4)  การปิดเรื่อง หรือการจบเรื่องมีความสำคัญพอๆ กับการเปิดเรื่อง เพราะจะต้องสร้างความสร้างประทับใจให้ผู้อ่านด้วยการสรุปความอย่างน่าสนใจ ซึ่งผู้เขียนสามารถเลือกการเปิดเรื่องได้หลายแบบ นอกจากจะจบแบบสรุปความแล้ว ยังอาจจบเรื่องแบบคาดไม่ถึง แบบคลี่คลายประเด็นและแบบให้คิดไม่ถึง เป็นต้น 5)  กลวิธีการนำเสนอ ผู้เขียนสามารถเลือกกลวิธีในการนำเสนอสารคดีได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับผู้เขียนแต่ละบุคคล ทั้งนี้เพื่อให้ผู้อ่านติดตามเนื้อหาโดยตลอดด้วยความสนใจ  ควรคำนึงถึงความสมบูรณ์ของเนื้อหา โดยควรวางโครงเรื่องก่อน  เพื่อให้การนำเสนอครบถ้วนและครอบคลุมทุกประเด็น และต้องจัดประเด็นที่ต้องการเน้นให้ชัดเจน   6)  ภาษา การใช้ภาษาในสารคดีมีการใช้อย่างหลากหลายขึ้นอยู่กับเนื้อหาที่นำเสนอ บางกรณีอาจเน้นภาษาที่เรียบ สื่อความหมายชัดเจน และเป็นกันเองกับผู้อ่าน แต่บางครั้งอาจต้องใช้ภาษาประณีต ถูกต้องตามแบบแผน  และสิ่งสำคัญคือ ควรคำนึงถึงความถูกต้อง ชัดเจน กระชับ สมบูรณ์ และน่าสนใจ น่าจะพอใช้ได้นะค่ะ จากคุณ : ปโยนิธิ - [ 4 เม.ย. 50 09:48:49 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ที่ผมเคยเขียน เป็นเรื่องเล่าน่ะครับ เวลาลงผมก็ลงในหมวดความเรียงน่ะ จากคุณ : กริชครับผม - [ 4 เม.ย. 50 10:17:45 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ใช้เป็นบรรทัดฐานได้อย่างดีทีเดียวครับ อ่านข้อ.๕ แล้วรู้สึกว่าเป็น วิชาเรียงความ ที่ผมเรียนมาตั้งแต่เด็กเลยครับ พอโตขึ้นหน่อยเขาก็เปลี่ยนเป็น วิชาแต่งไทย ครับ. ผมจำได้ราง ๆ ว่าคุณกริช เขียนไว้ตั้งแต่ปีที่ ผมเข้ามาในถนนฯใหม่ ๆ เลยครับ. จากคุณ : เจียวต้าย - [ 4 เม.ย. 50 17:53:06 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สำหรับตัวเอง งานเขียนที่ไม่ยาวมาก ที่ไม่ใช่เรื่องสั้น แนวเรื่องเล่าที่เสนอมุมมองของตัวเองค่ะ อะ แถมให้อีกบรรทัด ยาวขึ้นอีกหน่อย :) จากคุณ : scottie - [ 4 เม.ย. 50 23:31:49 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณ คุณสก็อตตี้ ครับ มิน่าล่ะครับ เรื่องของผมส่วนใหญ่จะให้ตัว"ผม"เป็นผู้เล่า จึงมีผู้คิดว่าน่าจะเป็นความเรียงไงครับ ซึ่งความจริงไม่ใช่ เพราะเป็นเรื่องแต่งครับ แม้จะอิงความจริง แต่บางทีก็เกือบจริง และบางทีก็เกินจริง ครับ. จากคุณ : เจียวต้าย - [ 5 เม.ย. 50 07:30:35 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อ่านแล้ว โปรดทราบ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 8 เม.ย. 50 13:19:38 ]

ความคิดเห็นที่ 9 รับแซบๆ จากคุณ : podduang-pk - [ 8 เม.ย. 50 20:11:21 ]